The Caliph's House vs. Snowball Orange เรื่องแรก The Caliph's House เพราะส่วนตัวชอบเรื่อง "หนึ่งปีแสนสุขในโปรวองซ์" พอเห็นคำโปรยบนปกหลังว่าคนที่ชอบเรื่องนี้ไม่ควรพลาด เราก็เลยไม่พลาดที่จะซื้อมาอ่านด้วย แล้วก็ไม่ผิดหวังจริงๆ หลังจากที่ไม่ได้อ่านหนังสือแบบรวดเดียวจบมานาน มาถึงเล่มนี้ใช้เวลาช่วงสงกรานต์ประมาณวันครึ่งอ่านจนจบเล่ม อ่านๆ ไปเหมือนจะน่าเบื่อ แต่จริงๆ แล้วไม่เลย เพลินมากๆ ชอบ....ชอบคนคาซาบลังกาเวลาตอบคำถาม มักจะมีคำตอบที่นึกไม่ถึง ทำให้เราแอบขำอยู่บ่อยๆ คิดอยู่ว่าถ้าเราเป็นนายตาฮีร์ เราจะทนอยู่เมืองนี้ในบ้านหลังนี้ได้นานแค่ไหนกัน คือรู้สึกว่าคนเมืองนี้มันแอบกวนง่ะ แต่ก็ดี มีสีสันดี แถมวิถีชีวิตเค้าก็ดูเรื่อยๆ สบายๆ ท่ามกลางความสับสนวุ่นวายอลหม่าน จะรู้สึกประหลาดหน่อยก็ตรงเรื่องงานนี่แหละ อะไรจะชิลกันขนาดนั้น อ่านแล้วชอบหลายความคิด+สุภาษิตของคนโมร็อกโกอยู่เยอะเลย แต่ที่โดนสุดในเล่มก็คือตอนที่ตาฮีร์เห็นผลไม้ในตะกร้าของขอทานหญิงคนนึงที่มีแต่ผลไม้ที่ดีที่สุดที่เขาเคยเห็นในคาซาบลังกา แล้วพอหันไปถามตาเจ้าของร้าน ก็ได้คำตอบประมาณว่า ไม่ใช่แค่เพราะเค้าเป็นขอทาน แล้วจะต้องได้รับแต่ของที่ไม่มีคุณภาพ....อืม ได้ใจค่ะ แถมพอมาดูรูปบ้านในเว็บยิ่งทำให้ชอบเรื่องนี้มากขึ้นไปอีก ได้เห็นหน้านายตาฮีร์ของสามสหาย เสียดายทางสันสกฤตน่าจะเอาชื่อเว็บบอกไว้ตั้งแต่ตอนคำนำ เวลาอ่านจะได้เห็นภาพมากขึ้น ไม่ใช่มาเห็นภาพเอาตอนอ่านจบไปแล้ว เหอๆ เอ...หรือเราผิดที่ไม่พลิกไปอ่านหน้าสุดท้ายก่อน? ส่วน snowball orange กลับคิดว่าอ่านแล้วคล้ายกับเรื่องหนึ่งปีแสนสุขในโปรวองซ์มากกว่า the caliph's house ซะอีก แถมอ่านแล้วยังนึกถึงนักเขียนอีกคน Frances Mayes ที่เขียน Under the tuscan sun กะ Bella tuscany ด้วย ใช่เลย....อารมณ์เดียวกันเด๊ะ ส่วนตัวก็รู้สึกว่าตัวเองจะชอบอ่านหนังสือแนวๆ นี้อยู่ไม่ใช่น้อยเลย แต่ snowball orange แทรกภาษาสเปน เอ๊ย มายอร์กันเยอะไปหน่อยนะ เยอะจนบางครั้งที่ไม่มีคำแปลมาด้วย ต้องอาศัยบริบทเดาเอาเองอีก เลยรู้สึกอ่านยากๆ บางทีพอเห็นภาษามาร์ยอกันมาก็แอบอ่านผ่านๆ ข้ามๆ ไปบ้าง บางคำขนาดอ่านเจอมาแล้วมาเจออีกทีก็ยังจำไม่ได้อยู่ดี 555 อ่านเรื่องนี้ก็มีขำๆ อยู่บ้างเป็นระยะ ชอบเอลลี่ ภรรยากับบทบรรยายถึงอาหารการกิน 555 แบบว่าเป็นคนชอบกินง่ะ ถึงจะไม่เคยกินอาหารสเปนมาก่อน แต่พออ่านถึงคำบรรยายอาหารแต่ละจานนี่ ก็จินตนาการไปโลดล่ะค่ะ ที่ชอบอีกอย่างก็คือ รู้สึกว่าคนมายอร์กันนี่ก็ใจดีมีน้ำใจตามสไตล์ลูกทุ่งเหมือนกันนะ ถึงจะแสดงออกด้วยวิธีห่ามๆ ไปบ้างก็เหอะ สรุปแล้วชอบทั้งสองเรื่องเลย อ่านแล้วไม่ผิดหวังจริงๆ   Create Date : 30 เมษายน 2552 9 comments Last Update : 30 เมษายน 2552 19:10:48 น. Counter : 1125 Pageviews. Share Tweet

เรื่อง The Caliph's House น่าสนใจมากเลยคะ ต้องหามาอ่านดูบ้างแล้วล่ะค่ะ   โดย: Too Optimistic 3 พฤษภาคม 2552 19:56:44 น.

น่าสนใจทั้งสองเล่มเลยค่ะ ยังไม่เคยอ่านเลยทั้งสองเล่ม เป็นนิยายหรือว่าเรื่องจริงคะ   โดย: nanida 4 พฤษภาคม 2552 17:56:35 น.

สวัสดีคะขอบคุณที่มาเยี่ยมชมบล็อกนะคะ   โดย: CherryBlossom669 5 พฤษภาคม 2552 13:53:30 น.

หนังสือน่าสนใจมากค่า อยากหามาอ่านมั่งจัง แต่เดี๋ยวต้องขอเวลาค่อย ๆ เคลียอีกสิบกว่าเล่มที่ซื้อมาแล้วยังไม่ได้อ่านก่อน ^^'   โดย: Alter ego (*^-^* ) 21 พฤษภาคม 2552 7:41:08 น.

อ่านแล้วทำให้อยากหาหนังสือที่แนะนำมาอ่านบ้างค่ะ   โดย: แมงหวี่@93 21 พฤษภาคม 2552 16:14:24 น.

อ่านแล้วน่าอ่านทั้งสองเล่มเลยค่ะ น่าสนใจอย่างแรงง่ะ อย่างไรก็จะรอรีวิวทั้งสองรร.นะคะ รอๆ อัพเมื่อไหร่ก็ไปบอกกันนะคะ   โดย: สาวไกด์ใจซื่อ 25 พฤษภาคม 2552 9:05:48 น.

แวะมาเจิมนะคุณพี่ อิอิอิ   โดย: NAN (ainonan ) 27 พฤษภาคม 2552 10:27:03 น.

ชอบ caliph มากเหมือนกันค่ะ เราติดใจซื้อจากปกหลังเหมือนกัน ชอบตัวอย่าง cultural shock ที่ยกมาทั้งหมดเลย แต่เรายังไม่เคยอ่านโปรวองซ์(ซื้อมาแล้วยังไม่ได้เริ่มอ่านค่ะ) ชอบนี้บ้าอินเดีย&อาหรับ(แนวๆที่สีสันสดใสค่ะ^^) อยากอ่านแนว cultural shock อีกจัง   โดย: โปรดทำให้ฉันหยุดหัวเราะ 31 พฤษภาคม 2552 0:58:31 น.

แก้คำผิดด้านบนค่ะ ชอบนี้ -> ช่วงนี้ (เรามองไม่เห็นตัวหนังสือที่พิมพ์ไปแล้วในช่องคอมเมนต์น่ะค่ะ ไม่รู้คอมเจ๊งรึเปล่า)   โดย: โปรดทำให้ฉันหยุดหัวเราะ 31 พฤษภาคม 2552 1:00:07 น.