กรกฏาคม 2554
 
 12
3456789
10111213141516
17181920212223
24252627282930
31 
5 กรกฏาคม 2554

:: โครงการถนนสายนี้มีตะพาบ โครงการที่ 35 ::






:: โครงการถนนสายนี้มีตะพาบ โครงการที่ 35 ::





โจทย์โดย : คุณเป็ดสวรรค์







โจทย์มีดังนี้




ม.ให้อะไร
















ม.ให้อะไร




ศิลปิน - พงษ์สิทธิ์ คัมภีร์






เขาหวัง เขารอด้วยความแกร่ง รอนแรมจากครอบครัวมา
หวังปริญญามหาวิทยาลัย
อุดมการณ์อุดมความแกร่ง โรคแล้งน้ำใจจะแก้ไข
ให้ความเป็นธรรม ทุกชน ทุกชั้น ทั่วไป

ไต่เต้า รับราชการยศต่ำ
คุณธรรมยังนำความอยากในใจ
เพื่อนฝูงอย่างไรกินได้รวยไป ไม่สนใจ
จิตใจของคนต่ำสูง ไม่เทียมเท่ากัน
เขายังหวัง สักวัน เพื่อนเขาจะกลับใจ

อยู่ไปอยู่มา ถึงจึงรู้ว่า
โลกนี้ คนดีมีน้อยเกินไป
แค่คนไม่ชั่ว ไม่ต้องดี ไม่รู้อยู่ไหน
เขาจึงมองย้อนไป ถึงชีวิตในมหาลัย
แล้วตั้งคำถาม มหา’ ลัย ให้อะไรเรา




* ไม่ได้สอนให้เรียน แข่งขันอย่างคลั่งบ้า
ไม่ได้สอนคิดบ้า ว่าเป็นคนเหนือคน
จบเห็นแก่ตนแต่งงานสืบพันธุ์แล้วตาย

( มหา’ลัย สอนไว้ให้เราเป็นข้าประชาชน)



( ซ้ำ * )



ไม่ได้สอน ให้โกง ให้กลอกกลิ้ง ไม่ได้สอนว่าเป็นเทวดา
ไม่ได้สอนให้จบออกมา เหยียดหยามประชาชน
ไม่ได้ให้ปัญญาเอาไว้คดโกงสังคม
มหา’ลัยสอนไว้ให้เรา เป็นข้าประชาชน

ไม่ได้สอนให้เป็นเทวดา ไม่ได้สอนให้จบออกมา
เหยียดหยามประชาชน
ไม่ได้สอนว่าเป็นเทวดา จบเห็นแก่ตน
แต่งงานสืบพันธุ์แล้วตาย

ไม่ได้ให้ปัญญา ไว้โกงสังคม
มหา’ลัยสอนไว้ ให้เรา เป็นข้าประชาชน
( ซ้ำ * ‘ til fade )



















:: โลกในกำแพงสูง ::



เรื่องและภาพ : กะว่าก๋า









โลกในกำแพงสูงนั้นงดงามนัก
มีความฝันอันบริบูรณ์และสวยงาม

ฉันฝัน ฉันหวัง ฉันเป็นความหวังของใครมากมายนัก


ฉันต้องมีความรู้ ฉันต้องได้ปริญญา
ฉันต้องเป็นกำลังของครอบครัว
ฉันต้องเป็นที่รักของใครๆ

















แล้วในนั้น...มีสิ่งใดซ่อนอยู่
มีความรู้มากมายคณานับ
มีผู้ทรงภูมิที่เรียกว่าอาจารย์
แล้วชีวิตที่เริงร่านั่นเล่า
วัยเยาว์ วัยแห่งพลัง
พลังแห่งการสร้างสรรค์และเรียนรู้
ยังอยู่ ณ ที่นั้นใช่ไหม ?


โลกนี้สวยงามจริงหรือ ?
ความฝันงดงามจริงหรือ ?


มหาวิทยาลัยให้อะไรฉัน ?
มหาวิทยาลัยให้อะไรเรา ?


?













เข้าไปนั่งรับความรู้ที่ตายซาก
อาจารย์ถือหนังสือเล่มเดิม
เล่มเดิมที่เคยสอนเด็กไม่รู้กี่รุ่นต่อกี่รุ่น
เขาเปิดหนังสือเล่มเดิม แล้วนั่งลงอ่าน
อ่าน อ่าน อ่าน อ่าน อ่านไปจนหมดชั่วโมง
เราเรียนรู้ความรู้ที่ตายซาก
เป็นความรู้เมื่อสิบปีที่แล้ว
ความรู้ที่ไม่มีใครเคยอยากสอบทาน
ว่ามันล้าหลังและเหี่ยวเฉาขนาดไหน


ไม่มีใครอยากถามท้ายชั่วโมงอีกแล้ว
ไม่มีใครสงสัยและใคร่รู้อีกแล้ว

ทุกคนนั่งเรียนอย่างเบื่อหน่าย
แล้วรอเวลาเลิกเรียนเพื่อไปนั่งดื่มกาแฟในห้างหรู
เด็กสาวคนนั้นหยิบแป้งขึ้นมาเติม
ใบหน้าขาวผ่องเตรียมไปเดินรับแอร์
บ่ายๆดูหนังสักเรื่องกับแฟนหนุ่ม
แล้วค่อยกลับไปนอนกกกอดกันต่อที่หอ





















ความรู้ต่อยอด ความรู้ที่เป็นสุดยอด
งานที่สั่ง การบ้านที่มี
เปิดเน็ต เสริชหาข้อมูล
แล้วเอาความรู้ที่ตายซากในเว็บมาตัดต่อ
ตัดแปะแล้วถ่ายเอกสาร เย็บเล่มสวยๆ
สิ้นปีรับเกรด A ไปโดยไม่ได้เรียนรู้อะไรเพิ่มเติม


โลกถึงยุคที่ไม่ต้องใช้สมองเรียน
แค่นิ้วคลิ๊ก เลือก แล้วโยนข้อมูลไปกองรวมกัน
ขยะทางวิชาการอันเกิดจากการลอกเลียน
ขโมยและฉกฉวยความรู้ที่ตายซากของคนอื่นมาเป็นของตน
กลายเป็นวัฒนธรรมใหม่ของการเรียนรู้



มหาวิทยาลัยให้อะไรเรา ?



















ความฝันของเราคืออะไร ?


วันก่อนพ่อถามว่าเมื่อไหร่จะเรียนจบ
ตอบไม่ได้….
แต่ถ้าพ่ออยากรู้ว่าดาราคนไหนท้องกับใคร
ดาราคนไหนพี้ยา คนไหนรักๆเลิกๆกับใคร หนูบอกได้


อย่าถามว่าได้เรียนรู้อะไรจากการเรียนตลอดทั้งเทอม
ก็จะรอถามอาจารย์อยู่นี่ไง
ว่าข้อสอบจะออกอะไรบ้างในการสอบปลายเทอม


ข้อสอบมันมี 4 ตัวเลือก
ก...ข...ค...ง
A….B….C….D


ไม่รู้ก็เดากันไป
มีโอกาสถูกตั้ง 1 ใน 4
ไปนั่งท่องให้เหนื่อยทำไม
หนักเข้าถ้าทำข้อสอบไม่ได้
ก็ขอลอกเพื่อนในห้องสอบ
เพื่อนไม่ให้ลอก
เราก็ออกมาประณามมัน อย่าคบมัน
เพื่อนชั่ว --- ไม่ช่วยเพื่อน
เพื่อนเลว --- ไม่มีน้ำใจ


โลกในยุคสมัยที่เปลี่ยนไป
เรามองแต่ผลประโยชน์เฉพาะหน้า
และรับเอาแต่สิ่งที่เราได้ผลประโยชน์




มหาวิทยาลัยให้อะไรเรา ?






















ไม่มีใครถามกันแล้ว
ว่าตอนนี้นายอ่านหนังสือวิชาไหนอยู่

เรารอถามกันว่าคืนนี้จะไปเที่ยวย่ำรุ่งที่ไหน


เราไม่ถามกันแล้วว่าวิชาไหนเรียนแล้วสนุก
และได้ความรู้ไปพัฒนาตนเอง

แต่เราถามกันว่าวิชาไหนอาจารย์ใจดี
ปล่อยเกรดและจบง่าย


เราไม่ถามกันแล้วว่าเราควรออกไปกิจกรรมเพื่อสังคมบ้างหรือเปล่า


เราคิดถึงแต่ตัวเอง ความสุขของตัวเราเอง
ชีวิตของตัวเราเอง


มหาวิทยาลัยให้อะไรเรา ?



















“มีงานอะไรที่ทำแล้วสบาย ได้เงินดีบ้าง ?”

เด็กสาวคนนั้นถามฉัน


ฉันตอบไปว่า



“...ขายยากับขายตัว”



สายตาเธอหวั่นกลัว
ไม่ใช่ไม่กล้าทำ
แต่เธออยากรู้ว่าจะเริ่มต้นงานนี้จากตรงไหน



กระเป๋าแบรนด์เนม กับเงินในกระเป๋า
สำคัญกว่าความภาคภูมิใจในตน


ทำงานหนัก เงินเดือนน้อย – นั่นมันคนโง่เง่า


ในนามของความเป็นเรา
เงินดี งานง่าย สบาย
โลกนี้สบายนัก
หลับนอนกับชายแปลกหน้า
ค้ายาให้เด็กใจแตก
แลกกับเงินฟู่ฟ่องล่องลอย


ชีวิตนี้ง่ายนัก สบายนัก


มหาวิทยาลัยสอนอะไรเรา ?




















ความรู้คือปีกอันแสนสวยงามมิใช่หรือ
แต่ทำไมความรู้นี้กลับล่ามร้อยชีวิตไว้กับความหดหู่

เมื่อเขาถามฉันว่า
มหาวิทยาลัยคืออะไร ?

ฉันตอบว่า มันคือ “คุก”

เขาถามฉันว่า “คุก” ในความหมายของฉันเป็นแบบไหน ?

ฉันตอบว่า

“จะเอาคุกแบบที่กำแพง หรือไม่มีกำแพงล่ะ ?”



















โลกในสังคม กับ โลกในรั้วมหาวิทยาลัยได้เชื่อมโยงกันแล้ว
แต่เราเชื่อมโยงโลกกับมหาวิทยาลัยด้วยการป้อนผลิตคนเข้าสู่ระบบ....
ระบบการศึกษาแบบหมาหางด้วนที่ทำให้เราไม่เห็นรากเหง้าของตนเอง


เราไม่ได้สอนให้คนคิด แต่สอนให้เชื่อ
สอนให้คนอยู่ในกรอบ แต่ไม่สอนให้ลองท้าทาย
เราอยากได้เด็กเชื่องๆ เด็กที่เดินตามกันไปเป็นฝูง
ไม่ต่อต้าน ไม่ท้าทาย ไม่กล้าหืออือต่อระบบและอาจารย์
เราไม่อยากได้เด็กก้าวร้าว เราอยากได้แต่เด็กที่อ่อนด้อย
พ่อแม่รวยๆ จะได้มีปัญญาจ่ายค่าเทอมแพงๆให้สถาบัน


เราจะได้มีเงินเยอะๆไปสร้างตึกสวยๆ อาคารที่ดูทันสมัย
จะได้เป็นตัวล่อให้ผู้ปกครองเห็นดีเห็นงามในการส่งบุตรหลานมาเรียนที่นี่


เราชอบสร้างอาคาร แต่ไม่ชอบสร้างปัญญา
เราชอบสร้างสิ่งก่อสร้างใหญ่ๆโตๆ เพราะมันโก้หรู
ใหญ่โตและดูดี

ที่สำคัญมันมองเห็นง่ายและวัดค่าราคาได้ทันที
























หลายปีผ่านพ้น....
ฉันจบมาจากมหาวิทยาลัยชื่อดังของรัฐ
ฉันได้อะไรติดตัวมา...

ปริญญาบัตร

--- กระดาษใบนั้นฉันโยนมันทิ้งไว้ที่ซอกมุมไหนก็ไม่รู้ในห้องเก็บของ


วิชาความรู้ที่ร่ำเรียนมา
วางกองไว้ที่มุมไหนไม่รู้ในซอกสมอง


ฉันเป็นผลผลิตแห่งความแตกร้าวด้านการศึกษา


ฉันไม่เคยภูมิใจในความเป็น “บัณฑิต” ของตนเองเลย
ฉันรู้ว่าฉันยังโง่ ฉันรู้ว่าหลายปีที่มหาวิทยาลัยนั่น
ไม่ได้ทำให้ฉันเติบโตขึ้นเลย


ฉันมีแต่คำถามคาใจและหาคำตอบไม่ได้



ทำไมอาจารย์ไม่สอน แต่เอาเวลาไปทำงานนอก
ทำไมอาจารย์ตัดเกรดไม่ยุติธรรม คนที่ถ่ายเอกสารนิตยสารมาส่งกลับได้ A
ทำไมอาจารย์มีเรื่องชู้สาวกับลูกศิษย์ของตน
ทำไมอาจารย์ไม่สอน เข้ามาในห้องเอาแต่เล่าประวัติชีวิตตัวเองทั้งชั่วโมง
ทำไมอาจารย์ยืนสูบบุหรี่หน้าห้องไปด้วยเวลาสอน
ทำไมอาจารย์หน้าแดงกล่ำเมาเหล้าเข้ามาสอนในห้อง
ทำไมอาจารย์ไม่พัฒนาหลักสูตรการเรียนการสอนเลย
ฯลฯ


คำถาม คำถาม มีแต่คำถาม


มหาวิทยาลัยสอนอะไรเรา ?




















ความรู้ที่แท้จริงอยู่นอกรั้วมหาวิทยาลัย
ใครคนหนึ่งเคยพูดกับฉันไว้

ถ้าเช่นนั้นเราจะเข้าไปขังตัวเองอยู่ในคอกแคบๆนั้นทำไม


คำถามนี้ท้าทายความคิดของฉันอยู่ไม่น้อย


ใช่ --- ถ้าโลกนี้มันกว้างใหญ่เกินกว่าที่เราจะนำความรู้
มาบีบอัดยัดไว้ในห้องแคบที่เรียกว่าห้องเรียน
แล้วเราจะเข้าไปเรียนกันทำไม



เราอยากรู้อะไร ก็กดถามกูเกิ้ลได้
เราอยากทราบข้อมูลอะไร กดถามวิกิพีเดียได้


เราเข้าถึงแหล่งข้อมูลได้ง่ายดายเพียงพริบตา
ปัญหาคือ เราได้เคยสร้างเกราะแห่งภูมิปัญญา
ในการแยกแยะข้อมูลมหาศาลเหล่านั้นหรือเปล่า
ว่าข้อมูลใดจริง ข้อมูลใดลวง
ข้อมูลใดถูก ข้อมูลใดผิด




“ปัญญา” ไม่ใช่การแสวงหาข้อมูลมากองสุมในสมอง
หากแต่คือการรู้จักแยกแยะข้อมูลออกมาแล้วนำมันไปใช้งานได้อย่างแท้จริงและถูกต้อง




เธอเองก็เคยผ่านระบบการศึกษาในรั้วมหาวิทยาลัยมาแล้วใช่ไหม

เคยถามตัวเองบ้างไหมว่ามหาวิทยาลัยให้อะไรเรา ?



ท้าทายมากกว่านั้น ---



เธอเคยถามตัวเองบ้างไหม
ว่าเคยได้ให้อะไรกับมหาวิทยาลัยที่เธอเรียนอยู่ ?

เธอได้ให้อะไรกับสังคมที่เธออยู่

เธอได้เรียนรู้ที่จะให้อะไรกับคนรอบข้างที่เธออยู่ร่วม
เธอได้เคยคิดเปลี่ยนคำถามจากคำถามที่ว่า


“ฉันจะได้อะไร ?”


เป็น


“ฉันจะให้อะไร ?” บ้างหรือเปล่า ?



















เราคงไม่ได้คิดแค่เกิดมา เรียนหนังสือ
จบมาทำงาน แต่งงานสืบพันธุ์
แล้วตายเท่านั้นใช่ไหม ?


ชีวิตที่แท้จริงมีมิติ มีคุณค่ามากมายกว่านั้น
และเราทำได้มากกว่านั้น
เราเป็นได้มากกว่าที่เราเชื่อ
และเราให้ได้มากกว่าที่เรารับ


มหาวิทยาลัยให้อะไรฉัน ?


มหาวิทยาลัยทำให้ได้รู้ว่าอะไรคือการศึกษาที่แท้จริง


“การศึกษาที่แท้จริง” อยู่ที่การเรียนรู้ที่จะเข้าใจชีวิต
ไม่ว่าชีวิตจะเต็มไปด้วยริ้วรอยของความทุกข์มากเพียงใด
เรายังอยู่กับทุกข์นั้นอย่างเข้าใจได้ด้วย “ปัญญา”


การศึกษาเป็นเพียงขั้นตอนหนึ่งในการฝึกให้เรารู้จักคิด
รู้จักแยกแยะข้อมูลที่ผ่านเข้ามาในสมอง
ที่สุดแล้วปัญญาของเราต้องพาเราให้พ้นไปจากความโง่
ความหลงผิด ความเห็นแก่ตัว ความฉกฉวย
หรือความคิดที่จะเอาเปรียบคนอื่นตลอดเวลา



มหาวิทยาลัยไม่ได้ถูกออกแบบมา
เพื่อสร้างหุ่นยนต์ไร้ความคิดป้อนเข้าสู่บริษัทและโรงงานเพียงอย่างเดียว

เหมือนกับที่หลักสูตรและวิชาการต่างๆ
ก็ไม่ได้ถูกออกแบบมาเพื่อทำให้เธอเชื่อและหลงผิดไปว่า
การเป็นคนที่มีการศึกษาสูงจะเป็นเครื่องการันตีในการเป็นคนเข้าใจชีวิต


ชีวิตที่ดีงามไม่ได้เริ่มต้นจากเกรดเฉลี่ย 4.00 ในใบเกรดของเธอ
แต่เริ่มจากสิ่งดีงามที่เธอคิด พูดและทำกับตนเองและคนรอบข้าง
แล้วมอบสิ่งที่ดีที่สุดที่เธอมี….
คืนกลับสู่สังคมและโลกที่แวดล้อมตัวเธอมิใช่หรือ ?





































 

Create Date : 05 กรกฎาคม 2554
123 comments
Last Update : 5 กรกฎาคม 2554 5:17:10 น.
Counter : 3617 Pageviews.

 

มาเจิมจะทันมั๊ยคะ




แอมอร

 

โดย: peeamp 5 กรกฎาคม 2554 5:37:29 น.  

 

อรุณสวัสดิ์ค่ะคุณก๋า

เกือบเจิมไม่ทันอ่านเพลินจนจบเลยค่ะ
จึงได้เห็นว่าช่องคอมเม้นท์ยังว่าง
พี่ยังไม่ได้ลงมือเขียนเลยค่ะลืมซะได้ว่าวันนี้เป็นงานตะพาบ

วันนี้ต้นเดือน งานน่าจะยุ่ง
ไว้ตอนบ่ายๆอาจคิดออกว่าจะเขียนอะไร


แอมอร

 

โดย: peeamp 5 กรกฎาคม 2554 5:41:34 น.  

 

"ชีวิตที่ดีงามไม่ได้เริ่มต้นจากเกรดเฉลี่ย 4.00 ในใบเกรดของเธอ
แต่เริ่มจากสิ่งดีงามที่เธอคิด พูดและทำกับตนเองและคนรอบข้าง
แล้วมอบสิ่งที่ดีที่สุดที่เธอมี….
คืนกลับสู่สังคมและโลกที่แวดล้อมตัวเธอมิใช่หรือ ?"

ทิ้งท้ายได้โดนใจจังเลยค่ะพี่ก๋า..

อรุณสวัสดิ์ค่ะ

 

โดย: ดอกหญ้าหน้าบ้าน 5 กรกฎาคม 2554 5:41:53 น.  

 

สวัสดีตอนเช้าครับ แหม วันนี้ยาวเหยียดเป็นพิเศษ

จริง ๆ แล้วเรื่องนี้ อัดอั้นตันใจเยอะ. คือมันถูกอัด
โดยแผนการศึกษา มากกว่าเรียนรู้ด้วยตนเอง

เดี๋ยวจะกลับมาอ่านอย่างละเอียดอีกครับ.

 

โดย: ไวน์กับสายน้ำ 5 กรกฎาคม 2554 5:49:56 น.  

 

ได้กระดาษมาแผ่นเดียว
เป็นใบรับรองว่าเป็นคนของเขา
เป็นรุ่นน้อง รุ่นพี่ และวัดค่าความเป็นคนemo

 

โดย: ดอกฝิ่นในสายลมหนาว 5 กรกฎาคม 2554 6:01:24 น.  

 

สวัสดีเช้าวันอังคารค่ะคุณก๋า

มาชมภาพงามเป็นอาหารตาและอาหารใจ
พร้อมเรื่องราวที่ร้อยให้คิดพิจารณาตาม
เรื่องระบบการศึกษาไทย
ในรั้วมหาวิทยาลัยที่แตกต่างกันไปของแต่ละคน
เมื่อก่อน กว่าจะเรียนจบได้แต่ละวิชา
บ่งบอกถึงการอ่านตำรา
การทำความเข้าใจ
การไปค้นคว้าในห้องสมุด
อาจมีการแย่งหนังสือเล่มเดียวกันบ้างก็มี ^_^
เวลาเสาร์อาทิตย์ส่วนใหญ่อยู่ที่หอสมุดจริงๆ
ขบวนการเรียนรู้ : สุ จิ ปุ ลิ เลยทีเดียว
ตอนนี้เห็นเด็กที่บ้านทำรายงานผ่านคอมพิวเตอร์
คัดลอกแล้ววาง
จนต้องหันมาถามว่า เข้าใจในสิ่งที่ทำมากน้อยเพียงใด
อ่านทบทวนด้วยจะได้ไหม
จนต้องพาไปฝึกการอ่านในร้านหนังสือ

เมื่อสองวันก่อน เพื่อนย้ายกลับมาจากต่างประเทศ
แล้วพาลูกมาเรียนต่อที่นี่
แอบบ่นพึมพำเรื่อง The Gifted child
คุณก๋าเห็นด้วยไหมคะ

ขอบคุณที่แบ่งปันเรื่องราวดีดีในวันนี้นะคะ

 

โดย: A IP: 125.27.34.191 5 กรกฎาคม 2554 6:09:22 น.  

 

สวัสดียามเช้าค่ะ คุณก๋าและหมิง หมิง น้องสุดหล่อ

ขอให้มีความสุขกับการทำงานนะคะemo

ปล.โหวตให้ทุกวันเลยค่ะ

 

โดย: iamorange 5 กรกฎาคม 2554 6:12:47 น.  

 

หวัดดียามเช้าๆค่าน้องก๋า
มหาวิทยาลัย.. ^^ พี่ตามใช้เวลาพากเพียรถึง 6 ปีถึงได้มาค่ะ
คณะบัญชี เอกบัญชี มหาวิทยาลัยรามคำแหง
ตกแล้วตกอีกกว่าจะได้กระดาษแผ่นนี้ แต่กระดาษแผ่นนี้ัมีนัยยะค่ะ
ไม่ใช่กระดาษ ถึงวันนี้จะไม่ได้ใช้ความรู้ที่ลำบากพากเพียรร่ำเรียนมา แต่ได้ความอดทน ได้ความพากเพียร ได้ความพยายาม ได้รู้ว่า ล้มแล้วล้มอีก ตกแล้วตกอีก น้ำตาเล็ดน้ำตาไหล เพราะนานมากกว่าจะคว้า P หรือ G ได้สักตัว
ล้มแล้วไม่ท้อ ตกแล้วไม่ถอย สู้เดินหน้าต่อไป ไม่มีอะไรถ้าคนจะพยายามและพากเพียร และด้วยความที่เรียนนาน 5555+++ ช่วงปีหลังๆ ทำงานด้วย เพราะเหลือวิชาที่ไม่ผ่านอยู่ไม่กี่ตัว
เลยมีประสบการณ์ทำงานสารพัดรูปแบบ แจกใบปลิว รับจ้างกรี๊ดด้วยนะ สนุกมาก ได้เพื่อน ได้รู้คุณค่าของเงินค่ะน้องก๋า
มหาวิทยาลัยให้อะไรมากกว่าที่เราคิดค่ะ ^^

 

โดย: Iaun_Tor 5 กรกฎาคม 2554 6:16:43 น.  

 

อรุณสวัสดิ์คร๊าบน้องก๋า...ชิวิตคือความไม่แน่นอนจริงเลยเมื่อวานว่าจะได้หยุด พี่ที่ประสบอุบัติเหตุพี่แตนก็เลยได้เป็นผู้หญิงกลางคืน...ง่วงๆและก็ง่วงครับผม...

 

โดย: phaclam 5 กรกฎาคม 2554 6:20:58 น.  

 


ในบรรดาเพลงที่พี่อุ้มชอบของปู พงษ์สิทธิ์
มีเพลงถึงเพื่อนและม.ให้อะไร
โดยเฉพาะท่อนนี้

ไม่ได้สอนให้โกงให้กลอกกลิ้ง
ไม่ได้สอนว่าเป็นเทวดา
ไม่ได้สอนให้จบออกมาเหยียดหยามประชาชน
ไม่ได้ให้ปัญญาเอาไว้คดโกงสังคม
มหา’ลัยสอนไว้
ให้เราเป็นข้าประชาชน

ว่าแล้วโหวตงานเขียนเจ้าของบ๊อกจ๊ะ

 

โดย: อุ้มสี 5 กรกฎาคม 2554 6:38:46 น.  

 

อรุณสวัสดิ์ค่ะคุณก๋า วันนี้ตื่นเช้าทันมาทักทายก่อนไปทำงาน
มาอ่าน ม. ให้อะไร สำหรับกิ่งเรียนจบมาแล้วถือว่า ม.ให้อะไรเยอะมากมายค่ะ ยังอยากจะเรียนต่ออีกนะ แต่เวลาไม่ไหวเลยค่ะ อิอิ อยากจะเรียนจนเค้าบอกว่าเรียนจนแก่ตายเลยค่ะ
แต่เรียนแล้วนั้นใครจะได้มากได้น้อยแล้วแต่ผู้เรียนจะเอาไปทำประโยชน์หรือเปล่าคะ
น้องหมิงหมิงหัวเราะเต็มปากเต็มคำดีค่ะ เห็นฟันหมดครบ 32 ซี่แล้วยังคะ แต่ดีนะที่ยังไม่เห็นลิ้นไก่ 555 น่ารักมากมาย

ขอให้สุขสดชื่นตลอดวันเหมือนสายฝนพรมบนดอกไม้บานยามเช้าค่ะ

Beautiful Blog -  //www.bealog.net
Beautiful Blog

 

โดย: กิ่งฟ้า 5 กรกฎาคม 2554 6:45:16 น.  

 

สวัสดีค่ะ พี่ก๋า มาดาม และหมิง หมิง

ต้องแวะมาอ่านอีกรอบค่ะ
มหาลัย............

 

โดย: Gunpung 5 กรกฎาคม 2554 6:50:28 น.  

 

ในรั้วมหาลัย มีหลายสิ่งหลายอย่างให้ผู้แสวงหาได้ค้นได้หา
อยู่ที่ว่าผู้แสวงหา(ใบปริญญา) จะรู้จักแสวงหาสิ่งดีๆ เหล่านั้นหรือไม่


อยากให้น้องๆ ผู้ค้นหาชีวิตในวัยเรียน
ตั้งใจเรียน เพื่ออนาคตของตัวเอง
เพราะผู้ที่อยู่ข้างหลัง ยังรอเราอยู่
โดยเฉพาะพ่อกับแม่ ผู้ที่หวังในตัวเรา
อย่างน้อย...อย่าทำให้ท่านผิดหวัง

 

โดย: fonrin 5 กรกฎาคม 2554 7:07:40 น.  

 

อรุณสวัสดิ์ค่ะ น้องก๋า..

แดดแรง แดดดี ตั้งแต่เช้า..หวังว่า.. ฟ้ายามแลง..จะสวย..

วันนี้จะไปล่าตะวันตก.. (อีกแล้ัว)

 

โดย: poongie 5 กรกฎาคม 2554 7:07:50 น.  

 

หมิงหมิง มาเล่นที่กรุงเทพหรอค่ะพี่ก่า
อยากไปเล่นด้วยจังเลย
ชีวิตที่ดีงามไม่ได้เริ่มต้นจากเกรดเฉลี่ย 4.00 ในใบเกรดของเธอ
แต่เริ่มจากสิ่งดีงามที่เธอคิด พูดและทำกับตนเองและคนรอบข้าง
แล้วมอบสิ่งที่ดีที่สุดที่เธอมี….
คืนกลับสู่สังคมและโลกที่แวดล้อมตัวเธอมิใช่หรือ ?
ชอบจัง ประโยคนี้

 

โดย: kwan_3023 5 กรกฎาคม 2554 7:08:08 น.  

 

ม. ให้โอกาสเราได้เรียนรู้..ค่ะ ...

มีเรื่องต่างๆ มากมาย.. ทั้งนอกห้องและในห้องเรียนให้เราได้เรียนรู้...

..แต่ใครจะรับรู้ได้มากน้อย..เพียงใด .. ขึ้นกับประสบการณ์ การชี้แนะ .. และการรู้จักคิด..ต่อเนื่อง..

คนที่ไม่ยอมไขว่คว้าโอกาสที่มีมาแม้แต่เพียงเสี้ยว.. ย่อมไม่ได้อะไรจาก ม. เช่นกันค่ะ..

พี่ได้รับรู้ความแตกต่าง ระหว่างการเรียนโดยมีอาจารย์ป้อนให้ ของ ป.ตรี..

และการต้องคิด ไขว่คว้า.. ด้วยตนเอง ของ ป.โท..

ทำให้เห็นพัฒนาการทางความคิดของตัวเองมากเลย .. พาลนึกไปว่า ถ้าเราคิดแบบนี้เหมือนตอนเรียน ป.โท ใน ป.ตรี เราคงได้เกียรตินิยมอันดับต้น ๆ ..ไปประดับบารมีแล้ว..

แต่ไม่เสียดายหรอกค่ะ ประสบการณ์แตกต่างกัน.. สรุปว่า..ยังไงก็..ได้..ค่ะ

 

โดย: poongie 5 กรกฎาคม 2554 7:17:14 น.  

 



สว้สดีค่ะคุณน้องก๋า

วาว อ่านแล้วอึ้งไปเลย ช่างเขียนได้เห็นภาพพจน์
ที่แท้จริง โปร่งใสเลยค่ะ

ชื่นชมในความคิดและคำบรรยายค่ะ

น้องหมิงหมิงร่าเริงดีนะคะ

 

โดย: newyorknurse (newyorknurse ) 5 กรกฎาคม 2554 7:28:11 น.  

 

อ่านแล้วคิดหนักเลยค่ะบล็อกนี้ นั่นสิเนาะ เราได้อะไร แล้วเราให้อะไร


สวัสดียามเช้าค่ะคุณก๋า

 

โดย: บ้านสีขาว 5 กรกฎาคม 2554 7:35:35 น.  

 

Orkut Scraps - Good Morning





อรุณสวัสดิ์เช้าวันอังคาร แวะมาทักทายด้วยความคิดถึงนะค่ะ

 

โดย: KeRiDa 5 กรกฎาคม 2554 7:38:47 น.  

 

อยากให้ข้อสอบ มี 2 หรือ 6 ข้อให้เลือกตอบ จะได้ใช้เหรียญ หรือลูกเต๋าได้ง่าย ไม่เห็นมีอุปกรณ์ที่จำเป็นต้องใช้ในการสอบแบบ มี 4 ทางเลือกให้เลย 5555

 

โดย: คนเคยผ่านมหาสมุทร 5 กรกฎาคม 2554 7:41:56 น.  

 





สวัสดียามเช้าครับพี่ A



ผมรอดูรายชื่อรัฐมนตรีกระทรวงศึกษาธิการอยู่ครับ
และผมคาดหวังกับกระทรวงนี้มากทีเดียว
แต่ดูเหมือนทุกคนจะพุ่งเป้าไปยังกระทรวงที่เกี่ยวข้องกับปากท้อง
และความมั่นคงเป็นหลัก

ขออย่าให้ได้รัฐมนตรีที่ขี้เหร่เลยครับ
เพราะมันเป็นสิ่งที่ส่งผลกระทบต่อการศึกษาของประเทศชาติอย่างลึกซึ้งจริงๆ




The Gifted child เราแปลว่าเด็กที่มีความสามารถพิเศษ
หรือเด็กอัจฉริยะใช่ไหมครับพี่

บางทีอัจฉริยะกับคนบ้านี่มีขีดคั่นที่ใกล้กันมากเลยนะครับ


พ่อแม่ทุกคนถ้าได้อยู่ใกล้ชิดเลี้ยงดูลูกด้วยตัวเอง
ผมว่าเราก็มักเข้าข้างตัวเองว่าลูกเราเก่ง ฉลาด ร่าเริง
อันนี้ผมก็เป็นครับ 5555

แต่สิ่งหนึ่งที่ผมเชื่อมั่นมาตลอด คือ การเลี้ยงดูอย่างเป็นธรรมชาติ
ธรรมชาติเด็กเป็นอย่างไร ก็เลี้ยงไปอย่างนั้น
อย่าไปเร่งโต เร่งเก่ง เร่งอัจฉริยะเลย

ผมเห็นเพื่อนตัวเองหลายคน "ยัดเยียด" ความเป็นคนเก่งให้ลูก
จนโปรแกรมชีวิตของหนูน้อยอัดแน่นไปด้วย
การเรียน เรียนพิเศษ กิจกรรมพิเศษ
ทุกอย่าง "พิเศษ" ไปเสียหมดสำหรับเด็ก
จนแทบไม่มีเวลาได้พักผ่อน เล่นและเรียนรู้อะไรเลย....


ที่ญี่ปุ่นมีสถานศึกษาชื่อดังแห่งหนึ่ง
มักจะมีพ่อแม่มาคอยถามไถ่คุณครูระดับประถมเสมอว่า

"ลูกของดิฉันมีความสามารถด้านใดบ้างค่ะ"

"คุณครูพอจะมองออกไหมครับว่าลูกของผมเก่งในด้านใดบ้าง"


คุณครูคนนี้ตอบว่า


"ผมไม่รู้จริงๆนะครับว่าลูกของคุณจะเป็นคนเก่ง
หรือจะเป็นอัจฉริยะหรือไม่ในอนาคต
แต่ที่โรงเรียนแห่งนี้ เราจะสอนให้แกเป็นคนดีครับ"



ผมชอบคำตอบของคุณครูคนนี้
และนี่เป็นแนวทางการเรียนรู้ที่ผมเชื่อครับ


















 

โดย: กะว่าก๋า 5 กรกฎาคม 2554 7:46:00 น.  

 



อรุณสวัสดิ์ครับคุณก๋า
ต้องให้โอกาสครับ...ถ้าไม่มีปัญหา
พวกสีเขียว..และหากทำตามแนวทางตามนโยบาย
ไม่มีเรื่องโกงกิน...ต้องไปได้โลดครับ...ผมเชียร์

 

โดย: panwat 5 กรกฎาคม 2554 7:49:20 น.  

 

สวัสดีครับพี่..

ผมเองก็เห็นด้วยกับพี่ครับ..
ผมคิดว่าการเรียนของลูกถ้าเป็นไปอย่างมีความสุข สนุก
เนื้อหาวิชาการไม่ต้องยัดเยียด มันไหลเข้าไปเองแหละ

เพื่อนๆผมหลายคนจองที่นั่งโรงเรียนสาธิตต่างๆ วางโปรแกรมจนลูกจบประถม
ผมฟังแล้วปวดเฮดครับพี่ เค้าย้อนถามผมว่าลูกนายหละ..

ผมบอกเค้าว่าลูกผมยังวิ่งเล่นเก็บดอกไม้ ลื่นสไลเดอร์ อยู่เลย
ไม่ได้คาดหวังว่าจะต้องไปเส้นทางไหน แต่จะไปตรงที่ลูกอยากไปครับ..

ขอให้เอด้าใช้ชีวิตร่วมอยู่ในสังคมได้เป็นอย่างดี
มีความสุข ช่วยเหลือเพื่อนๆ สร้างสรรสิ่งดีงามก็พอครับ..อิอิ



Another shot So Enjoy in School.

 

โดย: Little Knight 5 กรกฎาคม 2554 7:52:52 น.  

 

อรุณสวัสดิ์ค่ะ คุณก๋า มาดาม หมิง หมิง
วันนี้เรื่องคุณก๋ายาวมาก

เรียนจบ ป ตรี มีเพื่อน
เรียบจบ ป โท มีทั้งเพื่อนและแฟน
เข้ามาเบรคอารมณ์

ขอแชร์มุมมองนะค่ะ
การจะอยู่ที่ไหน เรียนอะไร ขึ้นกับเราแสวงหา
การเรียนคือการเติมสิ่งที่เราต้องการเรียนรู้ หรือเพื่อประกอบอาชีพ

จึงตั้งใจจะเลี้ยงลูกให้รู้จักการสร้างรายได้ตั้งแต่เด็ก แล้วหาว่าตัวเองต้องการอะไร ค่อยไปเรียนเติมด้านนั้นๆ
(แต่ตอนนี้ยังไม่แต่งงาน คิดไกลไปหน่อย) แม่สอนลูกรวย (แบบรู้ค่าของเงิน)

เมื่อตอนเราเด็ก อาชีพที่รู้จักมีไม่กี่อาชีพ
จึงเข้าใจคนเป็น พ่อ แม่ ที่ต้องการให้ลูกเป็นเจ้าคนนายคน
รับราชการเพราะมั่นคง

ตอนนี้ต้องเปลี่ยนมุมมอง
เพราะรับราชการเป็นพนักงาน
สวัสดิการส่วนหนึ่งคือหักเงินเดือนตัวเองไปเป็นสวัสดิการ ใช้สิทธิ์ประกันสังคม
อายุงาน 10 ปี ได้เงินกองทุนไม่ถึงแสน
ทำงานถึง 60 ปี ไม่มีเงินบำนาญ
คำนวณดูแล้วกันค่ะ เกษียณแล้ว มีเงินกองทุนเท่าไหร่
แล้วคำว่าเป็นเจ้าคนนายคนนะ
ทำให้ระบบแบ่งชนชั้นกันหลายศักดินา
แล้วก็ถ่ายทอดกันรุ่นสู่รุ่น

จึงพลิกผันตัวเองมาทำอาชีพอิสระ
นกน้อยบินออกจากกรง
อิสระ คือการดิ้นรน

ถ้าอาชีพหมายถึงการสร้างรายได้
ปัจจุบันมีอาชีพอยู่มากมาย

ความรู้ก็มีมากมาย ถ้าเรารู้จักแสวงหาสิ่งดีๆ

อย่างใน bloggang มีความรู้ที่ใช้สร้างรายได้ ได้มากมายค่ะ
ขอบคุณ bloggang และ เพื่อนๆ bloggang ค่ะ

(นึกว่าจะจบไม่ลง)

 

โดย: nini (ST2Wonder ) 5 กรกฎาคม 2554 8:11:55 น.  

 

สุขตลอดวันทำงานนะคะพี่ก๋า..

 

โดย: ดอกหญ้าหน้าบ้าน 5 กรกฎาคม 2554 8:13:52 น.  

 

หวัดดียามเช้าครับน้องก๋า...

ม.ให้ใบการันตีว่าได้มาเรียนและผ่านการสอบ
"เรียน" และ "ผ่าน" มาได้อย่างไร....แค่ได้ C ก็โอแระ

แต่ที่สำคัญกว่าคือ "ผู้เรียน" จะเก็บเกี่ยวอะรัยได้นอกตำราและเล็คเช่อร์

ประสบการณ์ในบรรยากาศและสิ่งแวดล้อมของ ม.
มีมากมายให้ "เลือก" เรียนรู้ และสร้างเครือข่าย
มีทั้งด้าน บวก - ลบ - เบลอ ฯลฯ ......สุดแท้แต่จะไขว่คว้า

เราเป็นผู้ "เลือก" เอง

ที่สำคัญกว่า ม. คือ ก า ร เ รี ย น รู้ ต ล อ ด ชี วิ ต ครับ

..................

มุมมองของผมออกแนวกลางๆแทงกั๊กครับ
เหมือนครู(ฝรั่ง)เก่าแก่ท่านนึงที่บอกว่า

สองคนยลตามช่อง.......คนหนึ่งมองเห็นโคลนตม
อีกคนตาแหลมคม........มองเห็นดาวอยู่พราวพราย

 

โดย: Dingtech 5 กรกฎาคม 2554 8:15:41 น.  

 








ตอบไว้ที่บล็อกพี่โบ๊ต
เห็นว่ามันเกี่ยวข้องกับเรื่องของการศึกษา
ผมเลยเอามาแปะไว้ในบล็อกตัวเองด้วยครับ


.
.
.



นี่จนถึงวินาทีนี้
ผมก็ยังตอบตัวเองไม่ไ่ด้เลยครับ
ว่าการเลือก รร.ทางเลือกนั้น
มันดีจริงสำหรับลูกหรือเปล่า 5555

แถมเมื่อวานยังไปคุยกับคุณแม่อีกท่านว่า
ผมไม่สนใจว่าลูกจะเอนทรานซ์รึเปล่าด้วยซ้ำ 555

ยิ่งเลี้ยง ยิ่งเหมือนจะหลุดโลกนะเนี่ย 5555

แต่ผมก็เชื่อมั่นในสิ่งที่ผมตัดสินใจเลือกในลูกในวันนี้
วันหน้าเค้าจะเลือกการศึกษาแบบไหน ระบบไหน
มันเป็นเรื่องของชีวิตที่เค้าต้องรับผิดชอบตัวเอง

ผมคงไม่ไปนั่งบังคับลูกตลอดชีวิตแน่ๆ


มีคนถามผมด้วยซ้ำว่าตั้งใจจะเลี้ยงลูกยังไง

ผมตอบไปว่า

ผมอยากเห็นลูกผิดหวังเยอะๆ ล้มเหลวบ่อยๆในวัยเด็กครับ 555
นั่นจะทำให้เค้ามีภูมิต้านทานความผิดหวังเมื่อวันที่เค้าโตขึ้น

การล้มแล้วรู้จักลุกเอง
จะทำให้เขาเรียนรู้ที่จะช่วยเหลือตัวเอง
และมีความคิดเป็นของตัวเอง

นี่ไม่รู้คิดไกลไปรึเปล่านะัครับเนี่ย

วันนี้มันยังร้องไห้ตอนแม่ไปส่งที่โรงเรียนอยู่เลย 5555











 

โดย: กะว่าก๋า 5 กรกฎาคม 2554 8:17:24 น.  

 

มันตรง.. และหดหู่มากค่ะพี่

ถ้าจะทำเรื่องการศึกษาในไทย คงต้องรื้อใหม่ทั้งระบบเนอะ ฮ่าๆๆ เรื่องใหญ่จิงๆ แต่ก็ต้องทำต่อไป ^^

 

โดย: N_Nirvana IP: 115.87.153.97 5 กรกฎาคม 2554 8:19:51 น.  

 

สวัสดียามเช้า ๆ ครับ
คิดเหมือนผมเลยครับ
ทุกวันนี้เราควรจะต้องหมั่นถามตัวเองว่าเราจะให้อะไรบ้าง มากกว่า จะถามว่าเราได้อะไร

 

โดย: อัสติสะ 5 กรกฎาคม 2554 8:37:26 น.  

 


แวะมาทักทายก่อแนเริ่มทำงานค่ะ

ปล. วันนี้หมิงหมิงดูร่าเริงกว่าเมื่อวานอีกนะ

 

โดย: รุ่นป้าหน้าใส 5 กรกฎาคม 2554 8:52:46 น.  

 

สำหรับหนู

มหาลัย ให้ในทุกสิ่งทุกอย่างที่เรามองหา และเลือกที่จะเก็บเอาไว้

เลือกได้ ... ที่จะมาแค่เรียนอย่างเดียว เอาแต่ความรู้(จริงบ้างไม่จริงบ้าง)ออกไปทำมาหาเลี้ยงชีพ หรือจะเอาวิชาชีวิตออกไปด้วย

เลือกได้ ... ที่แค่จะคิดว่า เราจะได้อะไรจากมหาลัย หรือ เราจะให้อะไรกับมหาลัย

สำหรับหนู ... ที่นี่ เป็นส่วนสำคัญที่สร้างเราให้เป็นเราอยู่อย่างทุกวันนี้ เป็นอิฐก้อนหนึ่งของตึกสูงในวันนี้ ที่หากไม่มีอิฐก้อนนั้น ตึกวันนี้ก็ตั้งอยู่อย่างมั่นคงไม่ได้

เอ๊ะ ตอบเข้าประเด็นไหมนะเนี่ยเรา???

 

โดย: ดวงลดา 5 กรกฎาคม 2554 8:57:54 น.  

 

อ่านเนื้อหาในบล็อกไม่เท่าไหร่อ่านคอมเมนต์พี่นี่สิ
"วันนี้มันยังร้องไห้ตอนแม่ไปส่งที่โรงเรียนอยู่เลย 5555"
หลุดขำออกมาเลยจากที่คิดอยู่ว่าจะเมนต์อะไร เอิ๊ก

ม.ให้อะไรหลายๆอย่างในชีวิตค่ะพี่
โดยเฉพาะที่รามคำแหง
ชอบที่มันท้าทายมากๆแล้วเราก็ทำได้สำเร็จ
กว่าจะเรียนจบได้เหนื่อย ท้อ สู้ รู้ทุกรสของชีวิตจริงๆ
เป็นม.ที่เข้าง่ายออกยากอย่างที่ว่าไว้ไม่มีผิดเพี้ยน
ทำให้เราเป็นคนที่ต้องมีวินัย รู้รับผิดชอบตัวเองม๊ากมาก
เพราะแค่หลงระเริงไปชั่วครู่ G ที่เห็นๆอยู่ตรงหน้าก็หายวับไปกับตากลายเป็น F ไปซะแล้ว
นาห์ว่าไม่ว่าม.ให้อะไรเราสุดท้ายเราต้องถามตัวเองว่าเราคาดหวังอะไรมากกว่า
ถ้าไม่คาดหวังว่าอาจารย์ต้องอย่างโน้นอย่างนี้
ทำไมอาจารย์ไม่สอนเราดั่งใจเราอยากจะให้เป็น
การเรียนรู้ด้วยตนเองเป็นอะไรที่สนุกแท้ทายมากๆ
และลุ้นด้วยว่าสุดท้ายเราจะจบสี่ปีหรือแปดปีไม่จบต้องสมัครใหม่โอนย้ายหน่วยกิตหรือเปล่า
สำหรับนาห์ม.รามคำแหงให้ประสบการณ์ชีวิตที่ดีๆมากๆเลยค่ะ

 

โดย: มัยดีนาห์ 5 กรกฎาคม 2554 8:57:55 น.  

 

สวัสดียามเช้าค่ะ
ชอบประโยคนี้จัง
"ชีวิตที่ดีงามไม่ได้เริ่มต้นจากเกรดเฉลี่ย 4.00 ในใบเกรดของเธอ
แต่เริ่มจากสิ่งดีงามที่เธอคิด พูดและทำกับตนเองและคนรอบข้าง
แล้วมอบสิ่งที่ดีที่สุดที่เธอมี"

 

โดย: phunsud 5 กรกฎาคม 2554 8:59:40 น.  

 

สวัสดียามเช้าค่ะ

 

โดย: kobnon 5 กรกฎาคม 2554 9:09:34 น.  

 

สวัสดียามเช้าคะ น้องก๋า แวะมาทักทายและขอบคุณก่อน เดี๋ยวกลับมาเก็บรายละเอียดอีกรอบ

ซาบซึ้งใจมาก แวะไปทักทายพี่ทุกเช้า เป็นขวัญและกำลังใจแล้ว ยังจัดโหวตให้อีกด้วย
กะซิก กระซิก ซาบซึ้งในมิตรภาพแห่งโลกไซเบอร์ที่มีเพื่อน ๆ น้องพี่น่ารักมากมาย
ซาบซึ้งมากขนาดไหน ก็ขนาด ซึ้ง ซึ้ง ที่จัดมาให้นี่หล่ะคะ เอิ๊กกกก ซึ้ง ซึ้ง ซึ้งๆๆๆๆๆๆ

พอดีหาภาพซึ้ง ๆ ไม่ได้อ่ะคะ ไปเจอะภาพ[ซึ้ง]นึ่งข้าว] คงจะใช้แทนกันได้นะคะน้องก๋า


 

โดย: บ่งบ๊ง 5 กรกฎาคม 2554 9:23:36 น.  

 

อรุณสวัสาดิ์ค่า คุณก๋า

อ่านแล้วอึ่งค่า

บรรยาย จนเห็นภาพเลยค่า

 

โดย: ลงสะพาน...เลี้ยวขวา 5 กรกฎาคม 2554 9:24:08 น.  

 

สวัสดีคะคุณก๋า

..อ่านแล้วชอบคะ
เด็กจบใหม่สมัยนี้หลายคนมาสมัครงานก็ถามถึงเงินเดือน/โบนัส/สวัสดิการ เลย
ถ้าเค้าพอใจก็ทำ ไม่พอใจก็รอหาที่ใหม่จนกว่าจะพอใจ
ไม่ค่อยสนใจเนื้องานเท่าไรว่าตัวเองชอบหรือไม่
ขอแค่เงินเดือนสูงๆเป็นพอ..




 

โดย: pinkypunch 5 กรกฎาคม 2554 9:26:59 น.  

 

ชอบครับ
เห็นด้วยกับความคิดเห็นคุณ pinkypunch ทุกประการ

แต่ต่อไป วุฒิป.ตรีเงินเดือนจะเท่ากันแล้วครับ

15,000.- ขาดตัว อิอิ

 

โดย: peeradol33189 5 กรกฎาคม 2554 9:48:56 น.  

 

สวัสดียามเช้าครับ คุณก๋า มาดาม น้องหมิง หมิง
อ้าว ตะพาบ รอบ นี้เงียบกริบ
ผมก็เขียน เรื่อง ม เหมือนกัน แต่คนละ ม
ผมเองเรียนจบ มสธ.ครับ
เรียนไป ทำงานไป ด้วยวุฒิอนุปริญญาครับ จากโรงเรียนสายสธ.
เลยไม่ทราบว่า ชีวิตในรั้วมหาวิทยาลัยเป็นอย่างไร ให้อะไรบ้าง
ทุกวันนี้ ขอเป็น คนดี ถือ ศีล 5 บางวันก็ขาด บางวันก็เกิน

 

โดย: เศษเสี้ยว 5 กรกฎาคม 2554 9:50:45 น.  

 

สวัสดีค่ะคุณก๋า

หลายครั้งเลยนะค่ะ เราถามว่าเราได้อะไรจากใคร
จากสิ่งใด อะไรมั่ง ... สุดท้าย .. มันก็ได้คำตอบเหมือนกัน
แต่ว่าเวลาถามกลับว่า เราจะให้อะไรกลับคืน
เรายั้งคำตอบเอาไว้

แต่ไม่ว่าจะเพื่อคิดตอบ หรือว่าไม่ตอบ
ใจเราเท่านั้นที่บอกได้ คนอื่นไม่สามารถยัดเยียด
อะไรให้แก่กันได้ ถ้าตัวเองไม่รับเสียอย่าง

นั่นเลยเป็นคำตอบว่า ม. สอนให้เรามากมาย
แต่ว่าเราจะเลือกรับตรงไหน ส่วนไหนเอามาใช้เท่านั้นเอง
และเราอยู่กับสิ่งแวดล้อมยังไง นั่นล่ะเป็นสิ่งบ่งบอกค่ะ

 

โดย: JewNid 5 กรกฎาคม 2554 9:59:05 น.  

 

ตั้งคำถามนั้นง่าย

คนเห็นด้วยย่อมมากมาย

แต่ถามไปก็เปล่าดาย

สุดท้าย เริ่มที่ตัวเอง

 

โดย: พจมารร้าย 5 กรกฎาคม 2554 10:07:31 น.  

 

มหาลัยให้อะไรบ้าง นึกไม่ออกแล้วอ่ะ รู้แต่ว่าวิชาที่ร่ำเรียนมา
ตอนนี้ยังไม่ได้ใช้ประโยชน์จากสิ่งเหลานั้นเลยจ๊ะ
มาทำงานก็มาเรียนรู้กันใหม่ ตอนนี้ก็ยังเรียนรู้จากที่ทำงานไม่หมดสักที
ยิ่งเรียนยิ่งเพิ่ม

สวัสดีตอนสาย ๆ คะก๋า

 

โดย: aenew 5 กรกฎาคม 2554 10:27:52 น.  

 


สวัสดีค่ะ พี่ก๋า
...
เอาไป 1 ไลท์ นะคะ จ๊อปๆ
มีความสุขมากมากนะคะ

 

โดย: Nissan_n 5 กรกฎาคม 2554 10:31:30 น.  

 

สวัสดีนิชคุณ
ดราฟท์ไว้ยังไม่ได้ลงเลยแฮะ
เสียงหล่อเลยทีเดียว...วันนี้

 

โดย: โจนบ้ากับป้าแก่ๆ 5 กรกฎาคม 2554 10:37:54 น.  

 

เข้ามาฟังเพลงเพื่ออุดมการณ์..ความหมายดีมากค่ะ

 

โดย: ภัสสรา 5 กรกฎาคม 2554 10:38:22 น.  

 

ภาพสวยประกอบเนื้อเรื่องได้อย่างลงตัวเลยค่ะ

ปอ ลิง น้องหมิงหมิงน่ารักอีกแว๊ว วันนี้โชว์เนื้อน่าฟัดจังเลยครับ

 

โดย: ริวคิ-mawin-maji-minic 5 กรกฎาคม 2554 10:41:02 น.  

 

สวัสดีครับ

ผมจบมาก็ไม่ได้อะไรจากมหาวิทยาลัยสักเท่าไหร่

เพราะไม่ได้ใฝ่หาความรู้นอกเหนือจากที่ครูสอน

เรียนมาจนเข้ามหาวิทยาลัยได้ ยังจะหวังว่าจะให้ครูยัดเยียดความรู้ให้มันไม่ใช่ครับ ต้องไข่วคว้าหาความรู้เอาเองบ้าง คิดเองบ้างหาสิ่งใหม่ๆ ไม่อย่างนั้นความเจริญมันก็ไม่เกิด สิ่งของที่เขาผลิตออกมาใหม่ ก็เพราะความคิดใหม่ๆ ที่คิดเองครับ ไม่ใช่ความคิดของครู ซึ่งคงจะมีแต่ความคิดเก่าๆไปตามอายุ

เืื่พื่อนผมคนหนึ่งเรียน ปวช ปวส มาด้วยกัน พอจบ ปวส ก็มาเป็นครูสอน ปวช ในโรงเรียนที่เรียน ถ้ามัวแต่หวังว่าจะได้ความรู้จากครู มีหวังคงจะถอยหลังลงคลอง

ผมพูดตรงๆนะครับอย่างเคืองผมนะครับ เพราะผมยังอยากจะเป็นเพื่อนคุณก๋าอยู่

ผมรู้สึกเสียใจมาก เมื่อครั้งที่คุณก๋ามีโอกาสได้ทุนไปเรียนต่อเมืองนอก แล้วจะได้กลับมาปรับปรุงมหวิทยาลัยของคุณ แต่คุณปฎิเสธ คุณมีโอกาสที่จะได้ปรับปรุงมหาวิทยาลัยที่คุณว่าไม่ดี ให้ดีได้ แต่คุณกลับไม่ทำ(ตอนนั้นผมว่าในใจคุณคงจะคิดว่า คุณเองก็ทำไม่ได้)

เวลาย้อนกลับไปไม่ได้แล้ว อย่างมัวถามว่ามหาวิทยลัยให้อะไรเราอยู่เลย เพราะมันไม่มีคนที่จะแก้ไข

ผมรู้สึกไม่ดีเลยครับในคอมเม้นท์นี้ ผมขอโทษจริงๆนะครับ

 

โดย: จิรโรจน์ 5 กรกฎาคม 2554 10:47:53 น.  

 

คุณก๋าเขียนได้แจ่มมากเลยบล็อกนี้

 

โดย: I_sabai 5 กรกฎาคม 2554 10:48:05 น.  

 




ขายตัว .. แลกกับทุกอย่าง
เป็นคำตอบง่ายๆ ที่ ..
ไม่เพียงแต่ผู้หญิง ที่คิดนะคะในเวลานี้
มีผู้ชายมากมายที่หวังแต่สบาย
เลือกวิธีง่ายๆแบบนี้ด้วย

การศึกษาไม่ได้บอกอะไร
กับกลุ่มคนเหล่านี้เลย

แต่ชีวิตใครก็ชีวิตใครล่ะน๊า ..


ดี.เรียนให้จบ
เพราะว่าถ้าไม่จบมันจะค้างๆอยู่ในใจแค่นั้นเอง
การเรียนมหาวิทยาลัยสำหรับดี.ไม่ได้ช่วยอะไรในแง่ของการทำงาน
ดี.ทำงานก่อนเรียนจบ

ตอนไปนั่งสอบ ..
ข้อสอบถามถึงความรู้ทั่วไป
เรานั่งคิดถึงสิ่งต่างที่ผ่านเข้ามาในชีวิต
ประสบการณ์ในชีวิตเรา ทำให้เราทำข้อสอบได้เยอะมาก

ส่วนวิชาที่ต้องอ่าน
ก็อ่านกันเข้าไป๊ ... จบจนได้ แหะแหะ






 

โดย: d__d (มัชชาร ) 5 กรกฎาคม 2554 10:52:14 น.  

 

ดีจร้าน้องก๋า พี่มะได้ล็อกอินเพราะตามมาจาก fb เลย

พอเห็นก๋าบอกว่ายาว ก็เลยพยายามเบียดบังเวลางานมานั่งอ่าน อ่านแล้วรู้สึกตัวหนัก ๆ มันท้าทายปัญญาดีแท้

ขอนอกเรื่องก่อน การได้คุยกับน้องก๋า การได้อ่านและฟัง จะไม่เกิดประโยชน์เลย ถ้าพี่ไม่ลดอัตตา บางครั้งพี่ต้องล้างไพ่ทั้งกระดานเสมือนว่าไม่เคยรู้เรื่องนั้น ๆ มาก่อนเลย เพื่อให้สมองมีพื้นที่ว่างรับข้อมูลใหม่ จากนั้นก็คิด กลั่นกรอง หลายเรื่องที่พี่คุยกับก๋าแล้วนำไปคิดวิเคราะห์ต่อ ลองทำดู

พี่เริ่มมองเห็นบางอย่าง เกี่ยวกับการศึกษา การป้อนข้อมูลลงไปซ้ำ ๆ ทำให้นักศึกษาเชื่อสนิทใจว่าถูก พอมีใครมาป้อนข้อมูลใหม่ ไม่มีพื้นที่ว่างในสมองที่จะรับซะแล้ว เพราะข้อมูลเก่ามันฝั่งแน่นหยั่งรากลึก เรียนจบมาก็เลยคิดว่าข้าแน่ ข้าเจ๋ง ไม่มีใครเจ๋งกว่าข้าแล้ว ไม่ฟังใครแม้แต่พ่อแม่ที่เคยอุ้มชูเลี้ยงดู ดูหมิ่น ดูถูกคนไปทั่ว วางกล้ามใหญ่โต สุดท้ายล้มไม่เป็นท่าก็ยังโทษคนอื่นอยู่ดี

แล้วพี่ก็เริ่มมองเห็นวงกลม มันกลายเป็นวงเวียนให้เราเดินวนไปวนมา ไม่สามารถหลุดออกมาจากวงกลมนั้นได้ เพราะทุกคนหวาดกลัวว่า หากออกมาจากวงกลมแล้ว จะกลับเข้าไปในวงกลมไม่ได้อีก ทั้งที่ก็มองเห็นแต่แรกว่าวงกลมนั้นมีดีอยู่ส่วนน้อย มีเสียอยู่ส่วนมาก แต่เมื่อถึงที่สุดแล้วก็ยังอยากกลับเข้าไปอยู่ในวงกลม

เอ่อ พี่เปรียบเทียบยากไปมั๊ยอ่ะก๋า คือแบบว่าไม่รู้จะโทษอะไรดี ค่านิยมของพ่อแม่ หลักสูตร สถาบัน หน้าตาสังคม สภาพเศรษฐกิจ บลา บลา บลา........ ที่รู้ ๆ ตอนนี้ต้องโทษตัวเองที่เกิดมาเป็นมนุษย์ น่าจะเกิดเป็นเทวดา 555 ล้อเล่นน่า

 

โดย: oa IP: 125.25.75.142 5 กรกฎาคม 2554 10:52:54 น.  

 

ผมมีปัญหากับหลักสูตรและตำรับตำราเหลือเกินครับ

เฮ้อ ถามอากู๋แล้วแยกแยะเอาแบบพี่ว่า เจ๋งกว่าเยอะนะครับ

ปล.ชีวิตพี่ ฮาร์ดคอร์มาก ผมยืนยัน

ฮ่าๆ

emoemo

 

โดย: เป็ดสวรรค์ 5 กรกฎาคม 2554 10:53:44 น.  

 

มหาลัยเมืองไทยบางแห่งก็โรงงานปั๊มปริญญาชัดๆอะ

 

โดย: น้องผิง 5 กรกฎาคม 2554 11:10:36 น.  

 

สวัสดีค่ะคุณก๋ากะน้องหมิงหมิงผู้ร่าเริงหัวเราะโชว์ฟันขาวสวยเชียวนะครับ
"ก่อนอื่นขอปรบมือให้กะว่าก๋า สตูดิโอ คุณก๋าร้องเพลงเพราะจังเลยค่ะ เล่นกีตาร์ก็เพราะ ฟังเพลินจนไม่รู้จะเม้นท์อะไรเลย รู้แต่สมัยเล็กเรียนมหาลัย เป็นชีวิตที่มีความสุข และอาจารย์ผู้สอนแต่ละท่านก็ตั้งใจสอนศิษย์อย่างดีและทุ่มเทกายใจ จนเรารับรู้ได้ การค้นคว้า ก็เข้าห้องสมุดศึกษาค้นคว้า แล้วออกมานำเสนอหน้าคลาส ยังไม่ค้นหาจากเน็ทก๊อปแล้ววาง แล้วพิมพ์ออกมาเข้ารูปเล่มเหมือนสมัยนี้ เด็กๆตั้งแต่ประถมยันมัธยมมาที่ร้านเล็กมาถึงบอกอยากได้ข้อมูลอะไร ไม่สามารถทำเองได้แค่มาที่ร้านเน็ท หรือร้านรับบริการ เรียกว่าเล็กหา ก๊อป วาง พิมพ์ เข้าเล่ม และคิดเงิน เด็กจ่ายเงินแล้วเอาไปส่งครู ไม่เหมือนรุ่นเล็กจริงๆนะ ช่วงนั้นเราค้นคว้า ศึกษา และนำเสนอให้ครูและเพื่อนๆฟังอย่างเข้าใจ และสนุกกับข้อมูลที่เราหามาพร้อมเล่าเรื่องอย่างมั่นใจ จนทำงานกลุ่มทีไร เล็กได้ นำเสนอทุกที ก็นะ เรื่องระบบการศึกษาของเด็กไทยสมัยนี้มีแต่ผู้ปกครองบ่นกันทั้งนั้น ใครมีทางเลือกที่ดีกว่าก็มุ่งกันไป พากันไป ส่วนลูกตาสีตาสา คนธรรมดาก็มุ่งไปโรงเรียนของรัฐที่ไม่แพงแต่เลือกไม่ได้ ก็ได้แต่หวังว่าจะมีคนดีขี่ม้าขาวเข้ามาวางระบบการศึกษาตั้งแต่แรกเริ่มประถม-มหาลัยให้ดีกว่านี้มากๆ เน้นฉลาดแบบมีคุณธรรมและเกื้อกูลสังคมตั้งแต่เล็กแต่น้อย ที่สำคัญ ตอนนี้เราก็ทำได้โดยเริ่มเองจากครอบครัวของเรา สอนลูกของเรานอกเหนือตำราในแง่ของศีลธรรม ความมีน้ำใจ และรู้เท่าทันคน
ร่วมไปด้วย ยังไงวุฒิการศึกษาก็จำเป็นอยู่ดี กับการหางานในปทท. ถ้าพ่อแม่ไม่มีกิจการ มรดกเตรียมไว้ให้เนอะคุณก๋า มีความสุขทุกคืนวันนะคะ

 

โดย: หญิงแก่น 5 กรกฎาคม 2554 11:19:24 น.  

 





อ่านเม้นท์ของพี่โอ๋จบ
ผมนึกถึงนิทานเซนเรื่องนึงครับ




วันหนึ่งมีโปรเฟสเซอร์จากอเมริกาไปเยี่ยมทักทาย
และตั้งใจมาศึกษาขอความรู้ด้านเซนจากพระอาจารย์เซนรูปหนึ่ง
เมื่อนั่งลงในห้อง
อาจารย์เซนเอื้อมมือยกกาน้ำชาเทลงไปในถ้วยเล็กๆ
ท่านค่อยๆเท...จนน้ำเต็มถ้วยก็ยังเทต่อ
จนน้ำชาหกรดออกมานอกถ้วย
โปรเฟสเซอร์รีบทักท่านว่า

"อาจารย์ครับ น้ำชาหกออกมานอกถ้วยหมดแล้วครับ"


พระอาจารย์กล่าว...

"ท่านก็เหมือนถ้วยน้ำชาถ้วยนี้ เมื่อน้ำชามันเต็มถ้วยเสียแล้ว
ยังจะเทน้ำชาลงไปอีกได้อย่างไร"



การเรียนรู้ที่ผมเรียนรู้ในภายหลัง
หลังจากจบจากมหาวิทยาลัย
นั่นคือ .... ยิ่งเราคิดว่าเรารู้มากเท่าไหร่
เราก็ถูกความคิดเดิมที่มีอยู่ร้อยรัดและล่ามเราไว้กับความเชื่อเดิม
จนความรู้ใหม่ไม่อาจเข้ามาเพิ่มเติมในตัวเราได้


สิ่งที่จะทำให้เราเรียนรู้อะไรใหม่ๆได้
ก้คือ ต้องวางความรู้เดิมลงเสียก่อน
เราจึงจะเปิดใจรับความรู้ใหม่เข้ามาได้ครับ


ที่สุดของการเรียนรู้
ต้องเริ่มต้น ที่ "ตัวเรา"
และจบลงที่ "ตัวเรา" ครับ





 

โดย: กะว่าก๋า 5 กรกฎาคม 2554 11:46:21 น.  

 

สวัสดีค่ะน้องก๋า

ขอบคุณมาก ๆนะคะที่ร่วมยินดี HBD Blog กับแม่หมู
ขอบคุณกับมิตรภาพที่อบอุ่นด้วยค่ะ

อ่านแล้วก็อึ้งค่ะกับสิ่งที่น้องเขียนในวันนี้
ชอบแนวคิดน้องมาก ๆ แรงถูกใจค่ะ
ปิดโหวต ที่ 3 ตรงบ้านน้องก๋าเลยนะคะ


 

โดย: jamaica 5 กรกฎาคม 2554 11:53:16 น.  

 

วันนี้คุณก๋าเขียนยาวเลยเนาะ ... มีอะไร (เรียนรู้อะไร) กับมหาวิทยาลัยมาก่อน :)) ...

อืม รู้สึกเศร้ากับครูอาจารย์ เหมือนกันเนาะ ถ้าลูกศิษย์จะเพียงเข้าไฟนั่งฟังอาจารย์ พูด ๆ สอน ๆ เรื่องเดิม ๆ ... แต่ไม่มีคำถาม เร่งชั่วโมงให้จบ ..พอทำการบ้าน ก็ไปหาข้อมูลนั่นนี่จากอินเตอร์เน็ตมาปะติดปะต่อส่ง ฟังดูเหมือนครูที่ดี คืออากู๋ ... เอ หรือว่าครูอาจารย์ก็ไม่ดีพอ ... นักเรียนถึงไม่ฟัง ... ถ้าเป็นทำนองนี้ ก็สงสารนักเรียน ในทำนองกลับกันเนาะคุณก๋า :))

ฟังแล้วก็โดน ๆ เหมือนกันนะนิ ... ทุกวันนี้พี่ก็ใช้อินเตอร์เน็ต เป็นแหล่งความรู้เหมือนกันค่ะ ... แต่เรื่อง "ปัญญา" ก็คิดว่ามีเพียง "เล็ก ๆ" อยู่

 

โดย: Tristy 5 กรกฎาคม 2554 11:55:42 น.  

 

คลิกๆๆ รูปสวยๆน่ารักๆไว้ส่งต่อเพียบ...
แวะมาทักทายยามเที่ยง มื้อเที่ยงนี้คุณแม่ผัดยอดผักหวานให้ทาน คุณก๋า ล่ะคะทานอะไร?

 

โดย: เกศสุริยง 5 กรกฎาคม 2554 12:07:44 น.  

 

เขียนได้เห็นภาพมากเลยค่ะ
ถ้อยคำสละสลวย สะท้อนความเป็นจริง


แต่มหาลัยที่โบเรียน ก๊อบส่งไม่ได้นะ โดน plagialism ไล่ออกนะคะ
แล้วข้อสอบก็ไม่เคยเป็นช๊อยส์ด้วยอ่ะ

ส่วนหนังสือ ยืนพื้นเล่มเดิม เสริมเล่มใหม่ๆ


ไม่รู้คณะอื่นเค้าเป็นแบบนี้กันรึเปล่านะ

 

โดย: super-bobah 5 กรกฎาคม 2554 12:22:02 น.  

 

คุณก๋าเชื่อไหมว่า เมื่อเช้า หวยหุ้น ออก 28 อีกแล้ว แต่รอบเที่ยงครึ่ง เขาลุ้นกันอยู่ครับ

 

โดย: ปลายแป้นพิมพ์ 5 กรกฎาคม 2554 12:22:19 น.  

 


หวัดดีค่ะคุณก๋า...
ขอบคุณมากนะค่ะ
บอกตรงๆ ว่าหึดขึ้นคอเหมือนกัน
อีกอึดใจเดียวก้อจะได้กลับเมืองไทยแร้วววว...

 

โดย: พี่ฟ้า... (kuvasu ) 5 กรกฎาคม 2554 12:23:54 น.  

 

เด็กๆ ส่วนใหญ่มักถูกคาดหวังจากพ่อแม่ ว่าต้องเรียนเก่ง เรียนดี
เข้าโรงเรียนดีๆ มีชื่อเสียง สอบเรียนต่อในม. ดังๆ

โดยไม่ได้คิด ไม่ได้ปลูกฝังให้เด็กคิดเป็น แก้ปัญหาเป็นตั้งแต่ยังเด็ก

ให้เด็กไปค้นหาเองเมื่อเข้ามหาวิทยาลัย ซึ่งเด็กบางคนก็คิดได้แต่หลายคนก็ไม่ค่ะ

ฉะนั้น โดยส่วนตัวคิดว่าต้องช่วยกันค่ะ พ่อแม่ก็ช่วย คุณครู อาจารย์ก็สอนอีกแรงหนึ่ง


 

โดย: ช่อม่วงพวงคราม 5 กรกฎาคม 2554 12:28:16 น.  

 

สวัสดียามบ่ายค่ะ..ยิ่งเรียนก็ยื่งรู้ว่ายังมีอีกเยอะที่ไม่รู้...


แวะมาส่งกาแฟค่ะ


 

โดย: Calla Lily 5 กรกฎาคม 2554 13:03:11 น.  

 

มหาวิทยาลัยให้อะไรเรา?


คิดไม่ออกเลยครับ 555
แต่ที่แน่ๆ ให้เพื่อนให้สังคมที่น่ารักๆ


วันนี้อ่านแล้วอร่อยครับพี่ก๋า

วัฒนธรรมการเรียนสมัยนี้มันเปลี่ยนไปมากนะครับ
เรียนหวังเงินเดือนสูง หวังเกรดสูง หวังให้ตัวเองได้รับ
มากกว่าการให้ผู้อื่น แล้วก็กลายเป็นคิดว่าตัวเองสูงกว่าผู้อื่นทั้งๆ ที่เราก็เท่าเทียมกันทุกคน

ถ้ามีลูกมีหลาน (ซึ่งไม่มี 555)
ผมคงจะพาออกค่าย ขึ้นเขา เดินป่า ตั้งแค้มป์
ไปทำกิจกรรมปลูกป่า เลี้ยงสัตว์
พาไปเล่นกับเด็กบนดอย พาไปปลูกข้าว
สอนให้รู้จักให้ ...ซึ่งให้แต่ได้ กลับคืนมาหลายเท่ามากกว่า
การจมอยู่กับหนังสือกองโต เห็นแต่โลกในหนังสือแต่ไม่เห็นโลกของความจริง


ปอลอ

ตอนเด็กๆ ผมเคยถูกครูชาวอเมริกาดูถูกเรื่องสีผิวครับ
เขาไม่ได้ว่าแรงๆ แต่ฟังแล้วรู้ว่าเหยียดชาวเอเชีย
คงเพราะเขาคิดว่าเขา สปีชี่ ดีกว่าคนเอเชีย ฉลาดกว่าเอเชียมั๊งครับ ก็เหมือนกับคนไทยบางคนที่อยู่เมืองหลวงหรือเมืองใหญ่ๆ ตอนนี้ ที่คิดว่าตัวเองฉลาดกว่า เก่งกว่า คนภาคอื่น ซึ่งผมว่าไม่เห็นจะเกี่ยวกับภาค ชาติ เชื้อ ศาสนา หรือ อะไรเลยนะครับ คนเราก็เกิดมาเท่ากันแท้ๆ เลย คิดกันไปได้เนอะ

แต่ยากนะครับ การจะทำให้ความเกลียดหรือความคิดแบบนี้หายไป
คงต้องเริ่มจากตัวเราเอง ครอบครัวเราเองแทน
สร้างสังคมตัวเองให้ไม่เป็นแบบนี้ ^^




 

โดย: กลิ่นดอย 5 กรกฎาคม 2554 13:17:04 น.  

 

พี่แตนก็ขึ้นไปถึงชั้นบนเดินวนจนครบนะครับน้องก๋า เก็บภาพมเพรียบยังกะนางแบบ ไปกันสองคน555 ถ่ายรูปพักเหนื่อยเรื่อยๆเลยงัยครับอิอิ

 

โดย: phaclam 5 กรกฎาคม 2554 13:22:30 น.  

 

ตะพาบ 35 เสร็จแล้ว..
ส่งงานจ้า..ก็ยังยากสำหรับเราอยู่ดี



ระบบการเรียนการสอนต้องพัฒนาควบคู่ไปกับตัวนักศึกษาเองค่ะ
เด็กรุ่นหลังคิดเองไม่ค่อยเก่ง
จึงง่ายแก่การถูกครอบงำผ่านสื่อต้่างๆ

 

โดย: เริงฤดีนะ 5 กรกฎาคม 2554 13:28:18 น.  

 

กลับมาอ่านตามสัญญาอีกรอบ เขียนได้เห็นภาพสุด ๆ
อ่านไปก็นึกภาพตามไปด้วย คิดๆๆๆๆ นึกภาพต่าง ๆ มากมาย
มีหลายอย่างผ่านเข้ามาในสมองเยอะมาก หลากหลายให้คิด
อ่านไปก็แอบเปรียบเทียมการเรียนสมัยนี้ กับสมัยเราเป็นสาว

สมองพลันคิดไปถึงใบปริญญาปลอมที่กำลังเป็นข่าวอยู่ในเวลานี้อ่ะคะ
แต่เรื่องนี้ไม่ได้มีเฉพาะแค่ในเมืองไทย ที่อเมริกาและเพื่อนบ้านแถบนี้
เขาก็มีการขายและมีการซื้อใบปริญญากันมาเนิ่นนานแล้วหล่ะคะ
มีบริษัทเปิดรับเขียนวิทยานิพนธ์อีกด้วยน๊า ในอเมริกานี่หล่ะคะ อิอิ

 

โดย: บ่งบ๊ง 5 กรกฎาคม 2554 13:29:16 น.  

 


คนเราบริสุทธิ์ได้ด้วยปัญญา

สวัสดีค่ะน้องกิจ

ในความคิดเห็นของพี่ ระบบการศึกษาของไทยต้องใช้เวลาอีกหลายศตวรรษจึงจะเปลี่ยนแปลงหรือพัฒนาให้ดีขึ้นได้ หรือว่าบางทีอาจจะไม่มีทางเลยก็ได้

ในฐานะที่มีประสบการณ์ตรงจากการทำงานสอนทำให้คิดว่าคนที่สำคัญที่สุดคือ ครู

แต่ครูดีๆหายาก คนที่คิดว่ามาสอนหนังสือเพื่อแลกกับเงินเดือนเป็นครูไม่ได้หรอก

กระทรวงศึกษาใหญ่โตอุ้ยอ้ายเกินกว่าจะพัฒนาได้โดยเฉพาะการพัฒนาครู

 

โดย: พี่หมู IP: 101.109.135.184 5 กรกฎาคม 2554 13:44:15 น.  

 

เมื่อก่อนผุ้ที่มีการศึกษาสูง ก็จะมีจริยธรรมสูงไปด้วย เพราะฉะนั้นคนที่จบสุงกว่าจะได้รับการเคารพและจัดอยู่ในระดับที่สูงกว่า

ไม่ใช่เพราะได้วุฒิสูงกว่า แต่นั่นหมายถึง การมีความคิดที่ดีกว่า และ การประพฤติตัวที่สมควรแก่การเคารพนับคือ

ไม่ได้เข้ามาหลายวัน เห็นหมิง หมิงใส่ชุดนักเรียนแล้วเท่ห์มากค่ะ โตแล้วนะ หมิง หมิงน้อย

 

โดย: อุ๊ (oumon ) 5 กรกฎาคม 2554 13:51:35 น.  

 

เบอร์โทรจำได้นะ แต่ไอ่หมายเลขด้านหน้านั้นซิ
จำมิได้ เติมออนไลน์สองครั้ง ดั้นเติมให้ชาวบ้านซะนี้

ตอนนี้ก็เลยต้องแก้ปัญหาซื้อบัตรเติมเงิน
มาเติมเองเท่านั้น ชัวร์สุด สุด

ก๋าเป็นคนที่ทานกาแฟหรือเปล่าคะ
เห็นไม่เคยได้ยินพูดถึงเครื่องดื่มชนิดนี้

 

โดย: aenew 5 กรกฎาคม 2554 13:57:05 น.  

 

ปี่ตุ๊กกึดว่าได้ความจำกัดความอันนี้มาจากเพื่อนคนหนึ่ง

เขาจม ม.ศ. 5 แต่เมื่อมาอู้เรื่องก๋านลงทุน ก๋านตลาด เขาได้ทำตรงนี้มาตลอดชีวิต เขาสามารถเล่าได้ต๋ามตี่ได้เปิดอ่านตำราตี่เฮียนมาใน มหาวิทยาลัยเลย

เฮาเลยสุปว่าเขาหื้อเฮาเฮียนฮู้ วิธีการทำงาน วิธีการคิดโดยไม่ต้องเกยผ่านประสบการณ์

บางคนก่ได้แค่ก๋านใช้ชีวิตในก๋านมาอยู่ร่วมกั๋นในกล่องนึ่งตี่ฮ้องว่า มหาลัย ( แต่บ่ได้เฮียนมหาลัย ) ก่เป๋นสิ่งตี่ได้จากมหาลัยอย่างนึ่งเนาะ

 

โดย: tuk-tuk@korat 5 กรกฎาคม 2554 14:24:21 น.  

 

สวัสดีครับพี่หมู



ตอนที่ผมไปประชุมผู้ปกครองที่ รร.ต้นกล้า
ครูท่านพูดน่าฟังนะครับ
ท่านบอกว่ามีอดีตรัฐมนตรีกระทรวงศึกษาท่านนึงบอกว่า

ถ้าจะปฏิวัติการศึกษาในบ้านเราจริงๆ
ต้องยุบกระทรวงศึกษาธิการไปเลย


เป็นตลกร้ายที่น่าคิดตามนะครับ
นั่นแสดงว่าที่ผ่านมากระทรวงศึกษาธิการ
ไม่ได้เป็นส่วนสนับสนุนหรือส่งเสริมการศึกษาภายในประเทศ
ให้พัฒนาเลย

เอาง่ายๆ ลูกหลานของรัฐมนตรีเอง
ยังแทบไม่มีคนไหนจบการศึกษาในประเทศไทยเลย

นั่นแสดงว่าการศึกษาของเราไม่ไ่ด้มีคุณภาพสูงพอ
ที่จะสร้างความเชื่อมั่นได้ นักการศึกษามากมาย
พยายามผลักดัน "แผนการศึกษา" และกำหนดยุทธศาสตร์มากมายหลายแบบ
แต่พอเสนอไปถึงกระทรวงฯ ถึงอย่างก็ค้างเติ่งอยู่ตรงนั้น

นโยบายต่างๆก็เปลี่ยนไปเปลี่ยนมา ไม่ต่อเนื่อง

รัฐบาลใหม่มาก็สร้างนโยบายใหม่

บางครั้งแค่นายกตั้งรัฐมนตรี
เห็นชื่อ เห็นหน้าตาก็เพลียใจแล้วครับ

ดูคนก่อนก็ได้...
แล้วการศึกษาไทยจะพัฒนาได้อย่างไร

ผมก็เชื่อนะครับพี่
ว่าครูดีมีมากมายจริงๆ
คนที่ตั้งใจสอน ตั้งใจเป็นครูที่ดี

เสียแต่ระบบและการทำงานการเมือง
มันไม่เอื้อเลยต่อการพัฒนาการศึกษาของประเทศไทย





 

โดย: กะว่าก๋า 5 กรกฎาคม 2554 14:41:00 น.  

 

เห็นเม้นท์พี่ก๋าในบล๊อกพี่เอ๋แล้วขอบอกว่าเหมือนกันเลยค่ะ เจนก็ไม่กินกาแฟเลยเพราะใจสั่นมากกกเลยค่ะ ได้แค่โกโก้หรือไม่ก็ชาเหมือนกันค่ะ พอทำให้ร่างกายอุ่นๆ ได้อีกค่ะ ^_^
แวะมาอ่านโครงการตะพาบค่ะพี่ก๋า และยังมาอ่านเรื่องราวดีๆที่เขียนในบล๊อกไว้ให้อ่านอีกด้วย เป็นอย่างนี้จริงๆ สัจจธรรมของมนุษย์



พี่ก๋าสบายดีนะคะ แล้วซุปตาร์หล่ะคะ ไกล้กลับจากโรงเรียนแล้วนี่นาเนาะ

 

โดย: ภายใต้ 5 กรกฎาคม 2554 14:42:03 น.  

 

แวะมาทักทายอีกรอบ

เพราะเข้าบล็อกแล้วเห็นหมิงน้อยโป๊ นั่นแน่พออวบหน่อยพ่อก็จับแก้ผ้าถ่ายรูปซะแล้วนะ 555

ขอบคุณนะก๋าสำหรับการคุยกันครั้งนี้

หลายครั้งที่พี่ได้คุยกะก๋า แล้วพี่รู้สึกเหมือนกำลังกระเทาะเปลือกความถือดี อวดเก่ง อวดฉลาด หรือความโง่ ออกจากตัวซะบ้าง

พูดงี้อาจจะงง พี่ขอเรื่องใกล้ตัวหน่อย เรื่องการเลือกตั้ง พี่ยอมรับเลยว่าพี่ไม่เคยมองมุมนี้มาก่อน

ครั้งแรกที่พี่เลือกตั้ง พี่ดีใจมากและก็เลือก ส.ส.ที่พี่ชอบ ครั้งที่สองคนรู้จักบอกให้ช่วยเลือกหน่อย ครั้งที่สามเริ่มมองเห็นเกมส์การเมือง จากนั้นมาก็กลายเป็นไปใช้สิทธิ์ใช้เสียงแต่ไม่ลงคะแนน

แล้วก็พาลเกลียดการเมืองไปเลย นอกจากจะไม่อยากคุย ไม่อยากฟัง แล้วยังไม่อยากรับรู้อีก

ครั้งนี้ต่างออกไป พี่ทำตามที่ก๋าว่าไว้ พี่จดและจำนโยบายทุกอย่าง พรรคไหนว่าไว้อย่างไรบ้าง จากนั้นอีก 4 ปีพี่ก็ค่อยดูผลงาน ถ้าทำได้คราวหน้าพี่ก็จะเลือกทีมนี้หล่ะ ถ้าทำไม่ได้คราวหน้าก็ไม่เลือกเท่านั้นเอง

มีหลายคน ที่พี่อ่านแล้วใช้คำว่า ชนะ ซึ่งพี่ว่ามันเป็นชนวนชวนทะเลาะ พี่ไม่อยากให้คนมองการเมืองเป็นเรื่องการแข่งขัน แพ้ ชนะ ในโลกนี้ไม่มีใครแพ้ ใครชนะ หากมีใครคิดแบบนี้ก็จะเป็นตัวเองนั่นหล่ะที่บอบช้ำที่สุด

ไม่มีใครทำให้ความคิดเราเปลี่ยนได้ นอกจากเราจะเปลี่ยนตัวเราเอง ^_^

(น้องก๋าคุยสนุกนะ หรือว่าพี่จะสนุกอยู่คนเดียวไม่รู้ 555)

 

โดย: oa (rosebay ) 5 กรกฎาคม 2554 14:50:15 น.  

 



แวะมาส่งยิ้มหื้อหมิงหมิง ฟันขาวสะอาดคับ..

 

โดย: Nongpurch 5 กรกฎาคม 2554 15:11:20 น.  

 

เวลาสอนก๋านบ้านลูกบางทีกะต้องหื้อกูเกิ้ลสอน อิอิ
เพราะตี้แม่เฮียนมามันลงหม้อหมดแล้ว

emoemo

 

โดย: BongKet 5 กรกฎาคม 2554 15:21:13 น.  

 

สวัสดีครับน้องก๋า อ่านจบแล้วครับ เหมาะสำหรับเด็กสมัยนี้เลยครับ ผมก็เขียนส่งแล้วแต่เป็นในแบบคนรุ่นเก่าครับ

สงสัยนิดนึงว่าต้องโพสไว้ในกลุ่มไหนแล้วใครเขาจะมาอ่านครับ รบกวนถามนิดนึง 555++ กลัวไม่มีคนอ่านน่ะครับ
ตอนนี้ยังไม่มีใครเจิมเลยง่ะ รอตั้งแต่เช้าแล้ว

รบกวนน้องก๋าไปเจิมหน่อยครับ ^^

 

โดย: วนารักษ์ 5 กรกฎาคม 2554 15:36:58 น.  

 

แวะมาโหวตให้คุณก๋าสาขางานเขียนค่ะ มีความสุขมากๆนะคะ

 

โดย: เรือนเรไร 5 กรกฎาคม 2554 15:42:03 น.  

 

ถูกใจจังค่ะ

ตอนนี้กำลังคิดถึงสิ่งหนึ่งที่คุณก๋าพูดถึงอยู่พอดี เกียวกับการรับข้อมูลน่ะคะ ว่ารับมาแล้ว คุณแยกแยะออกไหมว่ามันจริง มันหลอก หรือรับมาแล้วก็เชื่อตามแบบปิดหูปิดตา .. ก็ฉันจะเชื่อของฉันอย่างงี้

ถึงตรงนี้จึงเศร้าใจค่ะ ว่าการศึกษาบางครั้งก็ไม่ได้ช่วยให้คน 'รู้' เลย

การที่สอนให้คนเชื่อ ไม่ท้าทาย ไม่ต้องถาม ทำตามฉันว่าเนี่ยก็อีกหนึ่ง พอเราเริ่มถาม เริ่มท้ากะข้อสงสัย ก็โดนหาว่าไปว่า 'ก้าวร้าว' คิดแล้วปวดใจ ..

หวังว่าอนาคตเด็กเราคงจะดีขึ้น นะคะ .. ยังหวังค่ะ :)

 

โดย: BeachBum IP: 122.104.125.45 5 กรกฎาคม 2554 16:12:40 น.  

 





หวัดดีค่ะคุณก๋า มาดาม หมิงหมิง ด้วยนะคะลูก
อ่านแล้วอึ้งเลยค่ะ สมัยมินเรียนเนี่ย ครูสอนให้คิดเองน้อยมาก
เกือบทุก ๆ วิชา ใช้ท่อง ๆ ๆ ๆ เพื่อไว้สอบอย่างเดียว
อิจฉาเด็กสมัยนี้ ที่เรียนแบบได้ใช้ความคิด อิสระ มากกว่าสมัยโน๊นเยอะค่ะ
ปล. หมิงหมิงคงกลับบ้านแล้ว น่าบานแน่ ๆ ตอนนี้อ่ะนะ ฮ่า ๆ ๆ

 

โดย: มินทิวา 5 กรกฎาคม 2554 16:13:03 น.  

 

ไม่มีใครถามกันแล้ว
ว่าตอนนี้นายอ่านหนังสือวิชาไหนอยู่

เรารอถามกันว่าคืนนี้จะไปเที่ยวย่ำรุ่งที่ไหน

เราไม่ถามกันแล้วว่าวิชาไหนเรียนแล้วสนุก
และได้ความรู้ไปพัฒนาตนเอง

แต่เราถามกันว่าวิชาไหนอาจารย์ใจดี
ปล่อยเกรดและจบง่าย

เราไม่ถามกันแล้วว่าเราควรออกไปกิจกรรมเพื่อสังคมบ้างหรือเปล่า

เราคิดถึงแต่ตัวเอง ความสุขของตัวเราเอง
ชีวิตของตัวเราเอง

มหาวิทยาลัยให้อะไรเรา ?
-----------

ในฐานะที่เป็นคนสอนคนหนึ่ง ก็ไม่ได้สอนอยู่
แต่เล่มเดิมหรอกครับ คุณก๋า วิชาที่สอนมันไม่
เอื้อให้ทำได้ แต่ก็กำลังวังเวงมากอยู่เหมือนกัน
เพราะสิ่งที่เรากระเสือกกระสนหามาให้เขา เค้า
ไม่อยากรับ เค้าอยากได้แบบข้างบนนั่นแหละครับ

เบื่อ ท้อ วังเวงจนอยากเลิกสอนบ่อยเลย

 

โดย: nulaw.m 5 กรกฎาคม 2554 16:16:43 น.  

 

ทุกอย่างเราว่าอยู่ที่ตัวคนมากกว่า แต่คุณก๋าเขียนให้ได้มองเห็นในภาพรวมทั้งคน สิ่งแวดล้อม ที่ทำให้เด็ก ๆ ไป น่าเศร้าจริง ๆ

 

โดย: magic-women 5 กรกฎาคม 2554 16:17:39 น.  

 

น้องก๋าขอบคุณที่ชมนะครับ อิอิ ^^

งั้นเดี๋ยวต้องไปชวนเพื่อนๆที่บล็อกคุณเป็นสววรค์ต่อ 555++

 

โดย: วนารักษ์ 5 กรกฎาคม 2554 16:18:23 น.  

 

ภาพมี contrast จัดจ้าน สะใจจริงๆค่ะ

 

โดย: Love At First Click 5 กรกฎาคม 2554 16:18:36 น.  

 

'ชีวิตที่ดีงามไม่ได้เริ่มต้นจากเกรดเฉลี่ย 4.00 ในใบเกรดของเธอ
แต่เริ่มจากสิ่งดีงามที่เธอคิด พูดและทำกับตนเองและคนรอบข้าง
แล้วมอบสิ่งที่ดีที่สุดที่เธอมี….
คืนกลับสู่สังคมและโลกที่แวดล้อมตัวเธอมิใช่หรือ ?'

จริงคะ...แต่ชีวิตนี้เรายังต้องยึดติด/ผูกพัน กับสิ่งที่คนส่วนใหญ่ในสังคมเขานิยมกัน คือเกรดดีๆ จบมหาวิทยาลัยดีๆ เพื่อจะได้งานที่มีเงินเยอะๆ เพราะทุกอย่างมันเดินด้วยเงินทั้งนั้นเลย ความรับผิดชอบในอนาคตที่มองเห็นตั้งแต่ยังเรียนไม่จบ ความฝันความหวังที่ตอนนี้ไม่ใช่ของตัวเองอีกต่อไป เงินทองที่คนทั่วไปตั้งให้เป็นเจ้าลัทธิอยู่ในตอนนี้ และอะไรหลายๆอย่างที่เราคิดว่าจะควบคุมมันได้ แต่ยังทำไม่ได้ ถามว่าอยากไหม...ที่จะไปแสวงหาความรู้จริงๆอย่างที่ควรจะเป็น? อยากไหม...ที่จะกล้าออกไปเผชิญโลกโดยไม่ต้องสนใจใบปริญญาหรืองานที่เงินเยอะๆ? อยากไหม...ที่จะอุทิศชีวิตให้สังคม ตอบแทนบุญคุณแผ่นดิน? ตอบได้เลยว่า...อยากทำที่สุด แต่ปัญหาคือ...ยังทำไม่ได้ เพราะหน้าที่ที่มีต่อคนในบ้านเล็กๆนี่ก็ยังทำไม่ได้ดีเลย ลู่ทางข้างหน้าก็ไม่ได้เป็นปึกแผ่นมั่นคงพอที่จะผละไปทำอะไรๆที่ต้องการได้ก่อน ก็ได้แต่ช่วยอะไรเล็กๆน้อยๆห่างๆ และก็ยังรู้สึกว่าตัวเองไร้คุณภาพ ไร้ความสามารถ ไร้ความดีงามต่อสังคมอยู่ทุกๆวัน

เกลียด "เงินทอง" แต่ก็ต้องอยากได้มัน อยากได้อีกเยอะๆ ได้มันมาแล้วมันก็รีบไป เลยทำให้อยากได้มาอีก เพราะต้องพึ่งพามันแท้ๆเชียว เลยต้องหาทางให้ได้มันมาเยอะๆ เกลียดมันจริงๆ

บางทีก็อยากจะอยู่ในที่ๆไม่ต้องคิดอะไรนะคะ ภาวะเหม่อลอย สมองว่างเปล่า ดูเหมือนจะเป็นของชอบไปแล้วตอนนี้

นอกเรื่องไปเยอะขออภัยนะคะคุณกะว่าก๋า

 

โดย: เจ้าช่อมาลี (PP_Skywalker ) 5 กรกฎาคม 2554 16:19:10 น.  

 

หากว่ารู้จักเก็บเกี่ยว ชาลีเชื่อว่า มหาวิทยาลัยให้อะไรเราเยอะเลยค่ะ

แต่สิ่งเดียวที่มหาวิทยาลัยไม่ได้สอน

คือการเอาตัวให้รอดในสังคมปัจจุบัน

บางครั้งเราจะเห็นว่า คนที่เรียนเก่งๆ ตัดสินปัญหาผิดๆ ก็เยอะนะคะ



ตะพาบกม.นี้ชาลีไม่ได้เขียนค่ะ เดี๋ยววิ่งอ่านตามบ้านเพื่อนๆ แทนนะคะ


 

โดย: sierra whiskey charlie 5 กรกฎาคม 2554 16:29:32 น.  

 



สำหรับพู
มหาวิทยาลัยเป็นใบผ่านทางค่ะ
ความรู้..ต้องเรียนรู้จากโลกภายนอกด้วย
วิชาการ..แค่ปูพื้นฐาน มิใช่ความรู้ทั้งหมด

อย่าเชื่อทั้งหมด หากยังมิได้ผ่านมัน
สังคมยุคนี้ วัตถุนิยมมากจนเกินไป

พูเอาดอกเล็บมือนางมาฝากในยามบ่ายค่ะ





กลีบเรียวของดอกไม้.....................สะอาง
คล้ายกับเล็บมือนาง......................หยิกย้ำ
ยามพี่จูบสองปรางค์.......................แก้มเรื่อ
เจ้าหยิกเนื้อพี่ช้ำ............................เพื่อน้อง,พี่ยอม

 

โดย: พธู 5 กรกฎาคม 2554 16:32:12 น.  

 

บ่ายๆดูหนังสักเรื่องกับแฟนหนุ่ม
แล้วค่อยกลับไปนอนกกกอดกันต่อที่หอ

^
^
^

สังคมสมัยนี้เห็นแล้วปวดใจ...

อ่านถึงประโยคนี้แล้วรีบก๊อบมาเลยค่ะ
และหลังประโยคนี้ เรื่อยๆ

ยิ่งรู้สึกว่าสังคมสมัยนี้มันดูแย่จริงๆ
อ่านไปก็รู้สึกว่าตัวเองเป็นเด็กดีไปด้วย
ทั้งที่เมื่อก่อนนั้น ไม่เคยคิด

บล็อกนี้ของพี่ก๋า ยาวมาก แต่ก็ช่วยให้มองเห็นมากขึ้นด้วยเช่นกัน

สวัสดีตอนเย็นค่ะพี่ก๋า

ป.ล.ไม่เคยได้เกรด 4.00 สักที เลยไม่รู้ว่าเค้ามีความรู้สึกกันอย่างไร

 

โดย: ดอกแก้ว (tanH2O ) 5 กรกฎาคม 2554 16:44:36 น.  

 

ตีกรอบความคิด คือสิ่งที่ครูไทยชอบทำ มีใครสงสัยจะถามมั้ย ส่วนมากไม่มีหรอก เพราะบางครั้งถามไป เจอสวนกลับมาว่า ทำไมไม่ตั้งใจฟัง ถามไปครูตอบไม่ได้แกล้งบอกให้ไปคิดเป็นการบ้าน


ผมเคยมีคนที่เรียกตนเองว่าครูคนหนึ่งสอนวิชาหลักรัฐศาสตร์ ก็พยายามยัดเยียดหลักการการเมืองของแกให้เด็ก สอบกลางภาค บางคนคะแนนดีมาก บางคนตกต่ำน่าใจหาย ถามว่าเพราะอะไร เพราะเด็กตอบไม่ตรงใจแกในเรื่องแนวคิดทางการเมือง พูดง่ายๆ เชียร์คนละพรรค คะแนนเลยสาปสูญ ตอนหลังทุกคนเลยเขียนคำตอบแบบเชียร์ไปทางที่แกต้องการโดยไม่ต้องสนใจหลักการอะไรทั้งนั้น + ด้วยการโจมตีอีกฝ่าย ผลที่ได้คือ คะแนนดีขึ้นทันตา มันแสดงถึงอะไรครับท่านนายพล?

พูดแล้วมันเศร้านะเรื่องนี้

 

โดย: คุณต่อ (toor36 ) 5 กรกฎาคม 2554 16:48:19 น.  

 

แวะมาอ่านตะพาบค่ะ

มหาวิทยาลัย ให้อะไร.. ความรู้ ทัศนคติ วิสัยทัศน์ ฯลฯ สิ่งดีๆอีกเยอะแยะ

แต่อยู่ที่เราจะเก็บเกี่ยว ไปได้มากน้อย และสามารถต่อยอด ความคิดตัวเองได้มากแค่ไหนต่างหาก

อิอิ ยังศรัทธาในการศึกษาอยู่ค่ะ


emo


อิอิ อยากแจมอีกนิดได้มั้ย




งั้นความ "จริงในทางโลก" กับ"จริงในทางธรรม" ก็ไม่ใช่ การ “รู้” ในแนวเดียวกันสินะ


เช่น พวกนักการเมือง ... ที่แย่งชิงกันเข้าสภา ยอมทุ่ม10ล้าน -20ล้าน เพื่อเงินเดือน แค่แสนกว่า(555+ แต่ยิ่งเป็นยิ่งรวยเนอะ)

จุดนี้ก็คงเป็นความจริงในทางโลก ใช่มั้ย? เพราะ รู้ทั้งรู้ว่า นักการเมืองมาเพื่อ..อะไร?แต่คนไทยก็ยังต้องออกไปเลือกไปใช้สิทธิ์ เอาคนพวกนี้เข้ามาเป็นตัวแทน เพียงเพราะ”เชื่อ.” .ว่านักการเมืองพวกนี้จะนำพาชีวิตที่ดีกว่าเก่ามาให้เรา

อิอิ ทั้งที่โดย “สัจธรรม” นักการเมือง ก็คือ “ความจริงที่เป็นของมันอย่างนั้นจริงๆ”


555+ มาคุยสนุกๆ เฉยๆค่ะ เพราะ เมื่อเช้าเพิ่งเห็นคนต่อยกัน เพราะเถียงกันเรื่องการเมือง เลยเซ็งโคตรกับชีวิตคนไทย ที่ไปหวังลมๆแล้งๆกับ นโยบายขายฝัน ของแต่ละพรรคการเมือง



ขอบคุณจากใจจริงที่กรุณาไปตอบคำถามในบล็อก

 

โดย: คล้ายดาว 5 กรกฎาคม 2554 17:04:00 น.  

 




มาส่งความคิดถึงพร้อมเครื่องดื่มเย็นๆค่ะ

แม้จะยาวแต่ก็อ่านทุกถ้อยอักษรเพราะอยากรู้ว่าก๋าคิดและให้คำตอบกับโจทย์นี้อย่างไร
เพิ่งได้อ่านเป็นบ้านที่สองค่ะ


 

โดย: ร่มไม้เย็น 5 กรกฎาคม 2554 17:10:07 น.  

 

เห็นด้วยกับพี่ที่เม้นท์ไว้ที่บล้อกเลยครับ
จริงๆ ไม่ว่าหน้าที่ใหนก็สำคัญเท่าๆกันทั้งนั้น

ผมก็ไม่ค่อยสันทัดเรื่องการเมือง
แต่ตามที่ผมเข้าใจ ก็คือ สส ต้องมาเป็นผู้แทนราษฎร
ในการบริหารบ้านเมือง ดังนั้น การเลือกว่าจะเลือกใครมาเป็นผู้แทน ก็คือการเลือกคนที่ตอบโจทย์ได้ตรงกับที่เราต้องการ เขาสามารถเข้ามาแก้ไข สิ่งที่เรามองว่าเป็นปัญหาหรือช่วยให้คนในประเทศมีการเป็นอยู่ที่ดีขึ้น หรือ พัฒนาขึ้นได้มากที่สุด

การเลือกการเมืองของคนอื่นอาจจะเป็นอีกแบบหรือเปล่า ผมก็ไม่แน่ใจนะครับ

แต่โจทย์ของแต่ละคนไม่จำเป็นต้องเหมือนกัน
ดังนั้นคำตอบที่ได้ ก็ใช่ว่าจะต้องเหมือนกันเสมอไป

เพียงแต่คำตอบของพรรคการเมืองใหนตรงใจคนส่วนมากของประเทศได้มากที่สุด ซึ่งเมื่อถึงเวลาก็ต้องยอมรับผลที่ออกมา แต่ที่แน่ๆ ฝ่ายที่ได้รับเลือกก็ไม่ควรเยาะเย้ย ส่วนฝ่ายที่ไม่ได้รับเลือกก็ไม่ควรเป็นขี้แพ้ชวนตี

งงดีครับ ผมก็ว่าการเมืองมันก็เฉยๆ นะ แต่ทำไมคนเอาเป็นเอาตายกันเหลือเกิน เหมือนจะเกลียดกันเข้าไส้ปานนั้น ประเทศอื่นเขาเป็นเหมือนประเทศเราปล่าวหนอ 555

บางคนคุยกับผม จะไม่กล้าพูดตรงๆ นะ ว่าชอบพรรคใหนยังไง บางทีถามเรา เราก็ตอบไปตรงๆ ว่าเลือกใคร
ไม่เห็นต้องอายอะไร เราเลือกแบบมีเหตุผล หรือเขากลัวผมจะไม่คุยด้วยที่เลือกไม่เหมือนกันก็ไม่รู้นะครับพี่
หรือบางคนรู้ว่าผมเลือกไม่เหมือนกัน เลิกคุยกันไปก็มี 555

สังคมไทย มันเป็นแบบนี้มานานแล้ว หรือเพิ่งมาเป็นก็ไม่รู้นะครับ แต่พอเป็นแล้ว เหมือนมันฝังรากลึกเลย




 

โดย: กลิ่นดอย 5 กรกฎาคม 2554 17:32:58 น.  

 

มหาวิทยาลัยไม่ได้ถูกออกแบบมา
เพื่อสร้างหุ่นยนต์ไร้ความคิดป้อนเข้าสู่บริษัทและโรงงานเพียงอย่างเดียว

ชอบประโยคนี้

รู้สึกเหมือว่าตัวเองก็เป็นส่วนหนึ่งในนั้น

แต่ที่แย่กว่านั้น คือหุ่นยนต์เหล่านี้ ทำอะไรแตกต่างจากเดิมไม่ได้ ป้อนข้อมูลเพิ่มไม่ได้ด้วย

ปล.แอบบ่นส่วนตัว แบบเบื่อลูกน้องที่ออฟฟิศเต็มทน แหะๆ

 

โดย: Mir & deS 5 กรกฎาคม 2554 17:36:02 น.  

 





สวัสดีครับพี่ BeachBum



โลกทุกวันนี้
ข่าวสารข้อมูลมากมายมหาศาล
ถ้าเราไม่รู้จักแยกแยะ
เราจะถูก "ข้อมูล" เหล่านั้นลากจูงความเชื่อได้ง่ายๆ

ผมคิดว่าประเด็นการเมืองเป็นตัวอย่างที่ดีมาก

ถ้าเราเสพข้อมูลของฝั่งไหนมากกว่า
เราก็ชอบ รัก ฝั่งนั้นมากกว่า
แล้วที่สำคัญ
เมื่อติดตามเสพรับไปนานๆ
มันกลับสร้างความเกลียดชังให้เกิดขึ้นในใจเราแบบมีอคติ

เช่น ชอบพรรคนี้ ก็เกลียดพรรคนั้น
ชอบสีนั้น ก็เกลียดสีนี้

พอใช้ความเกลียดเป็นที่ตั้ง
ต่อให้อีกฝ่ายทำดีแค่ไหน เราก็ทำเป็นมองไม่เห็น

ทุกวันนี้ระบบการศึกษาของเราจึงมีปัญหา
เพราะเราไม่ค่อยสอนให้เด็กรู้จักการกลั่นกรองข้อมูล
แต่สอนให้รับ งับแล้วเชื่อทันที

เมือ่เราไม่สอนให้ไเด็กมีเหตุมีผล
ก็ง่ายมากที่เราจะใช้การครอบงำข้อมูลด้วยการให้ข้อมูลแบบทางเดียว
ย้ำๆซ้ำๆจนเชื่อข้อมูลตัวนี้ตัวเดียว
หรือแม้แต่การใช้อำนาจทีเ่หนือกว่าบังคับให้เชื่อตามกัน

อิสรภาพทางการศึกษา --- จึงเป็นสิ่งที่ผมคิดว่าสำคัญมาก
มันไม่ได้หมายถึงการที่เรามีอิสระในการรับรุ้ข้อมูลอะไรก้ได้
หากแต่ผู้รับข่าวสารต้องมีวิจารณญาณมากพอ
ที่จะยอมรับทั้งข้อมูลฝั่งที่ตนไม่เห็นด้วย
กับฝั่งที่ตนเห็นด้วย
แล้วนำมาเกลี่ยให้เห็นความแตกต่างที่มีในความคิดของตัวเอง
โดยไม่จำเป็นต้องได้รับการชี้นำจากใครคนใด






 

โดย: กะว่าก๋า 5 กรกฎาคม 2554 17:41:12 น.  

 

อะไรเอ่ยก๋า

ป้าจะรอ....ขอบคุณล่วงหน้าค่ะ

 

โดย: ร่มไม้เย็น 5 กรกฎาคม 2554 18:41:52 น.  

 

วันนี้เข้ามาอ่าน ม.ให้อะไร ตั้งแต่สายๆ กว่าจะได้เม้นท์เย็นซะแล้ว
เป็นเรื่องที่ยาวมากเหมือนกันนะ ไม่ใช่เพิ่งอ่านจบหรอกนะ
อ่านจบตั้งแต่ตอนสายๆแล้ว แต่เพิ่งจะว่างเม้นท์นี้เองค่ะ

ความจริงแล้วไม่ควรถามว่ามหาลัย ให้อะไรเรา
ควรจะถามว่าการศึกษาให้อะไรเรามากกว่า
แต่ว่าเป็นโจทย์ตะพาบ ก้อเลยต้องตามนั้นนะ

คนเรียนปริญญาเพื่อให้ได้กระดาษมา 1 แผ่น
ไว้ใช้สมัครงาน เพื่อหาเลี้ยงชีพตัวเองและครอบครัว
เพราะสมัยนี้เป็นยุคของการแข่งขัน ใครไม่มี
โอกาสก็พลอยน้อยไปด้วย เพราะเขาวัดกันที่การศึกษา
ยิ่งได้เกียรตินิยม จบนอกด้วยแล้ว คนจะยอมรับมากกว่า
คนที่ไม่มีโอกาสเรียน โอกาสที่จะได้งานดีๆทำ เงินเดือนสูงๆ
แทบจะไม่มี ทั้งๆที่เขาอาจมีความสามารถ แต่เขาไม่มีโอกาส
แสดงให้ใครเห็นได้เลย

คนยิ่งเรียนสูง บางคนยิ่งเห็นแก่ตัว รู้มากกว่าคนอื่น ยิ่งเอาเปรียบคนที่ด้อยกว่า
ใครๆก็อยากทำงานสบายๆ ได้เงินเยอะๆกันทั้งนั้น
เลยมีแต่คนอยากรวยทางรัด ทั้งที่รู้ว่าผิด รู้ว่าไม่ดี
แต่ก็ยังจะทำ ทำให้คุณค่าความเป็นคนแทบไม่เหลือ
ย้อนกลับมาที่การศึกษา เรียนมามากมาย แต่สุดท้าย
ไม่ได้ช่วยให้คนๆนั้น คิดอะไรเป็นเลย

วันนี้ถึงจะยาว แต่ชอบที่คุณเขียนนะคะ

 

โดย: ดาวริมทะเล 5 กรกฎาคม 2554 18:57:22 น.  

 

เดี๋ยวนี้มหาลัยเป็นแบบนี้แล้วหรือ
แต่ก้อขึ้นอยู่กับนักศึกษาเองด้วยนะคะ

 

โดย: blueberryblossom 5 กรกฎาคม 2554 19:10:40 น.  

 

ทักทายสวัสดีกับคุณก๋า ยามค่ำคืนครับ
วันนี้มากันดึกๆ หน่อยครับ

 

โดย: ถปรร 5 กรกฎาคม 2554 20:20:41 น.  

 

ที่แน่ๆ ม. ให้เพื่อนมาเยอะเลย
เพื่อนเรียน เพื่อกิน เพื่อนเที่ยว ...

เพื่อนตายก็มี
(เพราะปีสองปีที่ผ่านไปมีเพื่อนเสียชีวิตไปสองคน)

 

โดย: ลุงแอ๊ด 5 กรกฎาคม 2554 20:22:46 น.  

 

สวัสดีค่ะคุณก๋า วันนี้กิ่งสอนเยอะเหนื่อยหน่อยค่ะ กิ่งว่าอย่างคุณก๋า ไม่ต้องเรียนทางวิชาการมากหรอกค่ะเรียนม.ชีวิตดีที่สุด เพราะคุณก๋ามีพร้อมทุกอย่างแล้ว แต่กิ่งยังต้องอาศัยใบปริญญาเป็นใบเบิกทางชีวิตอยู่เลย เพราะกิ่งต้องขวนขวายอีกเยอะถึงจะมีพร้อมค่ะ แหะ แหะ สงสัยชาติที่แล้วทำบุญน้อยไปหน่อยค่ะ อิอิ
พักผ่อนอย่างมีความสุขนะคะ


123Friendster.Com

123Friendster.com - More Flowers Comments

 

โดย: กิ่งฟ้า 5 กรกฎาคม 2554 20:25:55 น.  

 

แรกจบการศึกษาใหม่ๆ ผมก็บอกไม่ถูกว่ามหาวิทยาลัยที่เข้าไปศึกษาให้อะไรกลับมาบ้าง แม้กระทั่งเดี๋ยวนี้ผมก็ยังตอบตัวเองไม่ได้ ว่าอะไร..คือสิ่งที่ได้จากมหาวิทยาลัย เพราะการทำงาน กับการเรียนนั้น มันไปคนละแนวทางกันเลย คืองานที่ผมทำอยู่นะ วุฒิ ป. 6 ก็ทำได้สบายมากครับ

28 หมดไปแล้วครับ เพราะถัดจากนั้นมันก็เป็น 94 72 59 ตามลำดับ

แต่ได้ข่าวว่างวดถัดไป เจ้ามืออั้น 528 แล้วนะ ไม่รู้เอามาจากไหนกัน

 

โดย: ปลายแป้นพิมพ์ 5 กรกฎาคม 2554 20:31:07 น.  

 

คลิกๆๆ รูปสวยๆน่ารักๆไว้ส่งต่อเพียบ...

สวัสดีค่ะ แวะมาเยี่ยมแล้วนะจร้า

ยังคิดถึงเหมือนเดิมคร้า ^^

หวัดดีจร้า คุณก๋า สบายดีหรือป่าวคร้า

 

โดย: สาวสะตอใต้ 5 กรกฎาคม 2554 20:33:39 น.  

 

หวัดดีอีกครั้งค่ะคุณก๋า

คุยการเมืองกันจะดีหรอคะ อิอิ กลัวโดนยึดอมยิ้ม


สำหรับฉัน ที่ทำงาน ซึ่งบางครั้งจำต้องเกี่ยวพันกับนักการเมือง รับเลยค่ะว่าหมดศรัทธา กับนักการเมืองไทย


ที่ไม่ว่าจะยิ่งใหญ่แค่ไหน วิเศษร่ำรวยมาแต่ต้นตระกูล เมื่อก้าวเข้ามาอยู่ในวังวนการเมืองและสัมผัสกับ...อำนาจและ..ผลประโยชน์

ล้วนลืมสิ้นถึงเจตนารมณ์ที่เคยปฏิญาณไว้กับประชาชน

อาเมน กับ นักการเมืองไทย.(555+แต่ยังไม่ท้อกับระบอบประชาธิปไตยแบบไทยๆนิ)

 

โดย: คล้ายดาว 5 กรกฎาคม 2554 20:34:55 น.  

 

กาแฟ ชาเชียว ชาจีน จัดมาได้หมดคะ
ชอบดื่มทุกอย่าง ยิ่งชาร้อน ๆ หอม ๆ อร่อยคะ

กาแฟดื่มได้แต่มีข้อแม้คะ
-กาแฟชงของเนสกาแฟ กินเยอะกว่าหนึ่งช้อนชาไม่ได้
-ต้องกินหลังอิ่มอาหารเต็มที่

ถ้าไม่ผ่านขั้นตอนสองอย่างนี้ใจสั่น


นอนหลับฝันดีคะก๋า

 

โดย: aenew 5 กรกฎาคม 2554 21:06:23 น.  

 

สวัสดียามดึกค่ะ พี่ก๋า

 

โดย: fondakelly 5 กรกฎาคม 2554 21:06:48 น.  

 

ม ให้อะไร

บางอย่างมีภาษีดีกว่า

คนมองดีกว่า

เด็กบางคน ไปแอ่วแต่แต่งชุดนึกศึกษาไป

แม้กระทั่งสาว ๆ บางคน แต่งชุดนักศึกษาไป อ้างว่า จะได้ราคาดีกว่า มีภาษีดีกว่า


แม้กระทั่งหนุ่มๆ วัยดึกบางคน อยากเห็นแฟนแกร่ๆ ตัวเองเปลี่ยนบ้าง
ก็บอกใส่ชุดนักศึกษา เพื่อกระตุ้นอะไรบางอย่าง 555

ีนี่แหลเจ้าอ้ายก๋า

ชุดนักศึกษา บางอย่างดูมีราคาและภาษีดีกว่า

แต่ความจริงแล้ว อยุ่ที่การมองแต่ละคน

ปริญญาเดี๋ยวนี้ เท่าเทียบกับ ป.4 เลยเจ้า

นักการเมืองหลายคนเลย ยอมที่จะซื้อใบปริญญาปลอมๆ มาอัพตัวเองซะงั้น



 

โดย: Rinsa Yoyolive 5 กรกฎาคม 2554 21:16:13 น.  

 

แว๊กกกกก

เม้นน้องรินถูกแบนเจ้า

เกิดจากคำไหนบ่อหู้

 

โดย: Rinsa Yoyolive 5 กรกฎาคม 2554 21:16:43 น.  

 

โอย...คำคมนี้ชอบค่ะ โดนเลย
เป็นเรื่องจริงเลยนะคะ

ไม่อยากพูดเรื่องการเมืองค่ะ ขอบอกว่าเบื่อมากกกก
เอาเป็นว่า ดูๆกันไปก่อนแล้วกันเนอะคุณก๋า

 

โดย: ดาวริมทะเล 5 กรกฎาคม 2554 21:19:03 น.  

 

เพลงยังไม่ได้ฟังค่ะศิษย์พี่ (เน็ตโหลดช้า)

อ่านแต่คำ

มหาลัยให้อะไร คงไม่ต่างกันกับโรงเรียนให้อะไร

อยากสอนนักเรียนแบบออกนอกระบบ หุๆๆ

แล้วมหาลัยและโรงเรียนมัธยมของเมืองนอก เค้ามีวิธีการสอนที่ดี ๆ แบบประถมมั่งรึป่าวน๊า เป็นแนวทางได้เหมือนกันค่ะศิษย์พี่แล้วประยุกต์เอา (เพราะระบบประถมของรัฐบาลไทย คงทำแบบมอนเตสฯ หรือทำแบบ รร.ของหมิงน้อยได้ยาก เพราะคงอ้างว่าสิ้นเปลืองงบประมาณเยอะ ทั้ง ๆ ที่หารู้ไม่ว่าตัวเองเอางบไปผันแแบบไปไม่ถึงตัวเด็ก ถึงแต่ร้านค้าและนายทุน หุๆๆ เอิ้กๆๆ)

ถ้ามหาลัยเค้าสอนคนให้เป็นคน มันคงดีกว่านี้ สอนให้นักศึกษาจบออกมาแล้ว ไม่เอารัดเอาเปรียบคนด้วยกัน ช่วยเหลือเมตตากัน ทำลายโลกเราให้น้อยลงไ้ด้มันก็คงจะดีกว่านี้

 

โดย: minporee 5 กรกฎาคม 2554 21:41:36 น.  

 

ฝนทิ้งช่วง...ร้อนเลย...ฝันดีนะค่ะ

 

โดย: จุลิจอมซน 5 กรกฎาคม 2554 22:13:51 น.  

 

อ่านแล้วใช่เลยคะ มันเป็นอย่างนั้นจริงๆ

 

โดย: ป้าณู 5 กรกฎาคม 2554 22:20:37 น.  

 



สมบูรณ์ . . .กด like ให้ 10 like เลยค่ะพี่ชาย

 

โดย: TheKPP 5 กรกฎาคม 2554 22:39:25 น.  

 

สวัสดีค่ะคุณก๋า มหาวิทยาลัย..ให้ใบเบิกทางสำหรับนักศึกษาเพื่อไปสมัครงานได้ค่ะ ...พี่มีหลานผู้หญิงเรียน ม. ปีสอง อยู่หอนอก พ่อแม่ต้องจ่ายค่าใช้จ่ายต่อเดือนเกินเงินเดือนคนจบปริญญาตรีที่ทำงานราชการได้รับ ...ไม่รู้ว่าเรียนที่ ม.จะได้อะไรมากน้อยแค่ไหน แต่ก็บอกให้ตั้งใจเรียน และทำกิจกรรมหาประสบการณ์ด้วย

สมัยพี่เป็นนักศึกษาพยาบาลในวิทยาลัยพยาบาลนั้น รู้สึกถึงความรับผิดชอบที่ยิ่งใหญ่ การมีความเคารพรุ่นพี่ รุ่นป้า รุ่นย่า...ทักษะต่างๆ ถ้าไม่ตั้งใจเรียน ตั้งใจฝึกปฏิบัติก็ผ่านไม่ได้ เพราะเราต้องรับผิดชอบชีวิตผู้อื่น การให้จึงเป็นสิ่งที่ยิ่งใหญ่ที่พวกเราทำกัน...การจบการศึกษาหมายถึงการมีงานทำพร้อมกับความรับผิดชอบชีวิตผู้อื่น

ปัจจุบันการเรียนพยาบาลมีการเปิดกว้างมากขึ้น ไม่ต้องอยู่หอพักรวมกันข้างใน ไม่ต้องใช้ทุน ไม่ต้องทำอะไรอีกหลายๆ อย่างที่พวกรุ่นพี่เคยเจอ....แต่พอน้องๆ เข้าไปทำงานกลับพบว่าคุณภาพของน้องหลายคนมีน้อยมาก และการทำกิจกรรมทางการพยาบาลหลายอย่างมีน้อย....แล้วอย่างนี้คิดว่าการเรียนในปัจจุบัน...เป้นยังงัย..


แต่นั่นแหละไม่ว่าจะเป็นมหาวิทยาลัยชื่อดัง มหาวิทยาลัยรัฐ หรือเอกชน หากคนเข้าไปเรียนแล้ว ไม่ได้สนใจ ใฝ่หาความรู้และประสบการณ์ในระหว่างที่เรียน....จบออกไปก็ต้องไปเรียนรู้เพิ่มเติมเองค่ะ...สำหรับพี่ Learning by doing เป็นสิ่งที่ให้ประดยชน์กับตัวเราจริงๆ ค่ะ

 

โดย: Maew-Tua-Lek 5 กรกฎาคม 2554 22:51:48 น.  

 

 

โดย: veerar 6 กรกฎาคม 2554 0:03:05 น.  

 

มาตามไปฉลองวันดีๆ ค่ะพี่ก๋า..

 

โดย: ดอกหญ้าหน้าบ้าน 6 กรกฎาคม 2554 0:17:12 น.  

 


ฝันดีนะคะ ....เกศสุริยง

 

โดย: เกศสุริยง 6 กรกฎาคม 2554 0:20:27 น.  

 

มาทักทายก่อนนอนค่ะพี่ก๋า หลับฝันดีนะค่ะ

 

โดย: pranfun 6 กรกฎาคม 2554 0:22:59 น.  

 

มาหายากนิดนึง
เน็ทมีปัญหาค่ะ

มีแต่ความสุขสบายนะคะ

 

โดย: nart (sirivinit ) 6 กรกฎาคม 2554 0:42:06 น.  

 

ถนนสายนี้มีตะพาบนี่ปอโครงกานตี้สามสิบป๋ายละก๊ะ เห็นโจทย์ ม. บอกตามตรงหนูคิดไม่ออกหรือคิดไม่ถึงคำว่ามหาวิทยาลัย 555

สมัยนี้ใบปริญญาบัตรเป็นสิ่งสำคัญ โอเค ไม่มีปัญหา ปัญหาแต้ ๆ มันคือวิธีการในการให้การศึกษา หนูเป็นตัวแทนของคนรุ่นใหม่วัยสามสิบขวบที่ไม่เคยเข้ารับปริญญา หรือมีรูปถ่ายยิ้มแย้มสวมชุดคุยกับผองเพื่อนและพ่อแม่พี่น้อง (ที่แปะร้องไหนเนี่ยแปะให้พ่อแม่พี่น้องที่บ้าน คิดว่าคงยังรู้สึกเสียดายแทนหนูและตะหงิด ๆ กับตรงนี้อยู่)

เรื่องพวกนี้มันพูดยากนะถ้าเอาเข้าจริง มันหลายอย่าง หลายปัจจัย การเลือกเส้นทางเดิน รูปแบบความคิด และความเข้าใจในการดำเนินชีวิตของแต่ละคน แต่ละครอบครัวในสังคมบ้านเฮา ต๋อนหนูเลือกออกจากม.ตะก๊อนน่ะ บอกไผบ่าได้แต้ ๆ เพราะถ้าบอกก็จะไม่ได้ออก ฮ่า ๆๆ

วกมาถึงเรื่องหน้าอกหน้าใจและเพศศึกษาในโรงเรียนก็เหมือนกัน บ่าฮู้ว่าสมัยนี้โรงเรียนสหฯมอต้นมอปลายมีวิธีการสอนจ๊ะไดพ่อง

 

โดย: prunelle la belle femme 6 กรกฎาคม 2554 1:30:40 น.  

 

เขาเรียกชุดครุยต่างหาก ผิดอ่ะค่ะ

 

โดย: prunelle la belle femme 6 กรกฎาคม 2554 1:31:53 น.  

 

อิอิ พี่ก๋ายังไม่ตื่นหรอ?

 

โดย: ดอกหญ้าหน้าบ้าน 6 กรกฎาคม 2554 5:03:58 น.  

 

อรุณสวัสดิ์เจ้าอ้ายก๋า น้องหมิงหมิง มาดาม..
เรื่อง ม.ให้อะไรเรา
เป็นเรื่องที่น่าคิดเหมือนกั๋นเน้อเจ้า..
ใบปริญญา ตั้งสองใบ เก็บไว้ในกล่องไหนก็ยังบ่าฮู้เลย
แต่ที่แน่ๆ เรียนมาทางด้านจิตวิทยาการเรียนการสอน
เอามาใช้กั๋บสาวน้อยเวียงพิงค์ ได้ดีขนาดเลยเจ้า..
..
ขอมอบโหวต หื้อข้อเขียนอ้ายก๋า เน้อเจ้า ถูกใจขนาดเลย..
emoemo

 

โดย: Mein Schatz 6 กรกฎาคม 2554 5:10:18 น.  

 


จนถึงตอนนี้ในอายุ 40 กว่าๆ พี่เห็นมาเยอะว่า การที่ได้เรียนหนังสือในที่ ที่คนคิดว่า "ดี" มีเกียรติและศักดิ์ศรี (ไม่รู้ศักดิ์ศรีของอะไร) จบมาเกรดดีมาก จนถึงเกียรตินิยม...ไม่ได้บอกเลยว่า คุณจะสามารถทำงานร่วมกับคนอื่นได้ดี อยู่ในสังคมอย่างมีความสุขได้ แม้จะมีตัวอย่างให้เห็นเยอะแยะ ว่าสูตรสำเร็จของการศึกษา ไม่ได้เป็นทุกอย่างของชีวิต แต่ทุกคนก็ยังต้องดิ้นรน...เพื่อสิ่งเหล่านี้ เราคงไม่สามารถเปลี่ยนแปลงมาตรฐานสังคม....แบบนี้ได้ เฮ้อ.....

 

โดย: สายหมอกและก้อนเมฆ 6 กรกฎาคม 2554 13:53:57 น.  

 

หวัดดีครับพี่ก๋า
ได้อ่านบล็อกนี้แล้วรู้สึกชอบมากเลยครับ
เห็นอะไรหลายๆอย่าง มันน่าเชื่อว่ามันมีอยู่ในสังคมเราจริงๆ ไม่ว่าที่ไหน
จริงๆแล้วสังคมต้องการแค่คนดี ไม่ใช่คนมีการศึกษาสูงๆแต่เอาเปรียบผู้อื่น
ชอบบล็อกนี้มากๆครับ

 

โดย: biomechanic 6 กรกฎาคม 2554 21:05:24 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 


กะว่าก๋า
Location :
เชียงใหม่ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 392 คน [?]




มองฉันอีกครั้ง
เธออาจเห็นฉัน
หรืออาจไม่เห็นฉัน

ฉันแค่แวะผ่านทางมา
และอาจไม่หวนกลับมาทางนี้อีกแล้ว

เราเคยรู้จักกัน
และมันจะเป็นเช่นนั้นตลอดไป

มองดูฉันอีกครั้ง
เธออาจเห็นฉัน
และฉันอาจมองไม่เห็นเธอ.





[Add กะว่าก๋า's blog to your web]