Group Blog
 
<<
มีนาคม 2555
 
 123
45678910
11121314151617
18192021222324
25262728293031
 
8 มีนาคม 2555
 
All Blogs
 

ไพรมหากาฬ 20 : คุณไม่เห็นอย่างที่ฉันเห็นเหรอ

ป่าในยามค่ำคืน โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อต้องนั่งแกร่วอยู่บนห้างล่าสัตว์เนี่ย มันช่างน่ากลัวและดูลึกลับมากกว่าในจินตาการของคุณหญิงหลายเท่านัก คุณหญิงนั่งคิดอะไรเพลิน ๆ อยู่คนเดียว โดยไม่รบกวนพี่รพินทร์ เธอได้ยินเสียงตัวอะไรซักอย่างมากินน้ำที่หนอง ในขณะที่เตรียมจะคว้าไฟฉายและไรเฟิลนั่นเอง พี่รพินทร์(ในสภาพหลับแล้ว) ก็พูดแทรกขึ้นว่า “สมเสร็จ” ไม่ใช่เพราะเขาเห็นในที่มืดหรืออะไรหรอกนะ แต่เค้าสามารถแยกแยะเสียงฝีเท้าและเสียงกินน้ำขชองสัตว์ชนิดต่าง ๆ ได้ โอเคร...เธอยอมรับก็ได้ ว่าพี่รพินทร์น่ะอัจฉริยะจริง ๆ ว่าแล้วก็งีบหลับบ้างดีก่า เธอหลับไปนานเท่าไหร่ไม่รู้ จนกระทั่งพี่รพินทร์สะกิดปลุก เสียงกิ่งไม้หักดังมาจากในดง ไฟฉายพร้อม ไรเฟิลพร้อม ทั้งสองจ้องเข้าไปในดงเพื่อคอยดูเหตุการณ์ที่กำลังจะเกิดขึ้นด้วยความตึงเครียด เสียงดินถล่มจากการลื่นไถลของสัตว์ใหญ่ และกลิ่นสาบที่ชัดเจนทำให้เธอเกร็งมากขึ้นไปอีก พี่รพินทร์ฉายไฟเข้าไปที่เป้าหมาย กระทิงนั่นเอง มันเห็นแสงไฟจึงกลับตัวเตรียมวิ่งหนีเข้าดง แต่ช้ากว่ากระสุนไรเฟิลของคุณหญิง กระทิงดิ้นพราด ๆ เพราะกระสุนเข้า พี่รพินทร์บอกให้คุณหญิงยิงซ้ำ เธอปฏิบัติตามคำสั่งโดยเร็ว ผลคือกระทิงโทนตัวเท่าช้างรุ่นไถลลงมาจากเนินดงแน่นิ่ง - - ไว้รอลงไปดูผลงานข้างล่างตอนเช้าพรุ่งนี้ก็แล้วกัน - -

เมื่อยิงกระทิงได้สำเร็ง คุณหญิงขอสิทธิในการเมาท์ซะหน่อย (โดนห้ามไม่ให้พูดซะนาน 555) พี่รพินทร์บอก เชิญเลย หรือจะร้องเพลงประสานเสียงกับจั๊กจั่นก็ได้นะ 555 คุณหญิงบอกว่าไหน ๆ ก็ยิงกระทิงได้แล้ว ให้พี่รพินทร์พาเธอกลับแค้มป์คืนนี้เลยได้มั้ย พี่รพินทร์บอกว่า ไม่ได้ รถเมล์หมด 555 สรุปคือต้องนั่งบนห้างกันจนเช้าอ่ะแหละ

ระหว่างแกร่วอยู่บนห้าง เพื่อไม่ให้เป็นการเสียเวลา คุณหญิงเลยซักประวัติพี่รพินทร์จนได้รู้ว่าก่อนที่จะมาเป็ฯนายพรานอยูทุกวันนี้ พี่รพินทร์เคยเรียนอยู่ในโรงเรียนวิชาทหารในเยอรมัน อเมริกา และอังกฤษ เชียวนะ (ส่วนสูงถึงเรอะ เหอ ๆ ๆ) ในที่สุดคุณหญิงก็ง่วงและหลับไป แล้วก็ตื่นขึ้นมาปลุกพี่รพินทร์กลางดึก เพราะเธอรู้สึกเหมือนมีเสียงร้องโหยหวนบางครั้งเรียกชื่อเธอด้วย บางครั้งรู้สึกเหมือนห้างเอียงจนตัวเธอจะตกลงไปข้างล่าง พี่รพินทร์บอกให้ตั้งสติให้ดี แล้วนอนต่อ แต่ที่สุดคุณหญิงก็ปลุกเขาอีกครั้งบอกว่าเธอเจอตัวอะไรไม่รู้เต็มไปหมด รอบ ๆ ห้างนี่ก็มี เธอจะยิงมันด้วยไรเฟิลล่ะนะ พี่รพินทร์ส่งสารเธอก็สงสารได้แต่ฉายไฟฉายไปรอบ ๆ ชี้ให้คุณหญิงดูว่ามันไม่ได้มีอะไรเล๊ย คุณหญิงประสาทหลอนไปเอง พี่รพินทร์ไม่รู้จะทำยังไง เลยเอาบรั่นดีให้คุณหญิงดื่ม และให้ขอขมาต่อต้นไม้ที่มานั่งห้างอยู่ แล้วคุณหญิงถึงจะหลับลงได้


เช้าวันรุ่งขึ้น คุณหญิงตื่นขึ้นมาแบบงง ๆ เพราะการปลุกของพี่รพินทร์ คุณหญิงบอกว่าคาถาขอคมาต้นไม้ของพี่รพินทร์เจ๋งจริง ๆ ทำให้เธอหลับยาวถึงเช้าเลย พี่รพินทร์เฉลยว่าไม่ใช่คาถงคาถาอะไรหรอก เค้าหลอกให้ไหว้ต้นไม้ แล้วท่องอะไรให้ง่วงไปก็เท่านั้นเอง จากนั้นพี่รพินทร์ก็ชวนลงจากห้าง ไปรอคุณชายที่จะมาสมทบ เมื่อลงมาถึงพื้น พี่รพินทร์ตรงไปที่ซากกระทิงทันที เขาบอกว่าคุณหญิงจะเป็นนักล่าสัตว์ฝีมือเยี่ยมในอนาคต คุณหญิงบอกไม่มีทางเป็นไปได้หรอก พร้อมกับพูดเปิดอกว่า การจะยิงปืนใหญ่ ๆ แต่ละทีน่ะ เธอต้องกลั้นใจยิงทุกทีแหละ 555

พี่รพินทร่อไฟต้มกาแฟให้คุณหญิงดื่ม แล้วก็มาคุยกันต่อเรื่องที่คุณหญิงประสาทหลอนเมื่อคืนนี้ เธอยังคงแปลกใจเพราะไม่แน่ใจว่ามันเป็นความฝันหรือเรื่องจริง รู้แต่ว่ามันน่ากลัวมาก พี่รพินทร์เองก็ไม่สามารถพูดได้เต็มปากว่าเป็นเรื่องจริง หรือเป็นอุปทาน เพราะป่ามีเรื่องลึกลับอยู่เสมอ อยู่ที่ความเชื่อของแต่ละคน พี่รพินทร์สรุปให้ฟังว่า ภูติผีปีศาจนั้นจะมีอยู่จริงหรือไม่ ไม่รู้หรอก แต่ว่าอาถรรพณ์ความลี้ลับของป่าน่ะ ในบางขณะมีจริง ๆ ความเงียบสงัดของป่าก็เป็นพลังงานอย่างหนึ่งซึ่งจะมีอิทธิพลต่อคนได้หรือไม่นั้นก็ขึ้นกับสติ และ ความเข้มแข็งของจิตใจคน ๆ นั้นด้วย คุยกันได้ซักพัก คุณชายกับบุญคำก็มาสมทบพอดี

คุณชายเล่าว่าทางห้างของคุณชายไม่เจอกระทิงซักกะตัว ยิงได้ค่างมาตัวเดียว ซึ่งบุญคำก็จัดการนำมาทำอาหารเช้ารวมกับเนื้อกระทิงของคุณหญิง พอเสร็จจากอาหารเช้าทุกคนก็เดินทางกลับสู่แคมป์ โดยคาดว่าทีมของไชยยันต์คงกลับถึงแคมป์เป็นที่เรียบร้อยแล้ว แต่เมื่อเดินทางมาถึงกลางทาง ทุกคนก็ต้องแปลกใจ เพราะเห็นเกิดกับไชยยันต์นั่งก่อไฟกินอาหารเช้ากันอยู่ ไชยยันต์เล่าว่าที่จริงเค้าก็ยิงกระทิงได้เหมือนกัน แต่เป็นกระทิงตัวเท่าเก้งนะ อายุไม่น่าเกิน 2 เดือน มิหนำซ้ำเค้ายังยิงแม่มันขาลากไปอีกด้วย ทุกคนมีสีหน้าเครียดลง ทีแรกไชยยันต์ตั้งใจจะตามกระทิงตัวนั้นไป แต่เกิดห้ามไว้ก่อน ก็เลยมาดักรออยู่กลางทางนี่แหละ บทสรุปคือพี่รพินทร์และไชยยันต์จะออกล่าแม่กระทิงที่โดนยิงเมื่อคืนด้วยกัน ที่เหลือให้ไปรอที่แคมป์ การติดตามกระทิงอาจกินเวลาข้ามวันข้ามคืน ขอให้ทุกคนเข้าใจและไม่ต้องห่วง

พี่รพินทร์ และ ไชยยันต์เริ่มต้นการค้นหากันที่ห้างที่ไชยยันต์ยิงแม่กระทิงได้ เมื่อไปถึง สิ่งที่พบคือซากลูกกระทิง และรอยเท้าแม่กระทิงที่ทั้งเจ็บตัวและเจ็บใจ ไชยยันต์เห็นซากลูกกระทิงก็รู้สึกเสียใจขึ้นมาที่ไม่น่าจะฆ่ามันเลย พวกเขาจะออกตามจากร่องรอยที่แม่กระทิงทิ้งไว้ ต้องใช้ความระมัดระวังเป็นพิเศษ เพราะการตามสัตว์ลำบากเป็นเรื่องที่พรานทุกคนรู้ว่ามันตรายมาก พี่รพินทร์เตือนให้ไชยยันต์มีสติ และหากจวนตัวจริง ๆ ต้องพยายามหาทางรอด อย่ามัวพะวงกันอยู่ ทั้งสองเดินตามรอยแม่กระทิงไปตามลำห้วยแห้ง ซอกซอนไปตามดงทึบ ไชยยันต์เหนื่อยจนมือสั่น แต่ก็ฝืนใจเดินต่อเพราะร่องรอยที่เห็นข้างหน้าบอกว่าใกล้จะเจอตัวแม่กระทิงแล้ว จนกนะทั่งเจอตัว ปัญหา ณ ตอนนั้นคือลมที่พัดหวลไปหวลมา ทำให้บางครั้งทั้วสองคนก็อยู่เหนือลม บางครั้งก็อยู่ใต้ลม ทำให้ต้องคอยเปลี่ยนตำแหน่งกันให้ดี กระทิงดูมีท่าทีเดินแปลก ๆ เหมือนจะได้กลิ่นของเค้าทั้งคู่ แต่สิ่งที่ทั้งคู่เห็นอย฿ตรงหน้าคือ เสือ 2 ตัว กำลังซุ่มจะเล่นงานแม่กระทิงตัวนี้อยู่ พรารพินทร์บอกว่าไม่ใช่ 2 แต่อาจเป็น 3 หรือมากกว่าก็ได้ ผู้ล่า และผู้ถูกล่าในเหตุการณ์นี้ประกอบไปด้วย พี่รพินทร์+ไชยยันต์ , เสือ , กระทิง ปัญหาคือ เสือจะได้กลิ่นพี่รพินทร์และไชยยันต์หรือเปล่า และใครจะเป็นฝ่ายลงมือก่อน

ทั้งสองตกลงกันเกี่ยวกับเป้าหมายการล่า โดยให้กระทิงเป็นเป้าหมายแรก ต่อมาค่อยจัดการเสือ ถ้ามีโอกาส (เหรอ) สิ้งเสียงการตกลงของทั้งคู่ เสียงแผดดังของผู้ล่า และ ผู้ถูกล่าอีก 2 ชนิดก็ดังขึ้น เริ่มจากเสียงการจู่โจมของเสือ ตามมาด้วยเสียงแห่งความตกใจและโกรธเกรี้ยวของกระทิง และเสียงกิ่งไม้หักดังสนั่น นกพากันบินแตกตื่นออกจากป่า ณ จุดเกิดเหตุ แม้จะพิการแต่แม่กระทิงก็สู้อย่างสมศักดิ์ศรีความเป็นกระทิง ก่อนจะพ่ายให้กับเสือ 2 ตัวที่รุมล้อมหน้าล้อมหลัง ในขณะที่เสือตัวหนึ่งถูกขวิดอย่างรุนแรง อีกตัวขึ้นขี่หลัง พี่รพินทร์ไม่เข้าใจตัวเองเหมือนกันว่าเหตุใดถึงเล็งปืนไปที่เสือ แทนที่จะเป็นกระทิง หลังจากลั่นไก เสือบนหลังกระทิงกระเด็นออกไปชักกระแด่ว ๆ ที่พื้นทันที พี่รพินทร์รีบกระชากลูกเลื่อนเพื่อส่งลูกใหม่ขึ้นลำกล้อง ทันใดนั้นเสืออีกตัวกระโจนเข้าใส่ไชยยันต์ พี่รพินทร์จึงสอยซะร่วงไปอีก 1 ในทันใดนั้น (อีกแระ) ไชยยันต์ตะโกนบอกให้ระวังกระทิงที่พุ่งมาข้างหลัง พี่รพินทร์รับรู้ได้ถึงไอร้อนที่มากระทบท้ายทอย เขาจึงเอียงหลบไปทางซ้าย (ว้าว!!!) แต่ไม่พ้น เขาโดนกระทิงชนจนกระเด็น ก่อนที่เจ้ากระทิงจะวิ่งผ่านไป.... ( Kiky : โอ่ยยย เหนื่อย )




 

Create Date : 08 มีนาคม 2555
0 comments
Last Update : 8 มีนาคม 2555 16:15:21 น.
Counter : 572 Pageviews.

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 


Kika_ii
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




Friends' blogs
[Add Kika_ii's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.