Group Blog
 
<<
มกราคม 2555
1234567
891011121314
15161718192021
22232425262728
293031 
 
20 มกราคม 2555
 
All Blogs
 
แกงพุงปลา (แกงไตปลาปักษ์ใต้)




วันนี้คุณไหมมีแกงพุงปลาหรือแกงไตปลาปักษ์ใต้แสนอร่อยมาฝากค่ะ
กลิ่นอโรม่าไปทั่วบ้าน ทั้งม่าน ทั้งผม ซ้ำร้ายตอนที่แกงอยู่คุณไหมลืมปิดประตูห้องนอน
ทำเสร็จก็ต้องจุดเทียนหอมดับกลิ่นกันยกใหญ่ อันนี้ช่วยได้ดีมากทีเดียวนะคะ
คุณไหมคิดว่าการจุดเทียนหอมให้ผลดีกว่าใช้สเปรย์ดับกลิ่นเสียอีก
ดังนั้นทุกครั้งหลังทำอาหารที่กลิ่นแรง คุณไหมจะจุดเทียนหอมค่ะ
แบบว่าเกรงใจคนที่เขาทานไม่เป็นแต่ต้องมานั่งทนดมน่ะค่ะ ก็นะ...ใจเขาใจเรา




ส่วนประกอบเครื่องแกงเผ็ดปักษ์ใต้ :
พริกสดเขียวและแดง ปริมาณตามชอบ
พริกแห้ง ปริมาณตามชอบ
กระเทียม 5 กลีบใหญ่
หอมแดง 3 หัวขนาดกลาง
กะปิ 1/2 ช้อนโต๊ะ
ตะไคร้ 2 ท่อน
พริกไทดำ 1 ช้อนโต๊ะ
ข่า, ขมิ้น (ถ้ามี)
ผิวมะกรูด (ถ้าไม่มีใช้ใบมะกรูดแทนได้ค่ะ)

*** นำทุกอย่างโขลกรวมกันและไม่จำเป็นต้องละเอียดมากค่ะ ***



พริกไทยดำเป็นส่วนประกอบเครื่องแกงปักษ์ใต้ที่จะขาดไม่ได้เลยนะคะ
คุณไหมซื้อพริกไทยดำแบบป่นหยาบมาแล้วค่ะ สะดวกดี






ส่วนประกอบในการทำแกงพุงปลา :
เครื่องแกงเผ็ดปักษ์ใต้
พุงปลาอย่างดี (ไตปลา) 1 ขวดเล็ก
ปลาทูย่าง/ปลาโอย่าง/ปลาทูน่า
หน่อไม้, ถั่วฝักยาว, มะเขือเปราะ
(น้ำตาลทรายปรุงรส ถ้าต้องการ)




ปลาทูสด...ประเทศนี้หรือจะมีขาย รอมาขายคงไม่ได้ทาน
คุณไหมมีปลาทูนึ่งอยู่สามตัวก็เอามาใช้แกงได้เหมือนกันค่ะ




มาเริ่มกันที่เตรียมเครื่องแกงเผ็ดกันก่อนเลยนะคะ
นำส่วนผสมทุกอย่างมาโขลกรวมกัน แต่คุณไหมจะปั่นค่ะ เพราะไม่มีครก
ดังนั้นจึงต้องผสมน้ำลงไปด้วยนิดหน่อยจะได้ปั่นง่ายขึ้น






ปิ๊ง!...ประมาณหนึ่งนาทีก็ได้มาแล้วค่ะ ไม่เมื่อยมือดีด้วย





ไตปลาเทออกมาจากขวด และเนื้อปลาทูที่เลาะก้างออกแล้วค่ะ
ใครที่ชอบทานแบบแกงพุงปลาราดข้าวแนะนำให้แกะเนื้อปลาแบบหยาบๆ
เนื้อยังเป็นชิ้นๆอยู่ จะทานได้อรรถรสกว่าเนื้อปลาป่นๆนะคะ
ส่วนแกงพุงปลาแบบเนื้อปลาป่นๆ ส่วนใหญ่จะนำไปราดขนมจีนค่ะ






พุงปลาที่ซื้อมาอาจมีทรายปนมาด้วยค่ะ ดังนั้นเราต้องนำพุงปลามาต้ม
โดยใส่น้ำลงไปพอท่วมพุงปลาดิบ ต้มพอเดือดก็กรองเอาน้ำพุงปลามาทำแกง
ส่วนที่ตกตะกอนอยู่ที่ก้นหม้อมักเป็นทรายให้ทิ้งไปเลยค่ะ

น้ำพุงปลาในรูปนี้คุณไหมได้ต้มและกรองมาเรียบร้อยแล้วค่ะ






น้ำพุงปลาตั้งไฟให้เดือดอีกครั้ง เติมน้ำและใส่เครื่องแกงเผ็ดลงไปค่ะ





ฉีกใบมะกรูดลงไปต้ม...ใส่ผัก...ใส่ปลา ตามๆกันไปเลยค่ะ









ต้มจนกระทั่งผักสุกได้ที่ดีไม่เหี่ยวมาก ก็ชิมรสดูค่ะ
ตอนนี้แกงพุงปลาจะมีรสเค็มเพียงอย่างเดียว
คุณไหมเติมน้ำตาลลงไปด้วยค่ะ รสจะกลมกล่อมน่าทานขึ้น
แค่นี้ก็เสร็จแล้วค่ะ ปิดเตาได้เลย






ราดขนมจีนทานอร่อยค่ะ





คนกันเองค่ะ จะราดแกงพุงปลาบนข้าวสวยก็ไม่มีใครว่า





อร่อยซะให้พอ เพิ่มสะตอสด เคี้ยวมัน เพลินไปเลยค่ะ




แบ่งๆกันอร่อย จากคุณไหมค่ะ




Create Date : 20 มกราคม 2555
Last Update : 21 มีนาคม 2555 16:13:16 น. 4 comments
Counter : 3683 Pageviews.

 
น่ากินมากๆเลยค่ะ


โดย: โตเหมี่ยว วันที่: 20 มกราคม 2555 เวลา:22:08:58 น.  

 
เห็นน้ำแกงถ้วยนี้แล้วเชื่อว่าต้องเข้มข้นมากๆเลยคราบบบบ


โดย: ทนายอ้วน วันที่: 21 มกราคม 2555 เวลา:7:28:16 น.  

 
โอย...หิวข้าวขึ้นมาทันทีเลยค่ะ


โดย: มาดามขมิ้น วันที่: 22 มกราคม 2555 เวลา:6:49:53 น.  

 
ขอบคุณมากทุกท่านที่มาเยี่ยมเยียนนะคะ

คุณโตเหมี่ยวและคุณมาดามขมิ้น...ยินดีที่ได้รู้จักค่ะ

คุณบอล(ทนายอ้วน)...แกงเข้มได้ใจจริงๆค่ะคุณบอล


โดย: Khunmai studio วันที่: 22 มกราคม 2555 เวลา:21:32:05 น.  

ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
  *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

Khunmai studio
Location :
Seinäjoki, Finland

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 403 คน [?]




[Add Khunmai studio's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.