โอย...มาคลิกดูเวลานี้ก็แย่เลยค่ะ
หิวก่อนเวลาอันควร อิอิ

คุณนายเปิดบล็อกนี้ให้คุณแม่บ้านดูหน่อยสิคะ
รูปสวยดูแล้วน่ากินสุดๆ ค่ะ

เห็นแล้วหิวเลยเจ้าค่ะคุณนาย

รูปชัดแจ้งเลยเจ้าค่ะ

คุณนายขา วันนี้หนูเป็นอะไรไม่รู้
โดนยั่วสองรอบซ้อน ด้วยรูปน้ำแกงน้ำเงี้ยว
กึ๊ดเติงหาบ้าน จังเล้ยยยยยยยยยย

ท่าทางจะรำขนาด ว่าแต่ชอบน้ำเงี้ยวน้ำใสไหมครับ ผมชอบทั้งน้ำทั้งใสทั้งข้นเลยอ่ะ

-*- โดนคนข้างบนล่อให้เข้ามาดู ดูแล้วน้ำลายไหลอ่า

สูตรน้ำเงี้ยวเมืองแป้ (ประยุกต์) เคยช่วยแม่ทำ เริ่มจากต้มน้ำให้เดือด ใส่รากผักชี กระดูกหมูหรือว่าส่วนข้อเท้าหมู (เลือกให้ติดกระดูกอ่อน) ต้มให้เดือด แล้วตามด้วยน้ำปลาร้า (กรองเอาแต่น้ำ) แล้วก็ใส่น้ำปลา ต้มไปสักพัก ก็ใส่เลือดหมูหั่นพอคำ แล้วก็ใส่มะเขือเทศผ่าสอง พอเดือดก็ปิดแก๊ส เริ่มเตรียมเครื่องเคียง โดยเจียวน้ำมันหมูแล้วใส่หอมเตียม แล้วก็หั่นผักชี ต้นหอม แล้วก็ผักกาดดอง(อย่างดี) เวลาจะเสริฟก็จับหนมเส้นใส่ชามกาไก่ แล้วก็ใส่น้ำมันหอมเตียม ตักน้ำเงี้ยวใส่ให้ท่วมหนมเส้น แล้วก็โรยด้วยผักชี ต้นหอม ผักกาดดอง ปรุงรสด้วยน้ำปลา น้ำตาล พริกป่น พริกแห้งทอดด้วยก็ดี อาจจะกิ๋นกับข้าวนึ่ง ปั้นข้าวนึ่งเป็นกำ เข้าจ้ำกับน้ำหนมเส้น รำขนาด แกล้มกับแคบหมู

ถ้าจะหื้อรำไปแห๋ม ก็ต้องกิ๋นกับ “ข้าวกันจิ้น” (โดยการหุงข้าวเจ้าฮื้อสุก แล้วก็เอาเลือดหมูมายีหื้อละเอียด เอามาคลุกกับเลือดหมูให้เข้ากัน จากนั้นนำไปห่อในใบตอง กลัดด้วยไม้กลัด แล้วก็เอาไปนึ่งในถึงหื้อสุก) เวลาจะกิ๋น ก็เปิดห่อใบตอง แล้วก็ใส่น้ำมันหอมเจียว แล้วก็กินกับผักชี ต้นหอม

You make me hungry once again, but I like it na

อืมมม น่าสนใจสูตรน้ำเงี้ยวเมืองแป้ ไม่เคยทราบว่าน้ำเงี้ยวเค้าใส่น้ำปลาร้าด้วย ส่วนข้าวกันจิ๊นก็น่าลองทำจังเลย เคยกินตอนสมัยอยู่เชียงใหม่ ชอบบบบบบบ ขอบคุณนะค้าที่มาแบ่งปันสูตร

น้ำเงี้ยวน่ากิน ยิ่งนั่งกินในเรือนฯ ล่ะก็ ได้บรรยากาศสุดๆ

ง่า ...


มาไม่ทัน รูปหายหมดเลย

และแล้วสมาชิกทุกท่านยังไม่เจอสูตรทำเองไม่มีในโลก
รับรองอร่อยติดใจ

ไม่มีรูปเลยอะ ข้อมูลงงมากเลยค่ะ

คุณ คริสเตียนขอถาม โต่ย..คนเน้อ เลือดหมูที่ว่าแบบสดๆ รึ เป็นก้อนๆ สำหรับทำข้าวกันจิ้น น่าจะรำขนาด