The Good The Bad and The Ugly
Group Blog
 
 
มิถุนายน 2552
 
 123456
78910111213
14151617181920
21222324252627
282930 
 
30 มิถุนายน 2552
 
All Blogs
 
The Battle Of Noise: สงครามแห่งเสียงทำลายประสาท

ตึงตังๆๆ โครม!!! เพล้ง!!! เปรี้ยง!! อ๊ากกกกก!!! ผมสะดุ้งเฮือก ตกใจตื่นทะลึ่งพรวดลุกขึ้นจากเตียง เสียงเอะอะโครมครามดังสนั่นหวั่นไหว ในความมืดของฤดูหนาวเวลาราว ตี 1 กว่าๆ เสียงแก้วแตก กระจกแตก เสียงข้าวของโดนทุบกระแทก เสียงคนแหกปากตะโกนโหวกเหวกด้วยอาการของคนที่เพียบสุราเต็มคราบ เสียงที่เกิดขึ้นในยามสงัดของรัตติกาลการเดินทางของเสียงจึงรวดเร็วดังจะจะหูกว่าเสียงที่เกิดขึ้นในเวลากลางวันจึงยิ่งเพิ่มความน่าสะพรึงกลัวให้กับผู้มาใหม่อย่างผมยิ่งนัก ต้นตอของเสียงน่าจะมาจากห้องชั้นบนตรงกับห้องพักของผมค่อนข้างแน่ เพราะเวลาที่มีเสียงของหล่นกระแทกพื้นหรือเสียงเหมือนคนกำลังกระทืบเท้า เสียงเหมือนมันกำลังเอาตีนมากระทืบอยู่บนหัวกบาลผมแบบเน้นๆ “ไอ้สัตว์เอ๊ย...นี่กูย้ายมาวันแรกก็เจอแบบนี้เลยเหรอวะ..แล้วกูจะตายไหมเนี่ย..แล้วมันจะลงมาฆ่ากูไหมเนี่ย? ฯลฯ” ผมคิดไปต่างๆ นาๆ รัศมีการทำลายข้าวของเริ่มขยายขอบเขตเป็นวงกว้างมีการขว้างแก้วและกระถางลงมาที่พื้นที่ว่างหลังห้องของผมซึ่งเป็นระเบียงที่ตากผ้าเสียงดังโครมครามเศษแก้วเศษกระถางปลิวมากระทบกับประตูด้านหลังห้องของผมเป็นระยะๆ

อย่างไรก็ตาม ในดีมีเลวในเลวมีดี ในวิกฤติย่อมมีโอกาส มีการเปิดเพลงประกอบการทำลายข้าวของในครั้งนี้ด้วยเพลงแนวแทรชเมทั่ลที่ผมชอบเสียงดังสั่นหวั่นไหวเสียงแหกปากร้องตามเพลงไปด้วยของผู้ที่กำลังเมามันกับการทุบทำลายนัยว่าเป็นการเพิ่มบรรยากาศการทำลายข้าวของในห้องของมันให้หายนะป่นปี้ระคนครื้นเครงเข้าไปด้วย?? (ยังนึกอยู่ว่าถ้าพี่เค้าเสือกเลียนแบบหนัง The Wall - Pink Floyd ที่พระเอกโยนทีวีทะลุกระจกหน้าต่างห้องพักออกมาล่ะก็มันจะไม่บรรลัยไปมากกว่านี้หรือวะเนี่ย?..) ผมจำได้แม่นว่าเพลงที่ใช้เปิดตัวต้อนรับเพื่อนร่วมหอหน้าใหม่อย่างผมก็คือเพลงที่ทราบภายหลังว่าชื่อเพลงThrashers ของวง Death Angel*จาก อัลบั้ม Ultra Violence (1987) ใครที่เคยฟัง เพลง Thrashers ย่อมรู้ดีว่าสะเด่ารูดากส์ลากไปถึงง่ามตีนมากขนาดไหนอัตราความเร็วในการซอยเส้นลวด6สายต้องสปีดไม่ต่ำกว่า 128 bpm. เสียงกลองกระหน่ำกระเดื่องไม่ต่างจากเสียงปืนกลในสมรภูมิ เสียงร้องที่ฟังเหมือนมันกำลังแหกปากว่า “ฆ่ามัน...ฆ่ามัน...ฆ่ามานนนนนน”

“Thrashers….Thrashers…Thrashers….!!” เสียงแหกปากของไอ้เวรตะไลห้องข้างบนที่คำรามตามไปกับเพลงของDeath Angel สร้างบรรยากาศวินาศสันตะโรให้กับผมและเหล่าบรรดาชาวหอได้สุดตีนเตี่ยจริงๆ แต่ที่ทำให้ผมแปลกใจก็คือ ดูเหมือนว่าบรรดาชาวหอห้องอื่นๆ ไม่เห็นจะมีใครตื่นเต้นไปกับผมเลย อาจจะเป็นเพราะว่าเคยชินกับบรรยากาศแบบนี้แล้วหรือไม่ก็ไม่ค่อยมีใครอยากจะไปถือสาหาความพี่แกเท่าไหร่นัก (พี่แกอาจจะเป็นขาใหญ่ประจำหอก็ได้ใครจะไปรู้) เพราะเมื่อผมลองเปิดประตูชะโงกหนังหน้าที่ดูละม้ายพระเอกสเตฟานแห่งวิกปลาหมอสีของผม ออกไปดูบรรยากาศรอบๆ หอเพื่อสำรวจปฏิกิริยาของห้องอื่นๆ ก็เห็นว่าทุกห้องยังสงบนิ่งปกติดีทุกอย่าง ผมเลยค่อยๆ หดหัวพาหนังหน้าหล่อๆ กลับเข้ามาในห้องตามเดิม แล้วก็คิด(ทำใจ)แบบคนมองโลกในแง่ดีว่า...เสียงโครมครามของพี่ท่านในคืนนี้นับว่าเป็นมิติใหม่ของการคุ้มคลั่งที่สุดแสนจะคลาสสิก... รุนแรงแต่แฝงอารมณ์สุนทรี เอาไว้อย่างกลมกลืน อันที่จริง มันก็ ตื่นเต้นระทึกใจดีเหมือนกันนะ อย่างน้อยมันก็คงจะชอบเพลงหนักๆ แบบเรานี่ล่ะวะ...นึกได้แบบนี้ผมก็กลับไปล้มตัวนอนหลับพริ้มตาท่ามกลางเสียงอึงอลที่อยู่บนหัวผมได้อย่างไม่กังวลว่าใครจะฆ่ากันตายเหมือนตอนได้ยินทีแรก..มันก็มันส์ดีเหมือนกันนะเว้ยมาอยู่หอเดียวกันกับคนบ้าๆ แบบนี้

วันรุ่งขึ้นผมคิดหาวิธีตอบโต้เพื่อให้ห้องข้างบนรู้เสียมั่งว่า จริงๆ แล้วผมก็ฟังเพลงแบบที่มันฟังเช่นกัน มึงอย่าคิดว่ามึงหูเหล็กอยู่คนเดียวแล้วนึกว่าคนอื่นจะฟังแต่พี่เบิ๊ด พี่แจ้ อริสมัน กันทั้งหอแบบห้องอื่นนะเฟ้ย...ว่าแล้วผมกับไอ้เอี้ยงเพื่อนสนิทที่เรียนช่างกลจึงไปหาซื้อลำโพงมาเพิ่มอีก 2 คู่ จัดการต่อเข้ากับเครื่องสเตอริโอของผมมีสวิชสลับแบบเลือกลำโพงได้ โดยทำการติดตั้งลำโพงคู่หนึ่งเอาไว้ริมระเบียงแหงนปากลำโพงจ่อไปยังชั้นบนกะให้ห้องด้านบนได้ยินเสียงจะจะ อันนี้ถือเป็นอาวุธเด็ดของผม ส่วนอีกคู่เอาแทนลำโพงเดิมที่ค่อนข้างเก่า ส่วนเทปที่เตรียมรับมือกับมันผมก็เลือกเอาเทปชุด And Justice For All ของ Metallica เป็นหลัก แต่ก็มีMetallica ชุด Ride the lighting , Master of puppets และงานของ Megadeath ชุด Peace sell , So Far So Good So What เป็นกระสุนสำรอง (Metallica ชุด And Justice For All ผมไปถอยมาใหม่จากร้านเทปเจ้าประจำใต้ถุนไน้ทบาร์ซ่าโดยแจ้งความจำนงกับเจ๊เจ้าของร้านว่า ขอแบบแรงๆ จัดมาให้สักชุด เจ๊แกก็จัดชุดนี้มาให้ตามความต้องการ จำได้ว่าเป็นเทปคู่เสียด้วย) บัดนี้ ผมพร้อมแล้ว เหลือเพียงแค่รอเวลาเท่านั้น

เวลาผ่านไปนานพอสมควรทุกอย่างดูเงียบสงบไม่มีวี่แววว่าผมจะได้โชว์แสนยานุภาพของผมเสียที กระทั่งคืนวันหนึ่ง เวลาที่ผมรอคอยก็มาถึง เสียงทำลายข้าวของดังสั่นหวั่นไหวจากห้องข้างบนตามด้วยเสียงดนตรีแทรชเมทั่ลจากเทปม้วนเดิมของมัน Death Angel ผมลุกขึ้นหยิบเทป MetallicaชุดAnd Justice For All ยัดใส่เครื่องเล่นกรอกลับไปยังเพลงที่เลือกเอาไว้ ผมคำรามในใจ” มึงเจอกูแน่”เอื้อมมือกดปุ่ม Play บิดวอลลุ่มไปที่ เลข 8 สับสวิชลำโพงคู่นอกที่ติดตั้งริมระเบียงตากผ้า ผมประกาศสงครามด้วย Blackened เพลงเปิดอัลบั้มชุด And Justice For All ที่ดุดันอำมหิตอย่าที่รู้ๆ กัน ตามด้วยเพลงชื่อเดียวกับชื่ออัลบั้ม And Justice For All เสียงทำลายข้าวของจากห้องข้างบนถูกกลบด้วยเสียงเพลงจากห้องของผมเมื่อจบเพลงที่ 2 เสียงทำลายข้าวของและเสียงเพลงที่เคยดังสนั่นหวั่นไหวจากห้องข้างบนเงียบสนิท ผมจึงอัดต่อไม้ให้เหลือซากด้วยเพลงที่ผมชอบที่สุดในอัลบั้มนี้นั่นก็คือ Eye Of The Beholder ที่เสียงเบสย่านความถี่ต่ำในเพลงนี้ผ่านซับวูฟเฟอร์ที่โมดิฟายมาอย่างดีเป็นเหมือนระเบิดทำลายล้างอานุภาพสูงที่ผมใช้ถล่มมันให้ราบคาบ คืนนั้นผมประกาศชัยชนะด้วย One ซิงเกิ้ลสุดฮิตประจำอัลบั้มเป็นการตบท้าย

โครม!!! เสียงโยนกระถางดอกไม้จากห้องข้างบนลงมาที่ระเบียงด้านหลังห้องผมเหมือนกับจะบอกว่า ฝากเอาไว้ก่อนเถอะมึง...

ตั้งแต่นั้นมาดูเหมือนว่ามันจะรู้ว่าโดนท้าทายจากเพื่อนร่วมหอเข้าให้แล้ว ความถี่ในการเปิดเพลงประกอบการทำลายข้าวของของมันจึงเริ่มถี่ขึ้นกว่าแต่ก่อนมีการเอาเทปของวงอื่นๆ เช่น Slayer ชุด Reign in blood (1986) งานระดับขึ้นหิ้งอย่างMotorhead ชุด No sleep ‘till Hammersmith (1981)มันก็ยังอุตส่าห์ขนมาเปิดสู้กับผม แน่นอนว่าทุกครั้งที่มันเปิดฉากโครมครามผมก็เปิดเพลงสู้กับมันเช่นกัน เหมือนในสมรภูมิที่มีการชิงไหวชิงพริบ ทั้งผมและมันต่างก็โมดิฟายเครื่องเสียงของตนเองเป็นการใหญ่ ตลอดจนเทปชุดต่างๆ ที่คิดว่ามีอำนาจทำลายล้างอีกฝ่ายให้สงบได้ แม้กระทั่งในบางครั้งที่มันดูเหมือนจะเพลี่ยงพล้ำให้กับผม มันจะลงทุนโจมตีผมด้วยอาวุธหนักในรูปแบบสงครามกองโจรถึงหน้าห้องผม นั่นก็คือลงมากระโดดถีบประตูห้องผมโครมๆๆๆ แล้ววิ่งหนี พอผมเปิดประตูออกไปดูก็เห็นแต่เพียงรอยตีนของมันเปรอะประตูห้องผมไปหมด ต่อมาผมก็ป้องกันการโจมตีแบบนี้ของมันด้วยการขนรองเท้าทุกคู่ที่มีในห้องของผมเอาออกมาวางกองหน้าห้อง เพื่อให้มันเข้าใจว่าในห้องของผมมีคนอยู่ในห้องหลายคนดูจากจำนวนรองเท้าถ้าออกมากระทืบมันก็คงจะอ่วมต่ายอรทัยแน่ๆ แต่จริงๆ แล้ว ผมก็อยู่ของผมคนเดียวเหมือนทุกทีนั่นแหละ ฮา

สงครามแห่งเสียงที่ถล่มกันด้วยเสียงเพลงเมทั่ลทำลายประสาท ระหว่างผมกับมันผู้นั้น (จนถึงเดี๋ยวนี้ผมก็ยังไม่รู้จักหรือเคยเห็นหน้าว่ามันเป็นใคร) ดำเนินมาต่อเนื่องยาวนานหลายเดือน ท่ามกลางความเอือมระอาของบรรดาผู้ที่พักอาศัยห้องอื่นๆ จนกระทั่งถึงคืนวันหนึ่งที่มันเมาเหล้าแล้วเปิดฉากพังข้าวของในห้องมันอีกเช่นเคย ส่วนผมก็ตื่นขึ้นมาเพื่อเตรียมอัดกับมันเหมือนทุกทีแต่คราวนี้ผมรู้สึกว่ามันแปลกไปกว่าทุกครั้ง เพราะที่ผมได้ยินมีแต่เสียงพังข้าวของโครมครามๆ แต่ไม่มีเสียงเพลงประกอบการทำลายข้าวของเหมือนอย่างเคย เอาไงดีวะ มันจะมาไม้ไหนกันเนี่ย ? ขณะที่กำลังคิดว่าวันนี้จะอัดมันด้วยเพลงไหนดีหรือวันนี้มันจะมาไม้ไหน...เสียงถีบประตูห้องผมก็ดังขึ้น ปังๆๆๆ!!! ผมมองไปยังประตูห้องของผม กระดาษโน้ตชิ้นเล็กๆ ถูกมือลึกลับสอดผ่านด้านล่างประตูเข้ามา ผมเดินไปหยิบกระดาษชิ้นนั้นมาอ่าน ข้อความเขียนด้วยลายมือตัวโย้เย้ในกระดาษอ่านได้ใจความว่า…..

“เปิดเพลงให้กูหน่อย วิทยุกูเอาไปจำนำ!!!”


(คัดลอกมาจาก กระทู้ Metallica: The Battle Of Noise เขียนโดย นู๊นู ในนาม "พายุหอย สเตฟาน รูกู" เมื่อ October 25, 2008 จาก เวป rockonlinebysingha.com เป็นบทความรองชนะเลิศ อันดับท้ายๆ จากการส่งเข้าชิงรางวัลแผ่นCD ของ Metallica ชุด Dead Magnetic ที่กระทั่งป่านนี้ผมยังไม่ได้รับของรางวัล เหตุเพราะป๋าพายุหิน กูรู ลืมส่ง(ฮา) )


Create Date : 30 มิถุนายน 2552
Last Update : 1 กรกฎาคม 2552 9:14:18 น. 6 comments
Counter : 802 Pageviews.

 
ขำ

คือแบบว่านี่เรื่องจริงใช่มั้ยคะ
ชอบตรงที่ทำสงครามแต่ไม่ใช้กำลัง
ดูดิบๆ แต่ก็ปลอดภัยดี


โดย: หมูน้อยแก้มใส วันที่: 1 กรกฎาคม 2552 เวลา:13:09:56 น.  

 
"ก่อนการทามอยส์เจอไรเซอร์
ควรใช้ผลิตภัณฑ์ที่เติมความชุ่มชื้น
ให้กับผิวเสียก่อน "

เช่นอะไรหรือครับ?


-----

^
^

มันเป็นโฆษณายี่ห้อของเขาน่ะค่ะ
เลยไม่ได้ใส่ลงมาด้วย ^^



โดย: โสดในซอย


โดย: โสดในซอย วันที่: 20 กรกฎาคม 2552 เวลา:12:12:03 น.  

 



สวัสดีครับ

อ่านเรื่องนี้ แล้วคิดถึงเพื่อนคนหนึ่ง ....

อยู่ห้องพักติดกันครับ... เวลามันเมาทีไร มัน โหวกเหวกโวยวายเสียงดัง ทำเอาเราไม่ได้หลับได้นอนทู้กที

ก็เลยเปิดเพลงกลบ... มันแหกปากร้องตามอีก

เปิดลูกทุ่ง มันร้องลูกทุ่ง

เปิดลูกกรุง มันร้องลูกกรุง

เปิดสตริง มันร้องสตริง

เปิด ROCK BOTTOM ........ เงียบครับ หลับเลยครราวนี้

จากบล็อกเพลง ... เพลง เสกสรร ฯ ชุดนี้ ผมโชคดีได้แผ่น CD มา แล้วทำเป็นไฟล์ .mp3 ไว้ สนใจบอกได้ นะครับ

มีความสุขมาก ๆ รักษาสุขภาพ ครับ


โดย: เซียน_กีตาร์ วันที่: 23 กรกฎาคม 2552 เวลา:12:07:37 น.  

 
ขอบคุณสำหรับการติดตาม Liverpool in Thailand ค่ะ

จขบ.เขียนดีจัง
ปกติเราไม่เคยรู้จักเพลงแนวนี้เลยนะ
จนมีพี่ที่ทำงานชอบ metallica ม้ากมาก


โดย: The Field Where I Died วันที่: 25 กรกฎาคม 2552 เวลา:16:25:38 น.  

 
เขียนหนุกดีจ้า นู๊นู เอาอีก เอาอีก...


โดย: Sukh (sukh ) วันที่: 14 กันยายน 2553 เวลา:18:29:28 น.  

 
อ่านจบแล้วครับ...ม่วน ๆๆ


โดย: หนุ่มสะเมิง วันที่: 13 มกราคม 2554 เวลา:18:10:52 น.  

ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
  *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

นู๊นู
Location :
เชียงใหม่ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




The man who sold the world.
Friends' blogs
[Add นู๊นู's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.