~ ปาริชาต บุษปะ..มาลีสวรรค์ ~
ไตรตรึงษ์ทิพย์ พิมานงาม อัมเรศ อาณาเขต ผกา ปาริชาต บุณฑริกวัน ราชวนา ดาระดาษ เส้นแสดพาด สาดแสง แดงดื่นดง
เหล่าคนธรรพ์ วิทยาธร ภมรล้อม กลิ่นก่นหอม แจรงฟุ้ง จรุงหลง ร้อยขวบรอบ แผ่คลี่ ผลิช่อพงษ์ อัปสร ฟ้อนองค์ สวรรค์....อาภา
มาตรว่า เพียงแตะ ต้องนาสิก ประหนึ่งพลิก คืนภพ นภหล้า กัลปพฤกษ์ กลิ่นย้อน อตีตา ผิว์ชนใด แมนฟ้า ชาตามี
ปาริฉัตร ช่อนี้ ผลิบานแล้ว พิลาศแพร้ว แวววับ จับใจพี่ มธุรส โรยริน กลิ่นมาลี อาบใจนี้ น้าว.หวน....ครวญดวงจินต์
อยากเอื้อมเด็ด ดอกฟ้า มาทาบ-อก ฤาไกลเกิน กว่าตก หัตถาสิ้น หรือคงรอ ระบัด หัตถ์ยุพิน ปาริชาติ หล่นดิน ได้เชยชม
Create Date : 11 ธันวาคม 2551 |
|
11 comments |
Last Update : 11 ธันวาคม 2551 20:49:03 น. |
Counter : 1889 Pageviews. |
|
|
|
ใต้ต้นกัลปพฤกษ์มีแท่นศิลาแก้วชื่อบัณฑุกัมพลเป็นแท่นสีแดงเข้มดังดอกละเอ้ง (ดอกชบา) และอ่อนดังฝูกผ้าอ่อน เมื่อพระอินทร์นั่งเหนือแผ่นศิลานี้ แท่นจะมีอาการอ่อนยุบลงไปเพียงสะดือ เมื่อพระอินทรืลุกขึ้นจากแท่นนี้ แท่นก็จะเต็มดังเดิม ใกล้ๆ กับที่นี้มีศาลาใหญ่ชื่อสุธรรมาเทพสภา เป็นที่ประชุมและเป็นที่ฟังธรรมเทศนาของเทวดา ใกล้กำแพงทองล้อมรอบศาลาสุธรรมา มีดอกไม้ชนิดหนึ่ง ชื่ออสาพติ หอมนักหนา บานพันปีละครั้งเท่านั้น ส่วนดอกปาริชาติร้อยปีจึงบานครั้งหนึ่ง ส่งกลื่นหอมฟุ้งไปได้แสนวา เวลาดอกไม้บาน เทวดาพาไปเก็บดอกม้ทิพย์เหล่านี้
ต้นปาริชาต (กัลปพฤกษ์)
อยู่ในอุทยานทิพย์ปุณฑริกวัน มีบริเวณกว้างขวาง มีกำแพงล้อมรอบ 4 ด้าน
กลางสวนนั้นมีต้นไม้ทองหลางใหญ่แผ่สาขาอยู่ต้นหนึ่ง ซึ่งชื่อว่า ต้นปาริชาต หรือ กัลปพฤกษ์
ซึ่งเป็นต้นไม้ทิพย์
ต้นกัลปพฤกษ์ นี้ 100 ปี ถึงจะออกดอกครั้งหนึ่ง เมื่อถึงคราวนั้น ดอกไม้ในสวรรค์นี้ก็จะบานสะพรั่ง
เหล่าเทพบุตร เทพธิดา ก็จะพากันมารื่นเริง ผลัดเปลี่ยนเวียนกันมาเฝ้าจนกว่าดอกไม้จะบาน
เมื่อดอกไม้สวรรค์บานแล้ว จะปรากฏแสงรุ่งเรืองงดงามยิ่งนัก
รัศมีดอกปาริชาติจะส่องรัศมีรุ่งเรืองไปไกลหลายหมื่นวา เมื่อลมรำเพยพัดพาไปในทิศใด
ย่อมส่งกลิ่นหอมไปในทิศนั้น เป็นระยะไกลแสนไกล
ดอกไม้นี้จะบานสะพรั่งไปทุกกิ่งก้านทั่วทั้งต้น ถ้าเทพบุตรเทพธิดาองค์ใด
ปรารถนาจะได้ดอกปาริชาตก็จะตกลงมาในมือดั่งรู้ใจ ถ้ายังไม่ได้รับในมือ ดอกก็ยังไม่ทันตกลงดิน
โดยมีลมชนิดหนึ่ง จะพัดชูดอกไว้ในอากาศ จนกว่าเทพยดาผู้ใดประสงค์ก็จะมารับเอาไป