การแยกแยะถูกผิด...ทำได้ไม่ยากขอแค่มีใจเป็นธรรม....จริงๆนะ...
ผมคิดว่าการถกปัญหาเรื่องจำนำข้าวแตกต่างจากการประกันราคาข้าวนั้น... เมื่อคุณวอนบอกยุติก็ควรยุติ..เพราะต่างก็ยืนยันว่า..ฝ่ายตนดีกว่า.. เถึยงกันไปก็หาประโยชน์อันใดมิได้..??? แต่ผมคิดถึง..การใช้เงินของรัฐ..ในลักษณะต่างๆกัน.. เอาง่ายๆใน กท.ก็มีการลงทุนมากมายที่บ้านผมไม่มี.. ผมมา กท อดชื่นชมคน กท ที่มีรถไฟฟ้า อุโมงค์ สะพานลอย วงแหวน ฯลฯ ในขณะที่บ้านผมมีเพียงไฟแดงตามสี่แยกที่บางสี่แยกก็ไม่ทำงาน... เพราะถือว่าเมืองนี้เป็นเมืองหลวงที่ต้องมีการอำนวยความสะดวกก็ไม่ว่ากัน... แต่ครั้งหนึ่งหลายปีมาแล้วผลัดหลงไปเมืองสุพรรณบุรี.. โอ้..อุแม่เจ้า..เมืองนี้ก็มีการลงทุนที่สุดยอดกระหล่ำปลีที่บ้านผมตามไม่ทัน... เอาแค่เสาไฟฟ้าต้นสูงใหญ่นับไม่ถ้วน เกาะกลางถนนที่สวยงาม..ไปถึงเทาเวอร์กลางเมือง.. เรียกว่า บ้านผมชิดซ้ายไปเลย..นี่เค้าเรียก บุญคนเราไม่เท่ากันจริงๆ...
ผมพล่ามๆมานี่..ไม่ใช่เรื่องอะไรหรอก..เพราะถึงยังไงผมก็ยังพอใจบ้านผม...เหมือนเดิม.. แต่จะบอกว่า..เงินที่นายกทักษิณเอามาจำนำข้าวเพื่อกระตุ้นราคาข้าว.. ให้ชาวนาได้เงินจากการขายข้าวให้มากกว่าที่เคยได้... แม้จะเป็นเงินไม่กี่พันล้าน..ก็นับว่าได้ผลอย่างเอนกอนันต์... สำหรับผมคิดว่า ดีกว่าไปซื้อเจ้าไอพ่นหมื่นกว่าล้านด้วยซ้ำ..(พูดจริงๆนะเนี่ย..) ทำไม..จึงต้องคิดว่า..ชาวนาควรขายข้าวแค่ไม่ขาดทุน.. แถมผู้ตั้งราคาก็คือคนที่ซื้อข้าวจากชาวนานั่นเอง... ทำไม..จึงคิดว่างานที่เป็นกระดูกสันหลังของชาติ..ควรได้เงินแค่ไม่ขาดทุนก็พอ... วันนี้ผมเดินเข้าร้านมินิมาร์ทแห่งหนึ่ง..เห็นราคาข้าวถุงละ 1 กก.ถุงละ 40 บาท.. แน่นอนถ้าข้าวสารหอมมะลิขายปลีก กก ละ 40 บาท.. ชาวนาควรขายข้าวได้ เกวียนละ..17000-19000 บาทซิครับ... แต่เปล่า..ความจริงคือวันนี้ชาวนาขายข้าวได้เพียงเกวียนละ 14000 ก็ถือว่าดีแล้ว... เพราะปีที่แล้วราคาไม่เกิน 12000 ด้วยซ้ำ... จึงไม่น่าแปลกใจหรอกว่า..หนุ่มสาวทุกวันนี้ทิ้งนาเข้าทำงานโรงงานกันหมด.. มีเพียงยุคนายกทักษิณที่เกิดกระแสที่คนอีสานอยากกลับบ้านมาปลูกข้าว.. ครับ..ก็บ่นๆไปตามเรื่องที่พบเห็นมาที่บ้านผมนะครับ...
ผมคิดว่าเราให้ความสำคัญแต่ละอาชีพนั้น..อยู่ที่มุมมองของรัฐบาล.. เพมือนรัฐบาลนี้ท่านให้ความสำคัญกับชาวสวนยางมากกว่าชาวนา... เมื่อเกิดน้ำท่วมที่ผ่านมา ท่านชดเชยสวนยางไร่ละ 9000 ถึง 15000..??? ในขณะที่นาข้าวที่กำลังออกรวง ท่านให้ไร่ละ 606 บาทและมาเพิ่มเป็น 2000 (ถ้าจำไม่ผิด) แต่ตัวเลข 606 บาทนี่ผมคงจำได้ไปอีกนาน..เพราะนึกไม่ออกว่าคนคิดเอาอะไรมาเป็นเหตุ.. ให้สรุปออกมาว่า 606 บาท ทำไมต้องมี 6 บาทด้วย..ทำไมไม่ 600 ถ้วน..????? หรือทำไมไม่ 610 บาท หรือ 650 บาท...?????? เงิน 6 บาทนั้นมีนัยสำคัญอะไร..??? นี่เป็นสิ่งที่ผมคิดตั้งแต่วันนั้นจนถึงวันนี้... อยากรู้จริงๆ..ท่านใดมีข้อมูลที่มาของเงิน 606 บาทช่วยเล่าให้ผมฟังที..???? ถ้าเราคำนวณว่านาข้าว ไร่ละ 606 บาท 1500 ไร่จะได้เงิน 900,000 บาท ทำให้คิดไปถึงว่า....นาข้าวตั้ง 1500 ไร่ คิดว่า ไร่หนึ่งได้ข้าวแค่ 300 กก/ไร่.. จะได้ข้าวออกมา 450,000 กก..จึงมีค่าเท่ากับ GT200 เพียง 1 อัน..???? อันนี้เป็นสิ่งที่ผม งง จริงๆ...?????
............................................................................................................
เรื่องที่ผมยังรู้สึก งง กับคุณวอน ยังมีอีก 2 เรื่อง... เรื่องแรกคุณวอนก็ยังยืนยันว่า..ผมเป็นคนพูดเรื่องต้นไม้...จากคำพูดนี้.. ".....ต้นไม้ที่คุณ คนอุบลว่ามาก็เช่นกัน ใบก้อไม่ใช่ใบเดิม เปลือก ก้อไม่ใช่เปลือกเดิม ทั้งหมด มันได้หลุดลอกเปลี่ยน ไปเปนไม้ใหม่ ต้นใหม่ไปหมดสิ้นแล้ว..."
เฮ้ออ...ผมเพียรพยายามบอกว่า..นั่นคือธรรมะที่ผมยกมาของหลวงปู่ชา...ผมยกมาอีกทีนะครับ...
ธรรมะของฝากเช่นเคย...ธรรมะหลวงพ่อชา...
"....อย่างแต่ก่อนนี้เราเป็นเด็ก แต่ตอนนี้เราโตแล้ว... คนโ๖กับเด็กมันคนละคนหรือเปล่า หรือคนๆเดียวกัน.... หรืออย่างต้นไม้ที่อยู่หน้าบ้านเมื่อก่อนมันอยู่ในกระป๋อง... แต่ว่ามันโตขึ้น เดียวนี้มันสูงหลายเมตรแล้วนะ..... ต้นไม้นั้นมันต้นเดียวกับที่อยู่ในกระป๋องหรือเปล่า......
....นี่ละมันเปลี่ยนอย่างนี้..มันก็คนๆเดียวกันนั้นเองละ... เราทุกๆคนก็คนๆเดียวกัน..ไม่ใช่คนละคน... ถ้าเรารู้จักตัวของเราจริงๆ แล้วเราจะไม่เบียดเบียนใคร... คนที่เบียดเบียนกันในโลก..คือ คนโง่ ที่สุด....."
จาก..คิดให้ดีๆ...หนังสือ"ความผิดในความถูก" หน้า 73
..............................................................................................................................
แต่คุณวอนก็พยายามยัดเยียดให้ว่าเป็นผมกล่าว..และที่สำคัญคุณวอนก็ไม่เห็นด้วย ซึ่งจริงๆอันนี้เป็นเรื่องธรรมดา ที่คุณวอนจะไม่เห็นด้วย..เพราะเป็นเรื่องความคิดของแต่ละคน.. แต่ที่ผมเข้าใจ หลวงปู่ท่านชี้ให้เห็นถึงความเปลี่ยนแปลงของสังขาร.. ตามวัฏสังสาร ตามกฏไตรลักษณ์..ที่มีเกิด แก่ เจ็บ ตาย... วันนี้เป็นเด็ก ต่อไปก็เป็นผู้ใหญ่ แล้วก็เป็นคนแก่ แล้ววันหน่ึงก็ต้องตาย... ท่านถึงบอกว่า ถ้าเรารู้ว่า..วัฏสังสารเป็นเช่นนี้..เราก็จะไม่คิดเบียดเบียนใคร??? เพราะถึงวันหนึ่งทุกคนก็ต้องตาย..ไม่ช้าก็เร็ว.. การไปเบียดเบียนคนอื่น จึงเป็น คนโง่...ผมเข้าใจว่า แบบนี้... ส่วนคุณวอนจะเข้าใจว่า ผิวหนังเก่าหลุดลอกไปจึงเป็นคนใหม่.. อันนั้นก็แล้วแต่คุณวอนจะเข้าใจ..ผมคงไม่สามารถเปลี่ยนความคิดนั้นได้... แต่ที่ผมอยากให้เข้าใจคือ..ธรรมะครูบาอาจารย์..ผมเพียงผู้ยกมา..เท่านั้น... อย่ามาบอกว่าผมเป็นคนพูด..?????
...........................................................................................................................
อีกเรื่องคือเรื่อง กิ๊ฟ...ที่ผมยกมาเพื่ออุปมาอุปไมยว่า.. ถ้าคุณวอนแย้งได้ดี อย่างน้อยเพื่อนร่วมอุดมการณ์คงให้กิ๊ฟบ้าง... แต่กระทู้ที่แย้งผมนั้น ไม่มีใครให้กิ๊ฟเลย อาจจะเพราะเค้าเห็นว่า คุณวอนเข้าใจผิดเรื่อง"ธรรมะ" ผมไม่ได้บอกเลยว่า..กิ๊ฟเยอะ คือ ความถูกต้อง....เหมือนคุณวอนและบางคนคิด... ผมคิดว่า..บางท่านคิดว่า ห้องนี้เสื้อแดงเยอะ... แต่หลายคนคงลืมไปแล้วว่า..ถ้าคนเสื้อหลากสีเขียนถูกใจ.. คนห้องนี้ก็ยินดีให้กิ๊ฟกันอย่างมากมาย..ไม่ว่าจะเป็นเสื้อสีใด.. เหมือนกระทู้เรื่องทางขึ้นเขาใหญ่..คุณวอนก็ได้กิ๊ฟมากมาย..(คงจำได้..) และผมก็ยังยืนยันว่า..กิ๊ฟ เป็นแค่สิ่งที่บอกว่า..มีคนถูกใจกระทู้เราเท่าใด.???? สำหรับผม..กิ๊ฟเป็นแค่นั้นจริงๆ....
.........................................................................................................................
การพูดกันถกกันผมคิดว่า..นอกเหนือจากข้อมูลแล้ว.. ที่สำคัญก็คือ จิตใจที่เป็นกลาง..ที่แยกแยะถูกผิดได้ชัดเจน... เหมือนที่คุณวอนเห็นด้วยเรื่อง ทางขึ้นเขาใหญ่ที่ควรประนาม... ผมคิดว่า อะไรผิดเราก็ควรช่วยกันประนาม เพื่อไม่ให้เกิดขึ้นอีก... ไม่ไช่เพราะเรารักเราเชียร์..เราก็ทำเป็นไม่รู้ไม่เห็น... เหมือนทุกวันนี้..ความผิดมากมาย..ที่ยังไม่มีใครถูกลงโทษ... ข้าวบูด ข้าวเน่่า เสาธง รวมไปถึง ยุทโธปกรณ์ต่างๆ... ไม่เห็นมีใครพูดถึงเลย..หรือจะไปให้หายไปกับสายลม.... เพราะนับรวมๆกันก็เป็นเงินภาษ๊อัหโขอยู่..... คุณวอน จะไม่พูดถึงเลยหรือครับ....??????
.........................................................................................................................
วันนี้เช่นเคยครับ..เอาธรรมะท่านอาจารย์ ชยสาโรมาฝาก..."อย่าไปท้อ "
ถ้าเรากำลังมีปัญหาก็อย่าไปท้อใจ อย่าหดหู่ใจแต่ปลอบใจตัวเองว่า ถ้าเราอดทน ถ้าเราไม่ท้อถอย ในที่สุดเราต้องผ่านอุปสรรคนี่ได้เพราะพระพุทธองค์ทรงยืนยันได้ว่า ทำดีได้ดี ทำชั่วได้ชั่ว อันนี้เป็นกฏตายตัวของธรรมชาติ
ไม่ได้เอามาจากไหนครับ..อยู่ในบล๊อกครับ...
..........................................................................................................
โชคดีทุกท่านครับ....
Create Date : 29 ธันวาคม 2553 |
|
3 comments |
Last Update : 29 ธันวาคม 2553 3:35:20 น. |
Counter : 1087 Pageviews. |
|
|
|
อรุณสวัสดิ์ค่ะพี่
ตื่นแต่เช้าเหมือนกันค่ะ
มัวแต่ทำโน่น ทำนี่ เพิ่งมาเปิดบล๊อคอ่ะค่ะ
ทานกาแฟด้วยกันก่อน นะคะ
ปล. สดชื่นในวันที่อากาศดี ๆ ดีกว่าค่ะพี่