katchan...in a nutshell... A blog that marks my journey of growth...
Group Blog
 
<<
มกราคม 2550
 
 123456
78910111213
14151617181920
21222324252627
28293031 
 
4 มกราคม 2550
 
All Blogs
 
NY Day 1 : Statue of Liberty

Welcome to The New York

ขอต้อนรับสู่ชีวิตศิวิไลซ์ใน The New York Stories
เรื่องราวนับจากนี้ พร้อมเติมความสุขด้วยหลากหลายความทรงจำอันน่าประทับใจของมหานครศิวิไลซ์ ถ่ายทอดตั้งแต่หน้าแรกจนถึงหน้าสุดท้ายซึ่งจะทำให้คุณรัก New York ยิ่งกว่าที่คุณเคยรู้จัก จากแรงบันดาลใจคือที่มาแห่งบันทึกนี้ เพื่อหวนรำลึกถึงวันวาน ให้กลับมาเป็นส่วนหนึ่งในชีวิตอีกครั้ง
Where are the other passengers? กระเหรื่ยงในต่างแดน
จากกรุงเทพฯ เราต้องบินไปลงที่ Changi Airport, Singapore ไปถึงที่นั่นตามเวลาท้องถิ่นประมาณ 10.00 นาฬิกา เพื่อต่อเที่ยวบินลำใหญ่บินตรงไปที่ Newark, New York โชคไม่ดีที่เจอ Flight Delay ที่ Singapore เราจึงต้องเตร็ดเตร่กันอยู่ในสนามบินกว่า 12 ช.ม. จากที่ต้อง Boarding เวลา 11.00 นาฬิกา กลายเป็นตอนห้าทุ่มแทน ซึ่งความจริงก็เป็นความเปิ่นของพวกเราด้วยที่มัวแต่นั่งเม้าท์กันจนไม่ได้ฟังประกาศของสนามบินให้ผู้โดยสารไปรายงานตัวที่ Transit Counter เลยตกรถที่ทางสนามบินเขาบริการรับผู้โดยสารไปพักในตัวเมือง มารู้ตัวอีกครั้งกว่าห้าโมงเย็นไปแล้ว หันซ้ายแลขวาอยู่หน้า Gate ไม่ยักมีคนคุ้นหน้าที่มาลำเดียวกัน เลยเอ๊ะใจไปถามที่ Transit Counter และที่นี่เองที่พวกเราปล่อยมุขเด็ดกับเจ้าหน้าที่สายการบินว่า Where are the other passengers? ทำให้พวกเราต้องแปลงร่างจากคนเดินดินเป็นกระเหรี่ยงเข้าเมืองไปเลย เพราะเจ้าหน้าที่เขาตอบกลับมาว่า พวกยูไม่ได้ยินประกาศหรอกหรือ ผู้โดยสารคนอื่น ๆ เขามารายงานตัวแล้วป่านนี้คงพักผ่อนกันที่โรงแรมในตัวเมืองไปแล้ว เพล้ง....แตกเป็นแถวเลยพวกกระเหรี่ยงอย่างเรา
หลังจากใช้ชีวิตอยู่ใน Transit Hotel มาร่วม 3 ช.ม. เราก็ได้ข่าวดีให้รีบไปรายงานตัวที่หน้า Gate ตอน 4 ทุ่มเพื่อรอ Boarding คราวนี้พวกเราไม่มีพลาดแล้ว คอยเช็คกับเจ้าหน้าที่ Transit Lounge ตลอดเวลา เครื่องบินลำที่เรานั่งไปนี้เขาเรียกชื่อ Economy Class เสียใหม่ให้หรูว่า Raffles เพราะที่นั่งโอ่โถง กว้างขวางกว่าเครื่อง Boeing ทั่ว ๆ ไป

NY Day 1
ล้อเครื่องบิน แตะรันเวย์ของสนามบิน Newark แต่เช้าตรู่ ระหว่างผ่านกระบวนการเข้าเมืองก็หวั่นเหมือนกันว่าจะถูกถามอะไรบ้างน่ะ ผิดคาดแค่บอกว่ามาสัมมนาของ Bank of New York ก็เจอถามแค่จะกลับเมื่อไหร่เท่านั้นเอง แต่ขอกระซิบนิดน่ะว่า สนามบิน Newark เนี่ยดูร้างเหลือเกิน ไม่ศิวิไลซ์เหมือน JFK อย่างในหนังเรื่อง The Terminal เอาเสียเลย
นิวยอร์คต้อนรับเราด้วยอากาศหนาวปะทะโค๊ตตัวหนา สัมผัสอายความเย็นยะเยือกผ่านเข้าสู่ใบหน้าและลมหายใจเลยทีเดียว เนื่องจากเป็นเมืองที่อยู่ติดริมทะเลจึงรับเอาลมหนาวเข้ามาเต็ม ๆ ใช้เวลานานโขพอควรกว่าจะเดินทางจากสนามบินเพื่อไปที่พักในย่าน West St. เพราะเส้นทางลอดผ่านอุโมงค์เกิดปิดกระทันหัน ทำให้คนขับต้องไปอ้อมโลกทีเดียว ขอบอกว่ารถที่นี่เดิ้นสุด ๆ เพราะมี Map กำกับเส้นทางด้วย ซึ่งคอมพิวเตอร์จะคอยกำกับว่า turn left, turn right เมื่อถึงแยกใหญ่ ๆ เฮ้อ เมื่อไหร่บ้านเราจะเป็นอย่างนี้บ้างน้า ระหว่างเดินทางก็ตื่นเต้นกันใหญ่เพราะจะต้องหูไวดาไว ทุกคนทำใบหน้าคล้ายกับพัดลมคือส่ายไปซ้ายทีขวาที มองและจดจำทุกสิ่ง เนื่องจากว่านับจากวินาทีนี้จะเป็นประสบการณ์ใหม่ที่ยังไม่เคยเห็นมาก่อน
8.30 a.m. เช็คอินที่ Marriott New York Financial Center ด้วยเวลาที่จำกัด ทีมที่แสนจะงกเที่ยวอย่างพวกเรา รีบนัดแนะให้เวลาแค่ 30 นาที เจอกันที่ Lobby เพื่อมุ่งหน้าสู่ The Statue of Liberty พอเข้าที่พักก็รีบจัดแจง unpack ข้าวของ และเปลี่ยนชุดเพื่อไปเจอกันข้างล่าง
* มาเที่ยวนิวยอร์ค สิ่งที่ขาดไม่ได้คือต้องไปล่องเรือชมเทพีเสรีภาพ เราเริ่มออกเดินทางตอน 9.00 นาฬิกา จากถนน West St. เดินไปประมาณ 4 block จนสุดถนนเรื่อยมาจนถึง New York Habour เริ่มเมื่อยขากันบ้างแล้ว ตรงทางเข้ามีท่าเรือสำหรับให้นักท่องเที่ยวซื้อบัตรโดยสารเรือ Circle Line Ferry คนละ USD 10 (round-trip) เพื่อชมเทพีเสรีภาพ ก่อนลงเรือ ณ จุด Ferry Departure point พวกเราได้สัมผัสประสบการณ์ที่คงต้องบอกกันล่วงหน้าว่าให้ทำใจ เนื่องจากประเทศนี้ค่อนข้างเข้มงวดกับผู้โดยสารทุกคน ก็เรื่องผู้ก่อการร้ายนั่นเอง จึงเป็นที่มาของมาตรการรักษาความปลอดภัยอย่างเข้มข้นของเจ้าหน้าที่ ซึ่งขอเปิดกระเป๋าตรวจทุกใบอย่างละเอียดยิบ รวมไปถึงต้องถอดรองเท้า และเข็มขัดเลยเดียว


*การชมเรือ จะเริ่มตั้งแต่เดินขึ้นที่สะพานเรือที่ทอดมายังฝั่ง เข้าไปยังส่วนของใต้ดาดฟ้าเรือ ไกด์จะเริ่มเล่าประวัติคร่าวๆ ให้ฟัง แล้วค่อยพาพวกเราขึ้นไปยังดาดฟ้าเรือ พวกเราขึ้นไปชั้นบนสุดของเรือ ลมพัดค่อนข้างแรงจนต้องกระชับเสื้อโค๊ต บรรยากาศแจ่มใส แต่อะไรก็ไม่น่าตื่นตาตื่นใจเท่ากับอาคารริมน้ำย่านนั้นที่มองภาพผ่านเลนส์แล้วสวยงามอย่าบอกใคร เมื่อเรือแล่นเข้าใกล้รูปปั้นเทพีเสรีภาพ ตอนนี้ทุกคนนั่งไม่ติดเสียแล้ว ลุกขึ้นไปยืนชิดขอบเรือเพื่อเก็บภาพกัน บางคนลงทุนถึงกับไปยืนบนเก้าอี้นั่ง ทำท่าเอนไปมาตามกระแสน้ำที่พัดโต้ลำเรือให้โคลงเคลงไปมา และแน่นอน พวกเราย่อมไม่พลาด shot เด็ดอย่างนี้อยู่แล้ว


* เราแวะทานอาหารกลางวันกันที่ร้านค้าในเขต Ellis Island ซึ่งอยู่ติดกันกับ Liberty Island พร้อมวีรกรรมกระเหรี่ยงเข้าเมืองประจำวัน เพราะริอ่านสั่งอาหารเป็น Combo Set กันถ้วนหน้า มิเอ๊ะใจว่าทำไมฝรั่งตัวโตถึงสั่งอาหารกันแค่จานเดี่ยว ๆ พอกิน พร้อมทั้งส่งสายตามองพวกเราอย่างงงๆ ว่าตัวก็เล็ก ๆ กันทำไมสั่งซะจานใหญ่ขนาดนั้น สุดท้ายก็เหลือทิ้งตามระเบียบค่ะ

ELLIS Island ถ่ายจากอีกฝากฝั่ง


*ขากลับจาก Liberty Island ผ่านย่านที่เรียกกันว่า Battery Park มีแผงขายของเรียงหน้ากระดานให้เลือกชม




Create Date : 04 มกราคม 2550
Last Update : 4 มกราคม 2550 12:30:58 น. 0 comments
Counter : 519 Pageviews.

ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
  *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

katchan
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 4 คน [?]




Color Codes ป้ามด
Friends' blogs
[Add katchan's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.