Bloggang.com : weblog for you and your gang
ท่องเที่ยว เดินทาง ของกินอร่อยๆ รีวิวที่พัก
Group Blog
My Trip
ของกิน
ที่พักดีๆ มาดูกัน
มิถุนายน 2553
>>
1
2
3
4
5
6
7
8
9
10
11
12
13
14
15
16
17
18
19
20
21
22
23
24
25
26
27
28
29
30
13 มิถุนายน 2553
อยุธยา ตลาด ๆๆๆ ความสุข ความทรงจำ ไม่มีสิ้นสุด
All Blogs
ตลาดน้ำวัดตะเคียน ปฏิมากรรมสมัยใหม่ ไม่ไกลด้วย
เจ็ดคต โป่งก้อนเส้า ไม่ไกล น่าไปมากครับ
ภูเก็ต สวยงาม บินถูกจริงแต่หมดอย่างอื่นแทน
HongKong เที่ยวเมืองนอกมันดีอย่างนี้นี่เอง
Overcoat Music festival เขาค้อครับ
ไปลำปางกันครับ กับวันที่ควรจะหนาวได้แล้ว
ทุ่งบัวตอง สองวันหนึ่งคืน My life My style.
อุทัยธานี ห้วยขาแข้ง ก่อนวันน้ำเยอะ
อุทยานแห่งชาติหมู่เกาะชุมพร ตามหา กุ้งดีดขัน
เข้าค้อฤดูฝน เสน่ห์ที่น่าหลงใหล
สุโขทัย ศรีสัชนาลัย ยามไร้คนก็สงบดี
ช่องเย็น สบายๆ กับแมลงร้าย
เวียดนามใต้ ทะเลทราย อาหารทะเลและมอไซด์
สามวัน แปดอุทยาน ฯ มีไดโนเสาร์ด้วย
ฮ่องกง First flight in my life แต่ลงเอยที่มาเก๊า
อยุธยา ตลาด ๆๆๆ ความสุข ความทรงจำ ไม่มีสิ้นสุด
สิมิลัน มนต์เสน่ห์แห่งอันดามัน มิตรภาพ รอยยิ้ม และเกลียวคลื่น(ยักษ์)
อยุธยา ตลาด ๆๆๆ ความสุข ความทรงจำ ไม่มีสิ้นสุด
เช้าวันอาทิตย์สดใสเริงร่า สดชื่น สบายๆ
ผมเดินไปมาอยู่ในห้องนอน สายตาทอดยาวออกไปในสวนมะพร้าวข้างบ้าน
เห็นนกเกาะต้นไม้ กระรอกวิ่งไปมาบนยอดมะพร้าว
แล้วก็คิดได้ว่า
.... เราไม่ได้ไปเที่ยวไหนเป็นเดือนแล้วนี่นา
อืม... ชีวิตต้องการการพักผ่อนบ้างสิ จะทำงานอะไรกันนักกันหนา
เงินทองมีเท่าไหร่ ตายไปก็เอาไปไม่ได้ พรุ่งนี้จะมาถึงหรือเปล่าก็ยังไม่รู้
อย่ากระนั้นเลยไปเที่ยวดีกว่า....อิอิ
คนเรานะ ลองอยากไปซะอย่างก็หาเหตุผลไปมันจนได้แหละ
ว่าแล้วก็เตรียมตัวออกเดินทาง ไปอยุธยาแล้วกัน ไม่ใกล ของกินอร่อยๆก็มากมาย
ก้าวเท้าออกจากบ้านมาได้สองก้าว ยังไม่ทันได้ขึ้นไปสตาร์ทรถ แสงแดดก็ส่องเข้าตาทางขวา
ช่วงวินาทีนั้นเองก็ฉุกคิดขึ้นได้ว่า....
ร้อนจัง ไม่ไปดีกว่ามั้ง นี่แค่สิบโมง ในที่ร่มติดสวนมะพร้าวด้วยนะ ยังร้อนซะไม่ไหวจะเคลียร์เลย
อืม น่าคิดนะ....
นอนดูหนังอยู่บ้าน ต้มมาม่ากิน รดน้ำต้นไม่อยู่บ้านดีกว่ามั้ง.....
ไม่เอาน่า ร้อนแค่นี้เอง บ้านเราก็ร้อนแบบนี้แหละ จะไปตอนไหนก็ร้อนทั้งนั้นแหละ
รอให้ไม่ร้อนแล้วค่อยไป ก็ไม่ต้องไปไหนกันละชาตินี้
ว่าแล้วก็ไปจนได้ ขับรถไปช้าๆ(ประมาณว่า 90 ประหยัดสุดๆ)
มองสองข้างทางไปเห็นแม่ค้ารดน้ำกล้วยไม่ ท่ามกลางความร้อนทำให้คิดถึงครั้งหนึ่งที่ ภูสอยดาว
...
ผมไปคนเดียวเลย มุ่งมั่นมาก ไปถึงเกือบสองโมงแล้ว
ใส่รองเท้าคู่เก่งใช้มาไม่ถึงเดือนเลย
ลูกหาบเหรอ.... ไม่ต้อง ค้างแค่คืนเดียว ของก็น้อยจะตายแบกเองเลย
ผมยืนหน้าน้ำตกภูสอยดาว ตรงทางขึ้นภูสอยดาวเอามือล้วงกระเป๋า ตามองยอดไม้
มีเป้ 1 ใบสะพายหลังด้านบนเป้เป็นเต็นท์ 1 หลังที่พึ่งถอยมาเมื่อว่าที่ห้างโลตัสปทุม
ยังไม่ได้แกะดูเลยด้วยซ้ำว่ามันจะกางออกมานอนได้ป่าว ลองแกะมาแล้วขาดอะไรไปซักอย่างนะ...กูจะสมน้ำหน้ามึงให้
เสียงสมองซีกซ้ายมันงอนสมองซีกขวา ที่เตือนแล้วมันไม่ฟัง
สมองซีกขวาไม่สนใจ มันคิดอยู่อย่างเดียว
เรานี่มันเท่ห์จริงๆ ดูซิแบกเป้ขึ้นภูสอยดาวคนเดียว
นี่ถ้าพอลล่ามาเห็นเราตอนนี้ต้องปลื้มเราไม่น้อยแน่เลย....
ว่าแล้วก็ออกเดินทางไปสู่ยอดภูสอยดาวแบบมุ่งมั่นสุดๆ
เดินไป....เดินไป...
แหม ป่าไม้ที่นี่สมบูรณ์จริงๆ สดชื่น...(ยังระรื่นอยู่)
1 ชั่วโมงผ่านไป เริ่มมองข้างหน้า นี่คงจะได้ครึ่งทางแล้วสินะ เดินมานานแล้วนี่
ไม่เห็นว่ามันจะลำบากตรงไหนเลยโธ่เอ๊ย.....
เนินที่ผ่านมาเมื่อกี้เหรอที่ว่าชัน ป๊าด ผมแทบจะวิ่งขึ้นเลยด้วยซ้ำ
สองชั่วโมงผ่านไป เจอคนเดินลงสวนมายิ้มทักทายไปหนึ่งดอก ด้วยท่าทางแบบเก็บอาการเหนื่อยเอาไว้แบบสุดๆ
ยังไม่มีวี่แวว ว่าจะถึง เหนื่อยมากขึ้นเรื่อยๆ เป้ก็หนักขึ้นเรื่อยๆแบบไม่ทราบสาเหตุ(จริงๆแล้วมันหนักเท่าเดิมนั่นแหละ)
เจอคนเดินสวนมา อีกครั้ง ยิ้มให้แล้วถามว่า อีกไกลมั้ยครับ เค้าตอบว่า
ไกลครับ ยังไม่ถึงหนึ่งในสิบเลย..........
แล้วเค้าก็เดินผ่านผมไป ความเงียบเข้ามาครอบงำ หนึ่งในสิบ หนึ่งในสิบ.......
คำว่ายังไม่ถึงหนึ่งในสิบก้องอยู่ในหัว ประหนึ่งว่ามันสะท้อนมาจากป่าแบบไม่จบสิ้น
อะไรวะ สองชั่วโมงกว่าเนี่ยนะ ได้แค่นี้เอง ไรวะ เมื่อไหร่จะถึงกันล่ะเนี่ย
จนมาถึงเนินแรกจากสามเนินที่เค้าว่าโหดกัน มองขึ้นไปบนเนิน แล้วรู้สึกตกใจ ว่า
นี่เราพึ่งมาถึงเนินแรกเองเหรอ ให้ตายสิ กำลังกายเหลือแค่ 30 เปอร์เซนต์เท่านั้น มันกำลังจะเข้าสู่ SAVE MODE ด้วยซ้ำ
น้ำหนึ่งขวดเล็กก็จะหมดแล้ว นั่งลงพักพร้อมกับคิดว่า
เหนื่อยจัง แต่ไม่ได้ ถ้าพอลล่ารู้เข้าเค้าต้องไม่พอใจเราแน่ๆเลย
ว่าแล้วก็เติมน้ำในลำธารใส่ขวดแล้วก็แบกเป้ ปีนขึ้นเนินชัน
ปีนขึ้น ๆ ๆ ๆ ๆ
เฮ้ย เนินบ้าอะไรวะไม่สุดซะทีขาสั่นดิกๆๆๆๆ จะลงก็ไม่ได้แล้วไม่เหลือพลังพอจะเดินกลับไปให้ถึงทางเข้าอีกแล้ว
เห็นลูกหาบตัวจ้อยน่าจะประมาณเด็กประถม เดินสวนลงมา แล้วน้องเค้าก็ถามว่า
ไหวมั้ยพี่ ....
เฮ้ยได้ไงฟะ เด็กเมื่อวานซืน ถามเราแบบนี้เลยเหรอ เสียเชิงชายแบบสุดๆ
ก็เลยยิ้มแล้วบอกไปว่า สบาย แค่นี้เอง ... ว่าแต่อีกไกลมั้ย
ไกลพี่ นี่พึ่งเนินแรกเอง
เหรอ อืมๆๆๆๆ
แล้วก็ยกขาสั่นๆขึ้นเนินต่อไปแบบเก็บอาการสั่นไว้เแบบสุดๆ กลัวเด็กมันหัวเราะเอา
จนในที่สุดก็มาถึงสุดเนินจนได้แบบหมดสภาพสุดๆ โอย แย่แล้วเราเหลืออีกตั้งใกลกว่าจะถึง
แถมยังต้องเจอเนินแบบนี้อีกสองอัน
นั่งพักแบบยาวๆหายใจแบบหอบๆ เหงื่อเม็ดเท่าบ้านผุดขึ้นมาราวกับมดหนีน้ำท่วม
แล้วก็คิดในใจว่า
กูมาทำอะไรที่นี่ฟะ
อยู่บ้านดีๆไม่ชอบ
นอนดูทีวี สบายๆที่บ้านไม่เอา
คิดอะไรอยู่หนอเรา หรือชีวิตธรรมดา มันไม่ลำบากพอ ต้องมาหาความลำบากที่นี่
คิดแล้วอยากจะบ้าตาย
คิดถึงเป็บซี่เย็นๆแบบสุดๆ กลับไปนะจะซื้อซัก 8 ขวดซดแบบไม่ยั้งไปเลย
นั่งพักนานมาก สมองคิดแต่คำพูดเหล่านี้ แต่สุดท้ายก็ได้เดินต่อไป ....
ไปถึงหลับเป็นตาย ปวดเมื่อยไปหมด ฝนตกหนักยังไงก็ช่างไม่สนใจโว้ยจะนอน เมื่อยจะตาย
วันรุ่งขึ้นเดินกลับลงมาสวนกับคนที่กำลังเดินขึ้นมาจากเนินนรก ด้วยท่าทางแบบที่ผมเป็นเมื่อวานเลย
ผมคิดในใจว่า เค้าก็คงคิดแบบผมเมื่อวานนั่นแหละว่า กูมาทำอะไรที่นี่ฟะ...
แล้วผมก็ส่งผ่านกำลังใจให้เค้าผ่านสายตาสายตาและรอยยิ้ม ว่า ทนเอาหน่อยนะน้องแล้วน้องก็จะพบว่า สวรรค์ มีจริง
......
ข้างบนไม่ได้สวยราวกับสวรรค์หรอกนะครับ แต่เราเดินผ่านนรกก่อนที่จะไปข้างบน มันลำบากพอที่จะทำให้คิดว่าข้างบนนั้นคือสวรรค์เลยทีเดียว
ถึงจนได้นะ อยุธยา
ร้อนแบบที่คิดไว้เลย
ตลาดโก้งโค้ง อืม... ต้องโก้งโค้งจริงๆด้วยสิ
อืม มีรำกลองยาวโชว์ด้วยแหม ...เข้าท่า เข้าใจคิดดีครับ ชอบๆๆๆๆ
ได้ขนมมาชิมสองสามอย่าง ก่อนที่จะไปต่อที่ตลาดน้ำอยุธยา
รถติดไม่ใช่เล่นเลยนะ แต่เอสงสัยพึ่งเกิดแน่เลย เพราะคราวที่แล้วมามันยังไม่มีนี่นา
อืม บรรยากาศดีครับเดินรอบสระน้ำเลย
แต่คนก็เยอะ อากาศก็ร้อน...แต่ก็ดีครับ
เข้าใจคิดดี บรรยากาศคล้ายๆที่เมืองโบราณเลย
จากนั้นไปต่อกันที่พิพิธภัณฑ์ของเล่น
โอว บรรยากาศดีครับ เย็นสบาย คนไม่เยอะ อาจเป็นเพราะเป็นพิพิธภัณฑ์มั้ง เลยไม่ค่อยมีคนเข้าไปดูกันเท่าไหร่
แต่ไม่เป็นไรครับ คนชอบเที่ยว ที่ไหนก็ไป
ของเล่นเยอะมาก แต่ก็ซ้ำๆกันซะเยอะเหมือนกัน บางแบบน่าจะมีเป็นร้อยชิ้นเลยทีเดียว
หลายชิ้นเห็นแล้วอมยิ้มนึกถึงวัยเด็กขึ้นมาซะงั้น
บางชิ้นไม่เคยเห็นมาก่อนก็มี
บางชิ้นก็ออกจะดูน่ากลัวไปหน่อย
ได้เจอเจ้าของด้วยแกเล่าให้ฟังถึงประวัติกว่าจะมาเป็นพิพิธภัณฑ์ของเล่น
ด้วยความภาคภูมิใจที่ปลุกกระแสให้คนหันมาเที่ยวแนวนี้กันมากขึ้น
เดินดูกันเพลินเลย เด็กเดินงง ๆ ผู้ใหญ่เดินอมยิ้ม
บรรยากาศความสุขความทรงจำเก่าๆสมัยเด็กถูกปลุกขึ้นมาให้เราได้เดินอมยิ้มกันไป
จบแล้วเดินทางไปกินกุ้งกัน ริมถนนสายเอเซีย อร่อยสุด ๆ น้ำจิ้มสุดยอด
ที่สำคัญราคาไม่แพง บริการดีรวดเร็ว ได้ใจจริงๆ
แล้วเราทั้งหมดก็ให้กุ้งเป็นตัวแทนกล่าวปิดการท่องเที่ยวของวันนี้
Create Date : 13 มิถุนายน 2553
Last Update : 14 มิถุนายน 2553 2:57:47 น.
4 comments
Counter : 752 Pageviews.
Share
Tweet
น่าเที่ยวมากเลย เสียดายตอนกลับไทยก็ไม่ได้ไปอ่ะค่ะ
โดย:
teddybear@LB
วันที่: 14 มิถุนายน 2553 เวลา:6:50:07 น.
อ่านแล้ว เพลินมากค่ะ เหมือนได้อยู่ในเหตุการณ์ด้วยเลย
อยากไปมั่งจัง ..
โดย:
MT-Naree
วันที่: 14 มิถุนายน 2553 เวลา:9:59:28 น.
แวะมาทักทายและเข้ามาชมครับ เห็นแล้วอยากไปเที่ยวบ้าง
โดย:
กัปตันลูกชุบ
วันที่: 14 มิถุนายน 2553 เวลา:11:21:07 น.
เล่าเรื่องได้สนุกดีครับ อ่านเพลินเลย ไว้มีเวลาว่างว่าจะตามรอยไปเที่ยวอยุธยาบ้างครับ
โดย:
NET-MANIA
วันที่: 14 มิถุนายน 2553 เวลา:13:30:27 น.
ชื่อ :
Comment :
*ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
OffRoadMan
Location :
กรุงเทพฯ Thailand
[ดู Profile ทั้งหมด]
ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [
?
]
hits
Friends' blogs
Webmaster - BlogGang
[Add OffRoadMan's blog to your web]
Links
Chunnel TRAIN
Current Science Event
BlogGang.com
Pantip.com
|
PantipMarket.com
|
Pantown.com
| © 2004
BlogGang.com
allrights reserved.