Group Blog
 
<<
กันยายน 2555
 1
2345678
9101112131415
16171819202122
23242526272829
30 
 
25 กันยายน 2555
 
All Blogs
 

ลูกชิด

"แม่ครับ ลูกชิดทำมาจากอะไร"

ผมเก็บความสงสัยไว้ในใจมานานแสนนาน แล้วโมเมว่ามันก็คือ "ลูกจาก" ที่เราเห็นต้นของมันจนชินตานั่นเอง ผมคุ้นเคยกับต้นจากที่แม่กลอง ตามคลองซอยต่างๆ ขึ้นริมน้ำ ชายแม่น้ำ แต่เมื่อเอารูปลักษณ์ของ "ลูกชิด" กับ "ลูกจาก" มาเปรียบเทียบกัน ยิ่งค้านสายตา ลูกจากจะนิ่มๆ สีขาวกว่า ข้างในเป็นโพรง ส่วนลูกชิด เม็ดหนาทึบ ตัน สีจะเข้มกว่า เมื่อไม่มีใครเฉลย ผมก็เออเอง คิดเอง ว่าลูกชิดน่าจะเป็นลูกจากอ่อนๆมั้ง

คงเหมือนความรู้หลายๆอย่างที่เราเอามาประมวลกันเอง จากเหตุไปหาผล แล้วได้ภาพที่น่าจะเป็นจริง แต่หากผลลัพธ์นั้นไม่มีที่มาที่ไป หรือไม่มีวัตถุนั้นจริงๆในโลก จะตอบว่าถูกหรือผิด ก็ยังไม่ชัดเจนนัก แต่เพื่อความสบายใจ ก็ยึดความรู้ที่ไม่สมบูรณ์ไปพลางๆก่อน

ส่วน "ลูกชิด" ที่เห็นๆกันอยู่ จับต้องได้ ต้องสาวจากผลไปหาเหตุ ว่ามันมาจากไหนกันแน่

เมื่อมาได้ข้อมูลของลูกชิด ของกินของชอบที่เป็นปริศนามานานแล้ว ยิ่งน่าทึ่งมากว่ามันมาจากผลไม้ป่า ต้นของมันใช้เป็นฉากประกอบเรื่อง"จูราสิคปาร์ค" ได้อย่างไม่ขัดเขิน มันมีมาก่อนที่มนุษย์จะมีรูปร่างหน้าตาอย่างทุกวันนี้ด้วยซ้ำ

ผมได้ข้อมูลจาก มติชน เฉลยถึงที่มาที่ไปของลูกชิด ตามนี้ครับ

ลูกชิด เป็นผลไม้ ที่ได้มาจากต้นไม้ ที่ชื่อว่า “ต๋าว” หรือ “มะต๋าว”


“ต๋าว” เป็นไม้ป่าชนิดหนึ่ง เป็นพืชดึกดำบรรพ์ตระกูลปาล์ม ลำต้นสูง ใบเป็นแพกว้าง ให้ความชุ่มเย็น ออกลูกเป็นทะลาย ในแต่ละผลมีเมล็ดใสๆ เรียงชิดกันอยู่ ๓ เมล็ด ด้วยเหตุนี้ คนจึงเรียกลูกต๋าวว่า “ลูกชิด” กว่าต้นต๋าวจะเจริญเติบโตออกลูกได้ ต้องใช้เวลากว่า ๑๐ ปี และเก็บเกี่ยวผลได้เพียงไม่กี่ปีเท่านั้น ที่สำคัญ พืชชนิดนี้ ไม่สามารถปลูกได้ จะขึ้นเองตามธรรมชาติในป่าดิบชื้นเท่านั้น

ลักษณะทางอนุกรมวิธาน ของต๋าว คือ ต๋าวเป็นไม้ป่า มีชื่อวิทยาศาสตร์ว่า อะเร็นกา พินนาตา ( ArengapinnataMerr) อยู่ในวงศ์ Palmae พวกเดียวกับมะพร้าว ต้นตาล หรือปาล์มต่างๆ ต้นต๋าว มีถิ่นกำเนิด ดั้งเดิมอยู่ในแถบเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และในประเทศอินเดียต๋าว มีลักษณะลำต้นตรง ขนาดโตกว่าต้นตาล ใช้ประโยชน์จากทุกส่วน เช่นใบ มีลักษณะเดียวกับมะพร้าว แต่โตและแข็งแรงกว่า นิยมใช้มุงหลังคา กั้นฝาบ้าน ก้านใบนำมาเหลารวมทำไม้กวาด เส้นใยที่ลำต้นใช้ทำแปรง ยอดอ่อนที่ขั้วหัวใช้รับประทานแบบผักสด หรือดองเปรี้ยว เก็บไว้แกงส้ม แกงกะทิ ส่วนผล นำเนื้อในเมล็ดมารับประทาน สด หรือนำไปเชื่อมกับน้ำตาล เพื่อให้ได้รสอร่อยขึ้น


การเก็บผลต๋าว จะตัดเฉพาะทะลาย ไม่โค่นล้มต้น การเก็บแต่ละครั้งต้องไปนอนค้างแรมอยู่ในป่า อย่างน้อย ๒-๓ คืน ในช่วงที่ฝนหยุดตก ส่วนช่วงที่มีฝน จะหยุดการเก็บเกี่ยว เพราะไม่มีฟืนที่จะนำมาต้มลูกต๋าว ที่สำคัญฤดูนี้เป็นช่วงที่ต๋าวขยายพันธุ์

การเก็บผลิตต๋าว ส่วนใหญ่จะเริ่มตั้งแต่ปลายเดือนกันยายน ถึงเดือนมีนาคม ซึ่งแต่ละครั้ง ต้องเดินทางไปในป่า เพื่อนำผลต๋าวที่ได้ขนาดมาต้มพอสุก ตัดขั้วผลแล้วหนีบเมล็ดออก โดยใช้เครื่องมือที่ผลิตเองในท้องถิ่น คล้ายเครื่องตัดเหล็กที่มีคันยก ในจำนวน ๑ ผลจะมี ๓ เมล็ด เฉลี่ย ๒ ทะลาย จะได้ ๑ ถัง หรือเท่ากับ ๑๕ กิโลกรัม

ต๋าว มะต๋าว หรือลูกชิด นอกจากจะนำมารับประทานกับน้ำแข็งใส ใส่น้ำหวานแล้ว แปรรูปเป็นอบแห้ง แช่อิ่ม ได้อีกด้วย


ท้ายบล็อกนี้ ผมขอแนะนำแหล่งท่องเที่ยว หรือหุบเขาที่เต็มไปด้วยต้นไม้ตามธรรมชาติคล้ายป่าดึกดำบรรพ์ขาดแต่ไดโนเสาร์เท่านั้น มีต้นตาด หรือ ต๋าว หรือ ลูกชิด มากที่สุด นั่นคือ "หุบป่าตาด" จังหวัดอุทัยธานี

"หุบป่าตาด" อยู่ในเขตอำเภอลานสัก ห่างจากตัวเมืองอุทัยธานีเพียง ๔๐ กิโลเมตร ใช้เส้นทางอุทัยธานี - หนองฉาง จากนั้นก็ใช้เส้นทางหนองฉาง - ลานสัก เข้าไปราว ๒๑ กิโลเมตรก็จะถึงปากทางเข้าเขตห้ามล่าสัตว์ป่าเขาปลาร้า เลี้ยวซ้ายเข้าไปตามถนนคอนกรีตอีก ๖ กิโลเมตรก็ถึงหุบป่าตาด โดยจะถึงก่อนทางขึ้นเขาปลาร้า ๑ กิโลเมตร (ภาพจาก www.manager.co.th)

"หุบป่าตาด” แหล่งท่องเที่ยวธรรมชาติที่งดงาม

เล่ากันว่า"หุบป่าตาด" นั้น เคยเป็นถ้ำมาก่อน แต่หลังคาถ้ำได้ยุบตัวกลายเป็นหุบหรือบ่อกลางภูเขาจำนวน ๒ ห้อง มีเนื้อที่รวมประมาณ ๒ ไร่เศษ มีขอบบ่อสูงถึงราว ๑๕๐-๒๐๐ เมตร ทำให้มีสภาพเป็นบ่อกลางภูเขา สันนิษฐานว่าน่าจะเกิดจากการเปลี่ยนแปลงของเปลือกโลกโดยฉับพลัน ทำให้หลังคาถ้ำถล่มลงมากลายเป็นบ่อในหุบเขาที่ต้นไม้สามารถขึ้นได้ในบางพันธุ์ เพราะมีข้อจำกัดเรื่องแสงแดด จนต่อมาภายหลัยถูกยึดพื้นที่โดยต้นตาด นอกจากตาดแล้วในป่าแห่งนี้ยังมีพันธุ์ไม้อื่นๆ เช่น เต่าร้าง เปล้า คัดค้าวเล็ก กะพง ยมหิน


สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ เขตห้ามล่าสัตว์ป่าถ้ำประทุน โทร. 0-5698-9128




 

Create Date : 25 กันยายน 2555
17 comments
Last Update : 5 ตุลาคม 2556 1:06:50 น.
Counter : 11988 Pageviews.

 

Insignia_Museum Diarist ดู Blog

ของโปรดเลยค่ะ


ปลื้มมากกับคำว่า เพลงเพราะมากครับ

ขอบคุณค่ะ

 

โดย: tuk-tuk@korat 25 กันยายน 2555 22:30:20 น.  

 

ขอบคุณสถานที่เที่ยวที่แนะนำค่ะ ไปจังหวัดอุทัย ไปตรงวัดท่าซุง

แต่ที่นี่ยังไม่เคยไปเลยค่ะ

ส่วนเรื่องลูกชิด โอเล่ก็สังเกตเห็นหลายๆคน ไม่ค่อยมีใคร

เอามากินกับน้ำกะทิ ส่วนมาก น้ำเชื่อมหรือน้ำแดงกันทั้งนั้น

แต่ใส่ไอติมกะทิต้องมีลูกชิดหรือลูกจากใส่ไปด้วยในขนมปังดันอร่อยดีค่ะ

ป.ล.พรุ่งนี้โอเล่มาใหม่นะค่ะ วันนี้หมดโควต้าอีกแล้วค่ะ

ฝันดีคืนนี้นะค่ะ พรุ่งนี้ขอให้มีึความสุขและสนุกกับงานที่รออยู่ค่ะ

 

โดย: โอน่าจอมซ่าส์ 25 กันยายน 2555 22:34:17 น.  

 

เป็นความรู้ใหม่เลยครับ สำหรับเรื่องลูกชิด ปรกติกินอย่างเดียวไม่เคยได้สงสัยเลยวันนี้ก็ได้รู้แล้ว

+

 

โดย: คุณต่อ (toor36 ) 25 กันยายน 2555 23:58:34 น.  

 

เหมือนเคยชมจากกบนอกกะลาครั้งหนี่งแล้ว
แต่ก็ลืม ๆ ไปได้มาอ่านซ้ำคราวนี้แม่นเลยครับผม
ขอบคุณที่นำมาฝากกัน

กว่าจะได้กินดูมันช่างแสนลำบากเฮ้อ

 

โดย: peeradol33189 26 กันยายน 2555 7:12:15 น.  

 

บันทึกการโหวตเรียบร้อยแล้วค่ะ



บันทึกการโหวต Blog ในวันนี้

ผู้เขียน Blog หมวดเนื้อหา Blog ได้รับโหวต
Insignia_Museum Diarist ดู Blog

ระบบจะบันทึกคะแนนโหวต เฉพาะการโหวต 3 ครั้งล่าสุดในแต่ละวันเท่านั้น

 

โดย: โอน่าจอมซ่าส์ 26 กันยายน 2555 8:31:47 น.  

 

ได้ความรู้อีกแล้วคะ คุณอิม

ต้นจาก ลูกจาก รู้จัก เคยกินเคยสัมผัส เพราะตอนเด็ก ๆ ที่บ้านแม่ใบตอง แถวบางขุนเทียนมีต้นจากเยอะ ที่บ้านจะเย็บหลังคาจากไว้ขาย จะได้กินลูกจากเป็นประจำ

แต่ต้นลูกชิมไม่เคยเห็น เห็นทีไรก็เป็นลูกชิดมาให้กินแล้ว ยิ่งเจอลูกอ่อน ๆ อร่อยเคี้ยวหวานมันดีแท้ ๆ คะ

 

โดย: kuky 26 กันยายน 2555 10:18:16 น.  

 



ดิฉันก็ชอบค่ะลูกชิด อร่อยดี ลูกชิด ลูกจาก ลูกตาล คล้ายๆกันนะคะ
แวะมาทักทายคุณอิมยามเที่ยงค่ะ ทานมื้อเที่ยงอิ่มอร่อยมีความสุขมากๆนะคะ ^_^

 

โดย: andrex09 26 กันยายน 2555 12:11:28 น.  

 

บันทึกการโหวต Blog ในวันนี้

ผู้เขียน Blog หมวดเนื้อหา Blog ได้รับโหวต
กะว่าก๋า Dharma Blog ดู Blog
เกศสุริยง Education Blog ดู Blog
Insignia_Museum Diarist ดู Blog

ระบบจะบันทึกคะแนนโหวต เฉพาะการโหวต 3 ครั้งล่าสุดในแต่ละวันเท่านั้น
--------------------
แถวบ้านเรียกว่าลูกจากค่ะ เพิ่งรู้จริงๆนะคะนี่ว่ามาจากต้นอะไร

 

โดย: เรือนเรไร 26 กันยายน 2555 12:11:49 น.  

 



แวะมาทักทายคุณอิมยามสายค่ะ ขอบคุณที่แวะไปทักทายกันนะคะ
มีความสุขมากๆค่ะ ^_^

 

โดย: andrex09 27 กันยายน 2555 11:29:45 น.  

 




More Sweet Comments

----------------------
แวะมาทักทายหลังฝนตกค่ะ อ่างทองเย็นฉ่ำทุกวันเลย น้ำในแม่น้ำก็ขึ้นดี๊ดี คิดถึงค่ะ ช่วงนี้ใกล้ปิดภาคเรียนยุ่งนิดหน่อย แต่พยายามแวปไปแวปมาเหมือนเดิม ระลึกถึงเสมอนะคะคุณIM

 

โดย: เกศสุริยง 27 กันยายน 2555 19:08:32 น.  

 

สวัสดีค่ะคุณอิม
ชอบๆลูกชิดทั้งแบบสดและอบแห้ง
พรุ่งนี้มาโหวตให้นะ

วันนี้มีมาม่าผัดมาฝาก

 

โดย: pantawan 27 กันยายน 2555 20:44:38 น.  

 



แวะมาทักทายคุณอิมวันศุกร์ค่ะ มีความสุขมากๆนะคะ ^_^

 

โดย: andrex09 28 กันยายน 2555 12:01:24 น.  

 




More Rain Comments

---------------------------------------------
ฝนเทลงมา เทลงมาทั้งวันทั้งคืน ฉ่ำไปทั่วเลย ใจตุ๊มๆต้อมๆยังไงปีนี้ไม่อยากให้น้ำท่วมเลย ปีที่แล้วงานโดนคืนเพียบเลยเพราะแสดงไม่ได้ กระทบกันไปทั่ว
เมื่อวานพาเด็กไปแสดงงานมุทิตาจิตคุณครูท่านหนึ่ง โชคดีพอแสดงเสร็จสักครู่ ฝนเทลงมาดังฟ้ารั่ว โต๊ะจีนกระจายเลย บ่นเรื่องฝนจนคนฟังรำคาญหรือเปล่าก็ไม่รู้ แวะมาทักทายค่ะ ออกไปไหนอย่าลืมพกร่มกันนะคะช่วงนี้ เดี๋ยวจะไม่สบายเอาเพราะละอองฝน คิดถึงเสมอค่ะคุณIM

 

โดย: เกศสุริยง 29 กันยายน 2555 7:09:05 น.  

 



ถูกต้องค่ะคุณอิม ทุกคนสามารถฝึกได้ แต่ต้องมีวินัยฝึกสม่ำเสมอนะคะถึงจะทำสำเร็จค่ะ
ขอบคุณคุณอิมที่แวะไปทักทายอยู่เสมอ มีความสุขมากๆในวันหยุดพักผ่อนนะคะ ^_^

 

โดย: andrex09 29 กันยายน 2555 12:20:54 น.  

 

เพิ่งทราบตอนนี้เหมือนกันว่าลูกชิดมาจากไหน ตอนเด็ก ๆ ชอบลูกชิด + ข้าวเหนียวใส่ในไอศรีมเหมือนกันค่ะ

 

โดย: รัชชี่ (รัชชี่ ) 29 กันยายน 2555 19:07:38 น.  

 

ชอบลูกชิดค่ะ กินกับไอติมไม่ก็น้ำกะทิหรือน้ำแดงก์อร่อยทั้งนั้น พูดแล้วนึกอยากกินขึ้นมาเลย ยิ่งถ้าเป็นลูกชิดแบบที่นิ่ม ๆ ละก็ กินแล้วเพลินเลยค่ะ

ขอบคุณที่หาคลิปมาให้ดูด้วยนะคะ ชอบรายการนี้ เนื้อหาเจาะลึกในเรื่องที่น่ารู้ทั้งนั้นเลย

โหวตให้ค่า

 

โดย: haiku 29 กันยายน 2555 23:55:12 น.  

 

ใส่ในไอติมอร่อยค่ะ 5555

 

โดย: ป้าแสงแมวศรี 30 กันยายน 2555 22:01:26 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 


Insignia_Museum
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 66 คน [?]




ความตั้งใจในการทำบล็อกเปลี่ยนไปตามกาลเวลา เริ่มต้นด้วยการเขียนถึงถิ่นที่อยู่ในวัยเด็ก ต่อมาเป็นเรื่องเครื่องหมายต่างๆ เรื่องศิลปะ ภาพถ่ายในยุคก่อนๆ อาหารการกิน และอะไรต่อมิอะไรที่ประสบพบเห็น สนใจอะไรขึ้นมาก็อยากรู้ให้มากขึ้น กลุ่มเนื้อหาจึงแตกแขนงไปเรื่อยๆ
New Comments
Friends' blogs
[Add Insignia_Museum's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.