1 2 3 4 5
6 7 8 9 10 11 12
13 14 15 16 17 18 19
20 21 22 23 24 25 26
27 28 29 30
พรหมลิขิตบันดาล
พรหมลิขิตบันดาล เวลาตกฟากของเรามาจาก คุณ พรหม ลิขิต จริงๆ ลิขิต ให้เรามาเกิดกับแม่ผู้แสนดี และมีพ่อที่ปราญเปรื่อง ทั้งสองท่านทำให้เราได้มีชีวิต ที่เราวาดหวังได้สำเร็จไม่มากไปไม่น้อยไป ชีวิตของเรามีสุขๆดิบๆไม่รู้ว่ามีหนังมีละครไว้แล้วหรือยัง ที่เหมือนกับชวิตของเรา ถ้ายังไม่มี ก็คงนี่แหละเป็นบทละครอีกบทหนึ่งของมนุษย์ ที่ชื่อ หฤทัย บุญทวี เรามีการเปลี่ยนชื่อ จาก พงศ์พริ้ง บุญทวี เป็น หฤทัย เพื่อนๆที่โรงเรียนอินทรพิัชัย จังหวัดสุราษฎร์ธานี มีอยู่ที่จำได้ คือ วัลลา ฉวาง มักเรียกเราว่า เชย์ พิ้งค์ วีณา เปี่ยมสกุล สมคิด จิระศิิเทวัญ (ป่านนี้เขาเหล่านี้คงแต่งงานมีลูกมีหลานไปหมดแล้วสองรอบไว้ต้องหาสมุดที่เพื่อนๆได้เขียนไว้ให้ก่อนจากก่อนจบ ม.ส ๓ เมื่อ ๔๐ ปีก่อน) มีอีกแต่ยังนึกไม่ออก ในตอนนี้ค่ะ ( ขอย้อน จาก ในประวัติผู้เขียนนะคะ) (ดิฉัน ชื่อ เด็กหญิง พงศ์พริ้ง บุญทวี เมื่อกาลครั้งหนึ่งนานมาแล้ว ไม่รู้เป็นบ้า หรือ มี โรคแทรกซ้อนเกิดจากการไปดูหนังเรื่อง เขาชื่อกานต์ ติดใจ ตัวหนังสือ ที่สกดว่า หฤทัย และชอบการออกเสียง ของคำนี้ ถึงขนาด ไปที่อำเภอ ไปที่ห้องทะเบียนราษฎ์ บอกเจ้าหน้าที่ว่า ดิฉันขอเปลี่ยนชื่อค่ะ เจ้าหน้าที่ถามว่า เพราะเหตุใด เราก็บอกอย่างสง่าผ่าเผยว่า ชื่อนี้เป็นอัปมงคล (ดู้ ดู เป็นไปได้ๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ) แล้วจนท ถามต่อว่า จะใช้ชื่ออะไรถึงจะดี หรือชอบ ว่ามา หฤทัย บุญทวี ค่ะ แน่ใจนะ จนท ถามย้ำ ใช่เลย ดิฉันบอก ชื่อนี้แหละค่ะ นับแต่ั้นั้นมา ชื่อนี้ก็มาเป็น ของเราไม่เคยเปลียนแปลง อีกเลย จะเปลี่ยนก็นามสกุล จาก บุญทวี เป็น หฤทัย นนทเกษ อ้อ จากข้างหน้าที่เคยเป็น นางสาว ก็เสียสาวไปคราเดียวกันเหลือแต่นาง ต่อมา หลังจากแต่งงานได้ 24 ปี ก็ต้อง ไปอำเภออีก ไปจดทะเบียนหย่า กับคุณ อดีตสามี หลังจากนั้น 6 ปี ก็ ได้พบคุณเฟรดเดอริก คุยกันได้ 8 เดื่อน ก็ขอแต่งงาน หลังจากไปเที่ยว ที่บ้านเขามาและเห็นการเป็นอยู่ก็ไม่คิดมากแล้ว (เกิด คุณ แกเปลี่้ยนใจตายหยั๋งเขียด)ตกลงแต่งงาน เปลี่ยนนามสกุลอีกแล้วหนอเรา เป็น หฤทัย สมิทSmithนะบัดนั้น พ่อไม่เคยรู้ว่าลูกเสียใจที่ ทำให้พ่อเสียใจกับการที่ไปเปลี่ยนชื่อเป็น หฤทัย ชื่อที่พ่อให้มาด้วยความรักและ ค้นหาอยู่เป็นนาน ที่จะให้ ลูก มีชื่อ อันแสนไพเราะ ว่า เด็กหญิง พงศ์พริ้ง บุญทวี แต่ทุกครั้งที่พ่อเขียนจดหมายมาหาพ่อจะส่ง ถึง นางสาว, นาง พงศ์พริ้ง มิเคยเปลี่ยน และพ่อยังเอาชื่อนี้ มาเป็นนามปากกาในเรื่องที่พ่อได้เขียนอีกด้วย ขอบอกพ่อ กับ แม่ ลูกขอโทษ นะคะ ลูกคนนี้ ก็ยังมีชื่อ เด็กหญิง พงศ์พริ้ง บุญทวี อยู่ในหัวใจ ลูกตลอด ไปค่ะ ดิฉัน ชื่อ พงศ์พริ้ง บุญทวีตราบนิรันต์ ) ชิวิตตอนวัยเด็ก ไปโรงเรียนบ้าง ช่วยแม่ขายของบ้าง หาเงินเลี้ยงครอบครัว โดยการเดินร้องขายขนมให้ชาวบ้านในยามแดดร้อนๆเป็นเวลาพัก ของคนทำงาน เราสนุกกับการขายขนมที่แม่ทำ แล้ว ลูกขาย ได้เงินมาจุนเืจือครอบครัว จนบางครั้ง ครูต้องมาตามดูว่าทำไมไม่ไปโรงเรียน แ่ม่บอกว่าเขา บอกว่าไม่เป็นไรค่อยไปเรียนตามหลังเพื่อนก็ทัน ครูบอกว่าไม่ได้ค่ะ พงศ์พริ้ง ขาดเรียนบ่อย สอบได้คะแนนน้อยกว่าเทอมแรกๆ แม่ก็เสียใจที่ครูบอกว่าเราตกไปอยู่อันดับเลข ท้ายๆ ก็เราชอบขายของและช่วยแม่ พ่อเป็นข้าราชการเงินเดือนแสนจะจำกัดจำเขี่ย น้องๆก็ยังเล็กเรา้ช่วยแม่บรรเทาความเหนื่อยยากลงไปได้บ้างแม่บอกเราว่า ลูกขายเก่งจริงๆ หมดทุกครั้งที่ออกไป เราไม่รู้ตัวเลยว่าเราเป็นผูช่วยและผู้จัดการให้แม่ตั้งแต่อายุย่าง 11 ขวบจนเป็นสาว ขายขนมให้แม่ ทำตารางขนมและวันที่ขาย เพื่อไม่ให้ลูกค้าเบื่อ เมือแม่เก็บเงินได้พอที่จะเหลือมาซื้อผ้ามาตัดเสื้อให้เราได้ แม่ก็จะตัดชุดแสนสวยให้เราใส่ และทยอยตัดให้น้องๆด้วย แม่มีฝีมือในการตัดเย็บ ฉันมองดูในกระจกที่ร้านในตลาดเวลาใส่ชุดใหม่ไปตลาด ฉันเห็นเด้กผู้หญิงแสนสวยคนนั้นในกระจก และภูิมิใจมากที่นางฟ้า คือแม่ทำให้ฉันได้ใส่ชุดที่แสนสวยด้วยมือของท่าน สมัยนั้นจักรแพงแม่เย็บกับมือค่ะเย็บได้สวยเย็บแบบด้นถอยหลัง(สมัยนี้จักใหมคะว่าเป็นไง)ฝีมือเหมือนใช้จักรไม่สังเกตุไม่รู้เลยว่างานมือ งานอดิเรก ตอนที่ยังอยู่ที่เมืองพัทลุงจะออกไปเล่นกับน้าสาว อายุไล่เลี่ยกัน เธอชื่อน้า แจ็สเราเป็น คู่ แสบ ค่ะ เล่น อะไรรู้ใหมคะ สุดฮิตสวิงริงโก้จะตั้งตาคอยว่าเมื่อไรน้าแจ็ส แสนแสบ จะมาพาหลานสาวแสนสวยสุดซน ไปเล่น ทอยลูกแก้วลงหลุม ซักทีหลังโรงเรียนเลิก แกจะมาหาเราก่อนทิ้งกระเป๋าไว้กับแม่เรา แล้ว เราก็ไปแสดงเดช ลูกแก้วไร้เทียมทานกัน สองน้าหลาน เด็กผู้ชายทั้งนั้นค่ะ สอง หญิง ห้า ชาย ใครแพ้หมดถุงก็นั่งดูสองเซียนสาวกันฮิฮิ (ซะใจที่ชนะ)บางคนมาแล้วไม่ยอมลงสนามประลองกะสองเซียนสาวเพราะกลัวหมดลูกแก้วแสนสวยในถุงคุณชายแกกอดไว้แนบแน่น แต่ก็รู้ว่าหมดกะคนอื่นตามสไตส์ บางคนสุดด้าน แพ้หมดแล้วไม่ยอมกลับบ้าน นั่งเฝ้าเรากะน้า พอได้เวลากลับบ้าน ก็แบกถุงอันหนักอึ้งซึ่งเต็มไปด้วยลูกแก้วที่ชนะ แต่บางวันคุณชายบางท่านไม่ยอม ขี้แพ้ชวนตี แกมาทวงลูกแก้วคืน บอกว่า เอ๋าลูกแก้วของผ้มคืนมะ เราก็ถามว่า ของสูก็อยู่กับสู ไซมาขอจากเราฮ้า (พูดใต้)มีคนหนึงขออีกหลายคนก็เข้ามาทำตาม ก็เกิดปากเสียงกัน อะไรจะเกิดขึ้น สองสาวต้องรักษาลูกแก้ววิเศษ ด้วยชีวิต เราเอาลูกแก้ววางไว้ใต้เท้าซ้าย อันน้อยนิด และบอกว่าใครอยากได้ก็เข้ามาเปิดถุงเอา น้าสาวแสนแสบ ถกแขนเสื้อ เตียมท่าหมัดอรหันต์ หลานสาวแสนสวยท้าแหยงๆ เข้ามาเอาแหล ๆๆๆ มีคนหนึ่งใจกล้าผลักเราเกือบล้มเท้าก็เลื่อนจากการเยียบถุง แต่ไม่ทันได้เข้ามาแตะ ถุงลูกแก้วเลย ก็เกิดตลุมบอล สอง หญิง ห้าชาย พวกเขาก็เจอ หญิก ข่วน จากฝ่ามืออรหันต์ มากกว่า อาวุธชนิดอื่น มีชก เตะต่อยด้วยหมัด พลังไร้เทียมทาน แต่ ก็ไม่เวิคเท่าไร ในที่สุด ก็รักษาลูกแก้ววิเศษไว้ได้อีก แต่ โดน เทศกัณต์ใหญ่ จากแม่ของเรา พี่สาวของน้า ฮิฮิ เพราะมีม้าเร็วมาบอกแม่ว่า สองสาวแสนแสบตีกะเด็กหน้าโรงหนังอีกแล้ว (หน้าโรงหนัง ราเมศ สมัยนั้น )ค่ะค่ะค่ะ สองเรารับคำสั่ง และสอน (เหมือนๆกันหลายๆครั้งแล้วหล่าวๆๆๆ แฮ่แฮ่)สักอาทิตย์ ที่คลื่นสงบ เมื่อทนคำท้าไม่ไหวจากพวกที่จะเอาลูกแก้วคืนหวังจะชนะจากเรา เมินเสียเถอะ เพราะเวลาเราสองคนแพ้หน่อยเราก็หยุดก่อนหมดถุง พวกเด็กในตลาดสดไม่ยอมบอกว่าต้องเล่นต่อเอ๊าสวยซิเพ่ ทำไม่มาบังคับกัน อะไรจะเกิดลองวาดมโนภาพดูค่ะ ทำให้สองสาวแสบเหนื่อยกับการฟ้อนเล็บอีกแล้วทั้งที่รอยแผลเก่าที่ฝากไว้ให้ยังไม่หายเล้ย จะขอใหม่อีกล้ะ เมื่อตอนอยู่ที่ อำเภอปากพนัง จังหวัด นครศรีธรรมราช ที่ทำให้คุณครูต้องมาตามบ่อยๆเพราะขาดเรียนก็เพราะ ไปตกปลาในทะเลบ้างในบ่อปลาที่เรือนจำเลี้ยงไว้บ้าง ปลาอ้วนๆทั้งนั้น เป็นปลานิล อาหารที่ปลากินคือขี้หมู ที่นี่จะป็นแหล่งหากินจนปลาแบจะออกลูกไม่ทัน เหยื่อที่เราใช้ตกคือ ไส้เดือน เกี่ยวกับเบ็ด ดิ้นดุกดิกดุกดิก ฮ่าฮ่า กลัวใหม ขยะขแยงใหม ไม่กลัวไม่แหยงอะไรทั้งนั้นส่วนมากจะไปตกปลาตอน ค่ำ หลังสองทุ่ม บอกแม่ว่าไปแล้วนะคะ แม่ไม่เป็นห่วงเพราะเรือนจำมีผ้คุมยืนเวรอยู่บนป้อม รู้ว่าเราเป็นลูก คำพูน มาตกปลา จะกลับเข้าบ้าน เวลาเที่ยงคืนจัดการเอาปลาใส่ในกาละมังใหญ่ๆได้ปลาเยอะมาก ให้น้ำให้ท่า ปลา เสร็จเข้านอน ตื่นมาตอนเช้าโดยที่แม่ไม่ต้องเรียกปลุก จัดการร้อยปลาด้วยเชือกกล้วยใต้เหงือก เป็พวง พวงละ 5 ตัว 5 ถึง 10 บาท ปลาตัวใหญ่ไม่เท่ากัน นี่อีกงานหนึ่งของเราที่ชอบมากๆ เวลาตกปลาบางครั้งเอาหนังสือไปอ่านด้วย ขยันใหม๊ ตกภาษาไทย เป็นส่วนมาก เมือเราเป็นผู้ใหญ่ มีครอบครัวมีลูก เรารู้ว่า เราทำอะไรบ้างให้แ่ม่ชื่นใจ และพ่อ ด้วย มันไม่พอเลยที่ได้ทำมา เพราะแม่ก็มาด่วนจากไปเสียก่อนเมื่อตอนที่เราอายุแ่ค่ 25 ปี เราได้ทำหน้าที่ ทั้งแ่ม่ และ พี่ให้น้องๆ ได้ตามอัตภาพ พอน้องๆโตเขาก็แยกย้าย ไปทำงาน เราก็มีลูก สามคน ต้องเลี้ยงดู ทำงานบริษัท ไทเสรี ได้ นานมาก 13 ปี ก็ลาออก มาทำธุระกิจส่วนตัว ขายเสื้อผ้า ,ทำร้านเสริมสวย,ทำห้องอาหาร .ทำเกสเฮ้าส์ จนกระทั้งเลิกกับสามี ก็ไปทำงานกับเพื่อนไปดูแลรีสอทร์ ส่งลูกค้าให้เืืรือทัวร์และโรงแรม พบชาวต่างชาติบ่อยขึ้นทำให้ต้องเริ่มเรียนอ่านเขียน ภาษาอังกฤษใหม่ แบบ Snake Snake Fish Fish พูดกับฝรั่งเหมื่อยมือไปหมด โชดดีที่ยังพอเหลือคำศัทพ์ที่พอจำได้บ้างครูไม่ได้เอาคืนไปเสียหมด แต่ก็หากินกับฝรั่งได้ YES NO OK WHAT WHERE WHEN WHY SORY What you say ? wait wait แล้วก็เปิด ดิกชั่นรี ค้า////////// เห็นใหมคะ ได้ทิปกับ YES NO OK WHAT WHERE WHEN WHY SORY What you say ? wait wait นี่แหละเจ้าข้าเอ้ย อาศัยใจกล้าหน้าด้าน พูดไม่กลัวผิด ที่กลัวคือกลัวไม่ได้ทิป ค้าาาาาาาา มหาวิทยาลัยชีวิตของเราค่ะ เอวังด้วยประการฉะนี้
Create Date : 24 กันยายน 2552
8 comments
Last Update : 5 ตุลาคม 2552 15:45:39 น.
Counter : 475 Pageviews.
โดย: erbhern 24 กันยายน 2552 8:05:02 น.