ได้ฤกษ์เผยโฉมผู้ชนะการประกวดสุดยอดนักออกแบบจาก 10 ผู้เข้ารอบชิงชนะเลิศจากการประกวดในโครงการ “จากเส้นใยสู่ภูมิปัญญา จากภูมิปัญญาสู่อาภรณ์ ปี 2555 ซึ่งเป็นโครงการออกแบบเครื่องแต่งกายแบบไทยแต่นำสมัยทัดเทียมแฟชั่นโลก

“อะไรคือสาเหตุที่ทำให้คนไทยไม่นิยมเสื้อผ้าที่เป็นรูปแบบไทยๆ” เป็นคำถามซึ่งกลายเป็นที่มาของโครงการประกวด “จากเส้นใยสู่ภูมิปัญญา จากภูมิปัญญาสู่อาภรณ์ ปี ๒๕๕๕ (Contemporary Fashion Contest 2012)” เพื่อให้โครงการดีๆ อย่างนี้ได้เป็นแนวทางที่ช่วยพัฒนาความคิดสร้างสรรค์ให้กับการออกแบบเครื่องแต่งกาย และเพื่อให้มีการนำความเป็นอัตลักษณ์ของไทยมาผสมผสานกับรูปแบบเสื้อผ้าในปัจจุบัน

ทั้งนี้จุดประสงค์ของการสานต่อโครงการดังกล่าว มีเป้าหมายที่จะเฟ้นหานักออกแบบประดับแวดวงแฟชั่นของเมืองไทย และยังมีความตั้งใจที่จะสนับสนุนพัฒนาและมอบโอกาสเพื่อต่อยอดให้กับเหล่านักออกแบบที่เข้าร่วมโครงการนี้อย่างจริงจัง นอกเหนือจากความตั้งใจดังกล่าวแล้ว อีกหนึ่งจุดประสงค์ที่ตั้งใจ คือ เพื่อเผยแพร่ศิลปวัฒนธรรมอันสวยงามของไทยที่มีอยู่ให้ประชาชนได้รับรู้และตระหนักในคุณค่าของความเป็นไทยอย่างแท้จริง โดยผลงานที่ผู้เข้าประกวดที่ได้ส่งเข้ามานั้น มีความสวยงามและถือได้ว่า ทุกผลงานสามารถแสดงออกได้ถึงความเป็นไทยที่นำมาผสมผสานกับแฟชั่นในปัจจุบันได้อย่างลงตัว

แต่ผู้ชนะมีเพียง 4 อันดับ ดังต่อไปนี้

รางวัลชนะเลิศอันดับที่ ๑ คือ ณัฐณิชา โอภาสสุขสถิต เจ้าของผลงาน Super Normal ได้รับเงินรางวัล ๒๐๐,๐๐๐ บาท พร้อมโล่เกียรติยศ กล่าวถึงผลงานของตนเองว่าเธอได้ดึงความธรรมดามาผสมกันกับความธรรมดา ซึ่งทำให้เกิดความไม่ธรรมดาขึ้นมา เหมือนทำเสื้อจากภาพวาด ประกอบกับการใช้ผ้าไทยสีขาวดำ มี Texture แตกต่าง ซึ่งมันจะมี Concept ของมัน และสามารถนำมาใส่ได้จริงในชีวิตประจำวัน

รางวัลรองชนะเลิศอันดับที่ ๑ เป็นของวุฒิไกร ศิริผล เจ้าของผลงาน The Dawning โดยได้รับเงินรางวัล ๑๐๐,๐๐๐ บาท พร้อมโล่เกียรติยศ ที่มาพร้อมความโดดเด่นที่เนื้อผ้า นำเสนอความแตกต่างของเนื้อผ้า ที่นำเทคนิคการทอและการย้อมด้วยฝีมือตนเองมานำเสนอพร้อมกับรูปทรงที่เรียบง่าย

รางวัลรองชนะเลิศอันดับที่ ๒ นายฉัตรนุพล เครือจันทร์ เจ้าของผลงาน Arts and Crafts เล่าถึงความโดดเด่นของผลงานว่า มีความน่าสนใจที่รูปแบบ ผสมกับการนำวัสดุใหม่ๆ โดยนำตะขอมาเป็นวัสดุใช้ปักแทนเลื่อม และเทคนิคการมัดเส้นหมี่

และอีกหนึ่งท่านที่ได้รางวัลรองชนะเลิศอันดับที่ ๒ เช่นเดียวกัน คือ พินิจนันท์ กังแฮ  เจ้าของผลงาน Building Blocks of Life เล่าถึงผลงานของตนว่า เน้นความโดดเด่น ใช้ความลงตัวของรูปแบบ โดยผ้าจะใช้เป็นผ้าไทยดูร่วมสมัยผสมกับผ้าสากล ยกตัวอย่าง ผ้าไหมลูกฟูก ที่สามารถใส่ได้จริง

ท่าทางวงการแฟชั่นในประเทศไทยจะมีคลื่นลูกใหม่เติบโตขึ้นอีกเรื่อยๆ ซึ่งไม่ต้องกังวัลอีกแล้วว่าความเป็นไทยจะถูกกลืนตามกระแสนิยมไปเสียหมด เพราะตัวอย่างที่ดีก็มีให้เห็นจากที่กล่าวมาข้างต้นอยู่แล้ว

ที่มา ไทยรัฐ