ได้อัพบล็อกสักที (ยาวหน่อยนะครับ)
ช่วงนี้มีอะไรเปลี่ยนแปลงเยอะเหมือนกันครับ ไม่รู้จะเริ่มที่อะไรก่อนดี
ก่อนหน้านี้เพื่อนบ้าน (ซึ่งเช่าบ้านอีกทีนะครับ) ได้ย้ายออก แม่ก็ไปซื้อของบางอย่างจากเขา (จริงๆแล้วเขาขายเกือบหมดหล่ะครับ เพราะเขาไม่อยากจะขนไปด้วยอ่ะ) แม่ก็ไปขอซื้อ ตู้เย็นมา 1 เครื่อง, โต๊ะม้าหิน 1 ชุด, เตียงนอนขนาด 6 ฟุต พร้อมฟูกนอนนะครับ ทั้งหมด แม่ซื้อได้ในราคา 3,000 บาทครับ  ถือว่าได้ราคาถูกมากทีเดียว และเจ้าของบ้านเขาก็ได้ให้อย่างอื่นมาอีกหลายอย่างครับ เช่น ตู้วางทีวี, โต๊ะเล็กๆ, ตะกร้าผ้า, ไม้แขวนผ้า, ลูกวอลเลย์บอล, หนังสือ (ตอนนี้เอาหนังสือไปบริจาคให้ห้องสมุดประชาชน จังหวัดภูเก็ต เรียบร้อยแล้วครับ เพราะว่าผมไม่ค่อยได้อ่านอ่ะ ขี้เกียจอ่านด้วย แต่ละเล่ม หนาเชียว)
เอารูปมาฝากกันนะครับ รูปแรกก็เป็นเตียงนะครับ (ถ่ายไม่ค่อยชัดสักเท่าไหร่อ่ะ
ถัดมาก็รูปของโต๊ะม้าหินครับผม สวยทีเดียว ราคาแพงด้วยนะเนี่ย
รูปนี้เป็นรูปของตู้วางทีวีครับ (อันนี้เขาให้มาฟรีอ่ะ)
หมดแล้วหล่ะครับ ไม่มีภาพตู้เย็นมาให้ดู เพราะว่าแม่ขายต่อให้เพื่อนบ้านอีกคนได้ในราคา 1,500 บาทครับ (กำไรอีกแล้วครับ)
ในขณะเดียวกัน แม่ก็ขายตู้เย็นตู้เก่า และโต๊ะม้าหินชุดเก่าไปด้วยครับ โดยตู้เย็นขายไปได้ 500 บาท และโต๊ะขายไปได้ 600 บาทครับ แล้วก็ไปซื้อตู้เย็นเครื่องใหม่มาอ่ะ ขนาดใหญ่กว่าเดิม แต่ซื้อมาแล้ว มันๆ ผิดคาดไปหน่อย เพราะว่าเครื่องใหญ่ เขาก็เลยทำแบบขยายออกด้านข้าง มันก็เลยเตี้ยครับ จะเอาของแต่ละที ก็ต้องก้มลงไป หรือไม่ก็ต้องนั่งลงไปเลยอ่ะครับ
 เรื่องสุขภาพของแม่ ก็เท้าบวมอีกเช่นเคยครับ แต่แม่ไปหาหมอแล้ว ไปครั้งนึงก็ได้แค่ตรวจ ต้องไปอีกครั้งเพื่อเอ็กซเรย์ และซาวด์ดู และก็ต้องไปอีกครั้งเพื่อฟังผลครับ สรุปต้องไปโรงพยาบาลบ่อยหน่อย ทั้งๆที่จริงๆแล้ว น่าจะเป็นครั้งเดียวจบ แต่ว่าก็ต้องเข้าใจว่า เป็นโรงพยาบาลของรัฐนะครับ (แม่ใช้สิทธิ์ของคนชราอ่ะครับ ก็เลยไม่ต้องเสียอะไร) แพทย์บอกว่าเป็นแค่ไขมันเท่านั้นเอง แม่ก็โล่งอกครับ แต่ว่าแม่ก็ยังปฏิบัติกิจวัตรประจำวันเหมือนเดิม มันก็เลยยังบวมอยู่เหมือนเดิมนั่นเอง
เมื่อเช้าแม่เพิ่งเล่าให้ฟังครับ (เรื่องน่าขนลุกดี) แม่บอกว่าบ้านที่ถัดไป 2-3 หลัง เผอิญมีคนท้องอยู่ (คนท้องเขาบอกว่าจะสัมผัสกับวิญญาณได้ง่าย) เขาฝันว่ามีคนมาบอกว่า เขาอยู่ด้านล่างบ้าน ไปไหนไม่ได้ ช่วยเขาออกไปหน่อย  คิคิคิ เจอแบบนี้ ขนลุกซ่าเลยอ่ะ เขาก็เลยขุดดิน แล้วก็เอาไปให้คนทำพิธีครับ (ถึงว่าสิ บ้านหลังนั้นมีเรื่องกันประจำ ไม่มีอะไรมากหรอกครับ แค่ผู้ชายหึงเมียเท่านั้นเอง เฮ้อ ใครว่ามีคู่แล้วจะสุขหล่ะเนี่ย) 
สัปดาห์ที่ผ่านมา ได้มีโอกาสอ่านเรื่อง "เงินสี่ด้าน" ในซีรี่ย์ "พ่อรวยสอนลูก" ของคุณโรเบิร์ต คิโยซากิ อ่านแล้วก็ดีนะครับ ได้ประสบการณ์จากนักธุรกิจที่เขาทำในหลายๆอย่าง ทั้งอสังหาริมทรัพย์, กองทุนรวม และอื่นๆ แต่เขาก็เก่งที่ยอมเปลี่ยนแปลงตัวเอง จากคนด้านซ้าย ไปยังคนด้านขวา นั่นคือ เจ้าของธุรกิจ และนักลงทุน ซึ่งสามารถทำให้เงินทำงานแทนเราได้ โดยมีอิสรภาพทางด้านการเงิน และเวลาครับ ส่วนผม และคนอีกหลายล้านคนบนโลกใบนี้ก็เป็นจำนวน 95% ก็ยังคงเป็นคนด้านซ้าย ที่แสวงหาความมั่นคงในอาชีพการงาน และมักสร้างหนี้สินให้เกิดขึ้น (โดยเข้าใจว่ามันคือทรัพย์สิน เช่นบ้าน, รถ, มือถือ, เครื่องเสียง, การท่องเที่ยว และอื่นๆ ซึ่งตรงนี้คุณโรเบิร์ตให้คำนิยามว่าเป็นหนี้สิน เพราะเราต้องจ่ายให้กับมันทุกๆเดือน โดยที่สิ่งเหล่านี้ไม่ได้ทำให้เกิดผลตอบแทนอะไรกลับมาเลยครับ)  อืม เป็นแง่คิดที่ดีทีเดียว แต่โดยรวมแล้ว เราก็ถูกสอนมาแบบนี้ตั้งแต่เด็กๆ จะมีกี่คนที่สามารถก้าวพ้นมันไปได้???
รู้สึกจะยาวอีกแล้วสิครับ ถ้างั้นขอจบเลยดีกว่า แต่ก่อนจบ ก็เอารูปดอกไม้ที่บ้านมาฝากกันครับ คิคิคิ เพราะว่าแม่แกหามาเรื่อยๆ แถมเพื่อนบ้านก็เอามาฝากอีกครับ แม่ก็เลยต้องหากระถางมาปลูกอีกครับ แต่สงสัยแกคงจะหยุดแล้วหล่ะครับ เพราะว่ามันไม่มีที่จะให้วางกระถางแล้วสิ 5555+
อันนี้ต้นมะกรูดครับผม (ดอกเหลืองๆนั่น พี่ชายเอาไปเสียบไว้ครับ)
อันนี้ไม่รู้เรียกว่าอะไรเหมือนกัน ใครรู้ช่วยบอกทีสิครับ
อันนี้ก็จำชื่อไม่ได้ (เฮ้อ มันเอามาลงทำไมเนี่ย) แต่รู้ว่าชื่อมีมงคลหน่อยอ่ะครับ
นี่คือผลของต้นทับทิมครับ คราวนี้มันใหญ่ขึ้นมามาก โดยที่ไม่มีเด็กมือบอน หรือหมา มาเด็ดมันออกจากต้นครับ
ส้มจี้ดครับผม มันเริ่มออกผลมาอีกแล้ว แต่ส่วนใหญ่กินไม่ค่อยทันอ่ะครับ
ต้นไม้แคระครับ กับต้นชวนชม (ไม่รู้ชวนชมจะไปรอดหรือป่าวครับ) สมัยเรียนที่หาดใหญ่ เคยปลูกชวนชมไว้ต้นนึงครับ จนสูงทีเดียว แล้วจู่ๆ มันก็เหี่ยวแห้ง ตายไปเลย ไม่รู้ทำไมเหมือนกันครับ 
กุหลาบอีกแล้วครับ (แต่มันไม่ค่อยชัดเท่าไหร่ครับ) เดี๋ยวแม่ก็คงจะตัดไปตั้งไว้ที่หน้าพระครับ คิคิคิ สวยดี
รูปสุดท้ายแล้วหล่ะครับ ต้นว่านหางจระเข้ กับอะไรก็ไม่รู้ (อีกแล้วเหรอเนี่ย) แต่ชื่อเป็นไม้มงคลอ่ะครับ 5555+
 ขอได้รับความขอบคุณมา ณ ที่นี้ด้วยนะครับ คราวหน้าจะขยันอัพบล็อกมากกว่านี้นะครับ คิคิ
| Create Date : 27 พฤษภาคม 2550 |
| Last Update : 27 พฤษภาคม 2550 13:24:05 น. |
|
23 comments
|
| Counter : 2967 Pageviews. |
 |
|
|
ถือว่าได้ราคาถูกมากทีเดียว และเจ้าของบ้านเขาก็ได้ให้อย่างอื่นมาอีกหลายอย่างครับ เช่น ตู้วางทีวี, โต๊ะเล็กๆ, ตะกร้าผ้า, ไม้แขวนผ้า, ลูกวอลเลย์บอล, หนังสือ (ตอนนี้เอาหนังสือไปบริจาคให้ห้องสมุดประชาชน จังหวัดภูเก็ต เรียบร้อยแล้วครับ เพราะว่าผมไม่ค่อยได้อ่านอ่ะ ขี้เกียจอ่านด้วย แต่ละเล่ม หนาเชียว) 
เรื่องสุขภาพของแม่ ก็เท้าบวมอีกเช่นเคยครับ แต่แม่ไปหาหมอแล้ว ไปครั้งนึงก็ได้แค่ตรวจ ต้องไปอีกครั้งเพื่อเอ็กซเรย์ และซาวด์ดู และก็ต้องไปอีกครั้งเพื่อฟังผลครับ สรุปต้องไปโรงพยาบาลบ่อยหน่อย ทั้งๆที่จริงๆแล้ว น่าจะเป็นครั้งเดียวจบ แต่ว่าก็ต้องเข้าใจว่า เป็นโรงพยาบาลของรัฐนะครับ (แม่ใช้สิทธิ์ของคนชราอ่ะครับ ก็เลยไม่ต้องเสียอะไร) แพทย์บอกว่าเป็นแค่ไขมันเท่านั้นเอง แม่ก็โล่งอกครับ แต่ว่าแม่ก็ยังปฏิบัติกิจวัตรประจำวันเหมือนเดิม มันก็เลยยังบวมอยู่เหมือนเดิมนั่นเอง
คิคิคิ เจอแบบนี้ ขนลุกซ่าเลยอ่ะ เขาก็เลยขุดดิน แล้วก็เอาไปให้คนทำพิธีครับ (ถึงว่าสิ บ้านหลังนั้นมีเรื่องกันประจำ ไม่มีอะไรมากหรอกครับ แค่ผู้ชายหึงเมียเท่านั้นเอง เฮ้อ ใครว่ามีคู่แล้วจะสุขหล่ะเนี่ย) 
อืม เป็นแง่คิดที่ดีทีเดียว แต่โดยรวมแล้ว เราก็ถูกสอนมาแบบนี้ตั้งแต่เด็กๆ จะมีกี่คนที่สามารถก้าวพ้นมันไปได้???
ขอได้รับความขอบคุณมา ณ ที่นี้ด้วยนะครับ คราวหน้าจะขยันอัพบล็อกมากกว่านี้นะครับ คิคิ
ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
ผู้ติดตามบล็อก : 3 คน [
