ตอน 1
นินทาเพื่อน ข้าพเจ้ามีเพื่อนมากมายหลายอาชีพ เวลานี้มีเพื่อนอยู่สองสามอาชีพที่แบ่งขั้วทางการเมืองอย่างชัดเจน ถกเถียงโต้แย้งกันบ้างหน้าดำคร่ำเครียดบ้าง หัวเราะเฮฮากันบ้าง ไม่ได้ทะเลาะกันเอาเป็นเอาตายหรือลุกขึ้นมาท้าตีท้าต่อยกัน ซึ่งก็คงจะดูทุเรศทุรังเป็นที่อับอายขายหน้าลูกหลาน ก็เป็นคุณปู่คุณตากันแทบจะทุกคน เพื่อนบางคนมีหลานโตจนเข้าเรียนมหาวิทยาลัยแล้ว วันนี้ข้าพเจ้านึกสนุกขึ้นมาจึงขอนินทาเพื่อนสักหน่อย อย่างที่บอกไว้ว่า เพื่อนของข้าพเจ้ามีมากมายหลายอาชีพ ข้าพเจ้าขอออกตัว(ตามความนิยม)ไว้ก่อนว่าการวิเคราะห์วิจารณ์นินทาในครั้งนี้ ข้าพเจ้าจะขีดวงนินทาเฉพาะกลุ่มเพื่อนของข้าพเจ้าเท่านั้น ท่านใดที่อยู่ในแวดวงอาชีพเดียวกับเพื่อนของข้าพเจ้าที่ถูกนินทาในครั้งนี้ ข้าพเจ้าขอร้องว่าอย่าได้ถือสาโกรธเคืองข้าพเจ้า เพราะข้าพเจ้าไม่รู้จักท่าน ถือโกรธไปก็ทำให้เสียอารมณ์เปล่าๆปลี้ๆไม่เกิดประโยชน์อันใดต่อตนเองและประเทศชาติ เรื่องการแสดงความคิดเห็นทางการเมือง เศรษฐกิจและสังคม ในกลุ่มเพื่อนฝูงนั้นต้องประกอบไปด้วยคนพูดและและคนฟัง หากมีแต่คนพูดแล้วไม่มีคนฟัง ก็คงจะชุลมุนวุ่นวายเป็นนกกระจาบ หากมีแต่คนฟังแล้วไม่มีคนพูด ก็จะไม่เกิดการสนทนาขึ้น คงจะวังเวงพิลึก หากคนที่พูดไม่ยอมหยุดให้คนอื่นได้พูดบ้าง คนฟังก็จะพาลเบื่อ เพราะพูดอย่างไรก็คงไม่เหมือนอุดม หรือจตุพล หรือลุงหมัก ซึ่งทั้งสามคนที่ว่า ข้าพเจ้ายอมเป็นฝ่ายฟังอย่างเดียว หากคนที่พูดไม่ยอมให้คนฟังได้โต้แย้งบ้าง นั่นเรียกว่าติดอีโก้ อาชีพที่มีอีโก้สูงสุดสามอันดับได้แก่ หมอ นักวิชาการ และ ข้าราชการตุลาการ ตามลำดับ (โปรดอย่าลืมว่า ข้าพเจ้าพูดถึงเฉพาะกลุ่มเพื่อนของข้าพเจ้าเท่านั้น) น่าแปลก ที่เกือบทุกคนโปรไทยรักไทย มีชาติไทยปนมาสองคน และที่สบายใจคือ ไม่มีใครชอบแมลงสาบ ช่วงลิ้มโกวตั้บอาละวาดเมื่อกลางปี 2549 เพื่อนๆของข้าพเจ้าหลายคนก็เกิดวิจิกิจฉา พวกหนึ่งก็เห็นดีเห็นงามไปกับลิ้มโกวตั้บ หมอคนหนึ่งบอกว่าเหนื่อยกับ 30 บาท ทำงานหนักเกินไป เป็นอะไรนิดๆหน่อยๆก็มาหาหมอ ไม่มีเวลาให้ครอบครัว ต้องควบคุมค่าใช้จ่าย ใช้ยาคุณภาพต่ำ บุคลากรไม่เพียงพอ งบประมาณจำกัด หมออีกคนหนึ่งก็ย้อนว่า 30 บาท เป็นสวัสดิการสังคมที่หมอควรภาคภูมิใจ แต่ก่อนนี้อยากช่วยคนไข้ยากจนให้เต็มที่แต่ติดขัดระเบียบรุงรัง เครื่องมือแพทย์อุปกรณ์การแพทย์ ยา ต้องคิดราคาทั้งหมด คนจนก็ตายไปแบบจนๆ และที่บอกว่าไม่มีเวลาให้ครอบครัวน่ะ พูดให้ชัดๆก็คือไม่มีเวลาไปทำคลีนิคกับพาร์ทไทม์โรงบาลเอกชนใช่รึเปล่า(วะ) เรื่องอื่นๆเป็นข้ออ้างทั้งนั้น อยากซื้อยาแพง อยากมีคนเยอะๆเอาไว้เดินเกะกะเล่น แต่ก่อนนี้มันเช้าชามเย็นชาม พวกมึงยังอยากจะอนุรักษ์วัฒนธรรมเช้าชามเย็นชามอยู่อีกหรือ?(วะ) นักวิชาการแว่นตาหนาเตอะก็บ่นดังๆอีกว่า คอรัปชั่นเชิงนโยบาย เอื้อประโยชน์ให้กับพวกพ้อง เผด็จการรัฐสภา แทรกแซงองค์กรอิสระตามรัฐธรรมนูญ ละเมิดสิทธิมนุษยชน บลาๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ นักวิชาการอีกคนก็แย้งว่า ถ้าคุณมึงอ่านหนังสืออื่นๆบ้างนอกจากหนังสือผู้จดการ และถ้าคุณมึงเข้าไปอ่านเว็บฟอรั่มอื่นๆหลายๆแห่งบ้าง นอกเหนือจากเว็บผู้จัดการ คุณมึงจะมีเรื่องมาสนทนามากกว่านี้ เรื่องที่คุณมึงพูดถึงนี้เป็นเรื่องเก่า เป็นโจทย์ที่เขาตอบกันมาหลายครั้งหลายหนหลายที่หลายโอกาส ผู้พิพากษาทำหน้าเครียดตามธรรมชาติ คุณมึงรู้ไหม? อาชีพที่เครียดที่สุดคืออาชีพผู้พิพากษา ถ้าไม่รู้ ผมกูจะบอกให้ เราไม่เคยรู้จักมักจี่กับโจทย์และจำเลยมาก่อน โจทย์แจ้งความ ตำรวจจับจำเลยมาสอบสวนทำสำนวน ส่งให้อัยการ อัยการตรวจสำนวนส่งฟ้อง ผู้พิพากษานั่งอ่านสำนวนจนตาแฉะ ฟังสืบพยาน ทนายความสองฝ่ายซักไปค้านไป แล้วเป็นหน้าที่ผู้พิพากษาต้องตัดสินคดี บางครั้งก็ลำบากใจ หลายครั้งไม่มีความเชื่อในพยานหลักฐาน แต่ก็ต้องตัดสินไปตามนั้น คุณมึงรู้ไหม? มันเครียด คนที่เป็นทนายความก็บอกว่า ลาออกมาเป็นที่ปรึกษากฎหมายสิ จะได้ไม่เครียด มีเวลาท่องเที่ยวพักผ่อนกับเขาบ้าง นี่กว่าจะอัญเชิญมาเจอกันได้ก็ต้องเชิญแล้วเชิญอีก จนพรรคพวกลืมไปแล้วว่าหน้าคุณมึงเป็นอย่างไร คนที่เป็นอัยการบอกว่า งานนี้คดีทุกคดีที่เกี่ยวข้องกับทักษิณท่าจะรอดยาก เพื่อนทุกคนเกิดอาการกันหูผึ่งพร้อมๆกัน รอฟังว่าเพื่อนจะพูดอะไรต่อ แต่เพื่อนก็แกล้งเฉยเงียบไป แถมยังใช้ส้อมจิ้มขนมคำโตเข้าปากเคี้ยวตุ้ยๆ ถือเป็นการยั่วยุท้าทายฝ่ายสาระแนเป็นอันมาก
Free TextEditor
Create Date : 09 กันยายน 2551 |
Last Update : 9 กันยายน 2551 15:30:48 น. |
|
0 comments
|
Counter : 243 Pageviews. |
|
|