เพื่อนบ้านเสียงดัง หรือหูเราดีเกินไป ??? ทำไงดีหว่า
ง่วงนอนมาก 17 มี.ค. 2551, 16.31 น. วันเสาร์ที่ผ่านมาช่วงเช้าพาแม่ไปเดินซื้อของที่โลตัส ออกจากบ้านเร็วกว่าเดิมประมาณครึ่งชม. ก็ซื้อของไปเรื่อยๆ กลับบ้านก็ตากผ้า กินข้าว และเข้าออฟฟิศ เพื่อทดสอบระบบการทำงานของโปรแกรมซื้อขายหุ้น เสร็จแล้วก็กลับบ้านไปรับแม่ไปเดินตลาดนัดอีก แม่ก็ซื้อผลไม้เตรียมไว้ไปไหว้พระ ไปเล่นแบดก็สนุกดี แต่เมื่อยๆหน่อย เพราะไม่ได้วอร์มอัพ และดาวน์
วันอาทิตย์ช่วงเที่ยงก็ไปกินข้าวกับเพื่อนที่ร้านส้มตำ ที่ซุปเปอร์ ชีฟ เพื่อนก็เล่าให้ฟังว่าตอนป่วยก็ได้พิจารณาธรรมไปด้วย ได้ความว่าความเจ็บเกิดที่ร่างกาย แต่อะไรที่รับรู้ความเจ็บ ก็ที่จิตใจของเรานั่นเอง เมื่อรู้ว่าสาเหตุมาจากไหน มันก็สามารถที่จะปล่อยวางได้ เมื่อปล่อยวางแล้ว ความเจ็บก็หายไป สาธุ ดีจริงๆเลย เขาบอกว่าที่เล่าให้ฟัง เพราะเชื่อว่าผมจะสามารถนำไปใช้ได้ เมื่อมีโอกาส จากนั้นก็พาเพื่อนขี่รถเที่ยว (เพราะเขาเพิ่งหายป่วยจากทอมซิลอักเสบ) พาไปเกาะสิเหร่ ที่แหลมตุ๊กแก (หมู่บ้านชาวไทยใหม่) พาไปดูองค์อุปคุต (หลวงปู่สุภาท่านมาสร้างไว้) จากนั้นก็กลับไปส่งเพื่อนและกลับบ้าน พอดีกับเวลาที่แม่อาบน้ำเสร็จ ก็พาแม่ไปที่โต๊ะถ่าหมี แถวสะปำ มีพิธีไหว้ครู ก็ได้เจอญาติๆหลายคน แต่ผมไม่ค่อยได้คุยกับใครมากนัก เพราะไม่ค่อยสนิท หลังจากเสร็จงานนี้ก็แวะไปหาน้องสาวแม่ อยู่ใกล้ๆแถวนั้น ก่อนที่จะกลับบ้าน เวลาก็ทุ่มกว่าแล้ว ยังจะออกไปเล่นแบดอีก ได้ 2 เกมส์ แต่วันนี้โชคดีมีคนจ่ายค่าลูกแบดให้ เลยไม่ต้องเสียอะไรเลย
เมื่อคืนนอนหลับไม่สนิท ตี 2 รู้สึกตัวเพราะไม่รู้บ้านไหนคุยกันเสียงดัง อีกช่วงก็ 6 โมงกว่าข้างบ้านกลับมาจากนอกบ้าน ก็คุยกันเสียงดัง (ปรกติเขาก็พูดเสียงดังอยู่แล้ว ทั้งบ้านเลยอ่ะ) พิจารณาดูแล้ว ไม่รู้เหมือนกันว่าสาเหตุที่ตื่นขึ้นมาเป็นเพราะอะไรกันแน่ จะไปคุยกับเขาให้พูดเบาลง ก็ไม่แน่ใจว่าเพื่อนบ้านมันจะทำตามที่ขอหรือป่าว หรือว่าเป็นเพราะหูเราดีเกินไปหว่า??? สงสัยต้องเฝ้าดูตัวเองให้มากขึ้นเสียแล้วสิเรา
วันนี้ก็ไปทำบุญที่วัดก่อนมาทำงาน มีน้องมาฝึกงาน 2 คน เป็นผู้ชาย และผู้หญิง เขาก็เงียบจริงๆ ไม่ค่อยคุย และไม่ค่อยของานอะไรเลย แต่ก็อาจจะเป็นวันแรก เดี๋ยวก็คงจะดีขึ้นมั้ง แอร์ก็เย็น ปวดหัว และง่วงนอนจริงๆเลยเรา อิอิ
อุปสรรคเป็นโอกาส 14 มี.ค. 2551, 17.55 น. เมื่อวานหลังจากออกจากที่ทำงานก็ขี่กลับบ้าน จำได้ว่าพรุ่งนี้เป็นวันพระ ก็เลยแวะซื้อพวงมาลัย ครบ 100 บาทพอดี คนขายใจดีแฮะ แถมพวงมาลัยมะลิล้วนมาให้อีก 1 พวง จากนั้นก็ขี่รถไปที่วัดหลวงปู่สุภา ที่วัดมีการเตรียมงานยกช่อฟ้า ซึ่งก็มีการกางเต้นท์ และจัดเก้าอี้ไว้ ในอาคารก็มีพระ แม่ชี และอุบาสก อุบาสิกา กำลังทำวัตรเย็นกันอยู่ ผมก็ไปปิดทองลูกนิมิต 9 ลูก และช่อฟ้า 6 ช่อ พร้อมกับทำบุญ จากนั้นก็กลับบ้าน นั่งดูทีวีกับแม่ (เพราะตั้งใจที่จะไม่ไปเล่นแบด เป็นการพักผ่อนไปในตัว) ได้ดูละครเรื่องใหม่ "เธอคือชีวิต" มันแปลกดี เริ่มเรื่องก็รู้สึกว่ามีเงื่อนงำอะไรเยอะแฮะ พอดีวันนี้ได้มาอ่านเรื่องย่อในเวป ก็เดาถูกอย่างนึงว่า โตมร (นำแสดงโดยเวียร์) เป็นรุจน์ คนที่แขไขรัก และต้องการพบก่อนตาย แต่คุณแสง ซึ่งเป็นยมทูต อดีตชาติเป็นคนที่แต่่งงานกับแขไข แต่จริงๆแล้วแขไขไม่ได้รักแสงเลย อิอิ น่าสนุกดีนะครับ :)
เช้าวันนี้ก็ไปวัด แต่ดันลืมเตรียมเหรียญไปให้ชาวเล เพราะวันนี้เป็นวันพระ แต่ก็ไม่เป็นไร ไปวัดเสร็จก็เข้าทำงานตลาดหุ้นก็เงียบๆเหมือนเดิม วันนี้ตลาดอยู่ในแดนบวกก็จริง แต่ปริมาณการซื้อขายน้อย เป็นสัญญาณว่า อาทิตย์หน้ามันจะปรับตัวลงแน่ๆเลย รถพี่ชายเสียอีกแล้ว สตาร์ทได้ แต่วิ่งไม่ได้ ช่างบอกว่าเฟืองคลัชเสีย มันหัก ก็เลยต้องเปลี่ยนอีก 300 บาท (ของแท้น่าจะสัก 800-900 บาท)
ทำเรื่องเกี่ยวกับการเคลมค่าชดเชยการพักรักษาตัวในโรงพยาบาลให้เพื่อน ทีแรกต้องให้แพทย์เซ็น ซึ่งของโรงพยาบาลวชิระ เขามีค่าธรรมเนียมในการดำเนินเรื่องตั้ง 500 บาทแหนะ ก็เลยติดต่อไปยังตัวแทนที่เคยทำเรื่อง เขาแนะนำว่าไ่ม่ต้องให้แพทย์เซ็นก็ได้ เพียงแค่ใช้ใบรับรองแพทย์ เลยติดต่อฝ่ายเคลมของบริษัท ผ่านทางอีเมลล์ ดีจริงๆครับ เขาโทรกลัีบมาคุยกับผมเลย ก็เลยได้รับความรู้ว่าในกรณีนี้ไม่ต้องให้แพทย์เซ็น เพียงแค่ใบรับรองแพทย์ต้องมีรายละเอียดว่า ผู้ป่วยเข้ารักษาตัวจริงๆ กี่วัน และด้วยสาเหตุอะไรเท่านั้นก็พอ + กับใบปะหน้า ซึ่งให้ผู้ป่วยเซ็นชื่อ เท่านี้ก็ได้แล้ว เย้ ทำให้ไม่ต้องดำเนินเรื่องให้ยุ่งยากอีกต่อไป โชคดีของเพื่อนผมจริงๆ อิอิ
อยู่กับปัจจุบัน 13 มี.ค. 2551, 18.51 น.วันนี้ก็ไม่ได้นำกับข้าวไปถวายวัดเช่นเดิมครับ เพราะว่ามีกับข้าวเหลือจากเมื่อวาน วันนี้ก็มาทำงานเร็วกว่าเดิมนิดหน่อย หน้าเวปของบริษัทมีปัญหาตั้งแต่เ้ช้าเลย ไม่รู้เพราะอะไร แต่สาเหตุก็เกิดมาจากระบบเอง ไม่เกี่ยวกับอินเตอร์เน็ต ตลาดหุ้นก็เคลื่อนไหวแคบๆ ดูไปดูมาก็น่าเบื่อเหมือนกัน
ช่วงบ่ายหลังกินข้าวเสร็จก็นำรถมอร์ไซด์ไปเช็คตามระยะทางที่ 28,000 กม. บอกทางร้านว่าฝาครอบหน้ารถมันมีเสียงดัง ทีแรกนึกว่าจะไม่่สามารถซ่อมได้ แต่หลังจากรับรถ มันก็ไม่ดังแฮะ สังเกตุดู อ๋อ เขาติดกาวให้นี่เอง จะได้จำไว้ เผื่อจะได้บอกช่างอื่นๆได้ ถ้ามันเป็นอีก มันคงจะเกิดตอนที่หลอดไฟหน้าดับนั่นเอง พอแกะฝาออก มันก็เลยไม่สนิท
รถอีกคัน ที่พี่ชายใช้อยู่ วันก่อน น้ำมันเครื่องมันไหล ก็เอาไปให้ช่างดูต้องทิ้งรถไว้ตั้ง 2 วัน (จริงๆน่าจะทำเสร็จแค่ 1 วัน แต่ช่างดันติดนัดหมอ ก็เลยเสียเวลาเพิ่ม) ต้องเปลี่ยนเครื่องใหม่เกือบทั้งหมด เสียค่าซ่อมไป 3 พันบาท พอใช้ได้ไม่กี่วัน มันก็มีน้ำมันไหลอีก แปลกจัง! แม่ก็จะให้เอาไปให้ช่างดู แต่พี่ชายไม่อยากจะเอาไปให้ดู เพราะกลัวว่าเดี๋ยวมันจะซ่อมอะไรอีก (แล้วผมจะต้องเสียค่าซ่อมเพิ่ม) แต่วันนี้ ไม่มีน้ำมันไหลออกมาแล้ว อิอิ
วันนี้ว่างๆ พอดีมีเพื่อนมาถามอะไรบางอย่าง ทำให้เราได้คิด คิดไปคิดมาก็ออกมาแบบนี้หล่ะครับ เลยเอามาให้อ่าน
"เวลาเดินหน้าตลอดเวลา ไม่มีทางที่เราจะย้อนไปแก้ไขสิ่งที่เกิดขึ้นในอดีต ทำได้เพียง ทำปัจจุบันนี้ให้ดีที่สุด เพราะอนาคต เราก็ไม่อาจจะล่วงรู้ได้ ทำได้เพียงแค่คาดเดาเท่านั้น แต่ก็เชื่อได้อย่างหนึ่งว่าหากทำปัจจุบันนี้ให้ดีแล้ว อนาคตก็น่าจะดีตามไปด้วย"
ก็มันชินอ่ะ 12 มี.ค. 2551, 18.50 น. เมื่อวานหลังจากเล่นแบดเสร็จก็ไปเยี่ยมเพื่อนที่รพ.วชิระ ท่าทางเขาจะเป็นต่อมทอมซิลอักเสบ มีอาการมึนๆ และร่างกายร้อนมาก เลยต้องไปพักที่รพ. พอดีไปเกินเวลาเยี่ยมแล้ว โชคดีที่ไปเปิดหน้าต่างคุยกันได้ (เพราะประตูปิดแล้ว) ก็นิดหน่อย ไม่มีอะไรมาก ส่วนวันนี้เขาก็ยังคงต้องนอนต่ออีก 1 คืน เพราะหมอให้ยาต่ออีก จะได้ครบเซ็ท
เช้าวันนี้ขี่รถมาทำงาน แปลกจัง ตรงสามแยกถนนศักดิเดช รถติดกันเยอะมากเลย ก็คิดว่าสมเด็จพระเทพฯ ท่านคงจะเสด็จแน่ๆเลย ไปที่อ่าวมะขาม ก็เลยต้องอ้อมไปทางเจ้าฟ้าสายนอก กลับเข้าไปทางหล่อโรง ไปทำงาน ไม่งั้นไม่รุ้จะติดนานแค่ไหน
ตลาดหุ้นก็ขึ้นๆลงๆ เฮ้อ ใครจับตลาดถูกก็ได้กำไรไป สงสารเพื่อนบางคนเหมือนกัน คีย์ออร์เดอร์เองทางอินเตอร์เน็ต ก็มีผิดพลาดกันบ้าง เบลอไปบ้าง แต่ก็ดีเหมือนกันครับ จะได้เป็นประสบการณ์
เพื่อนอีกคนเครียดกับภาษีมากเลย ค้นหาสิ่งที่จะนำมาหักลดหย่อนใหญ่เลย แต่ไม่ศึกษา จะถามคนอื่นอย่างเดียว แบบนี้ไม่ไหว แต่ไม่เป็นไรปีที่ผ่านมาก็ทำอะไรไม่ได้แล้ว ต้องเสียเพิ่มก็ต้องเสีย มาวางแผนของปีนี้ให้ดีก็แล้วกันนะครับ
คิดแล้วทุกข์ 11 มี.ค. 2551, 16.03 น.เมื่อวานก็ไปเล่นแบดแค่เกมส์เดียวเท่านั้นเอง เพราะรู้สึกว่าไม่ค่อยมีแรง เลยพอแค่นั้น กลับบ้านก็รู้สึกเหมือนจะไม่สบายก็เลยกินทั้งพารา และยาแก้ภูมิแพ้กันเอาไว้ แถมทาวิคส์ที่หน้าอก และคอด้วยเลย 55555+
ใช้ได้แฮะ ตื่นเช้ามาวันนี้ก็ไม่เป็นไข้อะไร สบายดี เช้านี้แม่ทำกับข้าวใหม่ 1 อย่าง ผัดน้ำเต้ากับหมู ก็ตักใส่ถุง ไปซื้อข้าวเปล่าเพิ่มที่ตลาด ไปถวายที่วัดควน ระหว่างที่ขี่รถจากบ้านไปที่วัด ก็ท่องบทอิติปิโสไปด้วย ได้ 32 จบพอดีเลย มันก็ทำให้จิตใจไม่แส่ส่ายไปที่อื่นได้เหมือนกันนะครับ ดีจัง
ตลาดหุ้นวันนี้ก็เป็นบวกขึ้นมาได้ ดีเหมือนกัน เห็นลูกค้าบางคนเล่นแบบรายวัน แล้วได้กำไรก็ดีใจกับเขาด้วย เพราะส่วนใหญ่แล้ว เล่นรายวันมักจะแพ้ตลาดเสมอ (ก็คือขาดทุนนั่นเอง) ตลาดช่วงนี้ไม่ค่อยมีอะไรเลย เพราะในประเทศ ไม่มีปัจจัยอะไรใหม่เลย ปัจจัยภายนอกก็ยังคงกังวลเศรษฐกิจของสหรัฐเหมือนเดิม อะไรๆก็ดูแย่ๆเนอะ
สภาพบ้านเมืองก็ไม่ดี ผู้ที่ไปทำงานเพื่อชาติบ้านเมือง แต่เท่าที่ดูแล้ว แทบไม่เห็นเป็นประโยชน์กับชาติบ้านเมืองเลย ทรัพยากรธรรมชาติก็โดนทำลายไปเรื่อยๆ ไม่เข้าใจเหมือนกัน เห็นแก่เงินกันทั้งนั้นเลย แล้วต่อไปภัยธรรมชาติมา ก็คงจะต้องรุนแรงกว่าเดิมแน่ๆ คิดแล้วก็ทุกข์นะเนี่ย งั้นไม่คิดดีกว่า อิอิ
Create Date : 17 มีนาคม 2551 |
|
11 comments |
Last Update : 17 มีนาคม 2551 16:37:36 น. |
Counter : 1486 Pageviews. |
|
|
|
Use this picture.
เรื่องเสียงดังเนี่ย 555 เราก็เป็น แต่ถ้าหลังเที่ยงคืนจะเบาเสียงตัวเองลงด้วย เพราะเคยลืมตัวพูดดังแล้วมีเสียงตามมาแล้วเหมือนกัน แต่ปกติถ้าไม่มีเรื่องอะไรก็จะไม่ได้เสียงดังหรอก ยกเว้นมีเรื่องตื่นเต้นอะ อิอิ ยังไงก็ลองดูละกันนะจ๊ะ แต่เคยเจอข้างบ้าน เคาะฝาห้องเรื่อยๆ อันนี้ดิโรคจิต 555 เรื่องบ้านไกลเรือนเคียงบางทีมันก็กระทบกระทั่งกันบ้าง แต่ก็ดูละกันเนอะว่าบ่อยอะป่าว ถ้าทุกวันก็อาจจะต้องบอกเค้าอะ ไม่งั้นเดี๋ยวหลับไม่สนิทละแย่เลยเนอะ แต่ส่วนตัวเราค่อนข้างชินเรื่องเสียงดัง เพราะหน้าบ้านติดถนนเลยไม่ค่อยมีปัญหาเรื่องเสียงดังนอนไม่หลับ จะทะเลาะกันก็ทะเลาะไป คนจะนอน 555 แต่ทีพ่อเปิดเพลงดัง เราดันนอนไม่หลับซะงั้น งงๆ อิอิ