สิงหาคม 2558

 
 
 
 
 
 
1
2
3
4
5
7
8
9
10
12
13
15
16
17
18
19
21
22
24
25
27
28
29
30
 
 
All Blog
'ซีพี-คูโรบูตะ' หมูดำกินเจ นวัตกรรมเพื่อให้เนื้อหอม

ทำมาหากิน : 'ซีพี-คูโรบูตะ' หมูดำกินเจ นวัตกรรมเพื่อให้เนื้อหอม : โดย...โต๊ะเกษตร

 หลังจาก บริษัท เจริญโภคภัณฑ์อาหาร จำกัด (มหาชน) หรือ ซีพีเอฟ ทดลองหมูเมืองหนาว “หมูดำ ซีพี-คูโรบูตะ” มาตั้งแต่ปี 2553 พร้อมกับการพัฒนาสายพันธุ์ให้สามารถเข้ากับสภาพภูมิอากาศในประเทศไทย และเพิ่มความนุ่มของเนื้อหมูชนิดนี้ด้วยการให้กินอาหารเจ ปรากฏว่าประสบผลสำเร็จเป็นอย่างดี สามารถเลี้ยงในเชิงพาณิชย์ได้ ส่วนที่เนื้อแดงได้เพิ่มความนุ่มเหมาะสำหรับผู้สูงอายุ ส่งผลให้ตลาดตอบรับอย่างรวดเร็ว จากเริ่มแรกผลิตป้อนตลาดปีละ 1-2 หมื่นตัว ปัจจุบันเพิ่มขึ้นเป็นปีละะ 3.5-5.6 แสนตัว ต้นทุนการผลิตสูงกว่าหมูทั่วไปเพียง กก.ละ 1 บาท เป้าจะพัฒนาให้เป็นอาหารเพื่อสุขภาพต่อไป



ดร.สัจจา ระหว่างสุข รองกรรมการผู้จัดการอาวุโส ฝ่ายวิจัยพัฒนาและปรับปรุงพันธุ์สุกร ซีพีเอฟ บอกว่า หมูดำคูโรบูตะเป็นหมูที่นิยมเลี้ยงในสภาพภูมิอากาศหนาว แต่ที่ซีพีเอฟนำมาพัฒนาสายพันธุ์ญี่ปุ่นเมื่อปี 2548 เพื่อพัฒนาปรับปรุงสายพันธุ์ให้เป็นหมูที่เหมาะในการเลี้ยงในประเทศใช้เวลากว่า 5 ปี และทดลองเลี้ยงในเชิงพาณิชย์มาตั้งแต่ปี 2553 ถือว่าประสบความสำเร็จในการเลี้ยงแบบอุตสาหกรรมเป็นงรายแรกและรายเดียวในประเทศไทย ในนาม หมูดำ ซีพี-คูโรบูตะ เน้นการจำหน่ายในห้างสรรพสินค้า โดยเป้าหมายตลาดกลางและตลาดบนเป็นหลัก

                       “หมูชนิดนี้เนื้อมีคุณภาพมีความนุ่มชุ่มฉ่ำเฉพาะตัวถือได้ว่าเป็นราชาของหมู หรือ King of Pork แต่เนื่องจากเป็นสายพันธุ์ต่างประเทศ เติบโตและคุ้นชินกับอากาศของเมืองหนาว ไม่คุ้นเคยกับการนำมาเลี้ยงในสภาพอากาศร้อนชื้นอย่างประเทศไทย ที่ผ่านมาหมูชนิดนี้จึงเป็นเนื้อนำเข้าจากต่างประเทศที่มีราคาสูง ตามสายพันธุ์แล้วหมูชนิดนี้มีไขมันค่อนข้างเยอะ คนญี่ปุ่นชอบ เพราะไขมันทำให้เนื้อหมูนุ่ม แต่คนไทยเราไม่ชอบ กลัวอ้วน เราจึงมีการพัฒนาและปรับปรุงพันธุ์ใหม่ให้สามารถเลี้ยงในประเทศไทยได้ พร้อมกับมีการพัฒนาให้ไขมันลดลง แต่เพิ่มความนุ่มในเนื้อแดง ปรากฏว่าตลาดบ้านเราโตเร็วขึ้น จากช่วงแรกเราผลิตปีละเพียง 1-2 หมื่นตัว ตอนนี้ผลิตเดือนละกว่า 3 หมื่นตัว หรือปีละ 3.5-5.6 แสนตัว” ดร.สัจจา กล่าว

                       สำหรับหมูสายพันธุ์ระดับทวดพันธุ์ของหมูดำซีพี-คูโรบุตะ ซีพีเอฟนำเข้าจากอเมริกาเหนือ มาพัฒนาและปรับปรุงสายพันธุ์จนประสบความสำเร็จได้สายพันธุ์หมูดำ ซีพี-คูโรบูตะ ที่สามารถเติบโตได้ดีในสภาพแวดล้อมของไทย และยังคงรักษาจุดเด่นตรงที่มีความนุ่ม ชุ่มฉ่ำของเนื้อที่เกิดจากเส้นใยกล้ามเนื้อที่มีความละเอียดของสายพันธุ์หมูดำคูโรบูตะ

                       โดย 5 ปีในการปรับปรุงสายพันธุ์ซีพี-คูโรบูตะจนได้เนื้อคุณภาพดี และสายพันธุ์นิ่ง ทั้งนี้มีการตรวจวัดความนุ่มและความฉ่ำของเนื้อในห้องปฏิบัติการ จนมั่นใจว่าเนื้อหมูมีความนุ่มชุ่มฉ่ำตามสายพันธุ์ไทย แต่จุดด้อยคือการเจริญเติบโตช้ากว่าหมูทั่วไป ทำให้ต้นทุนการผลิตจะสูงกว่าหมูทั่วไปที่ กก.ละ 1 บาท

                       “ตอนนี้ทางบริษัทเราได้คิดค้นและพัฒนานวัตกรรมอาหารสูตรพิเศษที่ใช้วัตถุดิบจากธัญพืชที่สดสะอาดทั้งหมดไม่ใช้แหล่งโปรตีนจากสัตว์เป็นส่วนประกอบเป็นอาหารสำหรับสายพันธุ์หมูดำ ซีพี-คูโรบูตะโดยเฉพาะ เพื่อรักษาความหอมที่เป็นเอกลักษณ์ของเนื้อหมูดำ ซีพี-คูโรบูตะ ซึ่งถือเป็นหมูที่รับประทานอาหารเจ” ดร.สัจจา กล่าว

                       อย่างไรก็ตามในช่วงแรกซีพีเอฟจะเป็นผู้ที่เลี้ยงเอง จำหน่ายเอง ในพื้นที่ภาคตะวันออก ยังไม่ส่งเสริมเกษตรกรในช่วงนี้ เนื่องจากมีปัจจัยในการผลิตที่จะต้องศึกษาเพิ่มเติม แต่กระนั้นก็มีเกษตรกรเลี้ยงบ้าง แต่น้อยมาก อนาคตตั้งเป้าเป็นเนื้อหมูสุขภาพอีกด้วย


 เครดิต   จาก  คมชัดลึก  วันพฤหัสบดีที่ 20 สิงหาคม 2558



Create Date : 20 สิงหาคม 2558
Last Update : 20 สิงหาคม 2558 11:06:28 น.
Counter : 1478 Pageviews.

1 comments
  
ชื่อ :
Comment :
 *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

สมาชิกหมายเลข 2344345
Location :
  

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 3 คน [?]