BlogGang.com : : kimura551 : แนวโน้มค่าเงินบาทระยะสั้น

I will be a good investor.

Group เริ่มต้น

กันยายน 2553

			1	2	3	4
5	6	7	8	9	10	11
12	13	14	15	16	17	18
19	20	21	22	23	24	25
26	27	28	29	30

18 กันยายน 2553

แนวโน้มค่าเงินบาทระยะสั้น

แนวโน้มค่าเงินบาทระยะสั้น

คาดระยะสั้นเงินบาทกลับไปยืนเหนือระดับ 31 บาท/US$
ข้อมูลจาก:ฝ่ายวิจัย บมจ. หลักทรัพย์ กิมเอ็ง (ประเทศไทย) ลงวันที่ 17/09/2010

ธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) เข้ามาแทรกแซงเงินเยน หลังค่าเงินแข็งค่าขึ้นถึงระดับ 82.88 YEN/ US$ ซึ่งเป็นระดับสูงสุดในรอบ 15 ปี นักวิเคราะห์คาดว่า BOJ ใช้เงินเยนซื้อ US$ ประมาณ 1-2 แสนล้านเยน ส่งผลให้เงินเยนอ่อนค่าลงมาปิดที่ 85.7 YEN/ US$ นักค้าเงินคาดว่า BOJ จะยังคงเผ้าดูและแทรกแซงค่าเงินต่อไป โดยให้เงินเยนอยู่ในระดับที่เหมาะสมและไม่ผันผวน

สำหรับการแทรกแซงเงินเยนของ BOJ ดังกล่าว คาดว่าจะทำให้ทิศทางของเงินเยนและเงินสกุลอื่นๆในภูมิภาคเอเชียรวมทั้งบาทไทย มีแนวโน้มอ่อนค่าลงในระยะสั้น อย่างไรก็ดี ในระยะยาว คาดค่าเงินเยนและเงินสกุลต่างๆ ในภูมิภาค จะยังคงมีแนวโน้มแข็งค่าขึ้นอีก เนื่องจากนักลงทุนยังคงวิตกกังวลต่อการฟื้นตัวของเศรษฐกิจสหรัฐฯ และผลกระทบจากภาระหนี้สาธารณะในยุโรป ขณะที่ญี่ปุ่นและประเทศในภูมิภาคเอเชีย ยังคงมีฐานะทางเศรษฐกิจที่แข็งแกร่ง ดุลบัญชีเดินสะพัดขยายตัวต่อเนื่องและอัตราเงินเฟ้อทรงตัวในระดับต่ำ

ส่วนเงินบาทไทย อ่อนค่าลงในทิศทางเดียวกับเงินสกุลอื่นๆ ในภูมิภาค โดยเคลื่อนไหวในกรอบ 30.96 ถึง 30.71 บาท/ US$ ปิดที่ระดับ 30.83 บาท/US$ สำหรับการซื้อขายในวันนี้ ฝ่ายวิจัยฯ คาดว่าเงินบาทจะยังคงอ่อนค่าลง โดยมีแนวโน้มจะอ่อนค่าไปถึงระดับ 31 บาท/US$ ภายในระยะเวลาอันใกล้

สำหรับความกังวลต่อการแทรกแซงเงินบาทของ ธปท. เริ่มลดลงหลังจากผู้ว่าฯ ยืนยันจะไม่เปลี่ยนแปลงนโยบายอัตราแลกเปลี่ยน และจะไม่นำมาตรการ Capital Control มาประกาศใช้ ทั้งนี้ ธปท. จะดูแลไม่ให้ค่าเงินเคลื่อนไหวผันผวนเกินไป ขณะที่การเคลื่อนไหวของเงินบาทจะปล่อยให้เป็นไปตามกลไกของตลาด การแสดงความคิดเห็นดังกล่าว ช่วยสร้างความเชื่อมั่นกับนักลงทุนต่อการลงทุนในตลาดทุน

สำหรับค่าเงินบาที่อ่อนค่าลงในระยะสั้น นอกจากจะส่งผลต่อ Sentiment ในด้านบวกต่อหุ้นในกลุ่มผู้ส่งออก อาทิ อิเล็กทรอนิกส์ เกษตร และอื่นๆ ยังส่งผลให้ราคาทองคำในประเทศมีแนวโน้มปรับสูงขึ้น ทั้งจากราคาทองในตลาดโลกที่ทำสถิติสูงสุดเป็นประวัติการณ์ และผลจากเงินบาทที่อ่อนค่าลง