:: โครงการถนนสายนี้มีตะพาบ โครงการที่ 38 ::
:: โครงการถนนสายนี้มีตะพาบ โครงการที่ 38 ::
โจทย์โดย : เป็ดสวรรค์
:: บทสนทนาบนขบวนรถไฟสายเหนือในเดือนธันวาคม ::
เขียนและถ่ายภาพโดย : กะว่าก๋า
ลมหนาวพัดโชยมาที่ริมหน้าหน้าต่าง รถไฟชั้นสามคลาคล่ำไปด้วยผู้คนทุกชนชั้น เกินกว่าครึ่งเป็นคนระดับรากหญ้าผู้เหน็ดเหนื่อยกับการดำรงชีวิต
เบาะไม้แข็งๆชวนให้เมื่อยขบไปทั่วทั้งตัว ยิ่งเป็นการเดินทางข้ามจังหวัดแบบนี้ด้วยแล้ว เบาะไม้ยิ่งคล้ายกระดานหินที่เย็นเยียบ....
“ถึงบ้านแล้วจะไปไหนต่อ” วุธถามหญิงสาวที่นั่งอยู่เบื้องหน้า
“ไม่รู้เหมือนกัน ต้องรอถามแม่ดูก่อน”
ผมยาวของเธอปลิวไสวไปตามแรงลมที่พัดวู่หวิวเข้ามาในตู้โดยสาร
“แล้วเรื่องของเรา...” ชายหนุ่มชะงักหยุดถ้อยคำไว้เพียงเท่านี้
“ฉันก็ไม่รู้เหมือนกัน”
เธอตอบสั้นๆ แม้แต่หน้าของเขาเธอยังไม่เหลือบแลแม้แต่นิดเดียว
วุธนั่งมองผู้คนที่เดินไปมาระหว่างโบกี้ รถไฟสายเหนือนำพาชีวิตผู้คนมากมาย เดินทางจากเมืองหลวงมุ่งกลับไปยังถิ่นเกิดเมืองนอน ใครว่าอยู่เมืองใหญ่จะมีโอกาสมากมาย วุธนั่นล่ะพิสูจน์แล้วว่าวุฒิ ม.3 ของเขานั้น แทบจะหางานที่ดีมีอนาคตทำไม่ได้เลย
ลำพังตัวเองยังเอาตัวไม่รอด เขาอดแปลกใจไม่ได้ว่าทำไมยังกล้าไปชวนสาวอีกคนมาร่วมใช้ชีวิต ชีวิตที่สัปปะรังเคกินมื้ออดสามมื้อแบบนี้
พอเข้าหน้าหนาว...งานที่ทำอยู่ก็ถูกเลิกจ้าง ที่ทำงานเธอก็เลิกจ้างในเวลาไล่เลี่ยกัน มันเป็นผลมาจากสงครามสีที่ไม่หยุดกันเสียที การปกครองบ้านเมืองโดยนักการเมืองขี้ฉ้อและไม่มีความสามารถ ทำให้ธุรกิจการงานล้มระเนระนาดวอดวายราวกับไฟเผาเมือง
เหลียวมองไปทางใดมีแต่การเลิกจ้างงาน หันมองไปทางไหนมีแต่เพื่อนร่วมชะตากรรมที่แสนหดหู่ซึมเศร้า
“แล้วเราจะรักกันไปเพื่ออะไร ?”
วุธเกิดคำถามนี้ขึ้นในใจ… คืนก่อนเดินทางทั้งสองคนทะเลาะกันอย่างหนักหน่วง เมื่อเงินหมด ความอดทนก็หดหาย ยังไม่นับถ้อยคำหยาบคายที่เขาและเธอ ขุดกันขึ้นมาสาดเสียเทเสียด่ากันอย่างไม่ยั้งปาก
ยังดีที่เขายั้งมือไว้ได้ทัน ไม่งั้นคงได้ลงไม้ลงมือกันชุดใหญ่
เธอยังงอนเขาไม่เลิก ประหยัดถ้อยคำตั้งแต่ขึ้นรถไฟจากหัวลำโพง เงียบมาตลอดทาง เมื่อเขาถาม เธอถึงจะตอบเสียหนึ่งคำ
“หรือว่าเราควรจะเลิกกับเธอดี อยู่กันไปก็ไม่เห็นอนาคตอะไร ?”
ความคิดของเขายังเดินทางต่อไปอย่างเงียบๆ มันทำงานอย่างน่ากลัว เขาเหลือบมองดูเธอเป็นครั้งคราว นึกถึงเรือนร่างที่เคยกกนอนกันทุกค่ำ สวยยังไงก็มีวันเบื่อ นี่ขนาดยังไม่มีลูกด้วยกันนับวันยิ่งเริ่มหย่อนคล้อย ถ้ามีลูกมาอีกคนจะเอาอะไรกิน ค่าอยู่ ค่าเทอม อนาคตของคนจนมันวางกองอยู่ตรงไหน
--- บางคืนเขาก็อยากรู้คำตอบเหมือนกัน
เสียงรถไฟฉึกฉักดังแล่นเข้าโสตประสาทไม่หยุดหย่อน ความสัมพันธ์อันง่อนแง่น ทำให้เขาอึดอัด มีอะไรในใจเธอไม่เคยพูด แล้วเอาแต่งอนไม่พูดจาเวลาผิดใจกัน
ใช่...ความรักต้องมีความอดทนเป็นส่วนประกอบ แต่ส่วนประกอบผุๆพังๆแบบนี้เขาจะทำกับมันเช่นไร ?
รถไฟแล่นเข้าชานชาลาอย่างแช่มช้อย การเดินทางด้วยรถไฟให้ความรู้สึกเชื่องช้า น่าเบื่อ
“จะไปไหนก่อนดี” เขาถามเธอแบบไม่ต้องการคำตอบ
“ฉันจะกลับบ้านก่อน” เธอตอบกลับมาด้วยน้ำเสียงเย็นชา
“ไม่ไปบ้านพี่ก่อนเหรอ ?”
“ไม่ล่ะ...ฉันคิดถึงแม่ แล้วค่อยโทรหาล่ะกัน”
เธอพูดจบเธอเดินไปเรียกรถสี่ล้อแดงที่จอดอยู่บริเวณสถานีรถไฟ แล้วขึ้นรถไปโดยไม่หันมามองเขาเลยแม้แต่นิดเดียว
วุธยืนอยู่ที่สถานีรถไฟโดยลำพัง เขายืนมองดูรางรถไฟอย่างเงียบๆ เขาไม่รู้จะเอ่ยลาเธอยังไงดี อดสงสัยไม่ได้ด้วยซ้ำว่ายังรักเธออยู่หรือเปล่า ?
รางรถไฟทอดยาวสุดสายตา
ชานชาลาชีวิตมันสิ้นสุดตรงไหน
บางทีเขาเองก็อยากรู้เหมือนกัน ?
Create Date : 25 สิงหาคม 2554 |
|
109 comments |
Last Update : 25 สิงหาคม 2554 5:15:03 น. |
Counter : 1925 Pageviews. |
|
|
ขอให้มีความสุขนะคะ