. . . Everything is possible if you let it . . .
Group Blog
 
<<
ธันวาคม 2550
 
 1
2345678
9101112131415
16171819202122
23242526272829
3031 
 
17 ธันวาคม 2550
 
All Blogs
 
. . . ความสุขใกล้ตัว...หาได้ง่ายๆ ... อยู่ที่ใจ . . . ~








วันนี้วิคได้รับฟอร์เวิร์ดเมล์จากเพื่อนคนนึง เค๊าส่งเรื่อง "ความสุขใกล้ตัว" ของพระวิศาล วิศาโล มาค่ะ
เนื้อความง่ายๆ แต่อ่านแล้วดีมากๆ ...เลยขอเอามาแบ่งปันให้เพื่อนๆ อ่านกันนะคะ







คุณอยากได้กล้องถ่ายรูปแบบดิจิตัลสักตัวหนึ่ง
หลังจากหาข้อมูลมาหลายวันทั้งจากหนังสือพิมพ์และคนรู้จัก
ก็ตัดสินใจได้ว่าจะซื้อยี่ห้อและรุ่นอะไร
คุณใช้เวลา 2-3 วันในการหาร้านที่ขายถูกที่สุด
แล้วคุณก็พบร้านหนึ่งซึ่งขายต่ำกว่าราคาทั่วไปถึง 25%



คุณตัดสินใจควักเงิน 7 ,500 บาท แล้วพากล้องใหม่กลับบ้าน
ด้วยความปลื้มใจที่ได้ทั้งของดีและราคาถูก
เมื่อกลับถึงบ้าน ตั้งใจว่าจะไปเล่าให้เพื่อนบ้านฟัง
แต่กลับพบว่าเขาเพิ่งซื้อกล้องยี่ห้อและรุ่นเดียวกับคุณ
แต่ซื้อได้ถูกกว่านั้น คือจ่ายไปเพียง 5,000 บาทเท่านั้น
คุณจะรู้สึกอย่างไร ? ยังจะยิ้มได้อีกหรือไม่ ?



ถ้าคุณยิ้มไม่ออก ก็น่าถามตัวเองว่าทำไมถึงเป็นเช่นนั้น ?
ก็คุณเพิ่งได้ของใหม่มา แถมจ่ายน้อยกว่าคนทั่วไป
อีกทั้งสินค้าก็มีคุณภาพและถูกใจคุณเสียด้วย
ทั้งหมดนี้เป็นเหตุผลที่คุณน่าจะดีใจมิใช่หรือ ?
แต่ทำไมคุณถึงเสียใจหรือถึงกับโมโหตัวเอง
เป็นเพราะคุณไปเปรียบเทียบกับเพื่อนบ้านใช่หรือไม่ ?



คุณมีกล้องดีที่น่าพอใจแต่ทันทีที่คุณไปเปรียบเทียบกับกล้องของคนอื่น
ความรู้สึกไม่พอใจก็เข้ามาแทนที่
คนเราไม่พอใจกับสิ่งที่ตนมีก็เพราะเหตุนี้
จึงมีผู้กล่าวว่าการเปรียบเทียบเป็นหนทางลัดไปสู่ความทุกข์
เคยสังเกตหรือไม่ว่า มีคนจำนวนไม่น้อยที่มักคิดว่ารถของคนอื่นดีกว่ารถของตัว
แฟนของคนอื่นสวย(หรือหล่อ)กว่าแฟนของตัว
ลูกของคนอื่นเก่งกว่าลูกของตัว
และอาหารที่คนอื่นสั่งมักน่ากินกว่าจานของตัว



ถ้าคุณเป็นหนึ่งในจำนวนนั้น ชีวิตจะหาความสุขได้ยาก
แม้จะได้มามากเท่าไร ก็ไม่พอใจเสียที
อย่าว่าแต่ของที่ซื้อมาด้วยเงินของตัวเลย แม้ของที่เราได้มาฟรี ๆ
เช่น ได้โทรศัพท์มือ ถือมาฟรี ๆ 1 เครื่อง
ที่จริงน่าจะดีใจแต่เมื่อรู้ว่าคนอื่นได้รับแจกรุ่นที่ดีกว่าและแพงกว่า
จากเดิมที่เคยยิ้มจะหุบทันทีแถมยังจะทุกข์ยิ่งกว่าตอนที่ยังไม่ได้รับแจกด้วยซ้ำ
นั่นเป็นเพราะไปเปรียบเทียบกับคนอื่นใช่ไหม ?
ทั้งๆ ที่ตนมีโชคแล้ว แต่ก็ยังรู้สึกว่าตนโชคไม่ดีเหมือนคนอื่น
ความทุกข์ของผู้คนสมัยนี้ส่วนใหญ่เกิดขึ้นเพราะไปมองคนอื่นมากเกินไป
เราจึงไม่เคยพอใจกับสิ่งที่มีหรือเป็นเสียที



แม้ว่าจะสวยหรือหุ่นดีเพียงใด
ก็ยังรู้สึกว่าตัวเองขี้เหร่ ผมไม่สลวย ผิวคล้ำไป
แถมวงแขนก็ไม่ขาวนวลเหมือนดารา
แต่เมื่อใดที่เราหันมาพอใจกับสิ่งที่ตนมี
มองเห็นแง่ดีของสิ่งที่มีอยู่และเป็นอยู่
ความสุขจะเพิ่มพูนขึ้นมามากมายทันที
จิตใจจะเบาขึ้น และชีวิตจะหายเหนื่อย
เพราะไม่เห็นความจำเป็นที่จะต้องวิ่งไล่ล่าหาซื้อสิ่งของต่าง ๆ มากมาย
เพียงเพื่อจะได้มีเหมือนคนอื่นเขา



... พอใจในสิ่งที่เรามี
ภูมิใจในสิ่งที่เราเป็น
เห็นคุณค่าของสิ่งที่มีอยู่กับตัว
นี้คือเคล็ดลับสู่ชีวิตที่เบาสบายและสงบเย็น ...







ขอบคุณเพื่อนๆ ที่แวะมาเยี่ยมกันนะคะ
ขอให้มีความสุขทุกวันค่ะ





ขอบขอบคุณ :
ไลน์สวยๆ จากคุณเนยสีฟ้าค่ะ




"Winter wonderland"






Create Date : 17 ธันวาคม 2550
Last Update : 17 ธันวาคม 2550 3:48:29 น. 0 comments
Counter : 1467 Pageviews.

the Vicky
Location :
NY United States

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




"สิ่งใดเกิดขึ้นแล้ว สิ่งนั้นดีเสมอ"
หลังไมค์ถึง Vicky กาลครั้งหนึ่งนานมาแล้ว มีหญิงสาวคนหนึ่งผิดหวังในรักเนื่องจากถูกคนรักทิ้งไป จึงคิดจะฆ่าตัวตาย ขณะนั้นเองมีพระธุดงค์รูปหนึ่งผ่านมาพบเข้าจึงได้กล่าวถามว่า "เหตุใดโยมจึงต้องเสียใจเล่าในเมื่อคนที่ควรจะเสียใจควรจะเป็นแฟนของโยมสิ " ... หญิงสาวหยุดคิดและถามกลับไปด้วยความสงสัยว่า "ทำไมล่ะเจ้าคะ" ... พระธุดงค์ตอบว่า "ในเมื่อโยมมิได้สูญเสียสิ่งที่สำคัญไปเลยน่ะสิ" ... หญิงสาวตั้งใจฟังพระธุดงค์แล้วก็ตอบกลับไปว่า "ไม่จริงหรอกค่ะดิฉันสูญเสียแฟนอันเป็นที่รักยิ่งไปนะเจ้าคะ " พระธุดงค์ตอบว่า "โยมได้สูญเสียคนที่มิได้รักและห่วงใยโยม ซึ่งจะมีค่าอันใด แต่แฟนโยมสิที่สูญเสียคนที่รักและห่วงใยเขาเช่นโยม ใครควรจะเสียใจกว่ากันล่ะโยม" ... (ปรัชญาพุทธกับคนรัก(ที่ไม่รักเรา) - ชอบจัง...เพราะเป็นหลักคิดที่ปรับใช้ได้กับความสัมพันธ์ทุกรูปแบบ ไม่จำกัดแค่แบบคนรัก - แฮ๊บมาจากบล็อก "คุณเพียงแค่เหงา" ...ขอได้รับคำขอบคุณมา ณ ที่นี้อีกครั้งนะคะ) นี่เป็นหลักคิดอันนึง ... แต่วิคก็เชื่อเสมอว่า "ใครก็ตามที่ให้ใจไป ย่อมได้รับใจตอบแทน" ... 84,755 + hits
Friends' blogs
[Add the Vicky's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.