กว่าจะรู้ตัวว่ามีความทุกข์เป็นเพื่อนแท้
กว่าจะรู้ตัวว่ามีความทุกข์เป็นเพื่อนแท้ก็เกือบจะสายไปเสียแล้ว!!!
มีคำกล่าวเคยบอกว่า "ความรักทำให้คนตาบอด" มันเป็นเรื่องจริงทีเดียว แต่สำหรับเราแล้วความรักทำให้เราตาบอดสนิทชนิดที่หาตาของผู้มีบุญมาบริจาคให้ก้ยังไม่สามารถทำให้ตาสว่างได้
ย้อนไปประมาณสี่ห้าปีที่แล้วเราเจอผู้ชายอยู่คนนึงซึ่งผ่านการแนะนำจากเพื่อนรุ่นพี่ เราก็ไม่ได้คิดอะไร ไปกินข้าวกันตามประสา พูดคุยเจอกัน จนมารู้ตัวอีกทีนึงเราก็รักเค้าเข้าซะแล้ว ความรักของเราในครั้งนี้เดินทางมาพร้อมกับความทุกข์ซึ่งเราไม่เคยรู้ตัวเลย เราหลอกตัวเองว่าเรามีความสุขที่ได้รักเค้า และเค้าก็รักเรา ในขณะที่เราคบกับเค้าเค้าก็ให้ทุกอย่างกับเราได้ยกเว้นความสุข เราเคยคิดอยากจะฆ่าตัวตายหลายๆต่อหลายครั้ง และเราก็พยายามทำมันแต่ไม่สำเร็จ คำถามว่าทะมัยเราถึงช้ำใจ ทุกข์ใจขนาดนั้นก็เพราะเค้าไม่เคยรักเราเลย เราเคยคิดว่าความดียังงัยก็ต้องเอาชนะใจเค้าได้ แต่มันไม่ได้ช่วยอะไรเราเลย ก่อนเราคิดฆ่าตัวตายครั้งสุดท้าย เรากำลังจะกระโดดลงจากตึก แต่ทันใดนั้นมีเสียงโทรศัพท์ดังขึ้นซึ่งเรารีบหันกลับไปมองคิดว่าเปนคนรักเราโทรมา แต่ป่าว นั่นคือเบอร์โทรศัพท์ที่ขึ้นชื่อว่า "MOM"
แม่: ทำไรอยู่
เรา: พอได้ยินเสียงแม่ก็ยิ่งร้องไห้ แต่เราบอกแม่ว่าเรากำลังจะฆ่าตัวตาย เราอ่อนแอเกินไปที่จะรับได้ แม่: เงียบไปสักพักนึงแล้วพูดว่า "เธอจะตายชั้นไม่ว่า แต่ก่อนเธอจะตายชั้นอยากให้เธอไปถือศีลที่วัด ก่อน เอาบุญติดตัวไปด้วย โลกหลังความตายมันน่ากลัว"
เรา: ตอนนั้นเรามึน และงงกับคำพูดแม่มาก เพราะชั่วโมงนั้นจะให้เราไปวัด แรงจะพูดเรายังไม่มีเลย แม่: แล้วที่นั่นเค้าส่งศพกันราคาเท่าไหร่อ่ะ โหลดมาแพงมั๊ย แล้วเค้ามีพิธีกรรมทางศาสนาอัญเชิญ วิญญาณเธอรึป่าว เด๋วเกิดไม่มีพิธีกรรมอะไรเปนผีร่วมกับผีฝรังทำงัย ทำบุญที่นี่จะถึงโน่นรึป่าวไม่รู้ แล้วค่าตั๋วไปรับศพเธอเท่าไหร่ ชั้นจะหาทันมั๊ยเนี่ย
เรา: ซึ่งเบลออยู่แล้วคิดแต่จะตายๆ เลยเปลี่ยนมาคิดแทนว่าราคาส่งศพเท่าไหร่ แล้วแม่ก็สอนธรรมะอะไรอีกเยอะแยะให้เราฟัง แต่เราจำไม่ค่อยได้แล้ว
แต่คำพูดของแม่วันนั้นมันทำให้เราคิดได้ว่า แม่เปนคนให้ชีวิตเรามา แล้วยังมาช่วยเราในวินาทีเกือบสุดท้ายอีก
มีเรื่องราวรายละเอียดอีกมากมายที่เราอยากจะระบายอยากเล่าให้ฟังแต่เราไม่สามารถทำได้เพราะอาจจะไปกระทบถึงบุคคลที่สองสามสี่ เพราะฉะนั้นเราจึงเลือกที่จะเล่าให้ส่วนของเรา
จากวันนั้นจนถึงวันนี้ความทุกข์ที่ฝังใจที่งัดออกไม่ได้ก็ยังคงอยู่กับเราจนเราป๋วยต้องเข้ารับการบำบัดจิต แต่เราไม่ได้โรคจิตนะ อย่าเข้าใจผิด ที่นั่งพิมพ์อยู่ตอนนี้สติสปัชญะครบถ้วน
อาการเราเริ่มออกมาเรื่อยๆจนเราทนไม่ไหวต้องไปโรงพยาบาลเพราะเรากลับมาคบกลับคนรักเราอีกครั้งนึง เราพยายามหาอะไรทำเพื่อไม่ให้เราซึมเศร้า คิดมาก เผื่อใครบังเอิญผ่านมาในบล็อคเราจะเป็นกำลังใจให้เราได้บ้าง เราเป็นคนไม่ค่อยมีเพื่อน เราคิดว่ากรรมเราคงหนักมากจากชาติก่อนถึงทำให้เราต้องมาเป็นแบบบนี้ เราพยายามปลงปล่อยวาง แต่ดูเหมือนเจ้ากรรมนายเวรคงจะไม่ยอมให้อภัยเราง่ายๆ
ยังงัยก็แล้วแต่ก็อยากจะบอกเพื่อนๆว่า เวลามีความทุกข์ก็อย่าไปกลัวมันนะ สู้กับมัน เราก็พยายามเตือนตัวเองอย่างนั้นเหมือนกัน!
รัก ชอให้ทุกคนโชตดีนะ ว่างๆ จะมาเล่าให้ฟังใหม่
Create Date : 29 กันยายน 2556 |
|
1 comments |
Last Update : 29 กันยายน 2556 20:36:59 น. |
Counter : 548 Pageviews. |
|
|
|