< KITAMURA : ราชบุตรจากขุมนรก >
Group Blog
 
<<
กุมภาพันธ์ 2555
 1234
567891011
12131415161718
19202122232425
26272829 
 
5 กุมภาพันธ์ 2555
 
All Blogs
 
รีวิวสบายๆ : 3:10 to Yuma (2007)




“3:10 to Yuma” (2007)


กับตัวหนัง ผมค่อนข้างเฉยๆ ไม่ได้ชื่นชอบอะไรมาก แต่ที่ถูกจริตมากๆคือตัวละคร ‘แดน อีแวนส์’ ที่รับบทโดย ‘คริสเตียน เบล’

แดน อีแวนส์ เป็นอดีตทหารเก่า ขาเสียข้างหนึ่งในสงคราม ปัจจุบันทำไร่เลี้ยงวัวอยู่กับเมียและลูกชายสองคน หนังเริ่มเล่าชะตากรรมความลำบากของแดน ด้วยฉากเปิดเรื่อง มีเจ้าหนี้มาข่มขู่ให้แดนชดใช้หนี้สินทั้งหมด ด้วยการเผาโรงนาและปิดทางไหลของน้ำ ทำให้ไม่สามารถทำไร่ทำนาได้ และเจ้าหนี้ยังหมายจะยึดที่ดินของแดน หากแดนไม่สามารถหาเงินมาใช้หนี้ได้

อีกทั้งหนังยังเล่าว่า ลูกชายคนเล็กป่วยเป็นวัณโรค ส่วนลูกชายวัยรุ่นคนโตของแดน มักจะคิดว่าพ่อของตัวเองนั้น เป็น ‘ผู้ชายอ่อนแอ’ ไม่กล้าหาญอย่างที่ผู้ชายควรจะเป็น เขาจึงไม่เคยภาคภูมิใจในตัวพ่อของเขา ซึ่งแดนก็เหมือนจะรู้ตัวดีว่าลูกไม่นับถือตน แต่เก็บความรู้สึกนั้นเอาไว้ในใจ และไม่ถือสาที่ลูกคิดแบบนั้น

จากนั้น หนังก็เพิ่มตัวเปรียบเทียบ ‘ผู้ชายที่เก่งกาจ’ อย่างจอมโจรอันตราย ‘เบน เวด’ (รัสเซล โครว์) ความรู้สึกของแดนยิ่งน้อยเนื้อต่ำใจอยู่ลึกๆมากยิ่งขึ้นไปอีก เมื่อลูกชายของเขา มีท่าทีชื่นชมเบน เวด อยู่เป็นระยะๆ และเบน เวด ยังทำท่าหมาหยอกไก่กับเมียของแดน จนแดนเกิดความรู้สึกหึงหวง

เมื่อเกิดสถานการณ์ทางการสามารถจับตัว เบน เวด และจำต้องส่งตัวเวดขึ้นที่ท่ารถไฟ ในเวลาบ่ายสามโมงสิบ เพื่อเดินทางไปยังคุกยูม่า แดนจึงขออาสาเป็นหนึ่งในผู้คุมตัวเวดไปขึ้นรถไฟตามกำหนดการณ์ โดยแลกกับเงินค่าจ้างสองร้อยดอลล่าร์ ที่แดนตั้งใจเอาไว้ใช้หนี้ เพื่อไม่ให้ที่ดินของตัวเองถูกยึด

ความจนตรอกทางการเงิน อาจจะเหตุผลเบื้องต้นของแดนที่เลือกทำภารกิจสุดอันตรายนี้ ทว่าเหตุผลลึกๆของเขา น่าจะมีสาเหตุจากการอยากพิสูจน์ให้ลูกชายคนโตของเขาได้เห็นว่า เขาไม่ได้อ่อนแอ เขากล้าหาญกว่าที่ลูกชายคิด และเขามีศักดิ์ศรี ยึดมั่นในความถูกต้อง

ตลอดเส้นทางการคุมตัวนักโทษคดีอุกฉกรรจ์ เบน เวด แสดงภาพลักษณ์ของผู้ชายที่น่าหลงใหล ปราบศัตรูอย่างเก่งกาจ และ ในขณะที่แดน กลับเป็นได้แค่ผู้ชายธรรมดาๆที่ถือปืน ยิงโดนศัตรูบ้างเป็นครั้งคราว แทบไม่มีรัศมีของความยิ่งใหญ่อยู่เลย ทว่าแดนก็ยืนหยัดพยายามทำภารกิจนี้ให้ลุล่วงตามเจตนารมณ์เดิม เท่าที่ความสามารถของเขาจะทำได้






*** ข้อความต่อไปนี้เปิดเผยเนื้อหาสำคัญของหนัง แต่ถ้าไม่แคร์ ก็อ่านเถอะ***






สำหรับผม ไคลแม็กซ์ของหนัง ไม่ได้อยู่ที่ว่าแดนจะพาเวดขึ้นรถไฟได้สำเร็จหรือไม่ แต่มันคือฉากที่เวดพูดประชดประชันว่าแดนพยายามทำตัวเป็นฮีโร่ให้ลูกได้เห็น ทันใดนั้นแดนก็เปิดเผยความจริงต่อหน้าเวดว่า เหตุผลที่ขาของเขาเสีย เป็นเพราะถูกปืนของพวกเดียวกันเอง และในสงครามนั้น แดนอยู่ในภาวะล่าถอย ไม่มีความเป็นวีรบุรุษเลยแม้แต่น้อย และนี่เป็นเรื่องที่แดนไม่กล้าเล่าให้ลูกชายฟัง เพราะกลัวว่าลูกเขาจะหมดศรัทธาในตัวเขามากยิ่งขึ้นกว่าเดิม

ฉากนี้เองที่เป็นฉากที่ทำให้ผม ‘จุก’ และสงสารตัวละครอย่างแดนแบบจับใจ เขาเป็นพ่อธรรมดาๆ เป็นพ่อขี้แพ้ ที่พยายามทำทุกอย่างเพื่อให้ลูกชายนับถือ และคริสเตียน เบล ก็ถ่ายทอดอารมณ์เหล่านั้นได้แตกกระจุย ภายใต้ใบหน้าอันเงียบงันของแดน ดวงตาของเขาสามารถบ่งบอกได้ถึงความรักในลูกชายได้อย่างไม่จำเป็นต้องพูดอะไรออกมาสักกระผีกเดียว

กราบตีนคริสเตียน เบล


kitamura




Create Date : 05 กุมภาพันธ์ 2555
Last Update : 5 กุมภาพันธ์ 2555 4:30:37 น. 3 comments
Counter : 5307 Pageviews.

 
น่าดูๆ


โดย: ชมพูน้อยในป่าใหญ่ วันที่: 5 กุมภาพันธ์ 2555 เวลา:13:54:43 น.  

 
ลองหามาดูนะครับ :)


โดย: Kitamura วันที่: 5 กุมภาพันธ์ 2555 เวลา:22:25:00 น.  

 
เจ๋งว่ะ!

ที่ว่าเจ๋งนี่หมายถึงการวิเคราะห์ของคุณน่ะครับ เรื่องนี้ผมเพิ่งดูเมื่อคืน ดูจบแล้วก็หาความคิดเห็นของคนอื่นมาอ่าน ชอบของคุณที่สุดเลย อ่านแล้วได้ข้อคิดดี


โดย: หนุ่ม IP: 157.7.52.183 วันที่: 17 มิถุนายน 2560 เวลา:10:43:03 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

Kitamura
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




New Comments
Friends' blogs
[Add Kitamura's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.