การเดินทางที่ยาวนาน ฉบับ3 # Langawi - หลีเป๊ะ #1

สวัสดีค่ะ กว่าสถานการณ์บ้านเมืองจะกลับสู่สภาวะปกติได้ก็ใจหายใจคว่ำกันไปตั้งหลายรอบ หลังจากนี้ก็เป็นช่วงของการฟื้นฟูสภาวะจิตใจและการดำรงชีวิต การทำมาหากินของผู้คนที่ได้รับผลกระทบกันอ่ะเนอะ หวังว่าทุกคนคงจะมีสภาพจิตใจที่เข้มแข็งกันถ้วนหน้าทุกคนนะคะ ^^

กลับมาเล่าเรื่องเที่ยวกันต่อแล้วดีกว่า ก่อนที่จะมีทริปดองมากไปกว่านี้ - -^

ทริปนี้เดินทางไปกับแม่และพี่สาวในช่วงสงกรานต์ที่ผ่านมานี่แหละค่ะ ถ้าเอ่ยมาว่าไปกับแม่ล่ะก็ ก็เป็นอันว่ามีการเดินทางที่ยาวนานอีกแล้ว หุหุ ... ก็มามุกเดิม ๆ ค่ะ นั่งรถบัสยาวววววววววไปจนถึงจุดหมายปลายทาง ซึ่งสำหรับการเดินทางย้าวยาวในคราวนี้ก็คือ "ลังกาวี" นั่นเองค่ะ ...

นัดหมายกันรวมพล ล้อหมุนเอาวันที่ 11 เมษา ราว ๆ 6 โมงเย็น จากนั้นก็ออกเดินทางโดยรถบัส 1 คัน แล้วก็นั่ง ๆ นอน ๆ ไปในรถจนกระทั่งถึงสตูลเอาตอนเช้า ๆ

แต่ไหนแต่ไรไม่เคยถ่ายรูป Tag BP ไว้เลยซักครั้ง คราวนี้ขอถ่ายรูปไว้ซักหน่อยละกัน อยู่ว่าง ๆ ไม่รู้จะทำอะไรดีอ่ะค่ะ


แล้วคณะทัวร์ของเราก็แวะที่ร้านอาหารร้านหนึ่ง ให้ได้ทานข้าวเช้ากัน ซึ่งมีข้าวต้ม 1 ชาม และติ่มซำอีกมากมายหลายเข่ง ... ส่วนรสชาตินั้น เคโกะถือว่าสอบตกค่ะ ไม่อร่อยเลย - -"


แล้วก็เดินทางต่อไปสุ่ท่าเรือตำมะลัง จ.สตูล ประทับตราออกประเทศ ซึ่งตรงนี้ขอแนะนำว่าใช้ใบผ่านแดนชั่วคราวจะเร็วกว่ามากค่ะ ซึ่งเคโกะกับแม่ก็ไม่รู้ล่วงหน้ามาก่อน เลยใช้พาสปอร์ตกัน ก็เลยเสียเวลาไปซักหน่อย (แอบมีคนบ่นเคโกะกับแม่ด้วยล่ะ - -")

บริเวณเคาน์เตอร์ท่าเรือคะ


ซึ่งมองไปทางขวา จะเจอจุดแลกเงินริงกิตอยู่ ตอนนั้นที่ไปเค้ารับแลกที่ 10 บาทต่อ 1 ริงกิตค่ะ (ขากลับมาแพงขึ้นได้อีก - -")


หลังจากรับตั๋วเรือที่ได้จากไกด์แล้ว ก็ต่อแถวผ่านตม.กันค่ะ ยาวเหยียดเลยเชียว


นั่งเรือกันไปเพลิน ๆ ก็มาถึงท่าเรือบนเกาะลังกาวีกันล่ะค่ะ ระหว่างเดินไปเพื่อเข้าเกาะนั้น มองไปทางด้านซ้ายจะเห็นนกอินทรีตัวยักษ์ซึ่งรอรับนักท่องเที่ยวไปถ่ายรูปอยู่ไกล ๆ


แล้วก็นั่งรถบัสเพื่อเที่ยวบนเกาะกัน ไกด์ได้นำพวกเราไปยังสุสานของพระนางมัตสุหรีก่อน ซึ่งว่ากันว่าเดิมเคยเป็นที่พักของพระนางเลยแหละค่ะ


ตามตำนานที่ไกด์เล่าให้ฟัง + กับวิดีโอที่ฉายให้ชมนั้นก็ประมาณว่าพระนางมัตสุหรีเป็นหญิงไทยที่ได้ชื่อว่างามมาก ๆ จนหนุ่มทั้งหลายหมายปอง แต่สุดท้ายก็มีน้องชายของกษัตริย์พระองค์นึงได้แต่งงานด้วย แล้วก็มีลูกหนึ่งคน แต่ในระหว่างที่ตั้งครรภ์นั้นเอง สามีก็ไปออกรบ แล้วก็มีชายหนุ่มอีกคนพเนจรหลงทางบาดเจ็บมา นางมัตสุหรีก็เลยช่วยเหลือดูแลไว้ แต่มีชาวบ้านเกิดรู้เข้าเลยเอาไปซุบซิบนินทาว่าคบชู้ ซึ่งก็ไม่ได้มีการไต่สวนความจริงแต่อย่างใด กษัตริย์ก็เลยจับนางมัตสุหรีไปประหารชีวิต นางก็เลยสาปแช่งให้เกาะลังกาวีมีแต่ความพินาศ ซึ่งการแก้คำสาปก็ต้องไปเชิญเชื้อสายของนางมัตสุหรีมาแก้คำสาปให้ ซึ่งก็เป็นเด็กสาวชาวภูเก็ตอ่ะค่ะ ... ประมาณนี้แหละนะ

แล้วก็ไปเคารพสุสานของพระนางมัตสุหรีกันค่ะ มีบางคนเอาของมาไหว้ด้วยล่ะ


แล้วก็ชมบ้านของพระนางกัน ว่ากันว่าเป็นบ้านจริง ๆ ที่อาศัยอยู่ในอดีตเลยแหละค่ะ


ไหน ๆ ก็มาแล้ว ก็ขอขึ้นไปชมบ้านซักนิดหน่อยค่ะ ^^


เสร็จสรรพเรียบร้อย ไกด์ก็พาพวกเราไปปล่อยไว้ที่ร้านดิวตี้ฟรีแห่งหนึ่ง ชื่อว่า "Wiri gaya" ซึ่งพนักงานในร้านพูดไทยได้ด้วย รับบัตรเครดิตไม่ชาร์จค่ะ


คราวนี้แหละ เหล่าคณะทัวร์ทั้งหลายก็ช้อปกันกระจายเชียวค่ะ หอบของออกมาแพ็คลงกล่องเป็นกล่อง ๆ กันเลยล่ะค่ะ เคโกะซื้อของไม่เยอะก็เลยมีเวลาว่างมานั่งเล่นหน้าร้าน เลยสังเกตได้ว่า กรุ๊ปทัวร์มักจะพามาซื้อของที่ร้านนี้ (มีเอี่ยวกันแน่ ๆ เลย หุหุ)

ป้ายร้านอีกป้ายนึงยังมีภาษาไทยแปะไว้เลยคะ ขายคนไทยจริง ๆ ^^"


มีคนในกรุ๊ปคนนึงเดินไปเรื่อย ๆ จนเจอร้านนึงขายรถเข็นราคาถูกมาก ๆ แม่รู้เข้าก็เลยตามไปซื้ออีกคน ก็เลยได้รูประหว่างเดินไปกับแม่มาด้วยอ่ะค่ะ


อีกซักรูปนะคะ


ตอนแรกเคโกะเข้าใจว่าสินค้าบนเกาะนั้นจะปลอดภาษีทั้งหมด (ทำให้ราคาถูกมาก ๆ) และราคาก็คงจะพอ ๆ กันทุกร้าน แต่หลังจากเดินเล่นอยู่บนเกาะคืนนึงแล้ว เคโกะถึงได้รู้คะว่าควรจะเดินเทียบราคากันหลาย ๆ ร้านหน่อยก็จะดีกว่า เพราะสินค้าอย่างเดียวกัน แต่ละร้านอาจจะขายไม่เท่ากันก็ได้ค่ะ ... ซึ่งเคโกะก็โดนไปแล้วอ่าาาา ฮือ ๆ แอบเสียดายตังค์ ตั้งหลายบาทแน่ะ T-T (งกนะยะเธอ หลักบาทก็เอา )

พอช้อปของกันเสร็จสรรพแล้วก็กลับเข้าที่พัก ให้พักผ่อน อาบน้ำล้างหน้ากันตามสบายค่ะ ก่อนที่จะออกมารวมพลไปถ่ายรูปกับอินทรียักษ์กัน

ส่วนที่พักนั้นเคโกะจะขอยกไปรีวิวแยกอีกบล็อกนึงนะคะ ^^

กว่าที่พวกเราจะเดินไปนั้น พระอาทิตย์ก็เริ่มคล้อยลงต่ำมากละค่ะ


เดินไปยังไม่ถึงตัวนก พระอาทิตย์ก็ลับขอบฟ้าไปพอดีเลยล่ะค่ะ เหอๆ

มาถ่ายรูปนกกันเนอะ เป็นสัญลักษณ์ของเกาะลังกาวีล่ะค่ะ


มุมหน้าตรงมั่ง


ดูทะเลเวิ้งว้างข้างหน้ามั่ง


จากนั้นก็เดินไปรับประทานอาหารกันที่นี่ค่ะ


รับประทานอาหารกันเรียบร้อย ก็กลับโรงแรมกัน จากนั้นก็เป็นเวลาอิสระ ใครจะนอน ใครจะเดินเล่นต่อ หรือใครจะกลับไปช้อปต่ออีกก็ตามสบายเลยค่ะ ซึ่งเคโกะเลือกที่จะออกมาเดินดูร้านค้า วิถีชีวิตผู้คนข้างนอกดีกว่า โดยมีแม่กับพี่สาวตามมาด้วย ซึ่งก็เดินเล่นได้แป๊บเดียว แม่ก็ลากกลับห้องพักแล้วล่ะค่ะ - -"

ก็เพราะว่าออกมาเดินเล่นเนี่ยแหละค่ะ ถึงได้รู้ว่าของบนเกาะนี้ไม่ได้ขายราคาเดียวกันทั้งเกาะ T_T (เอ๊ะ สงสัยเคโกะจะซื่อไปหน่อยล่ะมั้งคะ - -")

สำหรับทริปนี้ก็หยุดไว้ที่ตรงนี้ก่อนแล้วกันค่ะ บล็อกหน้าจะพาไปเที่ยวทะเลฝั่งมาเลย์เซีย และทะเลที่หลีเป๊ะ ไทยแลนด์ แล้วจะรู้ค่ะว่า ทะเลเมืองไทยน่ะ สวยที่สุดแล้วววว ^^

ขอบคุณสำหรับการเยี่ยมชมและติดตามค่ะ ^^

Create Date : 26 พฤษภาคม 2553		8 comments
Last Update : 26 พฤษภาคม 2553 19:06:04 น.
Counter : 2485 Pageviews.
Share Tweet