ประมาณร่วม 2000 ปีต่อมา ชาติมหาอำนาจตะวันตกอย่างอิตาลีที่แตกเป็นก๊กเป็นเหล่าจนต้องรบราฆ่าฟันกัน เองเหมือนชาวเอเชียในยุคสมัยหนึ่ง ก็เกิดมีอัจฉริยะบุคคลอย่าง 'มาคีอาเวลลี' (Machiavelli) ผู้รจนาตำราเล่มสำคัญอย่าง The Prince และ The Art of War ที่แทบจะไม่แตกต่างไปจากแนวความคิดใน 'ราชานีติ' ของ 'จาณักยะ' แต่ใช้ลีลาการเขียนแบบบทสนทนาโต้ตอบที่คล้ายกับตำราของ 'หานเฟยจื่อ' ทั้งยังวางรากฐานด้านกฎหมายให้กับการเมืองการปกครองของอิตาลีในยุคนั้นที่ แทบจะโหดเหี้ยมไม่ยิ่งหย่อนไปกว่า 'สำนักฝ่าเจีย' ของ 'หานเฟยจื่อ' อีกด้วย !!! ...
There was a very famous statement by the Archbishop of Canterbury in the Second World War, William Temple, and I think it sums it up, 'we are only 3 meals away from anarchy.' if you're heading towards your third missed meal and there's nothing in the local Tesco express, what do you do?
I think we've got to start shifting the discussion away from 'what can we do to survive?' to 'what can we do to ensure that nature survives, and therefore, we survive?' I think we have to remember we are a wondering species, we are the ones that gaze the stars and wonder who the hell we are, we are the ones who sit by the sea and look at the infinity of the sea disappearing into the horizon and see that as a metaphor for our own lives. And at the moment we purely become concerned with nature as something that sustains us, rather than feeds us spiritually, psychologically and emotionally, I think we've lost the plot.
๓สายในเชิงรูปธรรมและนามธรรม ความจริง ความดี ความงาม (๓/3/และIII)
และแบ่งเป็น๑. วิทยาศาสตร์กายภาพ/วัตถุธาตุ ระเบียบระบบโครงสร้าง กระบวนการ ปรากฎการณ์ และพฤติกรรมของมันในจักรวาลอวกาศ
๒.ศาสนา ระเบียบระบบโครงสร้างทางจิต ปรากฏการณ์ กระบวนการและพฤติกรรมของมนุษย์/สังคมมนุษย์ รวมทั้งความสัมพันธ์กับจักรวาลพระเจ้าและสภาวนิพพาน
๓.มนุษย์ศาสตร์
๔.สังคมศาสตร์
โดยที่มนุษย์ศาสตร์และสังคมศาสตร์ น่าจะเป็นพัฒนาการลูกผสมของศาสนาและหยืบยืมวิธืวิทยามาจากวิทยาศาสตร์ เพื่อให้เป็นศาสตร์ที่ยืนอยู่บนความจริงอันพิสูจน์ได้ แต่จิตและวิญญาณมันยังจับต้อง ทำให้นิ่งไม่ได้
จากคุณ : ขามเรียง - [ 3 ม.ค. 52 11:53:57 ]