วันอาทิตย์ ที่ 28 มิถุนายน 2552 (10.15 น. ออสเตรเลียไทม์)
Sydney....อยู่ได้เรียนดี...เพราะมีงานทำการทำงานเป็นเรื่องสนุกอีกอย่างหนึ่งถ้าได้มาใช้ชีวิตอยู่ในซิดนีย์ เพราะได้ทั้งเงินและได้ทั้งประสบการณ์ การทำงานทำให้เราได้รู้จักชีวิตความเป็นอยู่ของคนในสังคม รู้วิธีอยู่ วิธีกิน และวิธีของคนในเมืองนั้น ๆ คิด มิหนำซ้ำ ยังได้รู้จักเพื่อนอีกมากมาย ทั้งเพื่อนร่วมงานและลูกค้า หรือคนที่มาปฎิสัมพันธ์กับเราในหน้าที่การงานงานที่คนต่างชาติพอจะทำได้นั้นมีให้เลือกไม่กี่มากน้อย เพราะถูกจำกัดด้วยข้อกฎหมาย คือถ้าถือวีซ่าท่องเที่ยวก็จะไม่ได้รับอนุญาต ให้ทำงานเป็นอันขาด ถ้าฝืนทำงานจะมีความผิด หากจับได้ก็จะถูเพิกถอนวีซ่า และจับส่งคืนประเทศทันที อีกทั้งยังมีชื่ออยู่ในบัญชีดำห้ามเข้าประเทศของเขาอีกต่างหากแต่ก็มีอีกหลายคนที่ถือวีซ่าท่องเที่ยวแล้วหลบซ่อนเจ้าหน้าที่ทำงานไปด้วยซึ่งอันนี้ก็แล้วแต่ความสามารถเฉพาะตัว และดวง แต่อย่าทำอะไรผิดกฎของเขาเลย ทำไปก็ไม่สนุกหลบ ๆ ซ่อนๆสำหรับผู้อยู่อาศัยที่ถือวีซ่านักเรียนต่างชาติ วีซ่าประเภทนี้ไม่จำกัดอายุ ถึงแม้อายุ 50 แล้วแต่ก็ยังมาเรียนได้ แล้วถ้ายังมีแรงมีสมอง รัฐบาลก็อนุญาตให้บุคคลนั้นทำงานได้สัปดาห์ละ 20 ชั่วโมง เป็นการทำงานพาร์ทไทม์ เพื่อช่วยแบ่งเบาค่าใช้จ่ายในระหว่างที่เรียนหนังสืออยู่ที่ประเทศของเขาแต่นักเรียนหลายคนในซิดนี่ย์สามารถทำงานเก็บเงินเก็บทองกลับบ้านได้เป็นกอบเป็นกำ แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นก็ต้องมีเทคนิคส่วนตัวจึงจะสามารถทำงานได้มากมายขนาดนั้นงานขายอาหารหน้าร้านการขายของหน้าร้าน ส่วนใหญ่เป็นร้านกาแฟหรือร้านอาหาร Take away แบบซื้อเอาไปกินที่อื่น งานร้านกาแฟที่ซิดนี่ย์ จะมีการชงกาแฟที่หลากหลาย และยังได้สนุกกับการฝึกพูดภาษา ซึ่งจะได้ภาษาพูดที่ทันสมัย ที่เขาใช้พูดกันจริงๆในชีวิตประจำวันการทำงานที่ร้านกาแฟเป็นเรื่องสนุก และเป็นอีกทางเลือกหนึ่ง สำหรับคนไทยในซิดนี่ย์ อัตราค่าจ้างก็ไม่น้อยทีเดียว ส่วนใหญ่คิดเป็นชั่วโมง ถ้าเรายังไม่มีประสบการณ์มากนัก อาจจะเริ่มที่อย่างต่ำ 10 ดอลล่าห์ แต่ส่วนใหญ่ได้มากกว่านั้น อาจถึง 15 ดอลล่าห์ ร้านกาแฟส่วนใหญ่จะยุ่งเป็นเวลา เช่น เช้าตรู่ เริ่มกันตั้งแต่ร้านเปิดประมาณ 6 โมงเช้า หรืออาจจะช้ากว่านั้นเพื่อขาย breakfast ซึ่งเป็นเวลาเร่งด่วนมาก สำหรับคนที่จะเข้าทำงานร้านประเภทนี้ส่วนใหญ่เป็นร้านที่เรียกว่า Cafe' ขายเครื่องดื่มร้อนเย็น เช้น กาแฟ ชา หรือนำผลไม้ ดังนั้นถ้าจะไปทำงานที่ร้านแบบนี้ จะต้องใช้เครื่องชงกาแฟเป็น ปั่นนมเป็น และก็รู้จักการชงกาแฟที่มีหลากหลายประเภท นอกจากนั้นจะต้องทำอาหารประเภทแซนด์วิช สลัดต่าง ๆ และครัวซองต์เป็นด้วย เพราะเป็นชุดอาหารเช้าที่ร้านกาแฟ ส่วนใหญ่มีไว้ให้บริการลูกค้าการทำงานในร้านต้องคล่องแคล่วพอสมควร และต้องใช้ภาษาอังกฤษได้เป็นอย่างดี เพราะต้องขายเร็ว บริการเร็ว ไม่เหมือนพนักงานเสร์ฟในร้านอาหารไทย เมื่อไปถึงซิดนี่ย์ใหม่ ๆ เด็กไทยไม่ค่อยกล้าทำงานที่ร้านแบบนี้กันมากนัก เพราะมีปัญหาเรื่องภาษาและช่องว่าทางวัฒนธรรม ที่ต้องทำงานกับคนท้องถิ่น แต่หลัง ๆ มานี้มีนักเรียนไทยไม่น้อยทีเดียวที่หันมาทำงานแบบนี้ เพราะได้ค่าจ้างดีกว่า และไม่ต้องเหนื่อยมาก มีเวลาเหลือไว้เรียนหนังสือด้วยพูดถึงเรื่อการใช้เครื่องชงกาแฟ ถ้าอยากได้งานทำในร้าน Cafe' ก็ควรจะฝึกใช้เครื่องให้เป็น ที่ซิดนี่ย์มีโรงเรียนหรือบุคคลที่เปิดสอนวิธีการชงกาแฟ เพื่อเข้าทำงานในร้าน ค่าเรียนก็ไม่แพง เรียนจบมีประกาศนียบัตรรับรอง สมารถหาเรียนได้ตามหนังสือพิมพ์โฆษณาท้องถิ่น เมื่อ 4-5 ปีก่อน ค่าเรียนตกครั้งละ 100 ดอลล่าห์ เรียนหนึ่งหรือสองวันก็จบแล้วอย่างไรเสียการฝึกพูดภาษาเป็นเรื่องของความตั้งใจร้านอาหารไทยก็มี เฉพาะซิดนี่ย์ และเขตต่าง ๆ รอบซิดนี่ย์ มีร้านอาหารไทยมากกว่า200 แห่ง แต่ละร้านต้องการคนงานเฉลี่ย 10 คน หมายความว่ามีการจ้างงานคนไทยอย่างน้อย 2,000 ตำแหน่ง และมีการหมุนเวียนตำแหน่งสูงที่สุด เพราะนักเรียนไทยไป ๆ มา ๆ ทำให้มีการเลิกจ้างและจ้างงานใหม่กันบ่อยมากการหางานร้านอาหารไทยในซิดนี่ย์สำหรับการหางานในร้านอาหารไทยในซิดนี่ย์ มีหลายวิธี...แต่ที่สะดวกและเข้าถึงแหล่งงานมี 3 ทาง คือทางแรก ดูการประกาศหางานที่ร้านขายของชำย่านไทยทาวน์ ใกล้กับสถานีรถไฟ Centralย่านนี้เป็นร้านขายของชำและผักผลไม้ที่นำเข้ามาจากหลายประเทศในเอเชียดังนั้นเมื่อเจ้าของร้านอาหารมาซื้อของตามร้านแบบนี้ก็เลยอาศัยติดประกาศหาเด็กทำงานทางที่สอง ไปที่นี่เลย //www.thaioz.com.au และดูหางานจากหนังสือพิมพ์ "ไทยออส" ซึ่งวางเดือนละ สอง ฉบับมีจำหน่ายตามร้านไทยแถวไชน่าทาวน์ทางที่สาม หางานจากสมุดหน้าเหลือง เปิดไปที่ร้านอาหารไทย แล้วโทรไปถามเจ้าของร้านโดยตรง การตัดสินใจเลือกงานอย่าลืมทำเลที่ตั้งนะจ้ะ...ว่าใกล้ที่พักหรือเปล่า....(บรรทัดนี้พี่ปอบอกเองจ้ะ)ที่มา จากหนังสือที่พี่ปอซื้อติดมือมาจากเมืองไทย...เพื่อศึกษา...ชื่อหนังสือ "ทำงานเก็บเงินเรียน (และเที่ยวที่ซิดนี่ย์)...พี่ปอขอเป็นหนึ่งกำลังใจให้น้องคนหนึ่ง...และเพื่อน ๆ..ที่มาเรียนที่ซิดนี่ย์ นะจ้ะ...สู้ ๆ...สู้ตาย....พี่ปอว่าข้อสาม...น่าจะเข้าท่านะ...และ...ขอให้สนุกกับการทำทุกสิ่ง.....
ขอบคุณทุกคนที่แวะมาทักทายกันนะค่ะ....เรื่องราวต่างๆ ในชีวิตเกิดขึ้นมากมาย มีทั้งดีและร้าย แต่หากเรามีทัศนคติที่ดี (ทัศนคติ คือ สองคำเอามารวมกันทัศนะ แปลว่า มุมมองคติ แปลว่า ความคิด)ทัศนคติที่ดี ก็คือ มีมุมมองความคิดที่ดี ๆ เช่นหากเราคิดว่าเราทำไม่ได้ เราก็มีทัศนคติที่แย่แล้วค่ะ หากเราคิดว่า ในเมื่อคนอื่น ๆ ทำได้เราก็ทำได้เหมือนกัน ไม่ว่าจะอยู่ที่ไหน ใช้ภาษาอะไร มันไม่สำคัญหรอกว่าเราจะพูดภาษาอังกฤษได้ดี(ไม่ใช่ภาษาบ้านเรานี่นา ) หรือไม่ดี สำคัญที่ว่า............เมื่อมีโอกาศได้ฝึกกับเจ้าของภาษา ก็อ้าปากพูดไปเลยค่ะ ไม่ต้องไปกลัวว่าฉันพูดไปมันจะถูกป่าวหว่า..เพื่อนชาวต่างชาติของพี่ปอเวลาเขาฟังพี่ปอพูดเขาบอกว่าพูดได้น่ารักดี สำเนียงไม่ให้แต่ใจรัก(ไม่รู้ว่ามันชมหรือมันว่าเรา แต่ก็ยิ้มสู้ทุกสถานการณ์ 555) ...... จะผมสีเหลือง สีดำ สีแดง ผิวขาว ๆ จมูกโด่ง ๆ จะตาตี่ ๆ จะตาสีฟ้า อะไรก็แล้วแต่ คนเหมือนกันกับเรานี่แหล่ะ กินเหมือนกัน เข้าห้องน้ำเพื่อถ่ายเหมือนกัน มีแขนมีมือ มีเท้าเหมือนกัน ที่สำคัญเกิดมาแล้วก็ต้องตายเหมือนกันอย่าไปกลัวที่จะกล้า ทำในสิ่งที่ตัวเองอยากทำ .....พูด ๆๆๆ...ไปนะค่ะ......พ่อของพี่แมงปอท่านเคยสอนพี่ปอเวลาที่พี่ปอไม่กล้าทำอะไรสักอย่าง ท่านมักจะพูดเสมอว่า "...เกิดชาติเดียวตายชาติเดียว มัวแต่ไม่กล้าก็ ตายก่อนพอดี...แล้วอย่ามาโอดครวญทีหลังนะ....กับสิ่งที่ไม่ได้ทำ....." ก็จำประโยคนี้ของพ่อมาตลอดเวลาต้องทำอะไรที่มันยาก ๆ...มองโลกในแง่ดีเข้าไว้หลายคนเชื่อว่า "ชีวิตจะเป็นไปอย่างที่ใจเราคิด" ถ้าเป็นเช่นนั้นเราก็ควรคิดดี ๆ เข้าไว้ ไม่ว่าจะอยู่ในสถานการณ์อย่างไร โดยเฉพาะเมื่อต้องห่างบ้านห่างครอบครัว ไปอยู่ในต่างประเทศ บ้างก็อยู่ตัวคนเดียว ไม่มีคนรู้จัก อาจมีเพื่อนอยู่บ้าง แต่ก็ไม่ใช่คนสนิทชิดเชื้อ เหมือนทีอยู่เมืองไทย วีธีเดียวที่จะก้าวข้ามอุปสรรค เมื่อต้องเจอกับเรื่องราวที่แปลกใหม่ ต้องปรับตัว และปัญหามากมายในมหานครนานาชาติอย่างซิดนี่ย์ ก็คือ " มีทัศนคติมองโลกในแง่ดีเข้าไว้" คิดดีตลอดเวลาทุกสถานการณ์(ไว้เดี๋ยวมาเล่าต่อวันหลังนะค่ะ เอาแบบคร่าว ๆ เรื่องงานให้น้องคนหนึ่งก่อนเผื่อเป็นประโยชน์แก่น้องเขาบ้าง)สู้ ๆ...สู้ตาย....หากมีความคิดที่ดี ๆ ให้กำลังใจตัวเองมาก ๆ และที่สำคัญอย่ามีข้อแก้ตัวให้กับตัวเอง....ว่าไม่มีเวลา ฉันทำไม่ได้ อย่าลืมสิ "คนอื่นทำได้เราก็ทำได้เหมือนกัน อะไร ๆ มันไม่เกินความสามารถของคนเราไปได้หรอกน่า...เชื่อสิ "เราก็จะสามารถผ่านพ้นอุปสรรคต่าง ๆ ไปได้ด้วยดี ขอเป็นกำลังใจให้กับทุกคน นะจ้ะ.....ปล. อัพบล็อกนี้เพื่อน้องที่มาเรียนที่ออสเตรเลีย ขอเป็นกำลังใจให้นะจ้ะ....จากพี่แมงปอ...