ร้อนนักก็พักร้อน @เขื่อนเชี่ยวหลาน 2/2
ตื่นแต่เช้า พอมองออกมาด้านหน้าแพก็จะเห็นวิวอย่างนี้ค่ะ โชคดีที่เมื่อคืนฝนตกอีกรอบ เช้านี้เลยมีหมอกบนเขาอย่างที่เห็น แถมอากาศก็สดชื่นมากๆ
อาหารเช้าวันนี้เป็นข้าวต้มกุ๊ย และกับข้าวแบบง่ายๆ เสิร์ฟถึงโต๊ะทานกันเติมได้ไม่อั้นเหมือนเดิม
จากนั้น เราก็ออกเดินทางกันต่อ วันนี้เราจะย้ายที่นอนไปยังแพคลองแสง ซึ่งเป็นของราชการ ไม่ได้เป็นของเอกชนแบบแพเพลินไพร เป็นแพที่พักที่อยู่ไกลที่สุดดังนั้นจะสงบเงียบมาก ส่วนใหญ่แขกที่ไปพักจะมีกิจกรรมไปส่องสัตว์ ตกปลา และเดินไปดูต้นน้ำคลองแสง ใช้เวลาเดินทางโดยเรือจากหน้าเขื่อนประมาณเกือบสองชั่วโมง
เราแวะชมสัญลักษณ์ของเขื่อนเชี่ยวหลานกัน ที่ว่ากันว่าเป็นกุ้ยหลินเมืองไทย คือเป็นแท่งหินสามก้อนตั้งอยู่เป็นกลุ่ม เดิมมีชื่อว่าหินสามเกลอ แถวๆนี้มีเรือนำเที่ยวมากันเยอะมาก
เนื่องจากว่าแพคลองแสงตั้งอยู่ลึกมาก พวกเรากลัวว่าอาหารการกินจะไม่อุดมสมบูรณ์ เลยถามลุงว่าระหว่างทางมีที่ไหนที่พอจะซื้อขนมนมเนยไปกินได้มั้ง ลุงเลยพามาแวะที่หมู่บ้านชาวประมงเล็กๆแห่งหนึ่ง เพื่อมาหาซื้อขนมเติมเสบียง
มีกระชังเลี้ยงปลาอยู่ข้างบ้าน แต่ไม่มีขนมขายเลยซักบ้าน (แต่ไม่เป็นไรเมื่อวานแอบฝากลุงซื้อแตงโมจากฝั่งมาแล้วสองลูก)
หนึ่งชั่วโมงต่อมาเราก็มาถึงแพคลองแสง
บ้านพักของเรา จะดูบ้านๆกว่าของแพเพลินไพรนะ
ห้องก็สะอาดสะอ้านดีค่ะ แต่ว่าคราวนี้ไม่มีประตูปิด เป็นช่องประตูแล้วก็มาเจอที่นอนเลย ส่วนห้องน้ำก็ต้องเดินขึ้นไปบนเนินเหมือนกันค่ะ
อาหารเที่ยง ทานก่อนออกไปดูต้นน้ำคลองแสง
การเดินไปต้นน้ำต้องเดินเข้าป่า ปกติจะล่องเรือเข้าไปในคลองได้ไกลกว่านี้ แต่ช่วงที่เราไปเป็นหน้าร้อน น้ำในคลองมันเลยแห้ง ต้องเดินไกลขึ้นอีกหน่อย ทางก็ยากลำบากอยู่ ไม่ได้เตรียมตัวเดินป่าไป คือทุกคนใส่กางเกงขาสั้นกันไปหมดเลย ยังดีที่เราติดผ้าใบไปด้วย แต่มีเพื่อนเราคนนึงใส่รองเท้าแตะเดิน ก่อนไปเจ้าหน้าที่บอกว่าช่วงนี้ไม่มีทาก เพราะเป็นหน้าร้อนทุกคนก็ค่อยสบายใจขึ้นมาหน่อย
ระหว่างเดินเลียบคลองก็เจอรอยเท้าและขี้ของสัตว์มากมาย ทั้งช้าง กวาง กระทิง ที่ลงมากินน้ำ เดินต่อไปซักพักก็ต้องเดินเข้าป่าทึบ แทบมีใครได้ถ่ายรูปในป่าเลย เพราะมัวแต่หลบทาก คือทากเยอะมาก ชูคอกันสลอนเลย พวกเราเลยวิ่งหนีกันป่าราบ ไม่กล้าเดินช้าๆ กลัวทากจะเกาะขาทัน ยิ่งคนที่กลัวทากที่สุดก็คือเพื่อนที่ใส่รองเท้าแตะไป ทั้งกลัวทั้งฮาเลยค่ะ
นี่เป็นไม่กี่ภาพที่ถ่ายมา เป็นภาพมุมต่ำหมดเลย เพราะมองพื้นอย่างเดียว ช่วงนี้ยังเจอทากไม่เยอะด้วย 55
เดินไปเรื่อยๆจะมีน้ำตกให้เล่น ก็เลยลงไปเล่นคลายร้อน ข้อดีอีกอย่างคือในน้ำไม่มีทากค่ะ
ตอนเดินกลับทุกคนเลยลงมติกันว่าเราจะยอมลุยน้ำในคลองกลับไปโดยไม่เข้าป่าอีกแล้ว แม้ว่าทางจะสั้นกว่าสบายกว่ายังไงก็ตาม จากการเดินมาทั้งสองแบบ เราว่าเดินป่าสบายกว่า แต่ก็กลัวทากขึ้นสมอง ส่วนเดินลุยน้ำเจอทั้งโคลนเลนแบบเดินตกไปทีจมลงไปถึงขาอ่อนเลย บางช่วงก็ต้องยกเป้ชูเหนือหัวเพราะน้ำลึก แต่ก็สามารถเดินกับอย่างสบายใจ สรุปงานนี้มีเพื่อนเราโดนทากกัดไปสองคน ส่วนแก๊งฮอบบิททั้งสามคนไม่มีใครโดนกัดเลย สงสัยวิ่งเร็วมาก ทากกระโดดไม่ทัน
รูปนี้ถ่ายตอนขากลับ ผู้รอดชีวิต ดีใจมาก กลับออกมาจากดงทากได้อย่างปลอดภัย
กลับมาอาบน้ำหน้าบ้าน แล้วก็มานั่งเม้าท์กันอย่างมีความสุข รอกินข้าวเย็น
วิวที่แพคลองแสงจะสวยสู้ฝั่งแพเพลินไพรไม่ได้ ที่นี่จะเป็นเนินภูเขาธรรมดา แต่ถ้าวิวที่แพเพลินไพรจะเป็นเขาหินปูนสูงชะลูดไปเลย ข้อดีของแพคลองแสงคือมันเงียบ เป็นส่วนตัวมาก (แม้จะไม่มีประตูห้องนอน) ได้ยินเสียงชะนีเสียงนกการะงมไปหมด แถมใกล้ๆที่พักยังเจอฝูงลิง ฝูงกวางลงมากินน้ำอีกด้วย
ตกกลางคืนเรามีกิจกรรมไปส่องสัตว์ไนท์ซาฟารีโดยการล่องเรือ คืนนั้นเจอกวาง ลิง กระทิงแบบไกลมากๆๆๆ ตอนเช้าตื่นมาก็ไปส่องสัตว์อีกรอบ เจอลิง และนกเหยี่ยว
พอกลับมา ก็เก็บของเตรียมตัวกลับ ใจจริงยังอยากอยู่ต่อนะเนี่ย ชาร์ตแบตให้ตัวเองได้ดีมากเลยแหละ อำลาเจ้าถิ่นตัวนี้ก่อน เจอคอร์สนวดแบบพิเศษเข้าไปก็ติดกลุ่มเราแจเลย
ขอบคุณคุณลุง ที่เป็นทั้งไกด์นำเที่ยว คนขับเรือ ลุงใจดีมากแถมยังตลกด้วย
ตอนเที่ยงแวะทานข้าวกันที่แพสายชล บรรยากาศดีจังแฮะ คราวหน้าอยากลองมาพักที่นี่มั้งจัง อาหารทริปนี้อร่อยทุกมื้อเลยค่ะ สงสัยชอบอาหารใต้ รสชาติร้อนแรงดี
ไว้มีโอกาสจะมาเที่ยวใหม่นะจ้ะ เชี่ยวหลาน.....
Create Date : 02 พฤษภาคม 2553 |
|
4 comments |
Last Update : 2 พฤษภาคม 2553 15:39:05 น. |
Counter : 3291 Pageviews. |
|
|
|