Group Blog
สิงหาคม 2558

 
 
 
 
 
 
1
2
3
4
5
6
7
8
9
10
11
12
13
15
16
17
18
19
20
21
22
23
24
25
26
27
28
29
30
31
 
 
วัฏฏกปริตร


วัฏฏกปริตร





บทขัดวัฏฏะกะปะริตตัง


ปูเรนตัมโพธิสัมภาเร
นิพพัตตัง วัฏฏะชาติยัง
ยัสสะ เตเชนะ ทาวัคคิ
มะหาสัตตัง วิวัชชะยิ
ด้วยเดชแห่งพระปริตรใด ทำให้ไฟไม่เผาไหม้
ในที่ที่พระมหาสัตว์ถือกำเนิดเกิดเป็นนกคุ้มไฟ
ผู้กำลังบำเพ็ญบารมี เพื่อเสริมสร้างพระโพธิญาณ



เถรัสสะ สารีปุตตัสสะ
โลกะนาเถนะ ภาสิตัง กัปปัฏฐายิ
มะหาเตชัง ปะริตตันตัมภะณามะ เห ฯ      
ท่านทั้ง หลายโปรดจงสาธยายพระปริตรนั้น
ซึ่งมีเดชมากมาย ตั้งอยู่ได้ตลอดกัปป์
ที่พระโลกนาถเจ้าทรงตรัสไว้แก่พระสารีบุตรนั้นเถิด




บทวัฏฏะกะปะริตตัง


อัตถิ โลเก สีละถุโณ
คุณแห่งศีลมีอยู่ในโลก
ตั้งจิตระลึกถึงคุณแห่งศีล อันเป็นไปเพื่อความเป็นกุศลทางกายและวาจา
ที่พระพุทธเจ้าตรัสสอนไวดีแล้ว จากนั้นให้น้อมระลึกถึงศีลอันไม่ขาด
ไม่ทะลุ ไม่ด่างพร้อย อันที่ตนได้กระทำมาดีแล้ว
(เป็น "สีลานุสสติ")



สัจจัง โสเจยยะนุททะยา
ผู้ประกอบด้วยความสัตย์
ความสะอาดกาย ความเอ็นดูกรุณามีอยู่ในโลก                                            
ตั้งจิตระลึกถึงคุณแห่ง ศีลบารมี จริยวัตรที่งดงาม บริสุทธิ์ บริบูรณ์สิ้นเชิงของพระพุทธเจ้า
(ความดำรงกายและวาจาโดยความสัตย์ เป็นกุศลสุจริต สะอาดบริสุทธิ์ บริบูรณ์สิ้นเชิง)
แล้วระลึกถึง ศีลข้อใดที่เราได้ทำแล้วมีความสุขกายใจมีความยินดีที่ให้ดำเนินไป
ซึ่งข้ออันที่เราเจริญโดยไม่ขาดไม่ทะลุ อันเป็นกุศลดีงาม ที่เราได้เจริญปฏิบัติมาเป็นอันดีแล้ว

ตั้งจิตระลึกถึงคุณแห่ง เมตตาบารมี ของพระพุทธเจ้า
(ความเอ็นดูรักใคร่ปารถนาดีต่อผู้อื่น ปารถนาให้ผู้อื่นเป็นสุข เห็นเป็นของงามเสมอกันหมด)
แล้วระลึกถึง เมตตาจิต อันเป็นกุศลดีงาม ที่เราได้เจริญปฏิบัติมาเป็นอันดีแล้ว

ตั้งจิตระลึกถึงคุณแห่ง กรุณาบารมี ของพระพุทธเจ้า
(ความมีจิตสงเคราะห์เอื้อเฟื้อ อนุเคราะห์แบ่งปัน ปารถนาให้ผู้อื่นได้พ้นทุกข์)
แล้วระลึกถึง กรุณาจิต อันเป็นกุศลดีงาม ที่เราได้เจริญปฏิบัติมาเป็นอันดีแล้ว

ตั้งจิตระลึกถึงคุณแห่ง มุทิตาบารมี ของพระพุทธเจ้า
(ความมีจิตยินดีเมื่อผู้อื่นเป็นสุขหรือประสบรับผลสำเร็จอันดีงามเป็นกุศลอันปราศจากความริษยา)
แล้วระลึกถึง มุทิตาจิต อันเป็นกุศลดีงาม ที่เราได้เจริญปฏิบัติมาเป็นอันดีแล้ว

ตั้งจิตระลึกถึงคุณแห่ง อุเบกขาบารมี ของพระพุทธเจ้า
(ความมีใจวางไว้กลางๆไม่หยิบจับเอาความพอใจยินดีและไม่พอใจยินดีมาเป็นที่ตั้งแห่งจิต)
- มีความไม่เอนเอียงเพราะรัก ๑
- มีความไม่เอนเอียงเพราะชัง ๑
- มีความไม่เอนเอียงเพราะความหลงหรือไม่รู้ตามจริง ๑
- มีความไม่เอนเอียงเพราะกลัว ๑
ไม่ว่าจะต่อสัตว์ใด บุคคลใดในโลก แม้แต่สัมภเวสี มาร อมนุษย์ เทวดา พรหม พระองค์ก็ทรงมีพระทัยไม่เอนเอียง
แล้วระลึกถึง อุเบกขาจิต อันเป้นกุศลดีงาม มีใจวางไว้กลางๆไม่เอนเอียง ที่เราได้เจริญปฏิบัติมาดีแล้ว



เตนะ สัจเจนะ กาหามิ
ด้วยความสัตย์นั้นเราจักกระทำ

สัจจะกิริยะมะนุตตะรัง
สัจจกิริยาอันสูงสุด

อาวัชชิตวาธัมมะพะลัง
เราคำนึงถึงกำลังพระธรรม






ระลึกถึงพระธรรมทั้งหลายที่พระพุทธเจ้าตรัสสอนไว้ดีแล้ว เพื่อเป็นเครื่องออกจากทุกข์ทั้งสิ้นนี้
แล้วน้อมระลึกถึงพระธรรมใดๆ พระสูตรใดๆ พระปริตรใดๆ พระคาถาใดๆ ที่พระพุทธเจ้าได้ทรงตรัสสอน
ที่เราได้น้อมนำมาจะเจริญระลึกปฏิบัติแล้วทำให้เราสุขกายสบายใจ ได้หลุดพ้นจากทุกข์ ให้ผลได้ไม่จำกัดกาลแก่เรา
(เป็น "ธัมมานุสสติ")



สะริตวา ปุพพะเก ชิเน
ระลึกถึงพระพุทธเจ้าผู้พิชิตมารทั้งหลายในปางก่อน          
ตั้งจิตระลึกถึงคุณของพระพุทธเจ้าทั้งหลาย
ซึ่งเป็นผู้ทรงคุณแห่งความเป็นพระอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้า
ได้ พิชิตมาร คือ กิเลส
ได้ดับเพลิงกิเลสเพลิงทุกข์สิ้นเชิงตรัสรู้ชอบได้โดยพระองค์เอง
(เป็น "พุทธานุสสติ")



สัจจะพะละมะวัส สายะ
อาศัยกำลังความสัตย์

สัจจะกิริยะมะกาสะหัง
ได้กระทำสัจจกิริยาว่า

สันติ ปักขา อะปัตตะนา
ปีกของเรามีอยู่ แต่ไม่มีขน (บินไม่ได้)

สันติปาทา อะวัญจะนา
เท้าของเรามีอยู่ แต่ยังเดินไม่ได้

มาตา ปิตา จะ นิกขันตา
มารดาบิดาก็พากันบินออกไปหาอาหารแล้ว          

ชาตะ เวทะ ปะฏิกกะมะ
ดูก่อนไฟป่า จงกลับไป (จงดับเสีย)

สะหะ สัจเจ กะเต มัยหัง
พร้อมกับเมื่อเรากระทำสัจจกิริยา (นี้)

มะหาปัช ชะลิโต สิขี
ไฟที่ลุกรุ่งโรจน์ใหญ่หลวง

วัชเชสิ โสฬะสะกะรีสานิ
ได้หลีกไป ๑๖ กรีส

อุทะกัง ปัตวา ยะถา สิขี
ไฟดับ ณ ที่นั้นเหมือนตกลงในน้ำ

สัจเจนะ เม สะโม นัตถิ
สิ่งที่จะเสมอด้วยความสัตย์ของเราไม่มี

เอสา เม สัจจะปาระมีติฯ
นี้เป็นสัจจบารมีของเรา ฉะนี้แล.






Create Date : 14 สิงหาคม 2558
Last Update : 14 สิงหาคม 2558 7:27:16 น.
Counter : 338 Pageviews.

0 comments
ชื่อ :
Comment :
 *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

สมาชิกหมายเลข 1075032
Location :
  

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 4 คน [?]