ต้นตะขบข้างบ้าน
ที่รกร้างแถวๆบ้านผม ในเขตบางแค ดินแถวนี้คงมีคุณภาพดีมากๆในการปลูกพืชผัก ไม่ว่าจะหว่านเมล็ดพืชใดๆลงไป ก็งอกงามอย่างเหลือเชื่อ แม้แต่กล้วยน้ำว้าก็แตกหน่ออกกอ เก็บกินกันไม่ได้ว่างเว้น หากมีที่ว่างตรงไหนในเขตนี้ มักจะเห็นต้นตะขบขึ้นอยู่ทั่วไป น่าจะเติมโตขึ้นมาจากเมล็ดในมูลนก มันขึ้นง่าย โตเร็วมาก หากปล่อยไว้เพียงแค่ปี สองปี กิ่งก้าน ใบ จะแผ่ร่มเงาไปในวงกว้าง ชวนให้นกนานาชนิดมาอยู่มากิน อาจเป็นเพราะต้นตะขบอยู่ใกล้ชิดชุมชนมากเกินไป จึงเหมือนต้นไม้ไร้ค่า ราวกับเป็นต้นหญ้าขนาดใหญ่ที่ต้องขจัดให้ราบคาบ
น่าเสียดายที่รกร้างที่ว่านั้น ชาวบ้านตัดต้นตะขบทิ้งไปหมดแล้ว เขาทำที่จอดรถกันนะครับ
ชื่อพื้นเมืองของไทย : ตะขบ, ตะขบฝรั่ง, ครบฝรั่ง (สุราษฏร์ธานี) ชื่อวิยาศาสตร์ : Muntingia calabura L.
ชื่อที่เรียกกันตามภูมิภาคต่างๆของโลก
อังกฤษเรียก จาไมก้าเชอร์รี่ (Jamaican cherry), ปานามาเบอร์รี่ (Panama berry), สิงคโปร์เชอร์รี่ (Singapore cherry), Bajelly tree, Strawberry tree
เม็กซิโก : capolin, palman, bersilana, jonote และ Puan
กัวเตมาลาและคอสตาริกา : Capulin Blanco
เอลซัลวาดอร์ : Capulin de Comer
ปานามา : pasito หรือ majagüillo
โคลัมเบีย : chitató, majagüito, chirriador, acuruco, tapabotija และ nigua
เวเนซุเอลา : Majagua, majaguillo, mahaujo, Guacimo hembra, cedrillo, niguo, niguito
เอกวาดอร์ : nigüito
เปรู : Bolina, iumanasa, yumanaza, guinda yunanasa หรือ mullacahuayo
บราซิล : calabura หรือโปเดอ seda
อาร์เจนตินา : cedrillo Majagua
คิวบา : capulina, chapuli
เฮติ : bois d' orme; bois de soie marron
สาธารณรัฐโดมินิกัน : memiso หรือ memizo
ฟิลิปปินส์ : Datiles, ratiles, latires, cereza หรือ seresa;
ไทย : ตะขบฝรั่ง
กัมพูชา : kakhop
มาเลเซีย : buah Cheri; Kerukup Siam
อินเดีย เรียก เชอร์รี่ญี่ปุ่น หรือเชอร์รี่จีน
ศรีลังกาเรียก Jam fruit
สเปน : bolaina, yamanaza, cacaniqua, capulín blanco, nigua, niguito, memizo or memiso
อินโดนีเซีย : kersen และ aratilis
เวียตนาม : Trứng cá (thực vật)
ฟิลิปปินส์ : alatris, aratiles, manzanitas and sarisa
น่าสนใจตรงที่ มาเลเซียเรียกตะขบว่า Kerukup Siam น่าคิดว่า น่าจะมีความเป็นมาเกี่ยวกับสยามแน่ๆ ในมาเลเซียต้นไม้นี้ชอบขึ้น และโตเร็วมาก จนมักเกิดปัญหากับอาคารบ้านเรือน เพราะมีนกมาอาศัย และทำความเสียหายให้หลังคาบ้านจากมูลนก
ตะขบเป็นไม้ดอกพื้นเมืองทางตอนใต้ของเม็กซิโก, แคริบเบียน, อเมริกากลางและตะวันตกของทวีปอเมริกาใต้ไปทางทิศใต้เปรูและโบลิเวีย
ส่วนในเมืองไทย ขึ้นทุกภาคของประเทศไทย ออกดอก และติดผลตลอดปี
ชาวเม็กซิโกกินลูกตะขบกันเป็นเรื่องปกติ หาซื้อได้ในตลาดทั่วไป ผลนำไปแปรรูปเป็นแยม และนำใบไปแปรรูปเป็นชา ชาวบราซิล นิยมปลูกไว้ริมฝั่งแม่น้ำ เมื่อผลร่วงลงในน้ำจะเป็นอาหารปลา อินโดนีเซียและฟิลิปปินส์ นิยมกินเป็นผลไม้สดแต่ไม่มีจำหน่าย
ลักษณะทางพฤกษศาสตร์ ตะขบฝรั่งเป็นไม้ยืนต้น สูงประมาณ ๕-๗ เมตร เปลือกต้นสีเทา แผ่กิ่งก้านขนานกับพื้นดินคล้ายร่ม ให้ร่มเงาดีมากตามกิ่งมีขนนุ่มปกคลุม ส่วนของยอดอ่อนเมื่อจับดูจะรู้สึกเหนียวมือ ใบเป็นใบเดี่ยวเรียงสลับกัน รูปขอบขนานแกมรูปไข่ ปลายใบเรียวแหลม ขอบใบหยัก มีขนปกคลุมหนา ดอกสีขาว ออกดอกเดี่ยว หรือเป็นคู่เหนือซอกใบ ผลกลมเมื่อสุกมีสีแดงและจะเป็นสีแดงก่ำเมื่อสุกเต็มที ภายในผลมีเมล็ดนิ่มจำนวนมาก เนื้อเป็นทราย ผลสุกมีรสหวานหอม รับประทานเป็นผลไม้ กินเนื้อพร้อมเมล็ด หรือแปรรูปเป็นไวน์ผลไม้อย่างที่ตำบลปัถวี จังหวัดจันทบุรี เขาทำกัน
ผลตะขบ มีคาร์โบไฮเดรต แคลเซียม ฟอสฟอรัส เหล็ก และวิตามินซี เป็นต้น มีสรรพคุณช่วยละลายเสมหะในลำคอ บรรเทา อาการไอ แก้กระหายน้ำ และช่วยลดความร้อนในร่างกาย
วิจัยพบ "ตะขบ" มีคุณค่าเหนือกว่าผลไม้นอกหลายชนิด ผลมีใยอาหาร-แคลเซียม-โปแตสเซียมสูง ดูดซับคอเลสเตอรอลลดความเสี่ยงมะเร็งลำไส้ เส้นเลือดสมองแตก เตือนคนคุมน้ำหนัก ผู้ป่วยเบาหวานเลี่ยงลิ้นจี่-องุ่น น้ำตาลมาก
นพ.สมยศ ดีรัศมี อธิบดีกรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข เปิดเผยว่า จากการที่กลุ่มวิเคราะห์คุณค่าทางโภชนาการ กองโภชนาการ ดำเนินการศึกษาวิจัยเรื่อง "ปริมาณใยอาหาร น้ำตาล และแร่ธาตุในผลไม้" โดยการเก็บตัวอย่างผลไม้จำนวน ๓๐ ตัวอย่างจากท้องตลาด ๕ แห่งในเขต กทม.และปริมณฑล โดยเก็บตัวอย่างละ ๒ กิโลกรัมมาวิเคราะห์ใน ๒ ส่วน คือ ๑. วิเคราะห์น้ำตาลและน้ำ ๒. วิเคราะห์ใยอาหาร โปรตีน ไขมัน และแร่ธาตุ จากผลการศึกษาพบว่า ผลไม้ในส่วนที่รับประทานได้ ๑๐๐ กรัม มีน้ำเป็นส่วนประกอบ ๗๖ - ๙๔ กรัม มีใยอาหาร ๐.๕ - ๖.๓ กรัม มีน้ำตาลรวม ๓ - ๑๘ กรัม และมีพลังงาน ๓๓ - ๙๗ กิโลแคลอรี
ผลไม้ที่มีใยอาหารสูง ได้แก่ ตะขบ ๖.๓ กรัม ฝรั่งแป้นสีทอง ๓.๓ กรัม ลูกหว้า ๓.๓ กรัม และฝรั่งกิมจู ๓.๑ กรัม ผลไม้ที่มีน้ำตาลสูง ได้แก่ ลิ้นจี่พันธุ์ค่อม ๑๘ กรัม องุ่นดำไร้เมล็ด (ลูกใหญ่) ๑๕ กรัม ลิ้นจี่จักรพรรดิ ๑๓ กรัม สละ ๑๓ กรัม และองุ่นแดง (ลูกใหญ่) ๑๓ กรัม ส่วนผลไม้ที่มีน้ำตาลน้อย ได้แก่ เนื้อมะพร้าวอ่อน ๓ กรัม ลูกหว้า ๕ กรัม ลูกตาลอ่อน ๕ กรัม ราสพ์เบอรี่ ๖ กรัม และแคนตาลูป (เขียว) ๖ กรัม
"ผลไม้ส่วนใหญ่มีพลังงานน้อย เพราะมีน้ำเป็นองค์ประกอบค่อนข้างมาก จากการศึกษาครั้งนี้พบตะขบและมะม่วงเขียวเสวยดิบมีพลังงานมากกว่าผลไม้อื่น คือ มี ๙๗ และ ๘๗ กิโลแคลอรีต่อ ๑๐๐ กรัม" นพ.สมยศกล่าว
อธิบดีกรมอนามัยกล่าวว่า สำหรับปริมาณแร่ธาตุ โซเดียม โปแตสเซียม แคลเซียม ฟอสฟอรัส ในผลไม้ ๑๐๐ กรัม พบว่า มีโปแตสเซียม ๑๐๖ - ๗๗๓ มิลลิกรัม โซเดียม ๐.๗ - ๑๙.๘ มิลลิกรัม แคลเซียม ๐.๓ - ๑๐๘ มิลลิกรัม ฟอสฟอรัส ๐ - ๖๐.๗ มิลลิกรัม ผลไม้ที่มีโปแตสเซียมสูง ได้แก่ ตะขบ ๗๗๓ มิลลิกรัม เชอรี่นอก ๔๘๖ มิลลิกรัม เนื้อมะพร้าวอ่อน ๓๘๑ มิลลิกรัม และน้ำมะพร้าวอ่อน ๓๓๐ มิลลิกรัม ส่วนผลไม้ที่มีโซเดียมสูง คือ ลูกท้อสด มีโซเดียม ๑๙.๘ มิลลิกรัม ราสพ์เบอรี่ ๑๖.๗ มิลลิกรัม ตะขบ ๑๒.๘ มิลลิกรัม ผลไม้ที่มีแคลเซียมสูง คือ ตะขบ มีแคลเซียม ๑๐๘ มิลลิกรัม ผลไม้ที่มีฟอสฟอรัสสูง คือ ลูกหว้า มีฟอสฟอรัส ๖๐.๗ มิลลิกรัม ตะขบ ๕๑.๗ มิลลิกรัม
ลองดูสารอาหารในลูกตะขบในฝั่งของทวีปอเมริกาใต้
สรุปว่าบ้านเรา ตะขบไม่ใช่พืชเศรษฐกิจ ถึงกินได้ก็ไม่ค่อยมีใครจะกิน รสชาติอาจไม่ถูกลิ้น รสนิยมของคนกับนกไปคนละทาง แต่เมื่อไม่ชอบแล้ว คนก็ไม่ควรไปทำลายแหล่งอาหารอันโอชะของนก โดยเฉพาะคางคาวครับ
Create Date : 21 พฤษภาคม 2556 |
|
33 comments |
Last Update : 21 พฤษภาคม 2556 20:19:14 น. |
Counter : 16442 Pageviews. |
|
|
|
|