~บล๊อคสนองนี๊ดส่วนตัวล้วนๆ แบบว่า...ยินดีต้อนรับสู่ที่สถิตย์ของมี๋บ๊องบวมพูดวกวนไม่รู้เรื่อง ฮ่าๆๆ~
|
|||||||
Drama: Cat on a Hot Tin Roof Category: Books Genre: Literature & Fiction Author: Tennessee Williams มีโอกาสได้ดูภาพยนตร์เรื่องนี้ด้วย แต่ไม่จบเพราะอาจารย์เปิดก่อนสอบแว๊บๆ เป็น ดราม่าที่เข้มข้นอีกเรื่องหนึ่ง ที่ว่าด้วยความสัมพันธ์ของตัวละครทุกตัวที่ต่างตกอยู่ในสภาวะเดียวกับชื่อ เรื่องนั่นคือ cat on a hot tin roof หรือแมวที่กำลังยืนแด่วๆอยู่บนหลังคาตะกั่วที่ร้อนและทุรนทุราย แต่ต่างก็หาทางลงจากหลังคาหรือหาทางออกไม่ได้นั่นเอง ทั้งเรื่องก็วนเวียนอยู่แต่ในคฤหาสน์ของBig Daddyอ่ะนะ ตัวบทละครนับ ว่ามีกลิ่นอายความรักของเพศที่สามลอยอบอวลอยู่พอตัวทีเดียว แม้จะบรรยายออกมาในรูปความทรงจำของพระเอก(Brick) ที่มีต่อเพื่อนรักที่ตายไปแล้วก็ตาม โดยมีนางเอก(Maggie) เป็นเหมือนแมวที่ต้องก้ำกึ่งอยู่กลางสถานการณ์ ที่ไม่สามารถทำให้สามีขี้เหล้ากลับมารักและมองดูตัวเธอได้อีกครั้งนึง แถมยังต้องต่อสู้กับการสร้างโซ่ทองคล้องใจเพื่อหลุดจากสถานะแมวบนหลังคาของ ตัวเธอเอง นอกจากนี้ยังรวมถึงสายตาของสามีที่มองเธอเป็นเหมือนคนที่ทำให้เพื่อนรักเค้า ตายอีก แต่นั่นก็เจ็บไม่เท่าการมีคนรักที่เหมือนไม่มีหรอกนะ สายตามันช่างว่างเปล่าจริงๆ (ถ้าเราเป็นนางเอก เราจะเอาไม้หน้าสามฟาดๆๆ แล้วลากมันขึ้นเตียงเองเลย 55+) แต่ตัวนางเอกเองก็เป็นเหมือนแมวที่สวมหน้ากากไม่สามารถรับความจริงที่ว่า พระเอกไม่รักไม่ได้ เธออยากให้เค้าเปิดเผย แต่พอเค้าจะพูดความรู้สึกออกมา เธอกลับวิ่งหนี ไอ้ที่ว่า ไม่รักก็บอกมาน่ะ สำหรับคนบางคนก็ไม่อาจทนเผชิญได้เหมือนกันนะนี่ แม็กกี้ก็เหมือนแมวบนหลังคา ที่ไม่สามารถหาทางลงของเธอได้ ในเมื่อเธอไม่คิดจะวางหน้ากากลง สู้ความจริง ปล่อยวาง และก้าวเดินออกไปเอง ใจของเธอก็จะไม่มีวันสงบ และหลังคานั้นก็จะไม่มีวันเย็นลงเช่นเดียวกัน นอก จากนี้ตัวพี่ชายที่ไม่เคยได้รับความรักจากพ่อพระเอกนั้น แม้ว่าตอนแรกจะดูไม่ค่อยน่าชอบเท่าไหร่ แบบว่ารอมรดกหลังBig Daddyตายโต้งๆนี่หว่า แต่พออ่านๆไปก็เกิดความเข้าใจในพฤติกรรมขึ้นมาพอตัว แทนที่จะน่าหมั่นไส้ก็กลับกลายเป็นน่าสงสารแทน เรื่องนี้มันไม่ใช่ใครผิดใครถูก เพราะทุกคนต่างก็ต้องการใครสักคนกันทั้งนั้น ไม่ว่าจะยากดีมีจน ขอแค่ความรักเล็กน้อยพอให้ฟันเฟืองหมุนอีกสักครั้งเพื่อที่จะสามารถหย่อนขา ลงไปได้อย่างสงบโดยไม่ต้องดิ้นรนมากมายนัก ถ้าพ่อแสดงความรักต่อเค้ามากขึ้นอีกนิด เค้าคง...ไม่รู้ดิ ถอดหน้ากากออกมั้ง ไคลแมกซ์ของเรื่องน่าจะอยู่ที่ความสัมพันธ์ของ พ่อ(Big Daddy)กับลูกชายคนเล็ก(Brick)ที่แสนโปรดปราน โดยตัวลูกชายหรือพระเอกหรือสามีของนางเอกนั้น ใช้ชีวิตจมอยู่กับเหล้าไปวันๆเหมือนคนที่ตายไปแล้ว กลับกันกับพ่อผู้ร่ำรวยที่กำลังจะกลายเป็นคนตาย แต่ใช้ชีวิตเหมือนคนเป็น โดยไม่กลัวว่าวันตายจะมาถึง แต่ลึกๆแล้วเค้าก็คงรู้ตัวอ่ะนะว่าแม้จะมีเงินมากมายก็อยู่ค้ำฟ้าไม่ได้ เลยอยากให้ลูกชายเลิกเหล้าแล้วกลับมาสู่ความจริง สร้างครอบครัวอีกครั้งกับนางเอก ทุกๆคนในเรื่องล้วนแล้วแต่ใส่ หน้ากากโกหก(Mendacity) เข้าหากันและกัน ในสังคมอันเน่าเฟะนี้ คงมีแค่Brick และ Big Daddy เท่านั้นที่พูดความจริงต่อกันในตอนใกล้จบของเรื่องอ่ะ (พ่อกล้าพูดใส่หน้าเลยว่าลูกเป็นเกย์ ส่วนลูกสวนกลับว่าพ่อกำลังจะตาย) เนื่องจากพ่อไม่รู้ว่าตัวเองกำลังป่วยใกล้ตาย เพราะทุกคนต่างปิดบังและพูดเอาอกเอาใจ มีแค่พระเอกเท่านั้นที่พูดมันออกมา บางทีคนที่ดูไร้สติที่สุด อาจเป็นเพราะเค้าเลือกที่จะไม่สวมหน้ากากอยู่ก็เป็นได้ ว่าแต่น้ำเมามันทำให้คนพูดความจริงกันหรือไงฟะ จะได้ไม่คิดแตะ เดี๋ยวหลุดๆ เหอๆๆ บางครั้งความรักที่ถูกทางอาจไม่ใช่การซื้อของมากมายมาประเคน ให้ แต่เกิดจากความเข้าใจต่อ"ตัวตน"ที่แท้จริงของคนคนหนึ่งก็เป็นไปได้ คำพูดนี้เอามาจากคนอื่นอ่ะนะ เท่ดีอ่ะ ปล. สำหรับเรา ยังไงไอ้พระเอกก็ยังดูงี่เง่าอยู่ดีวุ้ย
|
คอมี๋ย่างแซ๊บแซ่บ
Rss Feed Smember ผู้ติดตามบล็อก : 2 คน [?] ~LoveLyNuiZzZ~ ;;;,,,มี๋ย์แบ้ เกรียน กวนติ่งงง,,,;;; @#^เฟี้ยว ฟิ๊ว โฟ๊ะ โจ๊ะ โอ๊วว์^#@ วิ้ง~วิ้ง~วิ้ง เครดิตๆๆ เน้อรร์ ~บรู๋วว์~ ~AlWays cRawLing unDEr yOuR fEeT~ สงวนลิขสิทธิ์ตามพระราชบัญญัติลิขสิทธิ์ พ.ศ.2539 Group Blog
All Blog
|
||||||
Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved. |