ความรู้เรื่องโรคหัวใจ
หัวใจเป็นอวัยวะที่สำคัญภายในร่างกาย มีหน้าที่สูบฉีดโลหิตไปฟอกที่ปอดและส่งเลือดไปเลี้ยงทั่วร่างกาย หัวใจเป็นอวัยวะ ที่มีความแข็งแรงทนทานมาก หัวใจคนเราเริ่มเต้นตั้งแต่ที่เป็นตัวอ่อนอยู่ในครรภ์มารดา ตอนอายุตัวอ่อนเพียง 22 วันและก็จะเต้นตลอดไป แต่กระนั้นก็ตาม หัวใจก็เหมือนกับอวัยวะอื่นๆภายในร่างกาย ที่สามารถเกิดความผิดปกติหรือโรคขึ้นได้ โรคหัวใจ ในผู้ใหญ่สามารถแบ่งเป็นกลุ่มใหญ่ๆ ได้ดังนี้ 1. โรคเส้นเลือดหัวใจตีบตัน(Coronary artery disease) 2. โรคลิ้นหัวใจ และความผิดปกติเกี่ยวกับเส้นเลือดแดงเอออร์ตา(Valvular and aortic disease) 3. โรคหัวใจโตจากโรคความดันโลหิตสูง(Hypertensive heart disease) 4. โรคหัวใจผิดปกติแต่กำเนิดที่พบในผู้ใหญ่(Congenital heart disease in adults) 5. โรคกล้ามเนื้อหัวใจผิดปกติ(Cardiomyopathy) 6. หัวใจเต้นผิดจังหวะ(Cardiac arrhythmia) 7. โรคที่เกี่ยวกับเยื่อหุ้มหัวใจ(Pericardial disease) เนื่องจากเนื้อหาเกี่ยวกับโรคหัวใจ ชนิดต่างๆ มีมาก ดังนั้นในบทความนี้จะขอกล่าวโดยย่อก่อน หากมีผู้สนใจเรื่องใด จะจัดทำเป็นบทความเฉพาะเรื่องอีกครั้ง +โรคเส้นเลือดหัวใจตีบตัน(Coronary artery disease) เกิดจากส่วนของคราบสะสมไขมันที่เราเรียกว่า พล็าค(Atherosclerotic plaque) เกาะบริเวณภายในผนังหลอดเลือดแดง โคโรนารี่ จนเกิดการตีบตัน เป็นผลให้กล้ามเนื้อหัวใจขาดเลือดในที่สุด และถ้าแผ่นคราบไขมันเกิดการแตกหรือฉีกขาด จะทำให้เกร็ดเลือด จำนวน มาก มาเกาะและอุดตันรูเส้นเลือดอย่างรวดเร็ว ทำให้เกิดโรคเส้นเลือดแดงโคโรนารี่อุดตันเฉียบพลัน เกิดกล้ามเนื้อหัวใจขาดเลือดรุนแรงหรือกล้ามเนื้อหัวใจตาย
+โรคลิ้นหัวใจ และความผิดปกติเกี่ยวกับเส้นเลือดแดงเอออร์ตา(Valvular and aortic disease) โรคลิ้นหัวใจผิดปกติที่พบบ่อย ได้แก่ -โรคหัวใจรูห์มาติค(Rheumatic heart disease) มักเป็นที่ลิ้นหัวใจไมตรัล (อาจทำให้เกิดลิ้นหัวใจไมตรัลตีบ และ/หรือ รั่ว)และลิ้นหัวใจเอออร์ติค (ซึ่งทำให้เกิดลิ้นหัวใจ เอออร์ติครั่ว) โรคหัวใจรูห์มาติค เป็นผลที่ตามมาจากโรคติดเชื้อไข้รูห์มาติค ซึ่งมักเป็นหลังจากการติดเชื้อไปประมาณ 10-20 ปี แต่ก็ไม่ได้ เกิดขึ้น ทุกรายที่มีโรคติดเชื้อไข้รูห์มาติค โรคติดเชื้อไข้รูห์มาติค (Rheumatic fever) เป็นผลตามมาหลังจากการติดเชื้อคออักเสบ จากเชื้อ Streptococcus group A ซึ่งมักเป็นหลังจากเกิดคออักเสบ 2-4 สัปดาห์ ส่วนอาการแสดงของโรคไข้รูห์มาติคมีหลายแบบ ในรายที่มีหัวใจอักเสบร่วมด้วย ก็จะมีผลตามมาคือเกิด โรคหัวใจรูห์มาติคในภายหลังได้ -โรคลิ้นหัวใจอักเสบติดเชื้อ(Infective endocarditis) ในรายที่มีประวัติฉีดยาเสพติดเข้าเส้นมักทำให้เกิดลิ้นหัวใจไตรคัสปิดติดเชื้อและเกิดการรั่ว -โรคลิ้นหัวใจเอออร์ติคตีบ ซึ่งมักพบในคนสูงอายุ ซึ่งอาจทำให้เกิดอาการเป็นลมหมดสติเฉียบพลัน อาการเจ็บหน้าอกจากหัวใจ ขาดเลือด และภาวะหัวใจ ล้มเหลวได้ นอกจากนี้ยังมีภาวะ ที่เกิดลิ้นหัวใจรั่วโดยไม่ได้เกิดพยาธิสภาพที่ลิ้นหัวใจโดยตรง กลุ่มนี้มักเป็นจากหัวใจที่โตขยายขนาดออกทำให้ลิ้นหัวใจซึ่งไม่ได้ยาวตามขนาดหัวใจที่เพิ่ม ปิดกันไม่สนิท ทำให้เกิดการรั่วตามมา มักพบสภาวะนี้ที่ลิ้นหัวใจ ไตรคัสปิด และลิ้นหัวใจไมตรัล +โรคหัวใจโตจากโรคความดันโลหิตสูง(Hypertensive heart disease) ในผู้ป่วยที่มีโรคความดันโลหิตสูงเพียงอย่างเดียว เมื่อไม่ได้รับการรักษาปล่อยให้ความดันโลหิตสูงอยู่นาน ก็จะทำให้ผนังกล้ามเนื้อหัวใจหนาตัวขึ้นโดยเฉพาะหัวใจที่ได้รับผลกระทบมากที่สุดคือหัวใจห้องล่างซ้ายซึ่งต่อตรงกับเส้นเลือดแดงเอออร์ตา เกิดภาวะกล้ามเนื้อหัวใจห้องล่างซ้ายหนาตัว (Left ventricular hypertrophy) ซึ่งทำให้การคลายตัวของหัวใจผิดปกติ และอาจเกิดภาวะหัวใจล้มเหลวได้
+โรคหัวใจแต่กำเนิดที่พบในผู้ใหญ่(Congenital heart disease in adults) ที่พบบ่อยในทางคลินิก ได้แก่ -ผนังหัวใจด้านบนรั่ว (Atrial septal defect) โอกาสจะปิดเองได้มีน้อย (ประมาณ 4%) ส่วนใหญ่รูรั่วจะขยายขนาดออกเมื่อโตขึ้น ในรายที่มีอาการจากรูรั่ว(เช่นเหนื่อย หัวใจล้มเหลว)หรือมีเลือดไหลผ่านรูรั่วมากๆ แพทย์จะทำการผ่าตัดปิดรูรั่ว ซึ่งในการรักษาปัจจุบันนอกจากการผ่าตัดแล้ว ยังมีวิธีการ อุดรูรั่ว โดยไม่ต้องผ่าตัดโดยใช้อุปกรณ์ลักษณะคล้ายร่มใส่เข้าทางสาย สวนหัวใจที่แทงผ่านผิวหนังเข้าไปอุดรูรั่วดังกล่าว
..ดูตัวอย่างอุปกรณ์อุดรูรั่วที่มีชื่อว่า Amplatzer septal occluder -ผนังหัวใจด้านล่างรั่ว (Ventricular septal defect) -การมีท่อเชื่อมต่อระหว่างเส้นเลือดแดงเอออร์ตาและเส้นเลือดแดงพัลโมนารี่ ( Patent ductus arteriosus) -เส้นเลือดแดงเอออร์ตาตีบคอด (Coartation of Aorta) มักจะเป็นที่เส้นเลือดแดงเอออร์ตาบริเวณทรวงอก ในผู้ชายเป็นบ่อยกว่าผู้หญิง 2-5 เท่า +โรคกล้ามเนื้อหัวใจผิดปกติ(Cardiomyopathy) แบ่งเป็น 3 กลุ่ม คือ -กล้ามเนื้อหัวใจโป่งพอง (Dilated cardiomyopathy) -ผนังกล้ามเนื้อหัวใจโต (Hypertrophic cardiomyopathy) -กล้ามเนื้อหัวใจถูกบีบรัด (Restrictive cardiomyopathy) +หัวใจเต้นผิดจังหวะ(Cardiac arrhythmia) แบ่งเป็น 2 กลุ่มหลักคือ -กลุ่มหัวใจเต้นเร็ว (Tachyarrhythmia) -กลุ่มหัวใจเต้นช้า (Bradyarrhythmia and conduction disturbances) +โรคที่เกี่ยวกับเยื่อหุ้มหัวใจ(Pericardial disease) ที่พบบ่อยมี 2 โรค คือ -เยื่อหุ้มหัวใจอักเสบ (Pericarditis) อาจเกิดได้จากหลายสาเหตุ ที่พบบ่อยได้แก่ เยื่อหุ้มหัวใจอักเสบจากการติดเชื้อ ไวรัส, แบคทีเรีย, วัณโรค, เยื่อหุ้มหัวใจอักเสบ จากโรคไตวาย -การมีน้ำในช่องเยื่อหุ้มหัวใจ (Pericardial effusion) อาจเกิดได้จากหลายสาเหตุ ได้แก่ ภาวะกล้ามเนื้อหัวใจตาย, เยื่อหุ้มหัวใจอักเสบ, การถูกกระแทกบริเวณหน้าอก, การติดเชื้อเอดส์, โรคมะเร็งปอด มะเร็งเต้านม, ภาวะต่อมไทรอยด์ทำงานต่ำกว่าปกติ เป็นต้น ในรายที่เป็นมากโดยเฉพาะถ้าเป็นแบบเฉียบพลัน น้ำในช่องเยื่อหุ้มหัวใจจะกดบริเวณผนังหัวใจโดยตรงโดย เฉพาะหัวใจ ด้านขวาทำให้การไหลของเลือดเข้าหัวใจไม่สะดวก ผลคืออาจทำให้ เกิดความดันโลหิตต่ำและช็อคจนเสียชีวิตได้ ถ้าไม่ได้รับ การเจาะดูด เอาน้ำออกจากช่องเยื่อหุ้มหัวใจทันท่วงที ขอขอบคุณ : //www.thaiheartclinic.com/data5.asp ขอบคุณที่แวะมาเยี่ยมชมครับ
Create Date : 20 กรกฎาคม 2555 |
|
0 comments |
Last Update : 21 กันยายน 2555 14:06:35 น. |
Counter : 6637 Pageviews. |
|
|
|