บรรเลงชีวิต...ที่ลิขิตเอง
 
พฤษภาคม 2549
 
 123456
78910111213
14151617181920
21222324252627
28293031 
15 พฤษภาคม 2549

แนะนำความเป็นมาครอบครัวและประวัติตัวเอง

ชื่อ..หนูหนึ่ง ค่ะ เพื่อนๆ เรียกกันหลายหลากไม่ว่าจะ"ยัยหมู" "หมูหนึ่ง" "กิม" และต่างๆ นานา เอาน่าเพื่อนเราจาเรียกไรก็ได้ทั้งน้านหล่ะ เพื่อนไงก็รู้กันเนอะ



เข้ามาสร้าง blog ของตัวเองวันที่ 15 พ.ค. 49 เจ้าค่ะ

วัตถุประสงค์ : เพื่อใช้เป็นพื้นที่จัดเก็บเรื่องราวของตนเองไว้ทบทวนและแบ่งปันเรื่องราวสู่เพื่อนๆ ทุกคนที่สนใจเรื่อราวต่างๆ ของเราที่เล่าผ่านตัวอักษรและภาพทางสื่อแห่งนี้


วิธีคลายเครียดของตัวเองก็ .. ร้องเพลง/ขับรถไปท่องเที่ยวหาที่แปลกๆ ไม่เคยไปแต่ต้องไม่อันตรายนะจ๊ะ/ทำกับข้าวที่ไม่เคยทำและบังคับผู้อื่นชิม..คิ๊กๆๆ

ชอบทำกับข้าวและรักการกิน(อันนี้จริงๆ เชียว)/ถ่ายภาพ/ฟังเพลงยามว่าง

รักสัตว์ นก/ปลาทอง/สุนัข/แมว/ไก่ต็อก/เต่าน้อย และนานาสารพัดชนิด

ชอบพบปะเพื่อนใหม่ๆ แรกเปลี่ยนเรื่องราว ช่วยเหลือกันและกัน ความจริงใจสำคัญเป็นที่สุดสำหรับมิตรภาพ


ภาพนี้กำลังพองลมเชียวถ่ายไว้ปีที่แล้ว วันที่ 18 พ.ย. 48


ภาพนี้กับหลาน (ลูกของน้องชายและน้องสะใภ้ที่แสนดี) เมื่อ ปีใหม่ 49 ภูชี้ฟ้ายามฟ้ายังไม่สาง


กล่าวถึงตัวเอง "หนึ่ง" เป็นลูกคนโต และน้องชาย อีก 1 คน เรามีอายุห่างกัน 2 ปี ...เรามีกัน 2 คน พี่น้อง

^ บุคคลิก ลักษณะ นิสัย รูปร่าง ตัวเอง--- จริงๆ ตั้งแต่เด็กๆ นี่ลูกเป็ดขี้เหร่เลยนะ ..55
คุณแม่บอกว่าตอนคลอดมาหนัก 3.8 กรัม ขาว ผมน้อยมาก จมูกบี้ๆ 555 ขำตัวเองจัง

โตมาหน่อยก็มาน่ารักในช่วงผูก 2 แกละ ในวัยประถม 1-4 ขณะเรียนอยู่ที่ รร.ปานะพันธุ์ (ลาดพร้าว) ที่ปี 2549 ได้กลายเป็นห้างคาร์ฟูร์ไปเสียแล้ว ตอนนั้นคุณครูจะตามใจและถูกเรียกไปนั่งโต๊ะคุณครูเป็นประจำ ตอนนั้นเราอาศัยกับคุณปู่ คุณย่า คุณอา ท่านเป็นผู้เลี้ยงดูและดูแล รักเราเหมือนลูกของท่าน คอย รับส่ง อาบน้ำ หาข้าวให้ทาน กล่อมเข้านอน ส่งเรียนพิเศษ และพาเที่ยวในวันหยุด
ต่อมาในช่วงกลางเทอม ป.4 เป็นอะไรที่ดีใจมากคุณพ่อ-แม่ ย้ายมาอยู่ประจำที่กรุงเทพฯ และซื้อบ้าน เราจึงร้องขอไปอยู่กับท่าน อานะใครก็อยากอยู่กับพ่อแม่ทั้งนั้นหล่ะจริงม่ะ! อวบๆ ดำๆ ผมบาง ไม่มีความน่ารัก หรือสวยเอาเสียเลย โชคดีที่มีรูปร่างไม่แย่นักโชคดีที่ยังสูงตามมาตรฐานสาวไทย 160+ โชคดีที่โตมาแล้วไหง๋เป็นสาวผิวดี...มีรูปร่างไซด์สาวยุโรปหุ่นก็ยุบๆ-พองๆ หน้าตาดี แต่น้ำหนักไม่คงที่เอาซะเลย เพื่อนๆมาเจอตอนโตก็ตกใจว่าเราหน้าตาดีได้ถึงขนาดนี้ 555... ช่วงผอมก็ผอมนะ 55 สูง 164 แล้วก็มา 59 .. 62..65..69..70-75 เอากะเราสิ
นิสัยมั่นใจตัวเองจัด เป็นคนขี้เหงา ครอบครัวอบอุ่น ชินการเข้าผู้ใหญ่ ช่างพูด ช่างคุย บางครั้งก็เงียบนะ ขี้งอน ขี้น้อยใจ ขี้แยเชียวหล่ะ มีหลายบุคคลิกในตัวเอง ทันคน(มั๊ง) ปากตรงและไว โตมานี่ไม่ชอบการปิดบัง โกหก ไม่ชอบอะไรที่ทำให้อึดอัดทางใจ ใช้ชีวิตอย่างรู้จักตัวเองมากขึ้น รักครอบครัว พ่อแม่ ทุกคนที่ได้เข้ามาในวงจรชีวิต หวังดีกับทุกคน เพื่อนเยอะแต่ไม่ค่อยติดเพื่อน ชอบสบายๆ งานนี่มุเลย มุทะลุ สนุก ได้ต้นแบบจากเจ้านายแต่ละคนดีมากๆ เรียกว่า เราโชคดี และรู้จักซึมซับข้อดีปรับมาใช้ มีเหตุผล กล้าคิด เสนอ ทำ ไม่ชอบระบบราชการนั่นคือเราไม่ชอบอยู่นิ่ง จำเจกับชีวิต ไม่ชอบเที่ยวราตรีมีบ้างหลงแสงสีค่ำคืน ชอบการขับรถ

รักแรก
ในชีวิตมีโอกาสได้พบรักแท้ 1 ครั้งกับอาจารย์หมอ คนไฮเปอร์ จีเนียส ดร.ของฉันและใครต่อใคร อายุเราห่างกัน 8 ปี เค้าเป็นสุภาพบุรุษที่หาได้ยาก เป็นทั้งอาจารย์ เจ้านาย เพื่อน พี่ชาย มันคล้ายๆ soulmate เป็นความทรงจำดีๆ และให้นึกยิ้มได้เสมอ เพราะมันเป็นรักแรกและเราก็มีสติ เหตุผลในการรัก รู้และกำหนดขอบเขต มีมุมมองในรักที่ไม่หวังครอบครอง หวง หากแต่อยากยกย่องชื่นชู มอบรอยยิ้ม ช่วยในทุกสิ่ง หวังเห็นเค้าเป็นสุขและพบสิ่งดีๆ ตอนที่คบก็ไม่คิดว่าต้องจบที่การแต่งงานแต่ตัวเรากลับมองในสัมพันธ์ภาพยาวนานมากกว่า และแม้รักครั้งนั้นจะทำแบบเจ็บเจียนตาย กว่าจะฟื้นยืนได้อีกครั้ง แต่มันทำให้เราได้เรียนรู้ความจริงอีกหลายบทบนโลกใบนี้ กี้)



รักครั้งที่ 2
ทำไมน๊า ต้องเจออีกแล้วคนชื่อ โจ อยู่สะพานควาย รักครั้งนี้เรามีสติมากขึ้น 3 ปีคบมาเรารัก รู้ อดทน ภูมิใจในตัวเค้า ผู้ชาย ณ ชินวัตรคนนี้ หนุ่มวิศวะอิเล็กฯ โนเกียที่เราปลื้มที่มาพานพบโดยไม่ได้ตั้งใจ และเค้าก็เป็นคนดีมีอะไรให้เราได้จดจำและยิ้มได้อีกเช่นกัน การเลิกรากับคนนี้จบด้วยดีไม่ตอแย ไม่ถาม เมื่อเค้าหมดรักเราจะบังคับได้อย่างไร ในเมื่อตอนที่รักเราก็ไม่ได้บังคับเค้าเช่นกัน วันนี้เรายังคงเป็นเพื่อนที่ดีต่อกัน ฉันดูแลน้องหมีให้อยู่กับฉันตลอดเวลาไว้ยามนึกถึงเธอคนดี คุณทำให้ฉันยืนได้และรู้จักที่จะรักตัวเองใหม่อีกครั้ง

รักปัจจุบัน
แตกต่างสิ้นเชิง อะไรที่ไม่ชอบได้หมด 555.. มันเรื่องจริง แต่เค้าก็เป็นคนดี รักเราแต่ก็ดิบๆ ชีวิตคู่ของเราเหมือนจะง่าย ก็ไกันเรื่อยๆ แบบนี้หล่ะ

กล่าวถึงบุพการี

--คุณพ่อ / ลูกคนโตพี่น้อง 5 คน เป็นคนกรุงเทพฯ-นนท์ท่านจบ ป.ตรี เป็นคนหัวดี ซื่อตรง มีน้ำใจ รักเพื่อนพ้อง ใจร้อน พูดประจบไม่เป็นและเข้าสังคมไม่เก่ง เป็น นร.ช่างกลเทคนิคกรุงเทพฯ ซ่ามาก เรียกได้ว่าเป็นหัวโจกในก๊วนแต่ก็เรียนเก่งที่สุดในรุ่น เรื่องยกพวกตีกันนั้นแค่เอ่ยก็มีพวกลุยเยอะไปหมดตามประสาวัยคะนองนี่หล่ะท่านพ่อจอมใจร้อนตอนหนุ่มๆ
ต่อมาได้มีโอกาสเข้ารับราชการช่วงปีนั้นกองทัพเปิดรับสมัครนักบินที่ไม่ได้มาจากการสอบเข้า รร.นายเรือ(เหล่าต่างๆ) และในที่สุดคุณพ่อก็ผ่านตามระเบียบและมีอาชีพเป็นข้าราชการเป็น นักบิน ในสังกัดของกองทัพไทยบินเครื่องบินหลายรุ่น ไม่ว่าจู่โจม ลำเลียง สนับสนุนและฝ่าวงล้อมเข้ารับเพื่อนทหารราบที่พลาดพลั้ง ท่านรบมาหลายครา และลุยอย่างชายชาติทหารหาขลาดไม่ ท่านกล้าในสิ่งที่ถูกเพื่อปกป้องเพื่อนพ้องและน้องตน นั่นคือวิสัยของคุณพ่อ เมื่อวัยล่วงเลยได้ย้ายสายงานก้าวสู่การมาเป็นครูการบิน กองบิน 604 และได้ขึ้นบินกับคุณพ่อหลายครั้ง ต่อมาท่านได้มารับตำแหน่งเป็นอาจารย์ นอส. และย้ายไปทำงาน ณ บก.สูงสุด ปัจจุบันมาประจำ ทอ. แล้วจ้า(ท่านน่าจะเป็นคนเดียวในกองทัพไทยที่มีปานเขียวขนาดใหญ่บนใบหน้าของท่าน) อิอิ
จวบจนวันนี้ในวัยเกษียณคุณพ่อยังคงภูมิใจเสมอในการทำหน้าที่อย่างเต็มที่ทุกครั้งในทุกตำแหน่งที่ได้รับมอบ ท่านไม่วิ่งเต้น ไม่เล่นเส้นสาย ตรงๆ เกรงใจเพื่อน และนาย

เราภูมิใจในตัวท่าน แต่ต่อหน้าไม่กล้าแสดงออกหรอกนะ เนื่องจากเพราะความที่เราเป็นลูกพ่อ ถอดแบบมาเหมือนกันทำให้ ตั้งแต่เล็กจนโตเราไม่ถูกกับท่านเลยถูกเตะถูกอัดแบบลูกผู้ชายเป็นประจำ เฮ้อนี่หล่ะเพราะเหมือนกันจนเกินไป
ใครๆ บอกเราเหมือนพ่อ ก็นะ รูปร่าง นิสัย ความเจ้าชู้ การเดินเหิน ความเป็นคนตรง มุมานะ กล้าและภาวะผู้นำ ความเป็นพี่คนโตตามแบบฉบับของพ่อ ตลอดจนความรักชาติมันได้ซึมซับมาถึงเราเต็มๆ นี่นาท่านจะรู้มั๊ยเนี่ยะ แต่เราก็ได้ความไม่เป็นระเบียบจากท่านมาเช่นกัน (..66 คุณลูกสาว)

--คุณแม่ / เป็นคนเมืองกาญจนบุรี เป็นผู้หญิงโบราณบ้านๆ นิสัยดีไม่ชอบเอาเปรียบและว่าร้ายนินทาใครรักเพื่อนพ้อง พี่น้อง ใจเย็น มีเหตุผล ยิ้มรับได้กับทุกเรื่องที่เข้ามา ท่านหัวดีไปทางการค้าและชอบเสียด้วยสิ เด็กๆ ไม่ค่อยสนใจและรักเรียนนัก มักหนีไปหาซื้อของมาขายพออายุได้สิบกว่าเศษๆ ก็ไปทำงานกับญาติที่ร้านอาหารแม่ทิพย์ อ.หาดใหญ่ จังหวัดสงขลา จนวัยแตกเนื้อสาว จัดว่าเป็นคนที่สวยงามแช่มช้อยหุ่นบางมีผิวสีน้ำผึ้ง และฉายแววตอนโตขยับมาเป็นแคชเชียร์ประจำร้านคอยทำหน้าที่รับรองแขกผู้ใหญ่ ประกาศออกเครื่องขยายเสียงในร้าน คิดเงินและมีหน้าที่เป็นเสมือนฑูตสันตวไมตรีประจำร้าน เข้าสังคมเก่ง มีคนมากมายผู้หลักผู้ใหญ่และบรรดาเสี่ยมาจีบ มากมาย จนวัยเข้า 30 เศษ ลงจากคาน คุณพ่อเรานี่เอง พอดีท่านมารับราชการทางใต้มาทานและเมาที่ร้านประจำ ลงบัญชีไว้บ่อยครั้ง จนสนิทคุณพ่อจะเรียกคุณแม่ว่าเจ๊ เพราะอายุมากกว่า 6 -7 ปี 5555...จากนั้นเอแล้วไงมาไงหว่า!! แม่ก็ถามพ่อว่ากล้ามาขอไหมถ้ากล้าให้ตามไปที่บ้านที่จังหวัดกาญจนบุรีเพื่อไปขอกับคุณตา-ยาย และท่านก็ตามไปจริงๆ นะ ไปขอทั้งๆ ที่ตัวเองยศร้อยตรีไม่มีอะไรเลย เงิน ทอง สักแป่ะ ทางบ้านคุณแม่ถามว่า "เอาจริงไอ้ปานเอ็งบอกข้ามาว่าเอ็งเป็นแค่จ่าก็ตอบมาตรงๆ" พ่อก็บอกไปว่า "ผมร้อยตรีครับเป็นนักบิน ทอ. ครับ" พี่ๆ น้องๆ แม่เค้าแอบสืบภายหลังแม่เราก็ไม่รู้หรอกและแล้วท่านก็ได้แต่งงานกันที่บ้านเมืองกาญจฯ นั่นเอง คุณแม่เป็นคนออกค่างานแต่งเองทั้งหมด (ท่านมีตังค์เพราะเก็บเงินเก่งสมัยอยู่ร้านไม่ค่อยได้ใช้เงิน มีก็ซื้อเพชร ทอง) ในขณะที่ที่คุณปู่-คุณย่าและพี่น้องพ่อไม่ปลื้มและถูกใจคุณแม่นัก แต่ด้วยความที่แม่ใจดี เก็บเงินเก่ง ใจเย็น เรียบร้อยและอดทนจึงเป็นคู่กันมาจวบปัจจุบัน คุณแม่ไม่ได้อะไรจากบ้านคุณพ่อเลย ท่านยอมและเอาความดี การทำดีต่อพ่อแม่สามีเสมือนพ่อแม่ตนด้วยความเสมอต้น เสมอปลาย มีความรู้คุณ จนชนะใจปู่-ย่า และน้องๆ ของคุณพ่อเมื่อวัยเริ่มปลายชีวิตมาเยือนนี่เอง และเราเองก็ภูมิใจในตัวท่าน

**ท่านทั้ง 2 เริ่มต้นฐานะจากศูนย์ และมีเราตอนอายุ 33 ปีและเราก็เป็นหลานคนแรกของตระกูล ท่านสร้างฐานะด้วยกันโดยตลอดระยะเวลาที่ผ่านมาแม่เก็บหอมรอบริบเก่งมาก รู้จักใช้จ่ายเงิน ประหยัด เก็บออมและปลูกผักริมรั้วทานอย่างง่ายๆ ในขณะคุณพ่อยังติดเฮฮาภาษาสังคมทหารต่างจังหวัด ยังไม่รู้จักเก็บเงินเพื่ออนาคต จนวันนึงได้ย้ายเข้ามาสู่กรุงเทพฯ และคุณแม่อยากซื้อบ้านเพื่อค้าขาย ก็มีคุณอา คุณปู่-ย่านี่หล่ะคอยช่วยเมื่อเริ่มปักหลักชีวิตที่กรุงเทพฯ ตอนเรา อยู่ ป.4 จนมีบ้านกับเค้าเสียที คุณแม่เปิดร้านค้าขาย ขายทุกอย่างโชว์ห่วย อาหารตามสั่ง ยกน้ำถังแบกขึ้นจักรยานปั่นส่งในหมู่บ้านเองวันนึงๆ เป็น 10 ถัง เช้าตื่นไปรับผักจากตลาดมาขาย ชีวิตท่านสู้มากๆ สมัยนั้นยังไม่มีห้างแม็คโคร คาร์ฟูร์ โลตัส ท่านจึงหาเงินได้คล่องจากความานะและความเป็นที่รักของเพื่อนๆ ที่มาอุดหนุนสมัยก่อนค้าขายเงินดี แม่ไม่ขายของแพงและปัดเศษลดให้ลูกค้าเสมอ ในหมู่บ้านต่างทึ่งในความอดทน และนิสัยที่ดีเสมอต้นเสมอปลายของคุณพ่อและคุณแม่

ท่านสามารถสร้างครอบครัว ไม่ตามกระแสสังคม ไม่สนแม้กระทั่งสังคมจอมปลอม ดำเนินชีวิตสู้อดทนจนมีบ้าน รถ และส่งลูกๆ เรียน ให้ลูกมีเงินใช้จ่ายเหมือนครอบครัวอื่นๆ ได้เที่ยว ใช้เงินอย่างสบาย ใช้ของมียี่ห้อ มีราคา ตามความฟุ้งเฟ้อสังคมกรุง ตอนนั้นก็ไม่รู้และไม่สนใจเท่าไหร่ที่ท่านอดเพื่อเราอิ่ม และนั่นคือ "แม่" หล่ะและที่คุณพ่อ คุณแม่ที่ไม่เอ็ดเราเรื่องใช้เงิน เรื่องเที่ยว ก็เพราะในชีวิตท่านทั้ง 2 ท่านไม่เคย ไม่รู้ และไม่เดินห้างซื้อเพื่อของให้ตัวเองกันเลย ใช้ของทั่วไปแบกะดินแต่ดูดี ของมียี่ห้อ ราคาแพงๆ ท่านไม่สนในสายตา ไม่เคยทานอาหารร้านหรูๆ ดังๆ นอกบ้านเยี่ยงคนกรุงทั่วไป หรือไปเที่ยวต่างจังหวัด ต่างประเทศ นอนโรงแรมดีๆ แพงๆ ท่านจึงตามลูกๆ ไม่ทัน

แอบนินทาแม่ตัวเอง "มีครั้งนึงท่านจะออกไปหาอะไรทานนอกบ้านในขณะสวนกับเราที่เดินกลับเข้ามาท่านถามไปไหนมา เราตอบ ไปทานนั่น นี่ ทันทีเลย..55 ท่านนึกเสียดายเงินเก็บจักรยานและไปเก็บกับข้าวมื้อเก่าในครัวทาน
(นี่หล่ะแม่เรา..สุดยอดไหมหล่ะ ท่านไม่ดุเราหรอกทานอะไรก็ตามสบาย แต่ท่านเป็นคนหาเงินกลับไม่กล้าใช้เงินเสียเอง..)" ** คุณแม่ขา หนูรักคุณแม่จังซึ่งพิมพ์ไปนึกไปน้ำตาไหลไปชักอินชีวิตตัวเองอิอิอิ

พอครอบครัวเราเริ่มมีด้วยความรักลูกๆ ท่านก็ไม่เคยใช้เงินอีกเช่นเคยเก็บและซื้อของให้ลูก ใครอยากได้อะไรท่านบรรดาลให้ และต้องได้พอๆ กันแต่ส่วนใหญ่น้องก็ได้มากกว่าอยู่ดี เมื่อน้องเราเรียน ม.2-3 เมื่อประมาณ 10 ปีเศษสมัยนั้นน่าจะมีการจัดงาน COMMART ที่ศูนย์ประชุมแห่งชาติสิริกิตติ์ เป็นสมัยแรกๆ น้องชายอ้อนคุณพ่อและท่านก็พาไปจนได้และกลับมาพร้อมสารภาพว่าซื้อคอมพิวเตอร์ PC ให้น้องชาย 1 ชุดแบบ Full Option ราคาสมัยนั้น คอมพิวเตอร์รุ่น Pentium II ชุดโฮมเทียร์เตอร์ปาเข้าไป 70,000 กว่าบาทท่านก็ซื้อให้ โดยเห็นประโยชน์แต่หารู้ไม่ว่าประโยชน์ที่ลูกได้นั้นมันน้อยกว่าการที่ลูกนำมาเล่นเกมส์ ดูหนัง ฟังเพลง มากกว่าใช้ทางการศึกษา แต่มันก็ทำให้น้องเรากล้าและใช้คอมเป็นและปรับแต่งเองเป็นจนวันนี้ ดีหน่อยที่สมัยนั้นไม่ข่าวสารแพร่เร็วสะพัดเหมือนสมัยนี้ เด็ก ๆ ไม่รู้จักการเล่น Internet เท่าไหร่ และยังไม่มีให้รองรับหลากหลายเท่าวันนี้ เด็กรุ่นเราและน้องไม่รู้จักการ Chat นั่นยังเป็นโชคดีของเด็กรุ่นเรา

และเมื่อเราเรียนจบเข้าสู่วัยทำงานท่านทั้ง 2 เหมือนจะสบายนะแต่ที่ไหนได้ชีวิตท่านยังคงเหมือนเดิม และเหนื่อยใจมากขึ้นอาจเพราะด้วยความที่ท่านรักลูก เลี้ยงไม่ค่อยเป็น คล้ายๆ พ่อแม่รังแกฉัน ท่านจึงต้องเหนื่อยกับเรา 2 คนต่อไปแต่ครานี้ไม่ใช่แต่เหนื่อยกาย กลับต้องเหนื่อยใจด้วยสิ เราก็เป็นสาเหตุบ่อยนะยอมรับเพราะรู้สึกว่าท่านรักไม่เท่ากัน แล้วเราก็เป็นพี่ ที่น้องมีปมด้อยทำให้ท่านยิ่งโอ๋เค้ากว่าเรา


ในชีวิตพ่อท่านประทับใจกับรถป้ายแดงกระบะอีซูซุ spacecap สีน้ำเงิน ทอ. อันนี้ที่พ่อรักมากๆ
จากนั้นท่านก็ซื้อรถให้ลูกๆ คนละคันผ่อนให้จนหมด ลูกชายขับ BMW ซีรี่ย์ 3 ส่วนเราใช้มิตซูรุ่นอีคาร์ จนวันหนึ่งเราขับเอาไปคว่ำท่านก็ใจดีกัดฟันและออกฮอนด้าซีวิคให้เราใหม่อีกคัน จนล่าสุดน้องเชฟฯ ปี 52 ในขณะที่ท่านไม่ได้เปลี่ยนเลย พ่อแม่เรารักลูกที่สุดเลยยย "อดเพื่อลูกอิ่ม ขอเพียงเห็นลูกยิ้มพ่อแม่สุขใจ" นี่คือพ่อและแม่ อาจไม่ใช่แค่พ่อแม่ของเราเท่านั้น อาจมีอีกหลายๆ ครอบครัวที่เหมือนเราเช่นกัน

- แอบกล่าวถึงคุณย่า
ท่านอยู่สวรรค์แล้วมองแล้วก็แอบเยี่ยมลูกหลานบ่อยนะ สมัยคุณย่ายังอยู่ท่านเป็นท้องพระคลังเคลื่อนที่อีกจุดของเรา 55 เงินไม่เคยพร่อง รับเงินวันหลายทางไปหมด พ่อ แม่ อา ย่า ปู่ อิอิอิ จวบจนคุณย่าเสียปี 2544 เราใจจะขาดรู้สุดตัวว่าเรารักท่านขนาดไหน เราค้างท่านหลายเรื่อง ท่านเป็นเสมือน แม่ เพื่อน คนรู้ใจ และทุกสิ่งในชีวิต ท่านเป็นคนมีความคิด คล่อง ชอบเที่ยว ไม่อยู่เฉย นักสังคมโดยแท้ เก่งฉลาด อารมณ์ดี วิสัยทัศน์เยี่ยม ยอมรับได้ตามสังคมเป็นคนยุคใหม่ร่วมสมัยจริงๆ เพื่อสหายเยอะไปหมด ทั้งๆ ที่ท่านจบแค่ ม.6 รร.สตรีนนท์ และทำงานดูเม็กซ์จนเกษียณ ท่านก็มีหุ้นมีเงินใช้ ชีวิตท่านอยู่กับธรรมมะ วัด การบริจาค ทำทาน และให้ลูกหลาน เป็นที่รักและจุดรวมใจของทุกคนในตระกูลเสมอมา..รักและคิดถึงคุณย่าตลอดไป ณ วันที่ท่านจากเราว่าเราทำหน้าที่ได้ดีที่สุดแล้ว แม้จะค้างในสิ่งที่ไม่มีโอกาสได้ทำร่วมกันบ้างเอาไว้ชาติไหนเจอกันขอให้ได้ร่วมพบและอยู่ด้วยกันใหม่และจะทำให้ดีกว่านี้นะคะ




 

Create Date : 15 พฤษภาคม 2549
2 comments
Last Update : 10 ธันวาคม 2553 18:12:42 น.
Counter : 557 Pageviews.

 

สวัสดีค่ะ ยินดีที่ได้รู้จักนะคะ เราอยู่ นอร์เวย์ ค่ะ ชื่อน้ำฝน ว่างๆ ก็แวะไปทักทายกันได้จ้ะ


 

โดย: Malee30 15 พฤษภาคม 2549 16:52:31 น.  

 

แก้ไขแล้วนะคะ ขอบคุณที่ช่วยตรวจสอบเพื่อความสมบูรณ์ค่ะ

 

โดย: หนูหนึ่ง (nu_1_ka ) 23 พฤษภาคม 2549 11:49:43 น.  


nu_1_ka
Location :
กรุงเทพ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




หนึ่งค่ะ..เราสามารถพบเพื่อนใหม่และหามิตรแท้ได้..เพียงเราเปิดใจ มาร่วมแบ่งปันประสบการณ์ชีวิตด้วยกันนะคะ
[Add nu_1_ka's blog to your web]