วันนี้อากาศดีขอคุยเรื่องเบาๆ.."การปล่อยวาง"...และจบด้วยการชื่นชม"นายกปู"เช่นเคย...
เมื่อวันก่อน..ผมเรียกลูกน้องคนหนึ่งมาคุยด้วย...เพราะเห็นหล่อนซึมเศร้าผิดสังเกตุ... แน่นอนที่สุดครับ..สำหรับหนุ่มๆสาวๆแล้วเรื่องที่ทำให้กลัดกลุ้ม..ไม่พ้นเรื่อง"ความรัก"...??? หล่อนเล่าให้ฟังว่า..แฟนที่อยู่ไกลกันไปมีพิรุธไปคบกับแฟนเก่า..ที่ว่าเลิกกันแล้ว..??? แน่นอนครับ..เรื่องส่วนตัว..ผมก็คงไปยุ่งเกี่ยวอะไรมากไม่ได้..??? ก็ได้แค่แนะนำไปว่า.."ปล่อยวาง"บ้างเถอะ..หากไม่ใช่เนื้อคู่เรา..เศร้าไปก็ป่วยการ.. เป็นการทำร้ายตนเองเปล่าๆ..และทำให้เราเสียงานเสียการไปด้วย..????
เมื่อวาน..หล่อนกลับมาหาผม..บอกว่าเอาคำที่ผมบอกไปคิดดูแล้ว... อยากถามว่า..จะ"ปล่อยวาง"ได้อย่างไร..???? ผมจึงอธิบายช้าๆ.."ปล่อยวาง"คำนี้คือ..คุณธรรมข้อที่ 4 ในพรหมวิหาร 4 คือ.."อุเบกขา".. การปล่อยวางนั้น..ให้เข้าใจง่ายสุดคือ.."ตั้งใจในเหตุ..แต่ไม่หวังในผล.." หรืออีกอย่างคือ..ให้เชื่อว่า.."สรรพสิ่งในโลกนี้ล้วนไม่แน่นอน(อนิจจัง).." หากเราสามารถเข้าใจและปฏิบัติใน 2 ข้อนี้..นั่นคือ..การปล่อยวาง...??? หล่อนทำหน้ารุ่นคิด..รำพึงว่า.."ตั้งใจในเหตุ..แต่ไม่หวังในผล.."หรือค่ะ...???? "..ใช่..เอางี้..ตัวอย่างง่ายๆเช่น.คำสอนหลวงพ่อชา... เสมือนเราปลูกต้นไม้..เราต้องตั้งใจดูแลรดน้ำพรวนดินใส่ปุ๋ย..ให้ดี.. แต่ผลไม้ที่ออกมา..จะมากจะน้อยจะหวานจะเปรี้ยว..ไม่ใช่สิ่งที่เรากำหนดได้..??" หากเราไปคิดว่า..ต้นไม้ต้องให้ผลเราอย่างนั้นอย่างนี้..แล้วไม่ได้..เราก็มานั่งทุกข์ใจ.. และสิ่งสำคัญเวลาเราทุกข์ใจ..ก็ส่งผลให้กายเราไม่สามารถทำงานได้..กะเพาะก็ไม่ทำงาน.. กินไม่ได้นอนไม่หลับ..เป็นการทำร้ายตนเอง...????
คนเราทุกคนเกิดมามักเจอเรื่องที่เราไม่สมหวังเสมอ... แต่คนที่มี"ปัญญา"เท่านั้นจึงสามารถควบคุมไม่ให้ความทุกข์นั้นทำร้ายตนเองได้.. คือ..รู้จักว่า..สิ่งไหนเราควบคุมได้..หรือสิ่งไหนเราควบคุมไม่ได้... "ความรัก"เป็นสิ่งดีสิ่งสวยงาม..แต่หากเราไม่มีปัญญามองเห็นและกำกับมัน.. ความรักก็มีโทษทำให้เราเป็นทุกข์ได้ เช่นกัน.. ยกตัวอย่าง..ความรักจะทำให้เกิด"ความเป็นเจ้าของ"ยิ่งรักมากก็หวงมาก..ห่วงมาก.. ความหวงและความห่วงนี่ดูเหมือน"ดี"แต่จริงๆแล้ว"ไม่ดี.." เพราะนอกจากทำร้ายตนเองแล้วยังทำให้คนอื่นรำคาญอีกด้วย... หลายๆครั้งที่ความหวงความห่วงกลายเป็น"ความหึง"จนเกินขอบเขต.. และนำมาซึ่งการทะเลาะวิวาทอย่างไร้เหตุผล..????
คำถามต่อมา.."แล้วทำอย่างไรหนูจึงจะสามารถ"ปล่อยวาง"ได้..???" "การปล่อยวาง"ไม่ใช่สิ่งที่เกิดเองได้..เพราะเรามีกิเลสตัวหนึ่งคือ"ความหลง"เลี้ยงจิตเราอยู่.. หากเราจะรู้จักการปล่อยวางนั้นเราต้องเข้าใจความหมายของคำว่า"ไม่แน่"อย่างลึกซึ้ง.. มองการสูญเสียก่อนการสูญเสีย..เช่นมองเห็นแก้วแตกก่อนแตก.. พอแก้วใบนั้นแตกจริงๆ..เราก็ไม่เกิดควาทุกข์เพราะเราเห็นแตกมาก่อนแล้ว.. เหมือนการจาก..เราทำใจยอมรับการจากแล้ว..เมื่อการจากมาถึงจริงๆ..เราก็ไม่ทุกข์ใจจนเกินไป... ดังนั้นการฝึก"การปล่อยวาง"นั้น..ก็ต้องฝึกใจให้เข้าใจ"ความไม่แน่ไของโลกให้ได้.. ลูกน้องผมจากไปด้วยใบหน้าที่สดชื่นขึ้น..ใจสบายขึ้น..
ผมใช้ความรู้เรื่องพุทธสาสตร์ที่มีเพียงน้อยนิดที่ร่ำเรียนมาจากครูบาอาจารย์..มาแนะนำคนรอบข้าง.. อย่างน้อยผมก็เชื่อว่า..พุทธศาสตร์จะเป็น"ยา"ช่วยชุบจิตใจเค้าเหล่านั้นให้ดีขึ้นได้.. คนเราทุกวันนี้น่าเสียดายว่า..บอกว่าตนเองเป็น"ชาวพุทธ"แต่..กลับไม่ได้ประโยชน์จากการเป็นพุทธ...??? พูดถึงตรงนี้..ทำให้คิดถึงนายกยิ่งลักษณ์..ที่ผมชื่นชมว่า..เป็นคนหนึ่งที่มี"อุเบกขา"อย่างดีเยี่ยม.. เพราะแม้จะถูกคนดีแต่พูดโจมตีแค่ไหน..นายกปูก็นิ่งเฉยไม่ตอบโต้..สักกะคำ.. นับเป็นผู้เข้าใจในการ"ปล่อยวาง"อย่างลึกซึ้งมากมาย... ขอชื่นชมและให้กำลังใจนายกปูครับ....
Create Date : 08 ตุลาคม 2556 |
|
1 comments |
Last Update : 8 ตุลาคม 2556 8:24:43 น. |
Counter : 1358 Pageviews. |
|
|
|