เอาภาพที่เขาชะเมารีสอร์ทมาฝากครับ ไปฟังหลวงตามหาบัวเทศน์มาด้วยครับ โมทนาบุญกันด้วยนะครับ
ผมมีโอกาสได้ลาพักร้อนทั้งหมด 20 วันครับ คือตั้งแต่วันที่ 21 พ.ย. - 10 ธ.ค. ครับ ออกเดินทางจากภูเก็ตเย็นวันที่ 20 พ.ย.ครับ ขึ้นรถทัวร์ตอน 16.00 น. ไปถึงกทม.ที่สายใต้ (แห่งใหม่) ก็ 05.00 น. ตกใจเล็กน้อยครับ เพราะว่าจริงๆแล้วน่าจะถึงตอนตี 4 มากกว่า แต่ก็ไม่เป็นไรครับ เพราะใช้เวลาเดินทางจากสายใต้ ไปยังจุดนัดพบที่ซ.ปรีดีพนมยงค์ 41 เพียงแค่ 40 นาทีเท่านั้นเองครับ นัดกันตอน 6 โมง แต่ก็ประเทศไทย ล่าช้ากว่ากำหนดครับ กว่าจะได้ออกรถจริงๆ ก็ 7.30 น. แล้ว รถตู้ทั้งหมด 3 คันครับ ผมได้ไปกับผู้ประสานงาน พระ 2 รูป และลุงอีก 1 คน รวมเป็น 6 คนครับ ส่วนคันอื่นๆ ไปคันละ 11-12 คน แวะพักทานอาหารที่มอร์เตอร์เวย์ครับ (ทางไประยอง จันทบุรี) แต่ผมไม่ค่อยหิวสักเท่าไหร่ ก็เอาขนมที่ได้จากรถทัวร์มากินครับ เป็นขนมปังฟาร์มเฮ้า 1 ลูก และไปซื้อกาแฟกระป๋องมาดื่ม 1 กระป๋องครับ จากนั้นก็เดินทางต่อครับ แวะอีกทีก็ปั๊มที่ใกล้จะถึงสถานที่แล้ว เดินทางอีกเป้บนึงก็ถึงแล้วครับ เขาชะเมา เฮลล์ รีสอร์ท ที่อุทยานแห่งชาติเขาชะเมา อ.แก่งหางแมว จ.จันทบุรี ถึงประมาณ 10 โมงครับ ไปถึงด้านหน้าที่ห้องรวมก็มีขนมบิสกิตเล็กๆ โรยหน้าด้วยธัญพืช และน้ำมะตูมไว้ต้อนรับครับ จากนั้นก็ดูรายชื่อว่าอยู่ที่ห้องไหน ผมได้พักกับลุงอายุ 60 กว่าปีครับ แต่ดูแล้วท่านก็มีเมตตาดีครับ อยู่ด้วยกันไม่มีปัญหาแต่อย่างไร ยกเว้นมีกรนตอนหลับไปแล้วบ้างครับ (เพราะผมนอนหลับทีหลังครับ) เอารูปมาฝากกันด้วยนะครับ มาดูกันเลยนะครับ รูปแรก เป็นภาพที่ถ่ายจากห้องผมออกไปครับ (ที่นี่ห้องพักจะมีลักษณะเป็นบ้านแฝด เรียงกันเป็นรูปสี่เหลี่ยมผืนผ้าครับ) ที่เห็นนั่นคือ ศาลาที่สามารถไปนั่งคุยกันได้ครับ เอาไว้ให้ผู้อบรมไปสอบถามข้อสงสัยกับพระภิกษุครับ
ภาพนี้เป็นภาพห้องพัก ถ่ายจากด้านนอกครับ จะเป็นแบบบ้านแฝด ติดกัน 2 หลัง ดูสวยดีนะครับ
ภายในห้องก็มีโต๊ะเครื่องแป้ง ทีวี แต่ว่าไม่มีรายการของสถานีใดๆเลยครับ เขามีวีซีดีให้เปิดดูครับ เป็นการแนะนำสถานที่เท่านั้นเอง และตู้เสื้อผ้าครับ ใ้นห้องน้ำก็มีอ่างอาบน้ำ มีน้ำร้อน น้ำเย็นให้เรียบร้อย คิคิคิ แต่ไม่ได้ถ่ายมาให้ดู มีแค่ภาพเตียงคู่ครับผม ตรงกลางที่เห็นเป็นแสงไฟนั้นเป็นเกลือแท่ง (จากไหนจำไม่ได้แล้วครับ) เขาเปิดเอาไว้ตลอดเวลา เพื่อปรับสภาพอากาศในห้องพัก และช่วยในเรื่องโรคภูมิแพ้ด้วยนะครับ นอกจากนั้นก็มีเตาน้ำมันหอมให้เปิดได้ตามใจชอบครับ
ภาพนี้เป็นอีกลานนึงครับ เรียกว่า ลานกระบก (กระบกนี่คือต้นไม้ที่เห็นอยู่นั่นหล่ะครับ) ใช้สำหรับกลุ่มใหญ่ จะมีพระมาบรรยายธรรมให้ฟังประมาณบ่าย 2 ของทุกวัน และช่วงเช้าในวันหลังๆ จะมีการนำการออกกำลังกายแบบโยคะด้วยครับ อากาศสดชื่น ออกกำลังกายด้วย ดีมากเลยนะครับ
นอกจากนี้ในรีสอร์ทก็มีสระน้ำวนด้วยนะครับ มี 2 สระ อยู่ติดกัน น่าจะเป็นการแยกชาย-หญิงด้วย แต่ว่าผมไม่ได้ลงไปแช่หรอกครับ
คราวนี้มาดูในห้องรวม (อยู่ด้านหน้าเลยครับ) ด้านในมีโต๊ะหมู่บูชาพระครับ เพราะใช้เป็นสถานที่ในการสวดมนต์ ทำวัตรเช้า - เย็น (06.00 น. และ 19.00 น.) และถวายสังฆทานช่วง 10.30 น. ของทุกวันครับ ส่วนเก้าอี้ไม้นั่น สำหรับพระภิกษุครับ
อีกด้านนึงครับ เป็นวรสังฆทานที่จัดไว้ถวายทุกวันครับ อันนี้ถ่ายวันหลังๆแล้ว ก็มีส่วนที่เพิ่มขึ้นมาด้วยครับ โดยในการถวายวรสังฆทานนี้ก็จะมีการเชิญเทพเทวดามาร่วมด้วยครับ โดยผู้อัญเชิญก็ต้องเป็นผู้ที่ปฏิบัติดี มีบุญบารมีในระดับหนึ่งแล้วครับ พร้อมมีการอธิษฐานด้วย ยาวทีเดียวครับ
ด้านหน้าของห้องรวมก็จะมีเครื่องดื่มต่างๆเตรียมไว้ตลอดเวลาเลยครับ ด้านหนึ่งเป็นกาแฟ โอวัลติน โกโก้ น้ำตาล ครีมเทียม น้ำร้อน อ๋อ มีกาแฟสดด้วยครับ โดยการใช้กระดาษกรองรองไว้ให้มันไหลลงไปที่แก้วครับ
อีกด้านของประตูก็จะเป็นพวกนมกล่องครับ นมจืด นมเปรี้ยว และน้ำปานะ รวมทั้งมีสาหร่ายอบแผ่นให้ด้วยครับ มีเมล็ดทานตะวันด้วย
ส่วนอีกฟากหนึ่งครับ (ห่างกันนิดเดียวครับ) จะมีร้านอาหาร ซึ่งในแต่ละวันเราก็เดินไปทานข้าวกันที่นี่หล่ะครับ จัดไว้วันละ 3 มื้อ แต่ถ้าใครถือศีล 8 ก็ไม่กินมื้อเย็นครับ
อันนี้สภาพด้านในครับ มีแม่บ้านที่คอยให้บริการอยู่ด้วยครับ แม่บ้านน่ารักดีครับ ขาดตกอะไร บอกเขา สักครู่เขาก็จะไปนำมาให้เลยครับ
ในร้านอาหารก็มีมุมกาแฟให้เช่นกันครับ และก็มีมุมที่เป็นขนมปังให้ปิ้งทานกับแยมสตรอเบอร์รี่ แยมสับปะรด น้ำพริกเผา และนมข้นด้วยนะครับ
อาหารที่บริการก็เป็นแบบบุฟเฟ่ห์ครับ ตักไปกินไม่อั้นครับ คิคิคิ ใครอยากจะกินมากเท่าไหร่ เขาก็ไม่ว่า ไม่หมดด้วย เพราะเขาจะทำมาเติมให้อีก ถ้ามันหมด
ดูๆไป เหมือนไปพักผ่อนเลยนะครับ สถานที่สบายมากเลยครับ แต่ว่าในการปฏิบัติแล้ว ก็ไม่เบานะครับ ใครที่ต้องการจริงๆ ก็จะเร่งกันในช่วงนี้หล่ะครับ ก็ ok ไปหลายท่าน แต่สำหรับผมแล้ว นี่คือครั้งแรกที่ได้รู้จักกับการปฏิบัติมาขึ้น เพราะโดยปรกติแล้ว จะอ่านหนังสือเอง ทำได้บ้าง ไม่ได้บ้าง นี่หล่ะครับที่ต้องมีอาจารย์ที่ให้คำแนะนำได้ ไม่งั้น ทำไปก็ไม่ไปไหนครับ เพราะที่เข้าใจจากการอ่านเอง กับของจริงนั้น แตกต่างกันโดยสิ้นเชิงเลยครับ
นอกจากนี้บริเวณนั้นก็จะมีทางเดินป่า มีน้ำตกด้วยนะครับ ก็ได้มีโอกาสไปเดินเส้นทางธรรมชาติบ้างครับ มาดูกัน ธรรมชาติดีมากเลย พอดีไปกับเพื่อนธรรมอีกคนนึงครับ เขาก็เลยถ่ายรูปให้ รูปแรก ถ่ายตรงทางที่จะเข้าไปนะครับ ต้นไม้เขียวขจีเลย
อันนี้โคนต้นไม้ใหญ่ครับ น่าจะดีถ้าในเมืองมีต้นไม้ใหญ่ๆแบบนี้บ้างนะครับ
มองขึ้นไปด้านบน โห ต้นสูงมากเลยครับ
อันนี้ไม่ใช่ต้นเดียวกันครับ แต่พี่เขาบอกว่าให้ลองถ่ายมุมนี้ดู เพราะเห็นในนิตยสารพวกธรรมชาติ ชอบถ่ายภาพแบบนี้ครับ สวยดีเหมือนกัน
ภาพนี้ถ่ายด้านนอกทางที่จะเข้าไปทางเดินธรรมชาติครับ มีป้ายบอกทางด้วย พี่เขาจัดให้ครับ ให้เห็นท้องฟ้าที่ฟ้าสดใส
คิคิคิ แอบถ่ายพี่เขาจากด้านหลังครับ เห็นป้ายบอกทางเข้าสู่รีสอร์ทด้วยอ่ะ
อยู่ที่นี่ 15 วันเลยครับ ตั้งแต่วันที่ 21 พ.ย. - 5 ธ.ค. เลยครับ มีอะไรๆประทับใจหลายอย่างครับ จะเล่าให้ฟังแค่เรื่องเดียวครับ คือวันที่ 24 พ.ย. วันลอยกระทงครับ นำโดยนักบวชครับ ท่านนำให้เราเดินตาม ถือเทียนที่ไม่ได้จุด พนมมือ เดินวนรอบลานกระบก ท่องบทอิติปิโส 56 จบครับ จากนั้นก็ไปปักเทียนไว้ในกระถางที่มีทรายไว้ครับ รู้สึกดี คิคิคิ แล้วก็เอาภาพรวมมาฝากครับ รวมกันถ่ายภาพวันสุดท้ายก่อนแยกย้ายกันเดินทางกลับ
หลังจากแยกย้ายกัน ผมก็ติดรถไปกับลุงที่พักอยู่ห้องเดียวกันครับ เขาอยู่แถวรังสิต ผมก็จะไปทางนั้นพอดี ก็เลยนั่งไปด้วย เขาก็ดีใจ มีคนนั่งไปเป็นเพื่อนครับ ไปถึงที่บ้านเขา ผมก็ต่อรถเมลล์ไปที่ธรรมศาสตร์ รังสิต เพื่อจะไปเจอกับเพื่อนอีกคนที่จะไปพักด้วย (อยู่แถวบางปะอินครับ) เจอกันที่หอพระ เพราะมีโครงการปฏิบัติธรรมที่นั่นด้วยครับ เข้าไปนั่งสมาธินิดหน่อย พอสัก 2 ทุ่มก็มีพิธีจุดเทียนชัยถวายพระพรกันครับ จากนั้นก็กลับไปพักที่บางปะอิน
เช้าวันที่ 6 ธ.ค. ตอนเช้าก็เข้าไปตักบาตรในธรรมศาสตร์รังสิตครับ แล้วก็ไปวัดอัมพวัน (ใช่ป่ะครับ หรือว่าอัมพวา) เพื่อไปกราบหลวงพ่อจรัลครับ ได้ภาพมาด้วย แต่ว่าห้ามใช้แฟลช ทำให้รูปไม่ค่อยชัดสักเท่าไหร่อ่ะ
จากนั้นก็เข้าไปที่ธรรมศาสตร์ รังสิตอีกครับ มีนัดกับรุ่นพี่อีกคน ซึ่งทำงานที่โรงพยาบาลครับ ก็ไปกินข้าวด้วยกัน (พี่เขาเลี้ยง ) จากนั้นก็ไปช่วยตรงที่หอพระอีกครับ พอดีจะมีการย้ายเต้นท์ ก็ได้ไปช่วยเขาย้ายด้วยพอดีครับ นำภาพภายในงานทอดผ้าป่าช่วยชาติ มาฝากกันครับ
ภาพแรกก็หอพระ ในธรรมศาสตร์ รังสิตครับ
ภาพนี้ พุ่มผ้าป่าช่วยชาติครับผม วางอยู่ด้านหลังหอพระครับ
ด้านหน้าก็มีกลุ่มอะไร จำชื่อไม่ได้ครับ ก็เป็นการรวมเงินทำบุญนะครับ มีจัดพุ่มที่ดูแปลกตาออกไปครับ ช่วงที่จะถวาย เขานำพุ่มแห่รอบหอพระ 3 รอบด้วยนะครับ
มีผู้มีจิตศรัทธา มาบริจาคน้ำ อาหารด้วยนะครับ ตลอดโครงการเลย โมทนาสาธุครับ
หลวงตามหาบัว ท่านมาถึงประมาณบ่าย 3 ครับ ก็มีคนเข้าไปเยอะเลยครับ ท่านเดินไปยังพิธีเองด้วยนะครับ และท่านเทศน์ตั้ง 54 นาทีด้วยครับ เป็นบุญของผมอย่างยิ่งที่ได้พบท่าน และได้ฟังธรรมจากท่าน
ท่านมาเป็นประธานในพิธีเททองหล่อองค์พระครับ
อันนี้เป็นภาพเตาหลอมทองครับ (ถ่ายตอนที่หลวงตายังไม่มาครับ ไร้ผู้คน)
จากนั้นวันที่ 7 ธ.ค. ก็นั่งเครื่องจากสุวรรณภูิมิ ไปหาดใหญ่ครับ ไปร่วมงานแต่งงานของรุ่นพี่มหาวิทยาลัยในวันที่ 8 ธ.ค. จากนั้นวันที่ 9 ก็เดินทางกลับพร้อมกับเพื่อนอีก 3 คนครับ จบการเดินทางในวันลาพักร้อนของผม
Create Date : 13 ธันวาคม 2550 |
|
29 comments |
Last Update : 13 ธันวาคม 2550 17:46:34 น. |
Counter : 5600 Pageviews. |
|
|
|
แวะมาทักทายกันครับ
แค่เข้ามาก็อิ่มบุญพูนสุขแล้วครับ
และแอบจิ๊กดอกไม้จากงานแต่งเพื่อนซี้มาฝากด้วยครับ
สามารถคลิกที่ภาพเพื่อเข้า Blog มิสเตอร์ฮองได้ครับ