โรงเรียนการบิน (ตอนที่ 2) ผู้บังคับบัญชา ครูการบิน และศิษย์การบิน กองโรงเรียนการบินที่ 1 กรมอากศยาน ดอนเมือง พ.ศ.2469 การฝึกศิษย์การบินแรกเริ่มที่ดอนเมือง ทางราชการพิจารณาเห็นว่าการใช้สนามบินที่ปทุมวันไม่สะดวก ค่อนข้างแคบ ไม่สามารถขยายได้อีก จึงได้ย้ายแผนกการบินไปที่ดอนเมือง การย้ายเสร็จเรียบร้อยในวันที่ 17 มี.ค. 2457 ซึ่งกระทรวงกลาโหมได้มีคำสั่งที่ 291/26826 ลงวันที่ 27 มี.ค. 2457 ให้ตั้งแผนกการบินขึ้นเป็นกองบินทหารบก และให้ย้ายทหารมาเป็นผู้บังคับการกองบินและผู้ช่วยคือ นายพันโท พระเฉลิมอากาศ สำรองราชการกรมจเรการช่างทหารบก เป็นผู้บังคับการกองบิน นานพันตรี หลวงอาวุธสิขิกร สำรองราชการกรมจเรการช่างทหารบก เป็นผู้ช่วยผู้บังคับการกองบิน นายร้อยเอก หลวงทะยานพิฆาต (ทิพย์ เกตุทัต) สำรองราชการกรมจเรการช่างทหารบก เป็นผู้ช่วยผู้บังคับการกองบิน วันที่ 19 ก.พ. 2462 นายพันตรี หลวงทะยานพิฆาต ผู้บังคับการกองบินใหญ่ทหารบกที่ 3 นำถุงเมล์ไปรษณีย์จากดอนเมืองไปส่งที่จันทบุรี ณ สนามบินพลอยแหวน กองบินทหารบกอยู่ในบังคับบัญชาและอำนวยการของจเรการช่างทหารบก ภารกิจส่วนหนึ่งคือเป็นสถานที่สำหรับฝึกหัดนักบิน วางหลักสูตรการฝึกนักบิน เครื่องบินที่ใช้อยู่ตั้งแต่ยังเป็นแผนกการบินมี 2 แบบคือ เครื่องบินปีกชั้นเดียวนิเออปอร์ต (Nieuport) ใข้เครื่องยนต์นิเออปอร์ต 28 แรงม้า กับโนม 50 และ 60 แรงม้า เครื่องบินชนิดปีก 2 ชั้นแบบเบรเกต์ (Brequet) ใช้เครื่องยนต์ โนม 50-70 แรงม้า และซัมป์ชองคองอุนเน 130 แรงม้า การฝึกบินเป็นหน้าที่ของกองบินทหารบกตลอดมา นับแต่เริ่มเริ่มกิจการบินขึ้นในประเทศไทย เครื่องบินที่ใช้ในการฝึกคือเครื่องบินนิเออปอร์ตปีกชั้นเดียวกับเครื่องบินเบรเกต์ วิธีฝึกบินขั้นแรกให้ศิษย์ทำการบินด้วยตัวเอง นับตั้งแต่หัดขับเครื่องบนพื้นดินจนกระทั่งบินขึ้นสู่อากาศ ครูผู้ฝึกเพียงแนะนำและชี้แจงวิธีการต่างๆ พ.ศ. 2459 เริ่มมีการฝึกบินด้วยเครื่องบินบังคับคู่ คือให้ศิษย์การบินทุกคนฝึกบินตามลำพัง ด้วยเครื่องบินสำหรับวิ่งกับพื้น ฝึกขับเครื่องบินเป็นเส้นตรงจนเห็นว่ามีความสามารถพอจะขึ้นสู่อากาศได้ จึงคัดเืลือกให้ขึ้นบินคันบังคับคู่ไปกับครูการบิน เมื่อได้ทำการบินกับครูจนสามารถบินเดี่ยวได้แล้ว ครูจะปล่อยให้บินเดี่ยว เมื่อชำนาญมากขึ้น ก็เปลี่ยนไปบินกับเครื่องบินที่มีพื้นที่ปีกน้อยลงตามลำดับ ซึ่งจะมีผลให้ความเร็วของเครื่องบินเพิ่มขึ้น ในระยะแรกเริ่มมีการฝึกบินนั้น ผู้ที่เป็นครูการบินคือบุพการีทั้ง 3 ท่านของกองทัพอากาศ ระยะเวลาของการเป็นศิษย์การบินมิได้กำหนดแน่นอน ศิษย์มัธยมเมื่อสอบไล่ได้ กระทรวงกลาโหมสั่งให้เป็นนักบินประจำอยู่ในกองบิน 1 ปี เมื่อครบแล้วจึงปลดเป็นนักบินสำรอง กลับเข้ารับราชการในกรมกองตามสังกัดเดิมหรือกรมอื่นแล้วแตเสนาบดีกระทรวงกลาโหมออกคำสั่ง นักบินในสมัยนั้นมี 4 ประเภท คือ ศิษย์การบินชั้นประถมและมัธยม นักบินประจำ นักบินสำรอง และนักบินนอกอัตรา ศิษย์การบิน 8 นาย รุ่นแรกสำเร็จเป็นนายทหารนักบินประจำการ 5 นาย ดังนี้คือ นายร้อยโท เหม ยศธร สำเร็จเมื่อ 22 มิ.ย. 2459 นายร้อยโท ปลื้ม สุคนธ์สาร สำเร็จเมื่อ 28 มิ.ย. 2459 นายร้อยโท นพ เพญกุล สำเร็จเมื่อ 22 มิ.ย. 2459 นายร้อยตรี จ่าง นิตินันท์ สำเร็จเมื่อ 22 ส.ค. 2459 นายร้อยตรี ปิ่น มหาสมิติ สำเร็จเมื่อ 7พ.ย. 2459 เพิ่อให้กองบินมีกำลังและอำนาจทางอากาศ สามารถใช้เครื่องบินในการป้องกันประเทศได้อย่างแท้จริง จึงต้องส่งเสริมให้กิจการกองบินเจริญก้าวหน้ายิ่งขึ้น สิ่งสำคัญคือการฝึกนายทหารให้เป็นผู้ที่มีความสามารถทางการบิน เมื่อบรรลุเป้าหมายที่ต้องการแล้วก็ควจจะฝึกนายสิบและัพลทหารให้เป็นนักบินด้วย ดังนั้นในปี พ.ศ. 2459 กระทรวงกลาโหมได้ขยายการบรรจุบุคคลเข้าเรียนวิชาการบินให้กว้างขวางออกไป นอกจากนายทหารสัญญาบัตรตามกรมกองต่งๆในกองทับบกแล้ว ยังให้กองบินคัดเลือกนายสิบและพลทหารที่เป็นช่างเครื่องบางคน ซึ่งมีคุณสมบัติและคุณลักษณะสมควรจะเป็นนักบินได้ คนแรกที่คัดเลือกได้คือ นายสิบโทโทน บินดี และได้รับนายทหารชั้นประทวนเป็นศิษย์การบินต่อมาอีกหลายปี นายพันเอก พระยาเวหาสยานศิลปสิทธิ์ 4 ก.ค. 2464 นายพันเอก พระยาเฉลิมอากาศ เจ้ากรมอากาศยานทหารบก ขณะรอนายพันเอกพระยาประสิทธิ์ศุภการ (พลเอกเจ้าพระยารามราฆพ) ผู้บังคับการกรมทหารราบที่ 1 มหาดเล็กรักษาพระองค์ สวมชุดบิน เพื่อโดยสารเครื่องบินของกรมอากาศยานทหารบก ที่ดอนเมือง นานร้อยโทกิม ธนพุทธิ (พันตรีหลวงวิศาลโยธิน)นักบินนิเออปอร์ต รุ่นแรกๆ ชุดบินสมัยแรกอีกแบบหนึ่งที่มิใช่กางเกงสีน้ำเงินเข้ม สวมรองเท้าบูตอะเวียเตอร์ นายพันตรี หลวงเทวัญอำนวยเดช นายร้อยเอก ขุนรณนภากาศ ที่มาของข้อมูล : ทำเนียบศิษย์การบิน-นักบิน กองทัพอากาศ   Create Date : 20 มีนาคม 2554 10 comments Last Update : 2 เมษายน 2554 11:26:44 น. Counter : 8813 Pageviews. Share Tweet

สวัสดีครับคุณอิม กระบวนรูปภาพเก่าๆ บล็อกนี้เจ้าของช่างสรรหามาได้ยอดเยี่ยมมากครับ ทำให้เราได้รู้เรื่องราวดีๆ ที่ยังไม่รู้อีกตั้งมากมาย ถ้าว่าง แวะชิมขนมไทยๆกับผมอีกอย่างนะครับคุณอิม   โดย: ปลายแป้นพิมพ์ 23 มีนาคม 2554 13:02:28 น.

บล๊อกนี้ดีจังเลยค่ะ ได้ความรู้มากมาย   โดย: P.Ta IP: 49.48.227.110 23 มีนาคม 2554 20:11:27 น.

เก่งจังค่ะ แค่จำชื่อเต็ม ยศเต็ม ของบุคคลในอดีตถูกต้อง ไม่ตกหล่นได้นี่นับถือๆ   โดย: อันต้า 24 มีนาคม 2554 11:08:46 น.

ป๋าเป็นทหารม้า แล้วย้ายไปสโมสร ที่เทเวศร์ แล้วย้ายมากองกีฬา ทัพบกจนเกษียณค่ะ เรื่องของป๋า คงจะไม่มีต่อ ลิ้นชักปิดแล้วค่ะ แต่หนูจะเขียนเรื่อง การอุทิศร่างกายเพื่อการศึกษา เฉพาะในส่วนที่ตัวเองได้สัมผัส จนถึงงานพระราชทานเพลิงนะคะ เผื่อมีผู้สนใจ อยากอุท้ศบ้าง ญาติ ๆ ทำอย่างไรกับงาน พี่ดูรูปงานงานได้ที่ facebook ของหนูได้ค่ะ ค้นหาที่ kimmybangkok@hotmail.com ขอบพระคุณทีพี่แวะมาเยี่ยมนะคะ   โดย: kimmy (kimmybangkok ) 24 มีนาคม 2554 13:37:48 น.

แวะมาเยี่ยมยามบ่าย ๆค่ะ ขอบคุณสำหรับภาพและเรื่องราวในอดีตนะคะ   โดย: jamaica 24 มีนาคม 2554 15:29:42 น.

goodnight นะคะคุณอิม   โดย: มินทิวา 24 มีนาคม 2554 19:25:02 น.

เอ..อยากรู้จังเลยนะคะว่า พื้นที่ส่วนไหนในเขตปทุมวัน ที่เคยเป็นสนามบินที่กล่าวถึงมาก่อน แปลว่าในอดีตแรกเริ่มแถวปทุมวันก็ต้องถือว่าชานเมือง ใช่หรือเปล่าคะ ไม่ค่อยได้อ่านรายละเอียดมากค่ะ แต่ชอบดูเครื่องแบบ และก็หน้าตาของคนสมัยก่อน คนไทยแท้ๆ ต้องหน้าตาแนวๆนี้นะคะ   โดย: hellojaae (hellojaae ) 24 มีนาคม 2554 21:10:03 น.

พื้นที่สนามม้าราชกรีฑาสโมสรส่วนหนึ่งเคยเป็นสนามบิน เรียกว่า สนามบินสระปทุม จึงกล่าวได้ว่าสนามบินสระปทุมเป็นสนามบินแห่งแรกของประเทศไทยครับ   โดย: Insignia_Museum 24 มีนาคม 2554 21:25:55 น.

รูป ผู้บังคับบัญชา ครูการบิน และศิษย์การบิน กองโรงเรียนการบินที่ 1 กรมอากาศยาน ดอนเมือง พ.ศ.2469 มีคุณปู่ผมด้วย แถวยืน คนที่ 2 นับจาก ซ้ายมือ รอ.ชนะ สุวรรณเกสร์   โดย: จิรชัย IP: 1.10.195.66 3 พฤษภาคม 2557 12:01:52 น.

โดย: Insignia_Museum 3 พฤษภาคม 2557 20:08:46 น.