แบกเป้..ลุยเดี่ยว เที่ยวอุทยานแห่งชาติดอยฟ้าห่มปก น้ำพุร้อนฝาง กางเต้นท์นอนที่ดอยกิ่วลม วันที่ 1 ม.ค.55

หลังจากทีี่เขียนบล็อกครั้งที่แล้ว พาเพื่อนไปขับมอเตอร์ไซต์เที่ยวเชียงใหม่ ไหว้พระูธาตุดอยสุเทพ พระตำหนักภูพิงค์ ดอยปุย ถนนคนเดินท่าแพ กันเมื่อตอนสิ้นปี วันที่ 31 ธ.ค.2555 หมดไป 1 วันสำหรับทริปนั้น ลุยและสนุกพอสมควรครับ....ทริปต่อจากนี้ผมจะพาเพื่อนๆ เดินทางไปเที่ยวอุทยานแห่งชาติดอยฟ้าห่มปก
รุ่งเช้าวันที่ 1 ม.ค. ผมตื่นตั้งแต่เช้่าตรูเลยครับ หลังจากที่เมื่อคืนนี้ เมื่อยล้าจากการเที่ยวเมืองเชียงใหม่ และขึ้นดอยสุเทพตลอดทั้งวัน ผมตื่นขึ้นมาล้างหน้า แปรงฟัน เพราะวันนี้กะว่าจะไปกาดหลวงเชียงใหม่อีกครั้ง อยากไปทำบุญ และปั่้นจักรยานเข้าเมืองเก่า ลัดเลาะคูเมืองยามเช้าครับ ผมเลยขอยืมจักรยานของที่พักมาปั่นไป ตลาดก่อนเลยครับ



พอไปถึงกาดหลวง ตลาดวโรรส ขอไปทำบุญตักบาตร รับปีใหม่ ก่อนครับหลังจากนั้นก็ หาซื้่ออะไรทาน ก่อนลัดเลาะปั่นจักรยาน ล่อนเมืองเชียงใหม่


วัดลอยเคราะห์


ไปศาลากลางจังหวัดเชีัยงใหม่ครับ เพื่อไปไหว้อนุสาวรีย์ สามกษัตริย์



หลังจากลัดเลาะเที่ยวเมืองเกาะเชียงใหม่ ดูเวลา ผมไมรีอรอ รีบปั่นจักรยานกลับมายังที่พัก เพื่อเตรียมเก็บของใ่ส่ เป้ โบกรถแดงเพื่อเดินทางไปที่ขนส่งช้างเืผือก ตามแแผนการที่ได้วางไว้ว่าวันนี้ ต้องเดินทางไกลเป็น ร้อยกิโล เพื่อไปอุทยานแห่งชาติดอยฟ้าห่มปก....ผมนั่งรถแดงลงขนส่งช้่างเผือก รีบซื้อตั๋วเดินสาร โดยนั่งรถสายบัีสสีสัม เชียงใหม่-ฝาง-ท่าตอนครับ รถออกจากขนส่งช้างเผือกเวลา 10.30 น.



รถออกจากเชีัยงใหม่ พร้อมหนังสือเดินทางที่ซื้อมาจากถนนท่าแพเมื่อคืนนี้ นั่งอ่านตลอดการเดินทาง พร้อมหลัีบไปพลาง ตื่นไปพลาง ตลอดเส้นทางไปภูเขาคดเคี้ยวตลอดเลยครับ จนเวลาบ่าย 2 โมงก็ถึงอำเภอฝางแล้วครับ..พอลงจากรถเสร็จ ผมรีบถามคนแถวนั้นเลยครับ ว่าจะไปอุทยานแห่งชาติ ฝางได้อย่างไร ผมเดินไปถามคุณลุึงขายไก่ย่าง แกบอกว่าให้นั่งรถมอเตอร์ไซต์เข้าไป ผมเลยได้ใช้่บริการคนแถวนั้น นั่งเข้าไปอุทยานครัีบ



นั่งวินมอเตอร์ไซต์พร้อมแบกเป้มา กลัวเหมือนกัน ว่า่จะมีของหล่นจากระเป๋าเป้ หรือเปล่าแต่ในที่สุด...ก็ถึงแล้วครับ อุทยานแห่งชาติทองดอยฟ้าห่มปก



พอถึงได้เสียค่าธรรมเนียมเข้าอุทยาน และไมรีรอ รีบเข้าไปทำการอุทยานเพื่อติดต่อ การเดินทางไปจุดกางเต้นท์ เพื่อไปเดินป่าขึ้นไปชมทะเลหมอกดอยผ้าห่มปกครัีบ



พอไปถึง วันนั้นคนเยอะพอสมควรครับ พอไปถึงทางเจ้าหน้าที่แจ้งว่า ถ้าหากจะไปจุดกางเต้นท์เพื่อขึ้นไปชมจุดชมวิวดอยผ้าห่มปก ต้องเสียค่าใช้จ่ายเยอะต้องให้ครบ 8 คน เพราะทางขึ้นไปจุดกางเต้นท์นั้น ต้องใช้รถโฟร์วิว เผอิญวันนั้นมีคนไปเที่ยวเยอะ ก็เลยโชคดีได้แชร์ค่าเดินทางไปกับพี่ๆ เค้า...ถือว่าโชคดีมาก วันนั้นต้องรถโฟร์วิวอยู่เกือบชั่วโมง ก็เ้ลยเที่ยวชมน้ำพุร้อนฝางก่อนครับ




ทีุ่อุทยานแห่งชาติดอยฟ้าห่มปกมี น้ำพุร้อนฝาง และมีที่พักราคาถูก และสามารถกางเต้นท์ได้นะครับ หากใครต้องการมาพัก



น้ำพุร้อน ร้อนจริงๆครับ มีไอขึ้นมาเลยครับ



หลังจากที่ผมเดินถ่ายภาพ และชมบรรยากาศที่ น้ำพุร้อนฝาง อยู่ก็ได้เวลาแล้วครับ ที่ต้องเดินทางไปจุดกางเต้นท์ นั่งรถโฟร์วิวไปครับ วันนั้นได้ไปกับกลุ่มพี่ๆ ที่มาจากจังหวัดระยองครับ เลยได้พูดคุยและทำความรู้จักกับพี่เค้า ครับ ...พวกพี่เค้าตกใจเหมือนกัน ที่เห็นผมเดินทางแบกเป้ มาคนเดียว แต่การมาเที่ยวครั้งนี้ก็เกิดมิตรภาพขึ้น เพราะตลอดการเดินทางพูดคุยเรื่องเที่ยวกันตลอดครับ
...............รถโฟร์วิว รีบจัดการนำกระเป๋าเป้ ใส่ท้่ายรถครับ



รถออกจากที่ทำการอุทยานแห่งชาติ ก่อนขับขึ้นภูเขาไปจุดกางเต้นท์ ครับ ตลอดการเดินทาง บ้างก็ลูกรัง บ้างก็คอนกรีด ทางขึ้นสมบุก สมบันมากครับ หากใครเคยขึ้นไปคงทราบกันดีครับ ลุยสุดๆ หากนั่งด้านหลังนั้น หัวแดงหมดเลยครับ



ใช้เวลาขับรถเกือบชั่วโมง ขึ้นภูเขามาครับ ทางคดเคี้ยวมากครับ แต่ก็ถึงที่หมาย ผมไม่รีรอ รีบช่วยพี่ๆ ที่ร่วมเดินทางกับรถโฟร์วิว มาด้วยกัน หาที่กางเต้นท์ให้ได้ครับ เพราะอากาศเริ่มเย็นแล้ว



หลังจากกางเต้นท์ เสร็จก็มืดแล้วครับ ผมได้มีเวลานั่งพูดคุย กับพี่ๆ ที่ี่เดินทางมาด้วยกัน แลกเปลี่ยนประสบการณ์กันว่าเรา เป็นใคร มาจากใหน มาเที่ยวได้อย่างไร ค่อนข้างสนุกพอสมควร ก่อนรีบเข้านอน เพราะอากาศบนจุดกางเต้นท์ไปดอยผ้าห่มปก ค่อนข้างเย็นมากๆ ครับ .....................หลังจากนอนเต็มอิ่มไป เวลาตี 3.30 น.ของวันที่ 2 ม.ค..2555 มาถึงแล้ว แ่ละได้เวลาแล้วครับ ที่ต้องตืี่นขึ้นมา พร้อมกับอากาศหนาวพอสมควร เพื่อเดินทางไปยอดดอยฟ้าห่อปก หรือที่ชาวบ้านเรียกว่า" ดอยผ้าห่มปก" สมกับความหนาวครับ



ออกจากจุดกางเต้นท์ก็เวลา 4.00 น. พอดีครับ ทางขึ้นยอดดอยค่อนข้างมืดพอสมควรครับ หากใครไปอย่าลืมไฟฉายด้วยนะครับ วันนั้นผมไม่ได้เอาไปเลย เพราะลืมครับ เลยต้องเดินตามหลับพี่เค้าแบบนี้ ....การเดินทางไปชมทะเลหมอกที่ยอดดอยนั้น ใช้เวลาประมาณ 2 ชั่วโมงครับ อย่าลืมว่า้ต้องไปให้ัทันก่อนพระอาทิตย์ขึ้นนะครับ และทางขึ้นก็ค่อนข้างเป็นเนิน เดินขึ้นลงตามป่าดิบชื้นครับ ต้องเตรียมตัวให้พร้อมครับ................และในที่สุดก็ถึงแล้วครับ ยอดดอยผ้าห่มปก



วันนั้น ผมและพี่พร้อมเพื่อนเดินทางหลายสิบคน รอชมทะเลหมอก และ พระอาิทิตย์ึขึ้น กันครับซึ่งหมอกลงจัดมากๆ ครับ



รอแล้ว รอเล่า ก็ต้องผิดหวังครับ เพราะหมอกลงจัดมาก จนไม่เห็นพระอาทิตย์ขึ้นเลยครับ เวลาผ่านไปจนเลยเวลา พระอาิทิตย์ขึ้นไปแล้วครับ ทางเจ้าหน้าที่นำทางแจ้งว่า ที่เรามองไม่เห็นพระอาทิตย์ เพราะฟ้าปิดครับ ...ว้าเซ็งจัง ผมคิดในใจ ไว้โอกาสหน้าต้องมาให้ครับ



และแล้วก็ได้เวลาลงจากยอดดอยแล้วครับ ตลอดการเดินทางลงก็ได้เห็นพันธ์ไม้ ป่าดิบชื้น ดูสดชื้นมาก พร้อมกับม่านหมอกที่ลงจัดปิดเส้นการเดินทางลงเขาพอสมควร แต่ได้บรรยากาศอีกรูปแบบครับ



ีมีต้นเฟิร์น แสดงถึงความอุดมสมบูรณ์ของผืนป่าครับ



มองไปทางใหนก็มีแต่หมอกครับ พร้อมอากาศที่เย็นพอสมควรครับ



ทางลงจากยอดดอยผ้าห่มปกครับ จนมาผ่านม่อนวันใจด้วยครับ เนินนี้แหละครับ เหนื่อยสุดๆๆ แต่ใช้แรงเสียดทานค่อนข้างเยอะเลยครับ บางคนถอดใจกลับก็ตรง ม่อนนี้แหละครับ



เลยม่อนวันใจมาเรื่อยๆๆ ในที่สุดก็ถึงจุดกางเต้นแล้วครับ พอถึงจุดนี้แล้ว หายเหนื่อยเลยครับ เพราะวันนั้น อากาศดีมากๆๆครับ



ผมใช้เวลานั่งชมบรรยากาศ ของดอยผ้าห่มปกอยู่นานพอสมควรครับ



วิวทิวทัศน์ของดอยผ้าห่มปก สวยจริงๆครับ



มองเห็นผืนป่าพร้อมมีแดดอ่อนทอแสงลงมา สวยครับ



หากมีเวลามากกว่านี้ อยากนั่งอ่านหนังสือตรงนี้นานครับ



และแล้วในที่สุด ก็ได้เวลาแล้วครับ ที่ต้องอำลาดอยผ้าห่มปกแล้วครับ ผมเตรียมตัวไปเก็บเต้นท์ให้เรียบร้อย พร้อมเก็บเสื้อผ้าใส่เป้ พร้อมตัวลงจากจุดกางเต้นท์ไปทำการอุทยาน เพราะรถโฟร์วิว มารับและไปส่งที่ทำการอุทยานเหมือนเดิมครับ หลังจากลงจากจุดกางเต้นท์มาถึงที่ทำการอุทยานแล้ว

ผมเตรียมตัววางแผนแบกเป้ กับทริปลุยเดี่ยวต่อ ไม่ไกลนักจากอุทยานแห่งชาติดอยผ้าห่มปก นั้นคือ " ดอยอ่างขาง" คือจุดมุ่งหมายต่อไปของผม เพื่อไปชมความงามและความหนาวเหน็บของหมู่บ้านโครงการหลวงอันมีชื่อเสียง

วันที่ 2 ม.ค. 55 พี่ๆ ที่ร่วมทางมาสุดแสนใจดีสุดๆ ให้ติดรถมาด้วย พร้อมจะไปส่งที่ปากทางไปดอยอ่างขาง เพราะเป็นทางผ่านพอดี ผมดีใจมากๆครับ ผมติดรถไปกับพี่ๆ เค้า พร้อมลุยเดี่ยวต่ออีกวันครับ ...... ขอบคุณเพื่อนๆ พี่ๆ น้องๆ ที่มาติดต่ออ่่านกันครับ รอติดตามรีวิว blog ต่อจากนี้นั้นคือ แบกเป้ ลุยเดี่ยว เที่ยวดอยอ่างขาง รอติดตามกันนะครับ

Create Date : 25 พฤษภาคม 2555		3 comments
Last Update : 25 พฤษภาคม 2555 22:37:47 น.
Counter : 6640 Pageviews.
Share Tweet