Craig David - Fill Me in สร้างเสริมประสบการณ์ดนตรีมานานกว่าสิบปี จนปัจจุบันที่เริ่มเงียบหายไปตามกาลเวลา เพราะความนิยมมันก็ลดลงไปตามลำดับขั้นตามความหล่อซึ่งหายไปกลายเป็นล่ำบึ้กและดันไม่ค่อยมีเอกลักษณ์ไปเสียแล้วนี่สิ เลยทำให้ต้องเริ่มผันตัวไปทำงานด้านเขียนเพลงและอื่นๆ มากขึ้น ซึ่งหนุ่มเสียงดีเว่อร์ แร๊พเริ่ด ร้องไพเราะสุดๆ คนนี้ไม่ใช่ใคร ก็ Craig David นั่นเอง เรื่องคุณภาพเสียงไม่ต้องพูดถึงเพราะถือว่าเป็นหนึ่งในตองอูที่หลายๆ คนขนานนามว่า R.Kelly ฝั่ง UK อย่างมากมาย เขียนเพลงเองด้วย ของเขาแรงตรงนี้ ที่สำคัญเด็ดดวงตรงที่ว่าแร๊พได้ แร๊พแบบที่ลิ้นระรัวได้สะใจมากมายในแบบฉบับของการร้องแนว 2 Steps Garage แน่นอนว่าไม่ได้ยินอีกเลยหลังจากอัลบั้มแรกที่โด่งดังมากและแจ้งเกิดในฐานะการเป็นนักร้องคุณภาพ คือ Born to Do It ที่กวาดคำชมไปมากมายก่ายกองเลยทีเดียว เพราะทั้งเก๋และยอดเยี่ยมจริงๆ ในช่วงเวลานั้น ไม่ว่าจะเป็นเพลง Fill Me in, 7 days และ Walk away ที่ได้รับความนิยมไปถ้วนหน้ากันเลยทีเดียว ที่สำคัญก้าวข้ามเกาะอังกฤษไปเกิดที่ฝั่ง US อีกด้วย ของเขาดีจริงๆ นะนั่น แน่นอนเมื่อเข้าสู่อัลบั้มที่ 2 อย่าง Slicker Than Your Average แนวดนตรีเริ่มมีการผสมผสานความเป็น RnB Hip Hop ในแบบอเมริกามากขึ้น แอบแปลกใจมะกันมันดีตรงไหนกันเพราะของเดิมมันเก๋อยู่แล้วต่อยอดดีๆ พุ่งพรวดได้เลย ซึ่งแน่นอนอานิสงค์ของเก่าทำมาดี เลยได้รับความนิยมต่อเนื่องขึ้นมาเรื่อยๆ เพลงก็ไพเราะมากขึ้น หวานขึ้นตาม Step ไม่ว่าจะเป็น What’s Your Flava?, Hidden Agenda และ Rise & Fall พอเข้าสู่อัลบั้มที่ 3 ในเวลาต่อมาอย่าง The Story Goes กลายเป็น RnB แฝงความเป็น Pop นิดๆ ไปซะฉิบ แอบงงกับชีวิตไปเลยทีเดียว อ้าวไอ้ของเดิมที่เก๋ๆ มันไปหนายยยยยวะ เพราะไม่ว่าจะเป็นทั้ง All the Way, Don’t Love You No More (I’m Sorry) และ Unbelievable ต่างก็ RnB หวาน เศร้าจ๋าไปเลย ความเก๋แต่เดิมมันเริ่มหายไป เหลือเพียงน้ำเสียงที่ไพเราะ อบอุ่นเพียงอย่างเดียว ที่ทำให้เพลงนั้นน่าฟังอยู่ แน่นอนว่าหลายๆ คนในเมืองสารขัณฑ์นั้นต่างก็ต้องฮัมเพลง Don’t Love You No More (I’m Sorry) ได้แน่ๆ เพราะดังมากๆ ในช่วงนั้นเลย เมื่อก้าวเข้าสู่ปี 2007 และอัลบั้มที่ 3 ไม่ประสบความสำเร็จในอเมริกาเท่าไหร่ เลยกลับสู่ UK บ้านเกิดกับอัลบั้มที่ 4 อย่าง Trust Me ที่เริ่มแตะแนวเพลง Dance กลั้วกับการเป็น Soul RnB มากขึ้น กลับเพลง Hot Stuff (Let’s Dance) ที่ถือว่าประสบความสำเร็จในระดับหนึ่ง แต่พอมาเพลงที่ 2 อย่าง 6 of 1 Thing เริ่มเหี่ยวไปตามลำดับ และมา Single ที่ 3 อย่าง Officially Yours (ที่เข็มขัดสั้นชอบมาก ยังฟังอยู่เสมอๆ เลย) ยิ่งตกต่ำตกอับที่สุด แม้อัลบั้มจะไปได้ดีอยู่ก็เถอะ ทำให้และปิดท้ายอัลบั้ม ค่ายขอปล่อยตัวไปดีกว่า เพราะเสน่ห์ที่มีมันหายไปแล้วจริงๆ นะ เมื่อได้ค่ายใหม่อัลบั้มใหม่ Signed Sealed Delivered ก็เปิดศักราชใหม่ในการเน้นที่ Funk RnB และ Dance แทน ซึ่งแค่ Single แรก One More Lie (Standing In The Shadows) ก็ทำเอาอึ้งว่าหนุ่มคนนี้เป็นกระเทยไปแล้วหรือไร เพราะเพลงมันสาวแตกมาก ส่ามารถเต้นต่อจาก I Will Survive กันได้เลย พอมาใน Single ที่ 2 อย่าง All Alone Tonight (Stop, Look, Listen) ที่ค่อยยังชั่วกับการเป็น RnB แบบเดิมๆ ใส่ความเป็น Funk ลงไปเล็กน้อย พอเห็นกลิ่นใหม่ของทำนองเพลงอยู่ แต่แฟนๆ ทั่วโลกต่างก็ผิดหวังกับหนุ่มคนนี้จริงๆ แน่นอนว่าไม่ได้ไปต่อกับค่ายทันที ตอนนี้เลยต้องหันเหไปเอาดีด้านอื่นจนปัจจุบันแทน แต่ยังไงก็ไม่น่าทิ้งวงการเพลงไปได้ ซึ่งคงจะกลับมาอีกทีวันใดวันหนึ่งแน่ๆ ล่ะ เมื่อกลับมาแนะนำเพลงเก่าๆ ก็ขอเอาเพลงแจ้งเกิดมาให้ฟังดีกว่า ว่าหนุ่มคนนี้มีดีมากจริงๆ (แต่ไม่ได้ใช้ในอัลบั้มหลังๆ นี่แหละเสียของ) กับเพลง Fill Me in Review: กับการเป็น 2 Steps กลั้วความเป็น Garage แต่มีกลิ่นอายของ RnB ที่ฟังได้ง่าย ในช่วงเวลาของ Y2K นั้นมันเก๋ลากจริงๆ นะ เพราะมันสนุกสนาน เต้นเก๋ๆ เต้นเท่ห์ๆ ได้ไม่พอ ยังสามารเป็นเพลงที่ฟังเพลินๆ โยกตามได้มากจริงๆ เพราะช่วงทำนองสามารถเอาอยู่ได้หมด ทั้งจังหวะโปรแกรมมิ่งสังเคราะห์มันซ้ำไปซ้ำมาอย่างมีชั้นเชิง เสียงเกากีตาร์ก็ไล่เรียงได้ดีมาก จริงๆ แค่ฟังแค่นี้ก็เกือบจะฟินกันได้แล้ว ยิ่งมาที่การร้องที่ทำให้ฟินสุดๆ ไปเลย เพราะการร้องแบบธรรมดาก็เจ๋งมากเพราะเสียงดีเว่อร์อยู่แล้ว แต่พอช่วงร้องกลั้วแร๊พนั้นมันเจ๋งมากจริงจัง (นี่แหละสิ่งที่ไม่เห็นอีกเลยในอัลบั้มท้ายๆ ซึ่งเสียดายมาก) อารมณ์เพลงที่ใส่เต็ม บอกเล่าเรื่องราวของรักหลบซ่อนพ่อแม่ในวัยรุ่นได้เป๊ะดีแท้ ก็คนมันอยากจะซั่มกัน อยากเติมเต็มให้กัน พ่อแม่ห้ามได้แค่ต่อหน้าแต่ลับหลังอย่าให้แซ่ด เพราะเด็ดดวงและกร้านกว่าที่พ่อแม่จะคิดนะขอบอก เลยทำให้เพลงนี้ดูดี ดูเริ่ด ดูเก๋ ล้ำสมัยท่วงทำนองเพลงในสมัยนั้นทันที แถมยังทำให้แนวเพลงที่ฟังเฉพาะกลุ่มอย่าง Garage นั้นมาบรรจบพบกับคนฟังให้ได้ชอบและสนใจได้มากขึ้นอีกด้วย นี่แหละที่ถือว่าเป็นการแจ้งเกิดศิลปินคุณภาพคนนึงให้เป็นที่นิยมทั่วโลกได้อย่างน่าอัศจรรย์ แต่ในปัจจุบันนี้ คงต้องรอไปก่อน เพราะไม่รู้ว่ากลับมาในอัลบั้มหน้าจะหมู่หรือจ่า ได้แต่ภาวนาว่าขอให้เพลงมันเกิด มันเก๋ทีเถอะ ไม่งั้นเฮียได้ทำแต่เบื้องหลังแน่ๆ เพราะคนฟังเขาคงขอกลับไปฟังแต่เพลงเก่าๆ ของเฮียที่เป๊ะกว่า อะไรกว่าอยู่ร่ำไปแหละนะ ขอบคุณมากๆ เลยครับที่เข้ามาเยี่ยมเยียน อ่าน และฟังเพลงใน Blog นี้ ที่สำคัญมากเลย คือ Comment ของคนเข้ามาครับ เพราะมีค่ามากเลยสำหรับผม ช่วยฝากเอาไว้หลังฟังเพลงหรืออ่านจบแล้วหน่อยนะครับ ขอบคุณมากๆ อีกครั้งครับ   Create Date : 05 สิงหาคม 2555 2 comments Last Update : 5 สิงหาคม 2555 19:23:56 น. Counter : 3143 Pageviews. Share Tweet

ชอบเพลงนี้สุดๆ ส่วนเพลงอื่นๆ ของ Craig David ที่ชอบมากๆ ก็ Don't Love You No More เท่าที่อ่านบล็อก สไตล์เพลงคล้ายๆ ที่ผมฟังนะนี่ ผมก็ฟังแต่เพลงช่วง 90 ถึง 2000 ต้นๆ   โดย: homogenic IP: 183.89.60.72 22 สิงหาคม 2555 0:36:16 น.

ขอบคุนมากคับผมรู้เเต่ประวัติเขานิดๆ เลยไม่รุ้รู้ทุกอย่าง เเต่ตอนนี้เข้าใจมากเเล้วคับ ชอบเพลงเขามากเลยโคตรบ้าอะ โดยเฉพาะเพลงseven day มันเป็นเพลงเเรกที่ทำให้ผม ชอบเเนว R and B มาก เพลง walking awayก้เพราะเกิน ถึงเเม้ตอนนี้เขาจะดูไม่หล่อเหมือนเมื่อก่อน ก็ดันไปเล่นกล้ามอะ เเต่ตอนนี้ก็ยังเคารพเเละนับถือมากเลยคับ   โดย: love criag david IP: 118.172.49.243 20 กันยายน 2555 17:29:30 น.