มีเรื่องราวดีๆในชีวิตรอให้ทำอยู่อีกเยอะ
<<
พฤษภาคม 2552
 
 12
3456789
10111213141516
17181920212223
24252627282930
31 
 
7 พฤษภาคม 2552
 
 

สัปดาห์ที่สองในยูนนาน

วันอาทิตย์ที่ 12 เมษายน นักเรียนไทยได้รับบัตรเชิญ ร่วมประเพณีสงกรานต์ 宋干节 หรือที่นี่เรียกว่า 泼水节 แต่เราได้รับโทรศัพท์จาก 赵茜แต่เช้าเขาเอาขนมมาให้ แล้วบอกว่ามีประชุมใหญ่วันนี้ทั้งวัน เขาเพิ่งนัดประชุมเมื่อวานนี้ช่วงหกโมงเย็น ช่วงเที่ยงพวกเขาก็มารับไปกินข้าวกับบรรดาครูจีน ช่วงบ่ายเด็ก ๆ เล่นสงกรานต์กันสนุกสนาน เราเอาถุงพลาสติกห่อกล้องถ่ายรูป แล้วไปเดินถ่ายรูปที่เขาสาดน้ำกัน แน่นอนเราเปียกด้วย เด็กจีนเด็กไทยสาดน้ำเรากันถ้วยหน้า เราไม่สู้ ปล่อยให้สาด แต่ขอให้พวกเขาระวังกล้องให้หน่อย ตัวเปียก หนาวสั่นกันตาม ๆ กัน แต่ก็สนุกสนานกนเป็นอย่างดี เด็ก ๆ ชวนไปกินข้าว ก็ไปกินข้าวกับเด็ก ๆ กินยังไม่ทันเสร็จเลย งานเข้าอีก 赵茜 โทรมาชวนไปกินข้าวเย็นกับบรรดาครูจีนอีก โอ้ย....อิ่มจะตายอยู่แล้ว ก็ยังถูกบังคับให้กินนั่นนี่ อย่างต้มเนื้อแพะ 羊汤 ประมาณ อาหารเหลือเพียบ ก็เลยให้เด็กเก็บไปกินที่หอซะเลย แต่งานเลี้ยงครั้งทำให้เรามีโอกาสรู้จักครูที่จะไปเมืองไทยห้าเดือนมากขึ้น (ความจริงเจอกันครั้งหนึ่งแล้วตอนงานเลี้ยงรับรองครู-นักเรียนไทย) คือ อาจารย์ 张自芳ซึ่งตอนหลังเราตั้งชื่อให้เป็น อาจารย์ละมุน ตอนช่วงค่ำเรากลับไปเก็บ NOTEBOOK จากสำนักงาน ถือโอกาสขอหนังสือเรียนภาษาไทยเขาเล่มนึง อ่านดูแล้ว ไม่เห็นรู้เรื่องเลยว่ะ แต่ราคาถูกดี เล่มละ 16 หยวนเอง

วันที่จันทร์ที่ 13 กิจกรรมตอนช่วงเช้า ดร.มานิตย์ ปล่อยให้นักเรียนนำกันเอง เริ่มปีเด็กป่วยมากขึ้น เป็นไข้ เพราะอากาศเปลี่ยน (ความจริงเมื่อวานเล่นสงกรานต์หนักไปหน่อย) หรือไม่ก็ข้อเท้าบวม (เพราะมันไปเล่นกีฬากับเด็กจีน ชนิดไม่ดูสังขารตัวเอง) การเรียนการสอนช่วงเช้าเป็นไปตามปกติ เรียน PIN YIN กับการสนทนาภาษาจีน ช่วงบ่ายเรียนการสื่อสาร ให้นักเรียนไทยกับนักเรียนจีนมาสนทนาแลกเปลี่ยนภาษากัน ไม่มีครูเข้าสอน เราก็ลงมือสอนซะเอง ให้นักเรียนไทย-จีนนั่งจับคู่กัน แล้วให้ถามว่าชื่อไร ให้นักเรียนจีนถามนักเรียนไทยว่ามาจากไหน แล้วให้นักเรียนไทยถามนักเรียนจีนว่าจะไปไหน แล้วให้แต่ละคู่มานำเสนอหน้าห้องเรียน โดยให้นักเรียนไทยพูดภาษาจีน แล้วให้นักเรียนจีนพูดภาษาไทย

赵茜 โทรมานัดให้ไปสถานทูตไทยวันพรุ่งนี้ แล้วก็ไปงาน TEA FAIR ด้วย ให้ไปรอที่สำนักงานประมาณแปดโมงยี่สิบ

ตอนกินข้าวเย็น เจ้าต้นบอกเราว่า อาจารย์ศิริฉัตรให้เราส่ง E-mail โปรแกรมของที่นี่ไปให้หน่อยเพื่อว่าทางโน้น จะได้จัดการต้อนรับได้ใกล้กัน อ้าว...งานเข้า มานี่ไม่เห็นมีโปรแกรมเป็นเรื่องเป็นราวซักอย่าง ขนาดขอให้เขาทำประสุขภาพให้เด็ก ๆ จนสัปดาห์ที่สองแล้ว ยังไม่เห็นมีอะไรกระเตื้อง ต้นก็บอกว่า ถ้าอย่างนั้น...อาจารย์ก็ส่งตารางเรียนไปให้เขาก็ได้ เราก็บอกว่า นอกจาก PIN YIN กับการสนทนา มีอะไรที่เราได้เรียนเป็นเรื่องเป็นราวบ้างล่ะ PLANT SCIENES กับ ANIMAL SCIENCE แทบจะไม่เคยได้สอนเลย นอกจากวันพฤหัสที่พาไปดูฟาร์ม แล้ววันเสาร์ที่พาไปปลูกต้นไม้ นอกนั้น ว่างตลอด เด็ก ๆ ก็อาศัยช่วงเวลาว่างไปเล่นกีฬากับเด็กจีน หรือก็เรียนภาษาจีนกับเด็กจีน ก็เท่านั้น ต้นบอกเราว่า ถ้าอยู่ห้าเดือน แล้วไม่ได้อะไรกลับไปเป็นเรื่องเป็นราว ก็เสียดายเวลา เราก็บอกเด็กอีกว่า ความจริงตอนนี้เราเรียนรู้ทุกอย่างเกือบจะตลอดเวลา นอกจากภาษาที่ได้เรียนรู้แล้ว การปรับตัวเข้ากับสังคม สิ่งแวดล้อมใหม่ ก็เป็นการเรียนรู้ ที่ครูเองก็เรียนรู้ไปพร้อมกับพวกเด็ก ๆ เหมือนกัน อีกอย่างที่ต้องเรียนรู้ คือการบริหารเวลาให้เข้ากับ การเปิดปิดโรงอาหาร การบริหารการเงิน แล้วอะไรอื่น ๆ อีกมากมาย

วันอังคารที่ 14 เมษายน เราตื่นขึ้นมาทำกิจกรรมช่วงเช้าตามปกติ ปรากฏว่า ดร.มานิตย์บอกว่าไม่ต้องไปสถานทูตแล้ว อาจารย์ 赵跃 กับ อาจารย์ 邓启玲 จะพาไปวันพฤหัส เราก็งง อ้าว...เอาไงดีหว่า ก็เลยโทรหา 高杰 ปรากฏว่าไป อ้าว....ไปก็ไป เราถือโอกาส ไปเก็บหนังสือเดินทางที่เขาเก็บไป โดยอ้างว่า...การไปสถานทูต เราควรนำหนังสือเดินทางไปด้วย จากนี้ต่อไปเราก็จะเก็บหนังสือเดินทางไว้เอง เรื่องไรต้องให้เขาเก็บให้ หนังสือเดินทางเป็นสมบัติส่วนตัวของเราที่มีค่ากว่าเงินซะอีก

ไปถึงสถานทูตไทย 赵茜กับอาจารย์สุมาลี หรืออาจารย์李锦 ไปรออยู่ก่อนแล้ว ฮะฮ่า...สถานทูตไทยปิดวันสงกรานต์นะ จะเปิดอีกทีก็วันพฤหัส แต่เราเจอธนาคารกรุงไทยในคุนหมิง อยากแลกเงิน ปรากฏว่ากฎหมายของจีนไม่อนุญาตให้ธนาคารอื่นแลกเงิน นอกจาก Bank of China เราถามอัตราการแลกเปลี่ยนเงินหยวน ซื้อ 5.50 บาท ขาย 4.66 บาท ดร.มานิตย์เลยแนะนำว่าให้แลกกับนักเรียนจีนที่จะมาเมืองไทยจะได้ราคาดีกว่า ซึ่งเจ้าหน้าที่ธนาคาร (คนไทย) ก็สนับสนุนว่าดี ก็เฉลี่ยที่อัตรา 5 บาทก็น่าจะดี เข้าห้องน้ำที่นี่สุดแสนจะมีความสุข สมชื่อว่า “สุขา” จริง ๆ
อากาศวันนี้ค่อนข้างร้อน 赵茜 พาไปงาน TEA FAIR เราก็ถ่ายรูปมาซะส่วนใหญ่ แล้วก็ชิมน้ำชาไปเรื่อย ชิมมากไม่ได้ เดี๋ยวเดือดร้อนเรื่องห้องน้ำ แต่ห้องน้ำที่งานค่อนข้างอินเตอร์หน่อยยังชั่ว

赵茜 พาไปกินข้าวที่ภัตตาคารหรูแห่งหนึ่ง หรูจริงเพราะห้องน้ำสะอาดเป็นแบบอินเตอร์ คำว่าแบบอินเตอร์ของเราก็คือเป็นส้วมแบบชักโครกสะอาด มีประตูปิดมิดชิดง่ะ อาหารอร่อย แน่นอน เราสั่ง 凉拌黄瓜 อาหารสุดโปรดมากิน รสชาติก็เทียบเคียงกับตำแตงบ้านเราละนา แต่อร่อยไม่สู้ร้านหลังวิทยาลัย ที่นั่นรสชาติจัดจ้านกว่ากันเยอะ

เขาพาไปร้านไอที เพราะอาจารย์อนิรุทธิ์ อยากได้กล้องถ่ายรูปดิจิตอลซักตัว ของไอที่ที่นี่แพงกว่าที่เมืองไทยกว่า 20% โค ต ร แพง ใครข้าวของเมืองจีนถูกกว่าเมืองไทย เราก็บอกว่าไม่ใช่เลย ไอ้ที่ถูก ๆ คุณภาพก็ห่วยแตก ไม่ว่าจะเป็นอะไรทั้งนั้น ของคุณภาพเทียบเคียงกับเมืองไทยราคาก็แพง อาจเป็นเพราะค่าเงินหยวนที่แพงขึ้นด้วยหรือเปล่าก็ไม่รู้ เอาเป็นว่าเราไม่ซื้ออะไรมาเลย

กลับมาถึงเจ้ากิตติเอาเกี๊ยวที่ทำเมื่อตอนวิชาทำอาหารมาให้กิน รสชาติไม่เลว น้ำจิ้มก็อร่อยดี กิตติบอกว่า 万老师เป็นคนสอน เขาทำส่วนผสมไว้แล้ว พวกเด็ก ๆ ไปห่อเกี๊ยวกันเฉย ๆ แล้วก็รอกิน ดูเด็กก็แฮปปี้กันดี

เราไปเช็คเมล์ที่สำนักงาน ไม่มีใครเขียนมาหาเลยวุ้ย เลยส่งข้อความให้น้องกะ Daddy ให้โทรหลับมา 邓老师ให้เราสอนภาษาไทยให้นิดหน่อย ๆ จากนั้นก็บอกเราว่า พรุ่งนี้ (วันพุธ) ตอนบ่ายให้เราไปสอนภาษาไทยให้นักเรียนจีน เย้....มีงานทำแล้ว มานี่สิ่งที่อยากทำมากที่สุดก็สอนภาษาไทยนี่แหละ รองลงมาก็เรียนภาษาจีน ความจริงภาษาจีนของเราไม่ได้ดีไปกว่าที่เคยเป็น ที่เรียนในห้องเรียนก็เดิม ๆ จากที่เคยเรียนแล้ว จะได้ก็เทคนิคการสอนภาษาจีน ของเขานั่นแหละ แล้วก็ถือเป็นการทบทวนไปด้วย เพราะนอกจากภาษาจีนเราไม่พัฒนาแล้ว ที่เคยเรียนมาก็ลืมไปเกือบหมดแล้วด้วย ต้องทวนกันอย่างใหญ่หลวง แต่ด้วยงานที่รัดตัวตลอดเวลา (การดูแลนักเรียน 49 คนงานเข้าตลอดแหละ) ก็ไม่ได้ทบทวนเป็นเรื่องเป็นราวซักที

นักเรียนพาเราไปกิน 烤反พวกอาหารเสียบไม้ปิ้ง ที่โรงอาหารเล็ก ก็อร่อยดี จังหวะพ่อกะแม่โทรมาเป็นครั้งแรก นับจากที่เราเดินทางมาเมืองจีน ก็คุยกันเรื่องความเป็นอยู่ ดินฟ้าอากาศ แล้วก็การเมืองนิดหน่อย ...เฮ้อ อย่าเอ่ยถึงมัน เลยนะ เอาเป็นว่าเรารู้สึกมีความสุขที่พ่อกะแม่โทรมาก็แล้วกัน

วันพุธที่ 15 เมษายน วันนี้เป็นวันเกิดอมรเทพ ดร.มานิตย์ เลยจัดการ SURPRISE นิดหน่อย แต่ก็ประทับใจ ช่วงเช้าเรียนการสนทนาภาษาจีน เด็ก ๆ ได้ชื่อ-สกุลภาษาจีนจาก 高老师 กันทุกคน เด็กสุพรรณได้แซ่ 邓 กันหมด ชั่วโมงต่อไปก็เรียน PINYIN ตามปกติ แต่เราเรียนไม่ทันหมดคาบก็ไปเตรียมการสอนภาษาไทย ถ่ายเอกสาร ตำราเรียนภาษาไทยสำหรับชาวจีน เล่มที่ 1 ของ อาจารย์พิชัย พินัยกุล มา 18 หน้า หนังสือชุดนี้ราคา 660 บาท พร้อมซีดี เราว่าเราชอบหนังเล่มนี้มากกว่าเล่มที่ทางวิทยาลัยเขาจัดให้ซะอีก แต่...แพงไปหน่อยเท่านั้นเอง

ช่วงบ่ายนักเรียนหญิงเรียนพละ ส่วนนักเรียนชายไปห้องคอมฯ ตัวเราก็ไปสอนภาษาไทย รู้สึกสนุก เราชอบสิงโต หน้าเหมือนเจ้ากิตติ เลือกไปเรียนที่สุพรรณบุรีซะด้วย ยังมีน้ำตาลสาวน้อยที่เด็ก ๆ พูดถึงบ่อย ๆ คนนี้ก็ไปสุพรรณฯ นอกนั้นเราก็ยังจำใครไม่ได้ อย่าว่าแต่เด็กจีนเลย เด็ก 49 คน อยู่ด้วยกันมาสองอาทิตย์แล้วยังจำได้ไม่หมดเลย

พอสี่โมงครึ่งก็พาเด็กไปกินข้าวฉลองวันเกิดอมรเทพที่กระท่อมริมน้ำ อมรเทพตกปลาได้ตัว น้ำหนักกิโลกว่าได้ สั่งทำ 酸菜鱼 สั่งไก่ตัวหนึ่งหนักสี่กิโล สั่งทำกับข้าวสองย่างคือ 鸡汤กะ 黄闷鸡 แน่นอนต้องมี 凉拌黄瓜อาหารจานโปรดของพวกเรา ก็หัดเล่นไพ่นกกระจอก เล่นไพ่ Slave เล่นกันซักพักชักเบื่อ เพราะแต่ละคนทั้งหิวทั้งหนาว แล้วก็คิดถึงบ้าน กว่าอาหารจะเสร็จเกือบสองทุ่ม พออาหารเสร็จเขาให้พวกเราไปกินในกระท่อม รู้สึกอุ่นมาก พอกินหมด ก็อิ่มกันถ้วนหน้า กลับหากันประมาณสามทุ่ม ประตูหลังปิดซะแล้ว ทั้งครูทั้งลูกศิษย์ต้องปีนรั้วข้ามเข้า รู้สึกกลัวซะเฉย ๆ เด็ก ๆ ให้กำลังใจปีนข้ามมาจนได้ ดีใจที่เด็กมีความสุข อิ่มอร่อย แล้วสนุกกันถ้วนหน้า

วันพฤหัสที่ 16 เมษายน เขาแจ้งมาว่าให้นักเรียนไทยส่งการแสดงสองชุด เด็ก ๆ ตัดสินใจส่งการแสดงของสุพรรณ “กำเคียวเกี่ยวข้าว” กับของมหาสารคาม “เซิ้งอีสาน” ช่วงเช้าเด็ก ๆ ไปวัดตัวเพื่อตัดชุด เขาว่าเป็นชุดสีเทา เสื้อคอปกฝ่าหน้า กางเกงขายาว แล้วช่วงเย็นตอนทุ่มครึ่ง ก็ให้เด็ก ๆ ไปดูการแสดงของพวกเขาที่หอประชุมใหญ่ เขาประกวดเต้นแอโรบิก ประมาณนี้น่ะ ดูความสามารถพวกนักเรียนจีนแล้วรู้ประทับใจ ประทับใจแสง สี เสียง บนเวทีของเขาด้วยดูอลังการดี มีนักเรียนมาชมการแสดงไม่น้อย สนุกดี

วันศุกร์ที่ 17 เมษายน ช่วงเช้าเรียนการสนทนาภาษาจีน กับ PIN YIN ตามปกติ ช่วงบ่ายซ้อมการแสดงไม่มีอะไรน่าสนใจไปกว่านี้

วันเสาร์ที่ 18 เมษายน ช่วงเช้าไม่มีกิจกรรมช่วงเช้าเพราะฝนตก วันนี้ฝนตกเกือบทั้งวัน พยายามหาที่เล่นอินเตอร์เน็ต รู้สึกหงุดหงิดที่หาที่เล่นเน็ตไม่ได้ ก็เลยไปพาสัญญาณ WIRELESS แถวบ้านพักรับรอง เจอ DENG LAOSHI เลยได้เข้าไปในบ้านพัก มีสัญญาณแต่ก็ยังเล่นเน็ตไม่ได้อยู่ดี เลยชวนกันเล่นไพ่ปะสมสิบ ชวน MA JE เด็กจีนเล่นด้วย

ตอนเย็น 邓老师เชิญไปกินข้าวที่บ้าน ผอ. อาหารเยอะแต่ไม่มีอะไรถูกปาก เขาชวนกินนั่นกินนี่เหมือนบังคับให้กิน โดยเฉพาะเหล้า จะ 干杯ทั้งปี เราก็ขอ 一点一点ขอ 干杯เฉพาะแก้วแรก กะแก้วสุดท้ายพอเป็นมารยาท เท่านั้น เราก็เฟอะฟะ เดี๋ยวทำอาหารหล่น ตะเกียบตก แต่ผู้หญิงข้าง ๆ มาดคุณนาย เป็นครูจีน ทั้งถุย ทั้งเรอ ทั้งตด ครบชุด เซ็งชะมัด จะกินอร่อยเข้าไปได้มั้ยเนี่ย แล้วแต่ละคนยังมาคะยั้นคะยอให้กินนั่นกินนี่ กินลงหรอกคุณนาย ถ้าไม่เสียมารยาทอยากลุกจากโต๊ะ นั่งหน้าตูมแสดงความไม่พอใจให้รู้ไปเลย แต่ต้องเก็บอาการเพื่อรักษามารยาท โคตรทรมาน ถ้าอยู่เมืองไทยไม่มีใครหน้าไหนมาบังคับเรา ให้ทำนั่นทำนี่แน่นอน ไม่กินก็ไม่กินไม่มีใครบังคับ

กินข้าวเสร็จก็หาที่เล่นเน็ตจนได้ ก็ได้ความช่วยเหลือจากพวกอาจารย์ที่ไปกินข้าวด้วยกันนั่นแหละ เราส่งเมล์ โพสต์รูป โพสต์ข้อความ แล้วก็หาข้อมูลจนสี่ทุ่ม

ตกดึกกลับมานอนที่หอ ไม่รู้ไปกินอะไรผิดสำแดง คันคะเยอไปทั้งตัว ต้องไปหายาแก้แพ้กิน แย่ชะมัด




 

Create Date : 07 พฤษภาคม 2552
1 comments
Last Update : 7 พฤษภาคม 2552 17:45:41 น.
Counter : 1267 Pageviews.

 

อ่านแล้วมันดีนึกภาพออกเลย

 

โดย: 130 IP: 203.107.142.141 10 กันยายน 2552 19:08:47 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

 

เจ้าเจี๊ยบจอมเจื้อยแจ้ว
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




Generate Your Own Glitter Graphics @ GlitterYourWay.com - Image hosted by ImageShack.us

บ้านิดๆ
ซ่าส์หน่อยๆ
ฟั่นเฟือนเล็กน้อย
มีเรื่องจ๋อยบ้างบางเวลา

[Add เจ้าเจี๊ยบจอมเจื้อยแจ้ว's blog to your web]

 
pantip.com pantipmarket.com pantown.com pantip.com pantipmarket.com pantown.com