Group Blog
 
<<
พฤษภาคม 2557
 123
45678910
11121314151617
18192021222324
25262728293031
 
29 พฤษภาคม 2557
 
All Blogs
 
พบทองที่พัทลุง

การพบแผ่นทองคำที่ อ.เขาชัยสน จ.พัทลุง

นับเป็นข่าวดีและน่าตื่นเต้นแห่งปี

ถือว่าเป็นเป็นหลักฐานทางประวัติศาสตร์ครั้งสำคัญในไทย

คนพบทองคำคนแรกก็คงขายไปในราคาทองตามท้องตลาด

เมื่อข่าวนี้แพร่ออกไป มีนิยายประกอบเรื่องตามมามากมาย

ผมคอยลุ้นว่าแต่ละวันชาวบ้านนับพันที่เข้าจู่โจมในที่ของคนอื่นจะเจออะไร

ด้วยข้อมูลที่ไม่มีใครรู้จริง ยิ่งเป็นแรงดึงดูดให้ติดตามอย่างไม่ละสายตา

ชาวบ้านว่าน่าจะเป็นทองสมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 ที่ญี่ปุ่นเคยมาตั้งค่ายพักบริเวณนั้น

นักวิชาการบอกว่าเป็นแผ่นทองคำที่เจ้าของจะนำไปห่อหุ้มพระบรมธาตุที่นครศรีธรรมราช

จากลาดลาย "กวนเกษียรสมุทร" บนแผ่นทองสันนิษฐานว่าอยู่ในยุคเดียวกับนครวัด

อายุของทองที่พบเริ่มเก่าขึ้นเรื่อยๆ จาก 80 กว่าปี ไปสู่ 7-800 ปี

ยังไม่สามารถฟังธงได้ร้อยเปอร์เซ็นต์

ยิ่งข่าวแพร่ออกไปทางสื่ออิเล็กทรอนิกส์ ยิ่งมีชาวบ้านทั้งใกล้และไกลมาแสวงโชค

พ่อค้าของเก่า นักเลงพระเครื่อง ไปชุมนุมกันโดยไม่ได้นัดหมาย

เชื่อว่าบางคนไปพัทลุงครั้งแรกในชีวิต

กรมศิลป์จึงประกาศห้ามทัพความโลภที่ไร้ขอบเขตของฝูงมนุษย์

เพื่อทางการจะขุดค้นตามหลักวิชาการ ศึกษาที่มาที่ไปของเครื่องทองอันเก่าแก่นี้

ซึ่งจะเป็นข้อมูลใหม่ทางประวัติศาสตร์ของชาติเรา

กังวลอยู่ว่า กว่าพระเอกจะเข้าไปถึง เรื่องก็จบพอดี 


คาดว่าเครื่องทองที่ขุดได้คงไปอยู่ในมือของคนที่จ่ายไม่อั้น

น่าเสียดายคุณค่าทางประวัติศาสตร์

ถ้าทองคำเหล่านี้ถูกเปลี่ยนไปเป็นเงิน 

และแผ่นทองถูกหลอมไปแล้ว

แต่ถ้ายังเก็บไว้ รอใบรับรองข้อมูลจากทางการ

มูลค่าของทองคำเหล่านี้จะไม่ใช่ราคาตามน้ำหนักทองอย่างแน่นอน


ภาวนาให้กรมศิลป์ซื้อกลับคืนสักส่วนหนึ่งก็ยังดี แต่ขอให้เป็นชิ้นสำคัญๆ

เช่น ชิ้นที่มีอักขระ รูปภาพ หรือรูปพรรณที่ไม่เคยพบมาก่อน

เก็บไว้ในพิพิธภัณฑ์ที่เมืองพัทลุง อย่าส่งไปที่อื่น

เพื่อรื้อฟิ้นความเกรียงไกรในอดีตของเมืองนี้ขึ้นมาอีกครั้ง



ขอรวบรวมข่าวทางอินเตอร์เน็ตไว้ในบล็อกนี้ครับ






พัทลุง - เจ้าของสวนปาล์มขุดเจอทองกลางสวนที่ อ.เขาชัยสน จ.พัทลุง เผยซื้อที่ดินมาเมื่อ 3 เดือนที่ผ่านมาเพื่อทำสวนปาล์ม ขณะที่ชาวบ้านหลังจากทราบข่าวแห่ขุดเจอแล้วกว่า 100 แผ่น ด้านวัฒนธรรมจังหวัดเร่งเข้าตรวจสอบ พร้อมประสานฝ่ายปกครองห้ามชาวบ้านเข้าพื้นที่พรุ่งนี้ คาดพื้นที่บริเวณใกล้เคียงยังมีทองคำอีกหลายจุด

ผู้สื่อข่าวรายงานจากจังหวัดพัทลุงว่า เมื่อช่วงเย็นที่ผ่านมา หลังจากที่ชาวบ้านทราบข่าวพบทองคำแผ่น ทองคำแท่ง กำไล สร้อยคอทองคำ ในสวนปาล์มท้องที่ ม.7 ต.เขาชัยสน อ.เขาชัยสน จ.พัทลุง ชาวบ้านหลายร้อยคนที่ทราบข่าวต่างนำจอบ เสียมขุดทองคำบนแปลงในสวนปาล์มดังกล่าวอย่างเนืองแน่น

เนื่องจาก นายวิ ทับแสง อายุ 57 ปี อยู่ ม.6 ต.เขาชัยสน อ.เขาชัยสน ได้ทำการขุดลอกดินเพื่อทำแปลงปลูกปาล์มน้ำมัน เมื่อขุดยกร่องเสร็จพบแผ่นทองคำน้ำหนักแผ่นละ 2 บาท รวมทั้งสร้อยคอ กำไลทองคำอีกจำนวนมาก และเมื่อเช้านายวิ เจ้าของนำทองคำแผ่นที่ได้ไปขายในเมือง ได้เงินกว่า 3 ล้านบาท ทำให้เพื่อบ้านที่ทราบข่าวต่างเดินทางมาขุดเป็นจำนวนมาก โดยบางรายได้ทองคำแผ่นบริสุทธิ์ แผ่นละ 2 บาท คนละ 1-2 แผ่น และได้กำไล ทองคำ ตุ้มหู อีกหลายราย


นายวิ เจ้าของสวนกล่าวว่า ได้ชื้อที่ดินแลงนี้มาเมื่อ 3 เดือนที่ผ่านมา แล้วทำการยกร่องเพื่อปลูกปาล์มน้ำมัน โดยใช้รถแบ็กโฮขุดไว้เมื่อ 20 วันก่อน และขณะที่นำกล้าปาล์มมาปลูก ลูกชายเจอทองคำแผ่น ตอนแรกคิดว่าเป็นทองคำปลอม แต่เดินมาเจอจี้ทอง และทองคำแท่ง จึงได้ช่วยกันเก็บ จนกระทั่งค่ำจึงได้เดินทางกลับบ้าน และรุ่งเช้ามาขุดหาซ้ำจนได้ทองคำแผ่น ทองคำแท่ง กำไล แหวน สร้อยคอจำนวนมาก โดยประมาณค่าไม่ได้ เมื่อนำไปขายร้านทองในตัวเมืองหาดใหญ่ร้านทองชื้อในราคาแผ่นละ 37,000 บาท ซึ่งร้านทองบอกว่าเป็นทองคำแท้บริสุทธิ์ ซึ่งเมื่อชาวบ้านทราบข่าวก็ได้เดินทางมาขุดค้นหากันอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะวันนี้ได้กันไม่ต่ำกว่า 100 แผ่น ส่วนตนจะให้ชาวบ้านขุดกันอย่างเต็มที่ในวันนี้ ส่วนในวันพรุ่งนี้จะไม่อนุญาตให้ขุดหา

 ด้านนางสุวิมล ศรีหะไตร นายกเหล่ากาชาดจังหวัดพัทลุง ได้เดินทางมาดูชาวบ้านที่มาร่วมกันขุดทองบอกว่า ทองดังกล่าวเป็นทองคำจริงๆ ตนก็ดีใจกับชาวบ้านที่ได้กันไปคนละแผ่นสองแผ่น

ขณะที่ นางศิริพร ทองทวี วัฒนธรรมจังหวัดพัทลุง ได้เดินทางมาตรวจสอบเบื้องต้นกล่าวว่า เป็นครั้งแรกที่มีการพบทองคำแผ่น ทองคำแท่ง สร้อยคอทองคำ ที่มีจำนวนมากในพื้นที่จังหวัดพัทลุง ซึ่งก่อนหน้านี้ยังไม่เคยเจอมาก่อน ซึ่งทางวัฒนธรรมจังหวัดได้ประสานไปทางเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองของอำเภอ เพื่อระงับการขุดของชาวบ้าน พร้อมประสานไปยังกรมศิลปากร ให้เข้าตรวจในวันพรุ่งนี้ เพื่อเสาะหาที่มาที่ไปของทองคำดังกล่าว ซึ่งที่แผ่นทองคำทุกแผ่นจะมีภาษาจีนโบราณสลักไว้ทุกแผ่น และไหโบราณที่พบลักษณะเหมือนไหจีนโบราณเช่นกัน

ในขณะที่ นายบุญเพ็ง บุญศิริ อายุ 55 ปี กล่าวว่า ผู้เฒ่าผู้แก่ในหมู่บ้านเล่าว่าในอดีต พื้นที่ตรงนี้เป็นลำคลองขนาดใหญ่ และเป็นเส้นทางเดินเรือที่ลัดเลาะไปยังจังหวัดนครศรีธรรมราช ปัจจุบันไม่หลงเหลือความเป็นลำคลองเนื่องจากการทับถมของตะกอนดิน และก่อนหน้านี้ เมื่อ7 ปีที่แล้ว ชาวบ้านขุดพบซากเรือโบราน รวมทั้งไหเครื่องถ้วยชามสังคโลกเป็นจำนวนมาก

ซึ่งครั้งนี้ก็เช่นกัน คาดว่าทองคำดังกล่าวน่าจะเป็นของชาวจีนที่อาศัยอยู่ในแหลมมลายูขณะนั้น เนื่องจากเลื่อมใสศรัทธาในพระพุทธศาสนา จึงได้นำทองคำแผ่น และทองคำแท่งเพื่อนำไปปิดยอดพระบรมธาตุ แต่การเดินทางลำบาก จึงได้ฝังทองคำจำนวนมากไว้ ซึ่งตนคาดว่าในพื้นที่ใกล้ๆ น่าจะมีทองคำอีกหลายจุด




 ข่าวขุดทองที่พัทลุง ล่าสุด ชาวบ้านยังแห่ขุดทองเขาชัยสน อย่างเนื่องแน่น เจ้าของที่ดินวอนตำรวจ อำเภอ ช่วยห้ามชาวบ้าน ด้านร้านทองประกาศงดรับซื้อแผ่นทองคำโบราณจนกว่ารู้ผลพิสูจน์

 หลังจากที่มีการนำเสนอข่าวขุดทองเขาชัยสน จ.พัทลุง โดยชาวบ้านขุดพบแผ่นทองคำโบราณที่สวนปาล์มแห่งหนึ่ง เมื่อวันที่ 27 พฤษภาคม 2557 ที่ผ่านมา ล่าสุด วันนี้ (28 พฤษภาคม) ผู้สื่อข่าวได้ลงพื้นที่ตรวจสอบสถานการณ์ที่สวนปาล์มดังกล่าวอีกครั้ง ปรากฏว่า ยังคงมีชาวบ้านจำนวนมากเดินทางมาขุดทอง ซึ่งก็มีชาวบ้านบางส่วนที่ขุดพบแผ่นทองคำโบราณและทองรูปพรรณเป็นจำนวนมาก

ด้านนายวิ ทับแสง เจ้าของที่ดินดังกล่าว กล่าวว่า หลังจากที่มีชาวบ้านเดินทางมาขุดทองในที่ดินของตนอย่างต่อเนื่อง ตนก็ได้ประสานงานไปขอความช่วยเหลือจากทางอำเภอและเจ้าหน้าที่ตำรวจให้เข้ามาช่วยห้ามปรามชาวบ้าน แต่สุดท้าย ก็ไม่สามารถทำอะไรได้ เนื่องจากจำนวนของชาวบ้านมีเกือบ 500 คน นอกจากนี้ เจ้าหน้าที่สำนักงานวัฒนธรรมจังหวัดพัทลุงก็ได้ลงพื้นที่ตรวจสอบ อีกทั้งยังช่วยประสานงานไปยังส่วนราชการที่เกี่ยวข้องให้ลงมาควบคุมพื้นที่ แต่ก็ยังไม่มีหน่วยงานไหนเข้าไปดูแลเช่นเดียวกัน

เมื่อวันที่ 29 พ.ค.57 เวลา 13.00 น.นายอเนก สีหามาตย์ อธิบดีกรมศิลปากรให้สัมภาษณ์ที่สนามบินจังหวัดนครศรีธรรมราชหลังลงพื้นที่แหล่งโบราณคดีที่มีการขุดพบทองคำจำนวนมากในอ.เขาชัยสน จ.พัทลุง ว่าได้มอบให้สำนักศิลปากรที่ 14 นครศรีธรรมราช เป็นผู้ดำเนินการขุดทองค้นหาโบราณคดีเต็มรูปแบบเพื่อพิสูจน์ทางภูมิศาสตร์ ลักษณะการฝังเป็นการเจตนา หรือด้วยเหตุอย่างอื่น

ส่วนทองคำที่พบน่าเชื่อว่าจะเป็นทองคำของเจ้านายในระดับเจ้าเมือง หรือขุนนางชั้นสูง หรือคหบดีเนื่องจากดูปริมาณแล้วพบเป็นจำนวนมาก และขณะนี้ได้ประสานกับผู้ว่าราชการจังหวัด นายอำเภอให้ประกาศให้พื้นที่แหล่งโบราณคดีจุดนี้เป็นพื้นที่ควบคุมห้ามประชาชนเข้ามาขุดค้น ขณะเดียวกันจะประสานไปยังกองทัพภาคที่ 4 ในการเข้าจัดระเบียบพื้นที่เพื่อให้กรมศิลปากรเข้าดำเนินการ

อย่างไรก็ตามผู้ที่ศึกษาประวัติศาสตร์นครศรีธรรมราช ระบุว่า เป็นที่น่าสังเกตว่าทองคำที่พบนั้นเป็นแผ่นที่ถูกรีดจนบางเช่นเดียวกับทองคำที่อยู่บนองค์พระบรมธาตุเจดีย์นครศรีธรรมราช เป็นไปได้ว่าผู้ที่นำมาอาจนำมาเพื่อมาก่อสร้างองค์พระบรมธาตุเจดีย์ หรืออาจเป็นทองคำที่เหลือจากการการหุ้มปลียอดแล้ว เนื่องจากมีลักษณะเดียวกัน และถูกนำไปยังสถานที่สำคัญอื่นๆในภาคใต้ตอนล่าง แต่อาจเกิดเหตุบางอย่างจึงไม่สามารถเดินทางไปถึงได้ อยากให้ผู้ที่พบมีความตระหนักถึงคุณค่าของวัตถุชิ้นนี้ที่สามารถให้ความรู้ และเป็นเกียรติประวัติประเทศไทย ซึ่งมีค่ามากกว่าเงินทองที่ได้มาแล้วก็เสียไป

ขณะที่บรรยากาศการขุดหาทองคำของชาวบ้านยังคงคึกคักเหมือนเดิมชาวบ้านทั้งในและต่างจังหวัดแห่เดินทางมางขุดหาทองประมาณ 200-300 คน ซึ่งลักษณะหลุมที่ขุดหาทองคำจะลึกกว่าเก่าประมาณครึ่งเมตร เพราะเป็นพื้นที่การขุดซ้ำซาก และหากจะให้เจอต้องขุดให้ลึกกว่าเก่าจนทำให้เจ้าของสวนปาล์มหวั่นที่ดินเสียหายทั้งแปลง แม้ว่าจะร้องขอให้เจ้าหน้าที่เข้ามาดูแลก็ยังไม่สามารถห้ามประชาชนขุดหาทองได้

ห้ามขุด"ทอง"พัทลุง อธิบดีกรมศิลป์ ประกาศปิดพื้นที่ ชี้เป็นโบราณวัตถุ ให้นำมาขายคืน

ตำรวจพัทลุงนำกำลังกว่า 50 นาย ปิดกั้นพื้นที่สวนปาล์มจุดที่พบทองคำแผ่น หลังพบว่าตลอดทั้งคืนยังมีชาวบ้านทั้งในพื้นที่และจากต่างจังหวัดกว่า 200 คน พากันขุดหาทองคำอย่างต่อเนื่อง ด้านอธิบดีกรมศิลปากรประกาศเป็นพื้นที่แหล่งโบราณคดี ห้ามประชาชนเข้ามาขุดค้นเด็ดขาด ใครฝ่าฝืนถูกดำเนินคดี ระบุเชื่อว่าน่าจะเป็นทองคำของเจ้านายในระดับเจ้าเมือง ขุนนางชั้นสูงหรือคหบดี วอนตระหนักถึงคุณค่าของโบราณวัตถุ ส่วนชาวบ้านต่างพากันทยอยเก็บจอบ เสียม กลับบ้าน

จากกรณีชาว บ้าน ต.เขาชัยสน จ.พัทลุง ขุดพบแผ่นทองคำโบราณ ถูกฝังอยู่ในสวนปาล์มน้ำมันของนายวิ ทับแสง จนมีการแห่ไปขุดหากันเป็นจำนวนมาก โดยทางกรมศิลปากรได้ลงพื้นที่ตรวจสอบเบื้องต้น พบว่าน่าจะเป็นแผ่นทองคำแท้ มีอายุราว700-800 ปี โดยมีลักษณะคล้ายกับแผ่นทองคำที่หุ้มบนยอดพระบรมธาตุเจดีย์นครศรีธรรมราช ตามที่ได้เสนอข่าวไปแล้ว


วันที่ 29 พ.ค. 57

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ตลอดทั้งคืนที่ผ่านมายังคงมีชาวบ้านในพื้นที่ ต.เขาชัยสน และจากต่างจังหวัด ได้รวมกลุ่มเหมารถกันประมาณ 200 คน มาขุดหาทองภายในสวนปาล์มกันอย่างคึกคัก ซึ่งตลอดทั้งคืนชาวบ้านพบเพียงเหรียญบาท 2-3 เหรียญเท่านั้น จนกระทั่งในช่วงเช้ามีชาวบ้านขุดพบทองอย่างน้อยอีก 3 ราย โดยเป็นทองแผ่น 2 ราย และกำไลทอง1 ราย

นายวิ ทับแสง อายุ 54 ปี เจ้าของที่ดิน กล่าวว่า สวนปาล์มน้ำมันคงเสียหายทั้งแปลงอย่างแน่นอน เพราะชาวบ้านไม่สนใจคำขอร้องของตน และเจ้าหน้าที่ตำรวจ จึงขอเรียกร้องไปยัง ผวจ.พัทลุง และอธิบดีกรมศิลปากร ให้ประสานงานขอกำลังตำรวจและทหารมาเฝ้าดูแลพื้นที่ ไม่ให้ชาวบ้านลงไปขุดหาทอง โดยจะให้ทางกรมศิลปากรจัดส่งเจ้าหน้าที่มาค้นหาวัตถุโบราณไปเก็บไว้เป็น สมบัติของชาติต่อไป ส่วนทองรูปพรรณและสิ่งที่มีค่าที่ตนขุดพบและเก็บเอาไว้นั้นได้นำไปฝากไว้กับธนาคารแห่งหนึ่ง ในตัวเมืองพัทลุงเกือบหมดแล้ว เหลือเพียงไว้ที่บ้านแค่นิดเดียวเท่านั้น โดยจะนำทองรูปพรรณส่วนหนึ่งไปทำบุญที่วัดพระมหาธาตุวรมหาวิหาร จ.นคร ศรีธรรมราชต่อไป ส่วนเรื่องที่จะมอบสิ่งมีค่าดังกล่าวให้กับทางราชการหรือไม่ขณะนี้ยังไม่ได้ตัดสินใจ ยังอยู่ในระหว่างปรึกษาหารือกับสำนักศิลปากร

นายอาณัติ บำรุงวงศ์ ผอ.สำนักศิลปากรที่ 14 จ.นครศรีธรรมราช กล่าวภายหลังการลงพื้นที่ว่า การตรวจสอบอย่างละเอียดถึงความเป็นมาและอายุของทองคำยังไม่สามารถทำได้ เนื่องจากยังมีประชาชนจำนวนมากยังคงมาขุดหาทองคำอย่างต่อเนื่อง ซึ่งจะต้องขอความร่วมมือจากเจ้าหน้าที่ตำรวจทำความเข้าใจกับประชาชน พร้อมกันประชาชนให้ออกไปจากพื้นที่ เพื่อให้เจ้าหน้าที่ผู้เชี่ยวชาญเข้าไปตรวจสอบ ซึ่งจากการสังเกตทองคำที่ชาวบ้านขุดได้พอที่จะสันนิษฐานในเบื้องต้นได้ว่า ทองคำที่พบเกิดจากความศรัทธาของพี่น้องชาวพุทธในอดีต ที่ต้องการนำทองคำมาเป็นส่วนประกอบในการสร้างองค์พระบรมธาตุเจดีย์ ของจังหวัดนครศรีธรรมราช แต่มาเจออุปสรรคบางอย่าง ที่ทำให้ทองคำเหล่านี้ถูกฝังทิ้งไว้ในพื้นที่ดังกล่าวเนื่องจากแผ่นทองคำมีลักษณะใกล้เคียงกับแผ่นทองคำและเครื่องประดับที่อยู่บน ปลียอดของพระบรมธาตุเจดีย์ฯ คิดว่าทองคำที่ขุดได้ไม่ควร นำไปขายหรือแปรสภาพ อยากให้คงสภาพไว้ และมอบให้เป็นสมบัติของแผ่นดิน โดยทางภาครัฐยินดีจ่ายค่าตอบแทนให้ตามสมควร เมื่อทองคำเหล่านี้อยู่รวมกันมากๆ จะกลายเป็นโบราณวัตถุที่สูงค่า เป็นประโยชน์ในการศึกษาค้นคว้าทางประวัติศาสตร์ของประชาชนและเยาวชนทั่วไป นอกจากนั้นยังเป็นเครื่องดึงดูดนักท่องเที่ยวจากต่างจังหวัดเดินทางเข้าสู่ จังหวัดพัทลุง เพื่อชมและศึกษาเรื่องทองคำ ซึ่งจะช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจด้านการท่องเที่ยวของจังหวัดพัทลุงอีกด้วยนายอาณัติกล่าว

ต่อมาในช่วงบ่าย เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เขาชัยสน ได้ใช้รถเครื่องขยายเสียงประชาสัมพันธ์ขอความร่วมมือประชาชนให้ออกจาก พื้นที่ขุดทอง โดยเจ้าหน้าที่เตรียมนำกำลังเข้าพื้นที่ เพื่อขอความร่วมมือจากชาวบ้านให้ออกไปจากพื้นที่ในเวลา 15.00น. โดยจะกันพื้นที่ไม่ให้ผู้ไม่เกี่ยวข้องเข้าไป เพื่อจะให้เจ้าหน้าที่กรมศิลปากรตรวจสอบต่อไป

นายเอนก สีหามาตย์ อธิบดีกรมศิลปากร เปิดเผยภายหลังเดินทางกลับจากการลงพื้นที่ว่า ในบริเวณใกล้เคียงมีพระบรมธาตุเจดีย์นครศรีธรรมราชเพียงแห่งเดียว ซึ่งพบว่ามีแม่น้ำที่สามารถลัดเลาะมาได้ ลักษณะของแผ่นทองคำนั้นได้ผ่านกระบวนการของช่างทองมาแล้ว มีการรีดเป็นแผ่นสามารถพกพาเดินทางได้ง่าย โดยขณะนี้ได้มอบให้สำนักศิลปากรที่ 14นครศรีธรรมราช เป็นผู้ดำเนินการขุดค้นทางโบราณคดี เพื่อพิสูจน์ทางภูมิศาสตร์ ลักษณะการฝังเป็นการเจตนา หรือด้วยเหตุอย่างอื่น

อธิบดีกรม ศิลปากรยังระบุด้วยว่า ทองคำที่พบน่าเชื่อว่าจะเป็นทองคำของเจ้านายในระดับเจ้าเมือง หรือขุนนางชั้นสูง หรือคหบดี เนื่องจากดูปริมาณแล้วพบเป็นจำนวนมาก และขณะนี้ได้ประสานกับผู้ว่าราชการจังหวัด นายอำเภอ ให้ประกาศให้พื้นที่แหล่งโบราณคดีจุดนี้เป็นพื้นที่ควบคุมห้ามประชาชนเข้ามา ขุดค้น ขณะเดียวกันจะประสานไปยังกองทัพภาคที่ ในการเข้าจัดระเบียบพื้นที่เพื่อให้กรมศิลปากรเข้าดำเนินการ 

มี ผู้ที่ศึกษาประวัติศาสตร์นครศรีธรรม ราชระบุว่า เป็นที่น่าสังเกตว่าทองคำที่พบนั้นเป็นแผ่นที่ถูกรีดจนบางเช่นเดียวกับทองคำ ที่อยู่บนองค์พระบรมธาตุเจดีย์นครศรีธรรมราช โดยเป็นไปได้ว่าผู้ที่นำมานั้นอาจนำมาเพื่อมาก่อสร้างองค์พระบรมธาตุเจดีย์ หรืออาจเป็นทองคำที่เหลือจากการหุ้มปลียอดแล้ว เนื่องจากมีลักษณะเดียวกันและถูกนำไปยังสถานที่สำคัญอื่นๆ ในภาคใต้ตอนล่าง แต่อาจเกิดเหตุบางอย่างจึงไม่สามารถเดินทางไปถึงได้ อยากให้ผู้ที่พบมีความตระหนักถึงคุณค่าของวัตถุชิ้นนี้ที่สามารถให้ความรู้ และเป็นเกียรติประวัติของประเทศ ซึ่งมีค่ามากกว่าเงินทองที่ได้มาแล้วก็เสียไปนายเอนกกล่าว

วันที่ 30 พ.ค. 57

เวลา 16.00 น. ผู้สื่อข่าวรายงานจาก จ.พัทลุง ว่า น.ส.ศิริพร ทองทวี วัฒนธรรมจังหวัดพัทลุง พ.ต.อ.ผล สุวรรณะ ผกก.สภ.เขาชัยสน กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน เจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองและเจ้าหน้าที่ตำรวจประมาณ 50 นาย ได้เดินทางไปยังสวนปาล์มของนายวิ พร้อมกับนำป้ายประกาศขนาดใหญ่ไปติดประกาศไว้เพื่อห้ามไม่ให้ผู้ใดเข้าไปขุด หาโบราณวัตถุหรือศิลปวัตถุในพื้นที่ดังกล่าว เนื่องจากเป็นที่ส่วนบุคคล หากผู้ใดเข้าไปโดยไม่ได้รับอนุญาตจะมีความผิดฐานบุกรุก ทำให้ประชาชนประมาณ 500 คนที่กำลังขุดหาทองกันอยู่ต้องหยุดการขุดหาทองดังกล่าว มีชาวบ้านส่วนหนึ่งได้เก็บจอบ เสียม ทยอยเดินทางกลับบ้านไป

นาง ศิริพร ทองทวี วัฒนธรรมจังหวัดพัทลุง กล่าวชี้แจงกับชาวบ้านว่า จังหวัดพัทลุงขอออกประกาศเรื่องห้ามไม่ให้ผู้ใดเข้าไปขุดหาโบราณวัตถุหรือ ศิลปวัตถุดังกล่าวให้ทราบโดยทั่วกัน หากผู้ใดยังคงฝ่าฝืนเข้าขุดค้นหาวัตถุโบราณในสถานที่ดังกล่าวถือเป็นการฝ่าฝืนพ.ร.บ.โบราณสถาน โบราณวัตถุ ศิลปวัตถุและพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ พุทธศักราช 2504 แก้ไขเพิ่มเติมโดยพ.ร.บ.โบราณสถาน โบราณวัตถุ ศิลปวัตถุและพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ (ฉบับที่ 2) พุทธศักราช 2535 จะมีความผิดต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน ปี หรือปรับไม่เกิน แสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

พ.ต.อ.ผล วรรณะ ผกก.สภ.เขาชัยสน กล่าวว่า เบื้องต้นทางเจ้าหน้าที่จะใช้วิธีการขอความร่วมมือก่อน โดยเน้นการใช้มาตรการนิ่มนวลเพื่อเจรจาก่อน แต่หลังจากนี้หากประชาชนยังฝ่าฝืนทาง สภ.เขาชัยสนก็จะได้ประสานให้ทางหน่วยเหนือใช้มาตรการขั้นเด็ดขาดต่อไป

วันที่ 31 พ.ค. 57

ผู้สื่อข่าวรายงานจาก จ.พัทลุง ว่า ที่บริเวณสวนปาล์มของนายวิ ทับแสง อายุ 55 ปี ที่บ้านทุ่งอ้อ หมู่ที่ 7 ต.เขาชัยสน อ.เขาชัยสน จ.พัทลุง ซึ่งเป็นจุดที่ขุดพบทองคำโบราณ เจ้าหน้าที่ตำรวจ และทหาร ใช้ลวดหนามกั้นทางเข้าบริเวณสวนปาล์ม ห้ามเข้าไปขุดทองอย่างเด็ดขาด พร้อมทำความเข้าใจกับผู้ที่เดินทางมาหวังจะขุดทอง ซึ่งในที่สุดชาวบ้านเองไม่ได้เข้าไปขุดค้นหาทองแล้ว ส่วนที่เดินทางมาอย่างต่อเนื่องตั้งแต่เช้าส่วนหนึ่งมาดูการขุดทอง อีกส่วนหนึ่งมาแก้บน

 นายอานัฎ บำรุงวงค์ ผู้อำนวยการสำนักศิลปากรที่ 14 จ.นครศรีธรรมราช กล่าวว่า จะผนึกกำลังร่วมกับเจ้าหน้าที่จากสำนักศิลปากรที่ 13 จ.สงขลา และสำนักศิลปากรที่ 15 จ.ภูเก็ต เพื่อจะเข้าปฏิบัติงานในพื้นที่อีกครั้ง คาดว่าอย่างช้าสุดจะสามารถลงมาปฏิบัติงานในพื้นที่จริงได้ภายในวันอาทิตย์นี้ ซึ่งเมื่อเจ้าหน้าที่ตรวจศึกษาอย่างละเอียดแล้ว และเชื่อว่าจะสามารถบอกที่มาที่ไปของวัตถุโบราณที่เจอในพื้นที่แห่งนี้ได้

 ด้าน รศ.ดร.ศุภศิลป์ มณีรัตน์ รอง ผอ.สำนักวิจัยและพัฒนา (RDO) ฝ่ายยุทธศาสตร์วิจัย มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ (ม.อ.) เปิดเผยว่า จากกรณีที่มีชาวบ้านขุดพบทองใน ต.เขาชัยสน ม.อ.ในฐานะมหาวิทยาลัยทางด้านการศึกษา จึงได้จัดเสวนาเรื่อง ขุมทองเมืองลุง : ประวัติศาสตร์และคุณค่าŽ ในวันที่ 4 มิ.ย. ที่ห้องประชุม Conference Hall ศูนย์ประชุมนานาชาติฉลองสิริราชสมบัติครบ 60 ปี ม.อ. อ.หาดใหญ่ เพื่อให้ความรู้ความเข้าใจที่ถูกต้องกับประชาชนทั่วไป พร้อมป้องกันมิให้เกิดเหตุการณ์ในลักษณะเดียวกันนี้ขึ้นอีกในอนาคต ประชาชนจะได้รับรู้และมีแนวปฏิบัติที่ถูกต้อง 


วันที่ 1 มิ.ย. 57

ผอ.สำนักศิลปากรที่ 14 นครศรีธรรมราช ระบุแนวการรับซื้อทองที่พัทลุง เผยเตรียมให้ราคาสูงกว่าราคาปัจจุบัน 10 เท่า

นายอาณัติ บำรุงวงศ์ ผอ.สำนักศิลปากรที่ 14 นครศรีธรรมราช กล่าวว่า การขุดพบทองคำที่ องเขาชัยสน จ.พัทลุง ซึ่งได้มีการประกาศว่าเป็นทรัพย์สินของแผ่นดิน และห้ามประชาชนเข้าไปขุดเพิ่มเติมนั้นหลังจากที่มีการประกาศว่าทองคำที่ขุดพบมีความเกี่ยวโยงกับองค์พระบรมธาตุเจดีย์นครศรีธรรมราช ซึ่งไม่สามารถประเมินค่าได้ ผู้ครอบครองมีหน้าที่ในการส่งมอบให้การทางราชการ เพราะถือว่าเป็นของส่วนรวม

“การส่งคืนนั้นไม่ได้ส่งคืนโดยผู้ครอบครองไม่ได้อะไรเลย แต่ทางราชการจะประเมินราคาและสมนาคุณแก่ผู้ครอบครองสูงกว่าราคาทองคำในปัจจุบัน อย่างเช่นราคาทองคำในปัจจุบันนั้นมีราคาเท่าไร ทรัพย์ที่พบนั้นถ้ามีลวดลายหรือรอยแกะสลักนั้นจะมีมูลค่าทางประวัติศาสตร์ที่สูงกว่าราคาทองคำปกติ ซึ่งโบราณวัตถุที่อยู่ใต้ดินนั้นอยากให้พี่น้องประชาชนชนสำนึกว่าเราตระหนักทรัพย์นี้ไม่ใช่ของเราก็ควรนำมามอบให้กับทางราชการ”นายอาณัติกล่าว

นายอาณัติ กล่าวอีกว่า ทางกรมศิลปากรจะตั้งคณะกรรมการเพื่อรับคืนทรัพย์สินดังกล่าว และจะมีการพิจารณาสมนาคุณให้กับผู้ครอบครองสูงกว่าราคาทองคำตามท้องตลาด อย่างเช่นราคาทองในปัจจุบันราคาเท่าไรนั้น ทองคำที่พบถ้ามีลวดลายหรือร่องรอยแกะสลักไว้จะมีราคาสูงถึง 30 เท่า แต่ในความเป็นจริงทางราชการจะสมนาคุณให้กับผู้ครอบครองสูงกว่าราคาปัจจุบัน 10 เท่า ซึ่งยังสูงกว่าราคาปกติ

ส่วนการที่ผู้ครอบครองจะนำมาคืนนั้นคาดว่าภายใน 1 เดือนน่าจะยังไม่แล้วเสร็จ แต่จะทำความเข้าใจและให้ความรู้กับผู้ครอบครอง ซึ่งนอกจากจะได้เงินสมนาคุณแล้ว ยังมีชื่อบันทึกไว้ในกรมศิลปากรเป็นเกียรติประวัติ ถือว่าได้ทำคุณงามความดีให้กับแผ่นดิน อยากให้ผู้ที่พบตระหนักถึงคุณค่าของวัตถุชิ้นนี้ที่สามารถให้ความรู้ และเป็นเกียรติประวัติกับประเทศต่อไป ส่วนความผิดนั้นยังไม่สามารถดำเนินการได้เพราะไม่ทราบว่าผู้ใดครอบครองอยู่บ้าง


ประวัติที่เกี่ยวข้องและสมมุติฐาน

https://www.youtube.com/watch?v=WkLJMsSdbZ4#t=12

//youtu.be/6Bf6VmV6M3U




Create Date : 29 พฤษภาคม 2557
Last Update : 8 กรกฎาคม 2557 20:38:55 น. 26 comments
Counter : 7092 Pageviews.

 
สวัสดียามค่ำคืนครับ

บันทึกการโหวต Blog ในวันนี้

ผู้เขียน Blog หมวดเนื้อหา Blog ได้รับโหวต
Insignia_Museum Diarist ดู Blog


โดย: **mp5** วันที่: 29 พฤษภาคม 2557 เวลา:22:21:36 น.  

 
ตามข่าวเหมือนกันค่ะ ลุ้นว่าอยากให้รักษาทองชุดนี้ไว้ในพิพิธภัฑ์มากกว่า


โดย: sawkitty วันที่: 30 พฤษภาคม 2557 เวลา:6:54:28 น.  

 
ได้ดูข่าวนี้เหมือนกันค่ะ เราก็พลอยตื่นเต้นไปกับชาวบ้านด้วย
แต่ทางการจะเก็บรัษษทองไว้ก็ดีนะคะ
เอาไว้ให้คนรุ่นหลังดู

ไว้มาใหม่ค่ะ






โดย: mambymam วันที่: 30 พฤษภาคม 2557 เวลา:13:11:39 น.  

 
Insignia_Museum Diarist ดู Blog

บันทึกประวัติศาสตร์อีกหน้าหนึ่งค่ะ


โดย: tuk-tuk@korat วันที่: 30 พฤษภาคม 2557 เวลา:16:15:48 น.  

 
เป็นใคร ใครก็ตื่นค่ะ




kae+aoe Parenting Blog ดู Blog
pantawan Health Blog ดู Blog
mambymam Food Blog ดู Blog
Nepster Fanclub Blog ดู Blog
Insignia_Museum Diarist ดู Blog
ระบบจะบันทึกคะแนนโหวต เฉพาะการโหวต 5 ครั้งล่าสุดในแต่ละวันเท่านั้น


โดย: เริงฤดีนะ วันที่: 30 พฤษภาคม 2557 เวลา:23:29:37 น.  

 
เท่าที่ตามข่าวมาเค้าบอกว่าทองคำสมัยก่อนมูลค่าต่ำ (ความบริสุทธิ์ต่ำ) เอาไปขายไม่ได้ราคา แต่มีคุณค่าทางประวัติศาสตร์มาก

ขึ้นชื่อว่าทองแม้จะไม่บริสุทธิ์มากแต่คนก็ยังอยากได้อะนะ

ผมดูข่าวเห็นบอกว่ามีตัวอักษรจีนด้วย

+


โดย: คุณต่อ (toor36 ) วันที่: 30 พฤษภาคม 2557 เวลา:23:36:51 น.  

 
ส่งกำลังใจค่ะคุณอิม


บันทึกการโหวต Blog ในวันนี้

ผู้เขียน Blog หมวดเนื้อหา Blog ได้รับโหวต
ชีริว Travel Blog ดู Blog
คนบ้า(น)ป่า Home & Garden Blog ดู Blog
tifun Literature Blog ดู Blog
Insignia_Museum Diarist ดู Blog

ระบบจะบันทึกคะแนนโหวต เฉพาะการโหวต 5 ครั้งล่าสุดในแต่ละวันเท่านั้น







โดย: mambymam วันที่: 31 พฤษภาคม 2557 เวลา:11:15:04 น.  

 
Insignia_Museum Diarist ดู Blog


ในที่สุดประวัติศาสตร์เกี่ยวกับทองคำพวกนี้จะหายไปเหมือนทุกครั้ง เพราะเจ้าหน้าที่ผู้เกี่ยวข้องโดยตรงมักจะเดินทางไปถึง หลังจากสิ่งของที่ขุดพบถูกชาวบ้านและคนอื่นๆขุดไปเกือบหมดแล้ง


โดย: ดอยสะเก็ด วันที่: 31 พฤษภาคม 2557 เวลา:18:22:18 น.  

 
บันทึกการโหวต Blog ในวันนี้

ผู้เขียน Blog หมวดเนื้อหา Blog ได้รับโหวต
mambymam Food Blog ดู Blog
ขุนเพชรขุนราม Science Blog ดู Blog
ที่เห็นและเป็นมา Music Blog ดู Blog
Insignia_Museum Diarist ดู Blog

ระบบจะบันทึกคะแนนโหวต เฉพาะการโหวต 5 ครั้งล่าสุดในแต่ละวันเท่านั้น


โดย: เวียงแว่นฟ้า วันที่: 31 พฤษภาคม 2557 เวลา:19:48:01 น.  

 
สวัสดีค่า มาอ่านเรื่องขุดทองค่ะ
แปลกดีค่ะ
ไม่คิดว่าสมัยนี้ยังมีหลงเหลืออยู่
แถมของจริงโบราณซะด้วย

ไม่รู้กรมศิลป์จะเรียกเก็บเป็นสมบัติชาติรึเปล่านะคะ

ขอบคุณสำหรับเรื่องดีๆค่า



โดย: lovereason วันที่: 31 พฤษภาคม 2557 เวลา:22:18:47 น.  

 
สวัสดีในวันหยุดค่ะคุณอิม
ยกน้ำพริกมาฝากค่ะ



เพลงที่บล็อกเราก็ชอบเหมือนกันค่ะ
เพลงเก่าๆเพราะดีนะคะ
ขอบคุณที่แวะไปค่ะ




โดย: mambymam วันที่: 1 มิถุนายน 2557 เวลา:13:05:20 น.  

 
เหมือนช่วงยุคหนึ่ง จะมีเรื่อง"ตื่นทอง"มากเลยนะคะ

ให้น่าคิดเหมือนกันว่าจริง ๆ ควรเป็นของใครถ้าพบ เป็นของเราเพราะเป็นที่ดินเรา หรือเป็นของประเทศของทางการ


โดย: รัชชี่ (รัชชี่ ) วันที่: 2 มิถุนายน 2557 เวลา:7:02:24 น.  

 
ไม่รู้ยังไงต่อไปนะคะ


โดย: มี๊เก๋+ป๊าโอ๋=ซีทะเล (kae+aoe ) วันที่: 2 มิถุนายน 2557 เวลา:15:09:02 น.  

 
สวัสดีค่ะคุณอิม
พอคุณอิมพูด เรานึภาพตาม
ก็เห็นจริงอย่างคุณอิมว่าค่ะ บานชื่นซ้อนสีสดๆ
เหมือนลายผ้าของชาวเกาะจริงๆ
ร้อนๆแบบนี้ดอกไม้สีสดๆ สร้างความสดชื่นให้ได้เยอะเลยค่ะ
ขอบคุณที่แวะไปนะคะ







โดย: mambymam วันที่: 2 มิถุนายน 2557 เวลา:20:46:09 น.  

 
บันทึกการโหวตเรียบร้อยแล้วค่ะ



บันทึกการโหวต Blog ในวันนี้

ผู้เขียน Blog หมวดเนื้อหา Blog ได้รับโหวต
ที่เห็นและเป็นมา Art Blog ดู Blog
mambymam Home & Garden Blog ดู Blog
ชีริว Travel Blog ดู Blog
newyorknurse Klaibann Blog ดู Blog
Insignia_Museum Diarist ดู Blog
ระบบจะบันทึกคะแนนโหวต เฉพาะการโหวต 5 ครั้งล่าสุดในแต่ละวันเท่านั้น

สวัสดีค่ะคุณอิม
อ่านแล้วเสียดายมาก ๆ ค่ะ
หากแผ่นทองนี้จะตกไปอยู่ในมือของคนที่ไม่ทราบถึงคุณค่าที่แท้จริง
และต้องการแต่เงินเท่านั้นค่ะ เสียดายมาก ๆ ๆ ๆ


โดย: Close To Heaven วันที่: 2 มิถุนายน 2557 เวลา:22:27:29 น.  

 
สวัสดีค่ะคุณอิม
ได้ข่าวเรื่องนี้อยู่เหมือนกัน
อยากเป็นเจ้าของที่จัง จะปิดข่าวไม่บอกใครเลย

บันทึกการโหวต Blog ในวันนี้

ผู้เขียน Blog หมวดเนื้อหา Blog ได้รับโหวต
ปรัซซี่ Food Blog ดู Blog
คนบ้า(น)ป่า Home & Garden Blog ดู Blog
เศษเสี้ยว Photo Blog ดู Blog
mastana Literature Blog ดู Blog
Insignia_Museum Diarist ดู Blog
ระบบจะบันทึกคะแนนโหวต เฉพาะการโหวต 5 ครั้งล่าสุดในแต่ละวันเท่านั้น


โดย: pantawan วันที่: 2 มิถุนายน 2557 เวลา:22:46:11 น.  

 
เขาให้ส่งคืนแล้ว
จะมีใครที่ขุดแล้วกล้าเอาไปคืนไหมหนอ


โดย: เริงฤดีนะ วันที่: 3 มิถุนายน 2557 เวลา:7:34:08 น.  

 
สวัสดียามเช้าค่ะ บันทึกการโหวต Blog ในวันนี้


โดย: มี๊เก๋+ป๊าโอ๋=ซีทะเล (kae+aoe ) วันที่: 3 มิถุนายน 2557 เวลา:8:17:58 น.  

 
บันทึกการโหวต Blog ในวันนี้

ผู้เขียน Blog หมวดเนื้อหา Blog ได้รับโหวต
Insignia_Museum Diarist ดู Blog


โดย: hellojaae (hellojaae ) วันที่: 3 มิถุนายน 2557 เวลา:14:47:33 น.  

 
บันทึกการโหวต Blog ในวันนี้

ผู้เขียน Blog หมวดเนื้อหา Blog ได้รับโหวต
ญามี่ Literature Blog ดู Blog
สายหมอกและก้อนเมฆ Photo Blog ดู Blog
ก้นกะลา Music Blog ดู Blog
Insignia_Museum Diarist ดู Blog
Tristy Food Blog ดู Blog

ระบบจะบันทึกคะแนนโหวต เฉพาะการโหวต 5 ครั้งล่าสุดในแต่ละวันเท่านั้น
-----------------------------
คุณimสบายดีนะคะ


โดย: เกศสุริยง วันที่: 4 มิถุนายน 2557 เวลา:17:35:13 น.  

 
ข่าวนี้เป็นข่าวใหญ่จริง ๆ ค่ะ น่าเสียดายที่จนท.เข้าไปช้าเกิน ชาวบ้านขุดค้นจนกระจุยกระจายไปหมด อยากให้ชาวบ้านเอาทองไปคืน จะได้เก็บไว้เป็นสมบัติของชาติ

โหวตให้ค่า


โดย: haiku วันที่: 5 มิถุนายน 2557 เวลา:15:58:11 น.  

 
สวัสดีค่ะคุณอิม
มาชวนไปฟังเพลงเพราะๆค่ะ





โดย: mambymam วันที่: 6 มิถุนายน 2557 เวลา:23:14:10 น.  

 
ลิงค์ที่น่าสนใจครับ

//www.manager.co.th/South/ViewNews.aspx?NewsID=9570000062743


โดย: Insignia_Museum วันที่: 7 มิถุนายน 2557 เวลา:14:01:40 น.  

 
//news.bugaboo.tv/watch/128728/%E0%B9%80%E0%B8%88%E0%B8%B2%E0%B8%B0%E0%B8%9B%E0%B8%A3%E0%B8%B0%E0%B9%80%E0%B8%94%E0%B9%87%E0%B8%99_%E0%B8%9F%E0%B8%B1%E0%B8%99%E0%B8%98%E0%B8%87_%E0%B8%97%E0%B8%B5%E0%B9%88%E0%B8%A1%E0%B8%B2%E0%B8%97%E0%B8%AD%E0%B8%87%E0%B8%9E%E0%B8%B1%E0%B8%97%E0%B8%A5%E0%B8%B8%E0%B8%87.html


โดย: Insignia_Museum IP: 171.98.192.10 วันที่: 28 มิถุนายน 2557 เวลา:20:49:56 น.  

 
วันนี้ ( 3 มิ.ย.) นายเอนก สีหามาตย์ อธิบดีกรมศิลปากร เปิดเผยว่า ได้รับรายงานจากนายสหภูมิ ภูมิธฤติรัฐ ผู้อำนวยการสำนักพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ ประธานคณะกรรมการกำหนดเงินรางวัลสำหรับผู้เก็บได้ซึ่งโบราณวัตถุ ศิลปวัตถุที่เป็นทรัพย์สินของแผ่นดิน รวมทั้งตรวจพิสูจน์ กำหนดอายุสมัย กำหนดค่าทรัพย์สินและประเมินราคาของโบราณวัตถุ ศิลปวัตถุ สิ่งเทียมโบราณวัตถุและสิ่งเทียมศิลปวัตถุ ว่า จากการประเมินราคาและคุณค่าของทองคำโบราณที่ชาวบ้านขุดพบในที่ดินของนายวิ ทับแสง ชาวบ้านเขาชัยสน อ.เขาชัยสน จังหวัดพัทลุง ซึ่งมีชาวบ้าน 7 ราย ส่งมอบทองคำโบราณคืนทั้งหมด 22 รายการนั้น เป็นทองคำ 13 รายการ ทองคำก้อน 5 รายการ ทองรูปพรรณ 4 รายการ รวมน้ำหนักทองทั้งหมด 1, 855.51 กรัม หรือประมาณ 115.45 บาท โดยขณะนี้ได้นำมาเก็บรักษาไว้ที่พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติพระนครทั้งหมดแล้ว

อธิบดีกรมศิลปากร กล่าวต่อไปว่า สำหรับทองคำที่ส่งคืนทั้ง 22 รายการนั้น กรมศิลปากร ได้ประเมินคุณค่าโดยแต่ละชิ้นได้รับราคาประเมิน 1 ใน 3 แตกต่างกัน ดังนี้ 1.นายวิ ทับแสง ส่งมอบ 6 รายการ ได้แก่ แผ่นทองคำ หนัก 2.5 บาท เปอร์เซ็นต์ทอง 98% ราคาประเมิน 1 ใน 3 เท่ากับ 100,000 บาท ทองคำก้อน หนัก 52 บาท เปอร์เซ็นต์ทอง 91% ราคาประเมิน 633,900 บาท กำไลหัวนาค หนัก 6.09 บาท เปอร์เซ็นต์ทอง 93% ราคาประเมิน 200,000 บาท จี้ทองคำฉลุลาย หนัก 0.57 บาท เปอร์เซ็นต์ทอง 97% ราคาประเมิน 50,000 บาท ชิ้นส่วนเส้นทอง หนัก 0.5 บาท เปอร์เซ็นต์ทอง 95% ราคาประเมิน 9,000 บาท ลูกปัด หนัก 0.053 บาท เปอร์เซ็นต์ทอง 96% ราคาประเมิน 5,000 บาท

2.นางวรรณี ภาราเริก ส่งมอบ 6 รายการ ได้แก่ แผ่นทองคำ หนัก 0.39 บาท เปอร์เซ็นต์ทอง 88% ราคาประเมิน 13,150 บาท แผ่นทองคำ หนัก 0.44 บาท เปอร์เซ็นต์ทอง 85% ราคาประเมิน 14,800 บาท แผ่นทองคำ หนัก 0.41 บาท เปอร์เซ็นต์ทอง 88% ราคาประเมิน 13 ,800 บาท แผ่นทองคำ 0.374 บาท เปอร์เซ็นต์ทอง 95 % ราคาประเมิน 13 ,000 บาท แผ่นทองคำ หนัก 0.48 บาท เปอร์เซ็นต์ทอง 85% ราคาประเมิน 16 ,100 บาท แผ่นทองคำ หนัก 0.34 บาท เปอร์เซ็นต์ทอง 95% ราคาประเมิน 10 ,000 บาท

3.นางอมรศรี เพชรรัตน์ ส่งมอบ 1 รายการ ได้แก่ แผ่นทองคำ หนัก 2.51 บาท เปอร์เซ็นต์ทอง 98 % ราคาประเมิน 100,000 บาท

4.นางกัลยา ทับแสง ส่งมอบ 3 รายการ ได้แก่ แผ่นทองคำ หนัก 2.51 บาท เปอร์เซ็นต์ทอง 97 % ราคาประเมิน 100,000 บาท ทองคำก้อน หนัก 5.39 บาท เปอร์เซ็นต์ทอง 89% ราคาประเมิน 32,500 บาท ทองคำก้อน หนัก 2.65 บาท เปอร์เซ็นต์ทอง 95% ราคาประเมิน 16,900 บาท

5.นายประพันธ์ ตุเทพ ส่งมอบ 3 รายการ ได้แก่ แผ่นทองคำ หนัก 2.55 บาท เปอร์เซ็นต์ทอง 94% ราคาประเมิน 91,000 บาท แผ่นทองคำ หนัก 2.55 บาท เปอร์เซ็นต์ทอง 97% ราคาประเมิน 100,000 บาท แผ่นทองคำ 1.40 บาท เปอร์เซ็นต์ทอง 94% ราคาประเมิน 49,900 บาท

6.นางลัดดา อักษรเนียม ส่งมอบ 1 รายการ ทองคำก้อน 26.53 บาท เปอร์เซ็นต์ทอง 86% ราคาประเมิน 169,400 บาท

7.นายวิโรจ ตุเทพ ส่งมอบ 2 รายการ ทองคำก้อน หนัก 2.71 บาท เปอร์เซ็นต์ทอง 87% แผ่นทองคำ หนัก 2.50 บาท เปอร์เซ็นต์ทอง 96% ราคาประเมิน 100,000 บาท

“ทั้งนี้คณะกรรมการกำหนดเงินรางวัลฯ ได้ทำการประเมินคุณค่าและราคาของทองคำทั้ง 22 รายการ รวมมูลค่าทั้งหมด 5, 561,550 บาท และเมื่อคิดเป็นราคาประเมินที่จะจ่ายให้แก่ผู้ส่งคืนทองคำ 1 ใน 3 ของค่าทรัพย์สิน คือ 1,854,750 บาท หลังจากนี้กรมศิลปากรจะแจ้งให้ผู้ที่ส่งมอบทองคำคืนได้ทราบถึงราคาประเมิน จากนั้นก็อนุมัติเงิน เพื่อมอบให้แก่ชาวบ้านทั้ง 7 รายต่อไป คาดว่าจะส่งมอบเงินได้ภายในสิ้นเดือนกรกฎาคมนี้ ส่วนทองคำที่ยังอยู่ในครอบครองของชาวบ้าน ซึ่งถือว่าเป็นสมบัติของชาตินั้น ได้สั่งการให้นายอาณัติ บำรุงวงศ์ ผู้อำนวยการสำนักศิลปากรที่ 14 นครศรีธรรมราช ขยายเวลาส่งมอบทองคำโบราณจากเดิมที่สิ้นสุดวันที่ 2 กรกฎาคม ออกไปถึงวันที่ 12 สิงหาคม หากครบตามกำหนดเวลาดังกล่าวก็จะประสานไปยังจังหวัดและตำรวจในพื้นที่ เพื่อบังคับใช้กฎหมายตามอำนาจของพ.ร.บ.โบราณสถานฯ ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 7 ปีปรับไม่เกิน 7 แสนบาทหรือทั้งจำทั้งปรับ”นายเอนกกล่าว


โดย: Insignia_Museum วันที่: 6 กรกฎาคม 2557 เวลา:9:41:39 น.  

 
ขอแสดงความยินดีกับเจ้าของที่ดินที่พบสินแร่โบราณอันทรงคุณค่าด้วย
แต่ทว่า

หากเหตุการณ์เช่นนี้เกิดขึ้นกับตัวกระผม
หลายร้อยชีวิตที่รุกล้ำเข้ามายังพื้นที่ของกระผม และกระทำการอุกอาจ
อย่างไร้ซึ่งความเป็นมนุษย์ ไร้ศีลธรรม ไร้จริยธรรม ไร้มารยาท ความโลภเข้าครอบงำจิดใจ

ด้วยประการดังต่อไปนี้.... (ไม่โลกสวย, ขอสู้กับสันดารดิบ)
ข้อที่สำคัญที่สุด คือ
1.0.. "ยิงก่อนแล้วค่อยถาม"
2.. แจ้งเจ้าหน้าที่, แจ้งกรมศิลป, แจ้งวัฒนธรรรม, แจ้งกองทัพ
แจ้งจังหวัด, (เก็บสำเนาการแจ้ง และตัวจริง)
3.. ตรวจสอบ สิ่งที่จะใช้ปกป้องทรัพย์สิน อะไรใช้ป้องกันตนเองได้ชนิดที่ไม่ต้องมีใบอนุญาติ ที่ออกโดย นายทะเบียนฯ นำมาแยกไว้ เช็ด ขัดถู
4.. อย่าหวังพึ่งถูมิคุ้มกันจะได้รับการตอบสนองในฉับพลัน.
5... (สำคัญ) ทั้งคุณกู และ คุณมรึง ทั้งหลาย หากเกิดเหตุการณ์เช่นนี้กับคุณ อย่าปากนีออน ถอดหลอดLEDออกจากปาก ปิดให้เงียบ อย่าเป็นคนปากสว่าง ภัยจะมาเยือน รู้เท่าที่ควรรู้

6.. เมื่อมีการบุกรุกพื้นที่ จะรู้ได้ง่ายว่ามาจากใครที่ปากฟลูออเรสเซน หรือหน่วยงานไหนที่กังฉิน

7.. อันนี้สำคัญ ที่สุด "ยิงก่อนแล้วค่อยถาม" ย้ำนะครับว่า
"ยิงก่อนแล้วค่อยถาม" แน่นอนว่าผิดกฎหมาย ต้องระวางโทษสูงสุดแน่นอน แต่ด้วย ชีวิตและทรัยพ์สินของข้าพเจ้ากำลังตกอยู่ในความเสี่ยงจากฝูงหมานุษย์ จำนวนมาก ให้ "ยิงก่อนแล้วค่อยถาม"
8... ไม่ต้องสาธยายต่อ จำไว้ ใครถามอะไร "ยิงก่อนแล้วค่อยถาม"
9.. "ยิงก่อนแล้วค่อยถาม"
10.. "ยิงก่อนแล้วค่อยถาม"

หากพวกโลกสวยเข้ามาพร่ามก่นด่าต่างๆนาๆ เฉยไว้ครับๆ

ให้ดำเนินการปกป้องชีวิตและทรัพย์สินต่อเนื่อง

สงสัยในข้อครหา ให้ต้อนกลับไปดูข้อ 1.0

ด้วย2มือของกระผม ขอลั่นไกปลิดชีวิตเดนมนุษย์เหล่านี้ให้สิ้นซาก และยินดีรับผลที่ตามมาไม่ว่าจะทางกฎหมาย
ทางประชาวิจาร ข้อครหาต่างๆ ข้าพเจ้าก็ยินดีถวายฎีกาตามสิทธิ และน้อมรับผลจากกระทำของข้าพเจ้าที่ขัดต่อหลักมนุษยธรรม จะออกมาเช่นไรก็เป็นไปตามฎีกาสูงสุด


โดย: ธนเกียรติ ป. IP: 171.101.52.163 วันที่: 24 มิถุนายน 2561 เวลา:1:10:27 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

Insignia_Museum
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 66 คน [?]




ความตั้งใจในการทำบล็อกเปลี่ยนไปตามกาลเวลา เริ่มต้นด้วยการเขียนถึงถิ่นที่อยู่ในวัยเด็ก ต่อมาเป็นเรื่องเครื่องหมายต่างๆ เรื่องศิลปะ ภาพถ่ายในยุคก่อนๆ อาหารการกิน และอะไรต่อมิอะไรที่ประสบพบเห็น สนใจอะไรขึ้นมาก็อยากรู้ให้มากขึ้น กลุ่มเนื้อหาจึงแตกแขนงไปเรื่อยๆ
New Comments
Friends' blogs
[Add Insignia_Museum's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.