.. บุหงา บอลิคำไซ ..
๏ นทีโถมท่าน้ำ..............เถื่อนนอง ปลาแหวกปราดหวังปอง.....ว่ายเปรี้ยว ธารไหลทาบไล้ทอง........โลมทอด เรื่อเทอญ ล่องหาดรัดห่อเลี้ยว.........ห่มหล้าห้อมสุรีย์ ๚ะ
๏ นารีกำดัดด้วย ..........ยุพมาลย์ หฤหรรษ์ละหาน...........เลาะห้วย ทึกยวบทวนแย้งธาร...........ทุ่มหยอก เยี่ยมเบิ่งเยิงเบี่ยงย้วย...........โบกเย้ายวนตา ๚ะ
๏ อิจฉาปลาใหญ่น้อย.......เนืองชล แลชิดพิศสกนธ์-................นุชใกล้ อิ่มตามิอิ่มกมล..................เลยแม่ วางจิตลอยน้ำให้..............เสน่ห์แล้วพึงหลง ๚ะ
๏ ผุดผาดผิเด่นด้าว..........เมืองแถน จุติทิพยแดน.....................สู่หล้า อัปสรอ่อนแขนแมน........แม่วาด มนต์จับพี่พะว้า.................จิตแว้งแสวงครอง ๚ะ
๏ นอง นองด้วยรักเร้น........หลงนาง เนื่อง เนื่องมะเลืองมลาง...........ล่วงรู้ หลง หลงมิจืดจาง................จวบจึ่ง จอดนา แม่ แม่เฉกยอดชู้..................หนึ่งนี้หนุนสนอง ๚ะ+ กิ่งโศก+
ขอบคุณ..Line สวยๆ ขโมย มาจากบ้านคุณ ญามี่ อิอิ
Create Date : 28 มีนาคม 2553 |
|
8 comments |
Last Update : 28 มีนาคม 2553 10:47:08 น. |
Counter : 1643 Pageviews. |
|
|
|
ลองหันมาฟังเพลง ต่างประเทศดูกันบ้าง เรียกว่ายกระดับการฟัง..55 ( คุ้นๆ มะ ครับ)
ปกติ เพลงฝรั่ง จะไม่ค่อยฟังเท่าใดนัก เนื่องจากจะเรียกว่า หูไม่กระดิก อิอิ ..คือ แปลไม่ออก ก็พอกล่าวได้ เว้นแต่อ่านเนื้อเพลง อาจจะพอกล้อมแกล้มแก้ขวยไปได้บ้าง.
เฟ...มี..( Free me)
โก...(Go)
100 ไมล์ อะเว ฟรอมโฮม..
พอที่ถูไถฟังบ่อยหน่อย ก็..summer kiss winter tear ตระกูล ยุค ซิกตี้ อะนะ หุหุ
แล.. จะว่าไปก็ ทำเป็นกระแดะฟังไปงั้นแหละครับ 55555
กำลัง คลี่เสื่อ ปูสาดชักชวนเพื่อนๆ พี่ๆ ป้าๆ น้าๆ อาๆ ..มาลองฟังกัน..เป็นเพลงต่างชาติครับ.
เพียงแต่ว่าเป็นบทเพลงจากบ้านพี่เมืองน้องของเรา เท่านั้นเอง
เมืองลาว หรือสาธารณรัฐประชาชนลาว..ที่ถือว่า มีความคล้ายยิ่งกับ คนไทย ยิ่งคนไทยภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ทั้งคำพูด ประเพณี วิถีการดำรงชีพ แทบจะถอดมาจากพิมเดียวกันเลย.....
กุหลาบปากซัน บทเพลงที่เคยฟังมานานแล้ว ได้แว่วหวนให้ได้ยินอีกครั้ง สำหรับกิ่งโศก คนยาก
เป็นบทเพลงที่ เรียกว่า โด่งดัง ในเมืองลาว..จนวงการเพลงบ้านเรา ได้นำเพลงนี้มาขับร้องกัน จนร่ำรวยกันขนานใหญ่เลยทีเดียว .แรกเดิมที คนด่านเกวียน จากนั้น ลูกทุ่งหลายๆ คนเอามาร้องกันมากมาย ไม่เว้นแม้แต่ สยสย.
ไปพบบทความเกี่ยวกับเพลงนี้ เขาเขียนไว้ว่า นักร้องไทย ไม่ใคร่ให้เครดิตผู้แต่ง..สักเท่าใด จนผู้แต่งเสียชีวิตไปแล้วโน่นแหละถึงได้ ระบุนาม ..ส.สุลิวัต หรือ จำปา ลัดตะนะสะหวัน เป็นผู้ประพันธ์ อย่างมากก็ ใช้ว่า ศิลปินลาว..(คีตกวีนิรนาม )
สุลิวัต ท่านนี้ ได้มาร่ำเรียน ในประเทศไทย จบแล้วไปทำงานที่บ้านเกิด และได้แต่งเพลงนี้ เมื่อเขาไปเยือน เมืองปากซัน แขวงบอลิคำไซ ในค่ำของวันหนึ่ง ริมฝั่งนั่น เขาแลเห็นเหล่าบรรดาสาวๆ อาบน้ำกัน ..กำหลาบปากซันจึงอุบัติขึ้น..
เกิดมากิ่งโศก ยังไม่เคยไปต่างประเทศเลย แม้แต่ ประเทศลาวที่ชิดติด.. แต่พอได้ยินเพลงนี้ ดูเหมือนว่า เป็นบทเพลงที่คุ้นเคย หู ประมาณนั้น ความคล้ายบทเพลง ความคล้ายในการจินตนาการ ภาษาที่ใช้ กิ่งโศก ว่า ภาษาลาว นี่มีความตรง ที่จะสื่อ ไม่อ้อมค้อม ดูแล้ว เป็นธรรมชาติแท้ คงคล้ายกับความสมบูรณ์ ในแหล่งธรรมชาติของเขา เอง
....ยามแลงค่ำลง น้ำซัน หมู่บริพรรณน้ำซันไหลผ่าน ใสดี
ข้อยเห็นผู้สาว เจ้าล่องลอย หมู่ปลาใหญ่น้อย
ลอยล่องนที สิ้นแสงสุรีย์สาดสีแสงจันทร์
กิ่งโศก มองเห็นภาพ ธารน้ำซันที่ไหล ยามค่ำ..(ยามแลง) ตะวันเริ่มอ่อนยอแสง ..รอพระจันทร์มารับช่วงต่อ
น้ำใส ของธาร.....สาวเจ้าอาบน้ำในวารี....ริมฝั่งคราคร่ำไปด้วยฝูงปลาเล็ก ๆ...แลลิบๆไกลโพ้นต้นน้ำนั้น คือขุนเขาบรรพรตทมึนที่คอยเทสายน้ำให้ค่อยๆไหลโลมลงลำห้วย...สู่ปากซัน
..ทัศนาภาพแบบนี้ เหมือนมีจิตกรเอก..บรรจงวาดไว้กระนั้น
เชิญ มาร่วมรับฟัง และย้อนหวนฟังเพลงนี้ ขอนำฉบับ คนด่านเกวียน เพราะเป็นคนที่นำมาร้องเป็นคนแรกในเมืองไทย ขอรับ
กุหลาบปากซัน
แต่งโดย จำปา ลัดตะนะสะหวัน
ขับร้องโดย...เวอร์ชั่น คนด่านเกวียน
แดนดิน ถิ่นไกล เหลือตา อยู่สุดนภายังมี ดอกฟ้า แสนงาม
หากไผได้เห็น จะมัวหลง เฝ้าคิดพะวงหลงติดตาม
สาวเอยแสนงามงามเหลือตา
งามจริงดังคำ เขาชม หากได้สุขสมภิรมย์กับน้อง สมใจ
จะขอใฝ่ฝัน แต่นางเดียว บ่ขอข้องเกี่ยว หญิงอื่นใด
เฝ้าแต่หลงไหลใฝ่ฝันใจปอง
โอ้ กุหลาบสวรรค์ แห่งเมืองปากซันให้อ้ายใฝ่ฝัน หมายปอง
ใจ อ้ายหวังอยากเคียงประคอง กุหลาบเป็นสีดั่งทอง
เมื่อยามแสงส่องจากดวงสุรีย์
ยามแลงค่ำลง น้ำซัน หมู่บริพรรณน้ำซันไหลผ่าน ใสดี
ข้อยเห็นผู้สาว เจ้าล่องลอย หมู่ปลาใหญ่น้อย
ลอยล่องนที สิ้นแสงสุรีย์สาดสีแสงจันทร์
โอ้ กุหลาบสวรรค์ แห่งเมืองปากซันให้อ้ายใฝ่ฝัน หมายปอง
ใจ อ้ายหวังอยากเคียงประคอง กุหลาบเป็นสีดั่งทอง
เมื่อยามแสงส่องจากดวงสุรีย์
ยามแลงค่ำลง น้ำซัน หมู่บริพรรณน้ำซันไหลผ่าน ใสดี
ข้อยเห็นผู้สาว เจ้าล่องลอย หมู่ปลาใหญ่น้อย
ลอยล่องนที สิ้นแสงสุรีย์สาดสีแสงจันทร์
...กวีผู้ก้าวสู่ห้วงจินตนาการประหนึ่งน้องพี่ของคนไทยท่านนี้ นับว่า มีปลายปากกาไว้จาร ขานบทกล่อมโลก ให้เสพแต่ความสุขเสียนี่กระไร...
..บทเพลง แห่งบ้านพี่เมืองน้องที่เราคุ้นเคย...ยังมี ของ..ก. วิเศษ ..ตำนานไทยดำรำพัน..อันลือลั่น..