Bloggang.com : weblog for you and your gang
Group Blog
s e w i n g
c r o c h e t & k n i t t i n g
p h o t o _ d e c o r a t e
m i s s i o n _ (i m) p o s s i b l e
H a p p y_D I Y
D I E T
P E T _ S T O R Y
<<
กุมภาพันธ์ 2555
>>
1
2
3
4
5
6
7
8
9
10
11
12
13
14
15
16
17
18
19
20
21
22
23
24
25
26
27
28
29
24 กุมภาพันธ์ 2555
ไพรมหากาฬ 17 : ใครกันแน่คือผู้ถูกล่า
ไพรมหากาฬ 16 : เริ่มเล่ม 2
All Blogs
ไพรมหากาฬ 28 : อัญมณีสีเลือด...ลอยได้
ไพรมหากาฬ 27 : เราไปตามหาไอ้แหว่งกันเถอะ
ไพรมหากาฬ 26 : แม่ครัวกิตติมศักดิ์
ไพรมหากาฬ 25 : พบหมีที่ไหน อย่าแกล้งตายนะจ๊ะ
ไพรมหากาฬ 24 : กองร้อยทหารลิง
ไพรมหากาฬ 23 : เริ่มเล่ม 3
ไพรมหากาฬ 22 : จบเล่ม 2
ไพรมหากาฬ 21 : ข้าวต้มยามดึก
ไพรมหากาฬ 20 : คุณไม่เห็นอย่างที่ฉันเห็นเหรอ
ไพรมหากาฬ 19 : ณ ห้าง (กลางป่า)
ไพรมหากาฬ 18 : เหตุเกิดที่พุบอน
ไพรมหากาฬ 17 : ใครกันแน่คือผู้ถูกล่า
ไพรมหากาฬ 16 : เริ่มเล่ม 2
ไพรมหากาฬ 15 : จบเล่ม 1
ไพรมหากาฬ 14 : ปฏิบัติการล่าไอ้กุด (2)
ไพรมหากาฬ 13 : ปฏิบัติการล่าไอ้กุด (1)
ไพรมหากาฬ 12 : หะ หมี หมี หมี (เห็นมั้ย)
ไพรมหากาฬ 11 : ก็น้ำในลำธารมันเย็นดีนี่นา
ไพรมหากาฬ 10 : การปรากฏกายของ “ไอ้กุด”
ไพรมหากาฬ 9 : พญางูจงอางหัวใหญ่เท่ากระด้ง
ไพรมหากาฬ 8 : แฟชั่นวันเข้าป่า
ไพรมหากาฬ 7 : หมีโคเดี๊ยก (ย่ะ)
ไพรมหากาฬ 6 : แอร๊ยยยย...กะเหรี่ยงต่างถิ่น (สุดหล่อ)
ไพรมหากาฬ 5 : เมื่อวานก็ลูกนุ่น มาวันนี้ลูกมะขวิดอีกแระ
ไพรมหากาฬ 4 : ว่าแล้วไง ... ต้องเป็นร้อยตำรวจเอกปลอมตัวมา
ไพรมหากาฬ 3 : จดหมายจากมังมหานรธา
ไพรมหากาฬ 2 : วัตถุประสงค์การมาของแขกไฮโซ
ไพรมหากาฬ 1 : พี่รพินทร์มาแล้วววววว
นวนิยายที่ยาวที่สุดในโลก
ไพรมหากาฬ 16 : เริ่มเล่ม 2
เสียงปืนรัวราวกับประทัดตรุษจีนดังมาจากคณะของคุณชายเชษฐา รพินทร์รู้ได้ทันทีว่าคณะของคุณชายพบกับโขลงช้างเจ้าถิ่นเข้าให้แล้ว คะเนเอาจากเสียงปืนรัวขนาดนี้ ช้างคงแตกกระเจิงวิ่งหนีเข้าป่ากันไปหมด พี่รพินทร์ขอให้คุณหญิงดารินยิงปืนสั้นที่พกอยู่ขึ้นฟ้า 3 นัด เพื่อส่งสัญญาณ ซักพักมีเสียงปืนสั้นยิงขึ้นฟ้า 3 นัดเช่นกันดังมาจากทางคณะของคุณชาย เป็นอันว่ารู้กัน
เมื่อทีมพี่รพินทร์เดินทางมาถึง คุณชายบอกว่ายิงช้างจ่าโขลงได้แบบงง ๆ นัดเดียวล้มเลย 555 พี่รพินทร์บอกว่า เอาไว้ตอนตามล่าไอ้แหว่งคุณชายจะได้ใช้ และ เรียนรู้เกี่ยวกับปืนกระบอกนี้อีกครั้ง
สถิติล่าสุด คุณชายนำอยู่ 4 ต่อ 3
คุณชายเชษฐา : กวาง , วัวแดง , ไอ้กุด , ช้างป่า
ไชยยันต์ : หมูป่า , หมี , วัวแดง
คุณชายนึกขึ้นได้เลยถามเพื่อนเรื่องการล่าวัวแดง ไชยยันต์บอกว่าฮามาก เสียดายที่คุณชายไม่ได้เห็นภาพพี่รพินทร์ ไพรวัลย์ นายพรานใหญ่ วิ่งป่าราบ
จากนั้นเขาก็หันก้นกางเกงของตัวเองที่โดนวัวขวิดจนขาดให้คุณชายดู
เมื่อเดินทางต่อ อากาศเริ่มขมุกขมัว ฝนตกปรอย ๆ แต่นายจ้างทั้งสามไม่มีใครยอมขึ้นไปนั่งบนเกวียนเลย ทุกคนเดินคุยกันไปอย่างสนุกสนาน ตอนนี้คุณหญิงดารินยอมพกปืนลูกซองตามคำเตือนของพี่รพินทร์แล้ว หลังจากที่เห็นถึงความจำเป็นจากทั้งเหตุการณ์วัวแดง และ ช้างป่า คุณชายคุยกับพี่รพินทร์ต่อเรื่องโขลงช้างป่าที่เพิ่งจะเจอไปเมื่อสักครู่ว่าไม่เห็นมีตัวไหนมีงาเลย พี่รพินทร์ไขข้อข้องใจว่าช้างที่ป้วนเปี้ยนอยู่แถวนี้ส่วนใหญ่เป็นช้างสีดอที่ไม่มีงา ที่มีงาก็โดนพรานพื้นเมืองล่าตัดไปหมดแล้ว ส่วนตัวที่ยังเหลืองาอยู่ก็จะไปรวมอยู่ในโขลงของไอ้แหว่งซึ่งเป็นโขลงที่ดุ และร้ายกาจจนพรานพื้นเมืองไม่กล้า พี่รพินทร์เองก็เคยถูกไอ้แหว่งรื้อแค้มป์มาแล้วเหมือนกัน แต่ยังไม่เคยเจอตัวกันแบบจัง ๆ ซักกะที
พอท้องฟ้ามืดสนิทลง คณะเดินทางก็หยุดพักกันบริเวณที่ราบโล่งเตียนซึ่งใกล้กับบริเวณที่พี่รพินทร์พบ ชด ประชากร เป็นครั้งสุดท้าย คณะนายจ้างเปลี่ยนจากอารมณ์สนุกสนานเป็นสลดลงในทันที คุณหญิงดารินถึงกับน้ำตาคลอเมื่อมองไปยังโขดหินที่ชด ประชากรใช้เป็นที่พัก ถึงแม้การเดินทางตามหาในครั้งนี้จะตามหลังชด ประชากร หรือคุณชายกลาง (คุณชายอนุชา) อยู่ถึงหนึ่งปี แต่คณะก็มั่นใจว่าจะต้องตามคุณชายกลางจนพบ
บริเวณที่ตั้งแค้มป์ในครั้งนี้ทั้งเงียบ ทั้งวังเวง พี่รพินทร์นำยาแก้เมื่อยที่เคยสัญญาไว้มาให้ไชยยันต์ กลิ่นของมันเหมือนเหร้าโรง ไชยยันต์ทำจมูกฟุดฟิดสงสัยว่ามีส่วนผสมอะไร พี่รพินทร์บอกให้กินก่อน แล้วจึงยอมบอกว่ามันคือเหร้า 40 ดีกรีผสมกับเลือดค่างสด ๆ ไชยยันต์ทำตาปริบ ๆ (ก็กินเข้าไปแล้วนี่ เอิ๊กส์) คุณหญิงโวยวายขึ้นมาทันที ผิดกับคุณชายที่เทบรั่นดีในแก้วของตัวเองทิ้ง แล้วมาขอเหร้าผสมเลือดค่างดื่มแทน (พลางบ่น บ๊ะห์ห์ห์ห์..มีของดีก็ไม่ยอมบอกตั้งแต่แรก O_O)
คุณหญิง : นี่มันตำรับยาของเภสัชกรคนไหนไม่ทราบ ยี้ ๆ ๆ
ว่าแล้วคุณชายก็ร่ายสรรพคุณเมนุขนหัวลุกจากค่างให้ทุกคนฟัง เช่นว่า ดีค่างสด ๆ เนี่ย หย่อนลงคอเข้าไปตามด้วยเหร้านิดหน่อย ช่วยให้ตาสว่างได้เลย ส่วนมันสมองค่างสด ๆ (ห๊ะ
) เอามะนาวบีบ โรยหอมซอยพริกขี้หนูซอย เหยาะเกลือนิดหน่อย อร่อยกว่าหอยนางรม (เอาเหอพี่..หนูขอบายยยย
) นอกจากนี้ เมนูพิสดารที่คุณชายเคยลิ้มลองมาแล้วยังมีอีกเพียบ ทั้งอึ่ง บึ้ง ตะกวด กิ้งก่า พี่รพินทร์ได้ฟังถึงกับยืนขึ้นโค้งคำนับในความสุโค่ยของคุณชาย
ในระหว่างมื้ออาหารค่ำ พี่รพินทร์ได้แจ้งเกี่ยวกับแผนในการออกล่ากระทิงในวันพรุ่งนี้ นอกจากกระทิงที่จะล่าตามแผนแล้ว คณะอาจได้เจอกับเสือดาวด้วย ส่วนคุณหญิง...พี่รพินทร์เอาสัตว์เล็ก ๆ อย่างไก่ฟ้ามาล่อ คุณหญิงรู้ตัวว่าจะถูกกันออกจากคณะล่ากระทิงจึงรีบพูดดักคอเลยว่ายังไงก็จะไปด้วย
จู่ ๆ ทุกคนก็ต้องตะลึง อึ้ง เมื่อได้ยินเสียงคำรามหวีดร้องของสัตว์มาจากทางด้านนอกแค้มป์บริเวณพุน้ำ มันเป็นเสียงของสัตว์สองตัวกำลังสู่รบกันอย่างเอาเป็นเอาตาย ตัวหนึ่งเป็นเสือแน่ ๆ แต่อีกตัว..ยังสงสัยอยู่ พี่รพินทร์ คณะนายจ้าง และพรานอีก 2 3 คน วิ่งไปดูยังที่เกิดเหตุ ภาพที่ปรากฏตรงหน้าคือ ซากกวางใหญ่เกือบเท่าวัวโดนเลือดกัดตาย และซากเสือดาวที่โดนเขากวางเสียบจนตายคาเขา มันเป็นภาพที่โหดเหี้ยมแต่ก็แฝงไปด้วยความงดงามตามธรรมชาติ ทุกคนทั้งอึ้งทั้งงงว่าเหตุการณ์แบบนี้มันเกิดขึ้นได้ยังไง นี่แหละใครพลาดคนนั้นก็ตาย ถ้าพลาดทั้งคู่ก็ตายทั้งคู่ มันเป็นกฎยุติธรรมของป่า พี่รพินทร์บอกว่าเคยเจอเหตุการณ์แบบนี้มาครั้งนึงแล้วที่ป่าอุทัยธานีเมื่อ 10 ปีที่แล้ว คู่กรณีตอนนั้นคือเสือลายพาดกลอนกับควายป่า ไชยยันต์ยกให้ซากกวางที่เห็นตรงหน้าเป็นกวางวีระบุรุษ เพราะช่วยให้กวางที่เหลืออยู่ในฝูงไม่ต้องตายเพราะเสือ [ //ลุกขึ้นปรบมือยาว ๆ ] คุณหญิงไม่ลืมที่จะบันทึกภาพที่เห็นตรงหน้าด้วยกล้องถ่ายรูปที่พกติดตัวตลอดเวลา (เดี๋ยวต้องไปตามดูรูปถ่ายของคุณหญิงตามกระทู้ในห้องกล้องซะหน่อย 555)
อากาศตอนกลางคืนที่โป่งกระทิงนี่หนาวกว่าที่เขาโล้นเสียอีก คุณหญิงดูเหมือนจะนอนไม่หลับ เปิดเครื่องเล่นเพลงที่เตรียมมาแล้วก็ปิดลงในทันที ในใจก็คิดว่าไม่น่าเอามาเล้ยยย คุณหญิงเดินออกไปนอกเต้นท์ตรงไปที่แงซาย เธอถามถึงกลุ่มคนที่ล้อมรอบกองไฟอยูยังไม่ยอมนอนว่าพวกเค้าทำอะไรกัน แงซายไม่รู้คุณหญิงเลยจะเดินไปดูเอง เมื่อไปถึงก็พบเกิด เส้ย จัน และพี่รพินทร์กำลังง่วนอยู่กับอาหารมื้อดึก มันคือซุปสันวัวแดงนั้นเอง เอง เอง ทุกคนต่างล่าถอยไปปล่อยให้พี่รพินทร์อยู่กับคุณหญิงสองคน (พื่อ ???) คุณหญิงเริ่มเปิดใจว่าพี่รพินทร์ไม่ค่อยสุภาพกับเธอ พี่รพินทร์บอกว่าตอนเด็ก ๆ ไม่เคยเรียนธรรมจริยา ผมคนเลว O_O 555 ส่วนคุณหญิงในสายตาพี่รพินทร์คือเด็กดื้อ คุณหญิงขู่จะฟ้องคุณชาย พี่รพินทร์ท้าทายว่าให้ไปฟ้องเลยจะได้บอกคุณชายซะทีว่าคุณหญิงไม่ยอมเชื่อฟังคำสั่ง ลงไปแก้ผ้าอาบน้ำในลำธารจนช้างป่ามันมาไล่ เอาซี่ ๆ ๆ งั้นต่างคนต่างอยู่
พี่รพินทร์ : ว่าแต่..ไม่เมื่อยเหรอครับ มายืนทะเลาะกับผมแบบนี้ เชิญนั่งลงเลยครับ จะได้ทะเลาะสะดวก ๆ เอิ๊กส์
คุณหญิงแม้จะทำหน้างอน แต่ก็นั่งตามคำเชิญ 555 แต่นั่งแล้วกลับไม่ได้ทะเลาะอย่างตอนแรก มาขอเค้ากินซุปสันวัวแดงเฉยเลยอ๊ะ (ตอนแรกพี่รพินทร์หลอกว่าเป็นซุปหางเสือดาวด้วย 555)
ว่าแล้วพี่รพินทร์ก็หาของเล่นให้กับคนนอนไม่หลับ นั่นคือการไปไล่ยิงเป็ดป่า (เป็ดป่าเป็นภาษาพื้นเมือง แปลว่าเม่น เหอ ๆ ๆ มันคนละตัวกันเลยนะนี่) เขาพาคุณหญิงออกไปจนสุดเขตแค้มป์ และฉายไฟให้คุณหญิงยิงเป็ดป่าที่ว่า นายเกิดเป็นคนเข้าไปดูผลในที่เกิดเหตุพบว่าเป็ดป่า 3 ตัวถูกยิงเข้าที่หัว ตายคาที่ คุณหญิงหัวเราะแบบได้ใจสุด ๆ สงสัยคืนนี้จะไม่ยอมนอนซะแล้ว เพราะคุณหญิงบอกว่าอยากดูการถลกหังเม่นอีก อ๊ากกส์ พี่รพินทร์บอกว่าเนื้อเม่นมีไขมันมาก และกลิ่นคาวจัด พวกขี้เมาชอบมาก แต่เขาไม่แนะนำให้คุณหญิงกินหรอกเพราะเม่นขอบขุดกินหัวพืชใต้ดิน บางทีก็มีพิษ อีกอย่างอาหารอื่นมีเยอะแยะจะไปกินทำไมเนื้อเม่น (ก็จริง) นอกจากนี้คุณหญิงต้องประหลาดใจเมื่อรู้ว่าเนื้อเค็มตากแห้งที่ขาย ๆ กันอยู่ในเมืองน่ะ บางครั้งก็เป็นเนื้อช้างตากแห้งนะ แล้วไอ้เนื้อเก้งตามภัตราคารหรู ๆ น่ะ บางครั้งก็เป็นเก้งของเทศบาล (เก้งเอ๋งง่ะ T_T)
Create Date : 24 กุมภาพันธ์ 2555
Last Update : 24 กุมภาพันธ์ 2555 13:29:37 น.
0 comments
Counter : 627 Pageviews.
Share
Tweet
ชื่อ :
Comment :
*ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
Kika_ii
Location :
[ดู Profile ทั้งหมด]
ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [
?
]
Friends' blogs
Webmaster - BlogGang
[Add Kika_ii's blog to your web]
Links
BlogGang.com
Pantip.com
|
PantipMarket.com
|
Pantown.com
| © 2004
BlogGang.com
allrights reserved.