Group Blog All Blog
|
มึนเมายา ปวดหัวไมเกรนมาตั้งแต่วันอาทิตย์ กินยาก็พอจะหาย ๆ ไปบ้าง แต่ก็ยังมีอาการหลงเหลือพอให้รำคาญใจ ร้อนใจไปถึงเพื่อนรักที่รู้ว่าฉันมีอาการปวดหัวเป็นเพื่อนสนิท เพื่อนก็เลยโทรไปปรึกษาเพื่อนอีกคนที่ทำงานเป็นพนักงานขายยา เพื่อนมันก็สงสัยใหญ่ว่าทำไมไม่หายซักที อาการก็เลือกกินจะตาย ออกกำลังกายก็ทำ งานที่ทำก็ไม่ได้หนัก ความเครียดก็ไม่ค่อยเจอะเจอ เมื่อคุยกันไปมาก็สรุปความได้ว่า สาเหตุที่ยังส่งผลให้ปวดหัวไมเกรนอยู่จนทุกวันนี้มีอยู่ 2 อย่าง คือ อากาศบ้านเราที่รู้ ๆ กันอยู่ว่าเป็นยังไง มันเป็นสิ่งที่ควบคุมไม่ได้ อีกอย่างคือ การนอนที่ไม่มีประสิทธิภาพ เพราะตื่นทุก 1-2-3 ชม. ในที่สุดเพื่อนที่เป็นพนักงานขายยาก็แนะนำให้กินยาเพิ่มอีกตัว เพื่อป้องกันการเกิดซ้ำ คือ FLUNARIZINE ที่จะช่วยให้นอนหลับด้วย โดยส่วนตัวไม่อยากจะกินยา ยิ่งกินยิ่งดื้อยา ถ้าพอทนได้ก็จะทน ๆ ไป ก่อน จนกระทั่งว่าทนไม่ไหวแล้ว อาเจียนแล้ว จึงจะอัดยา แต่การกินยาสำหรับการปวดหัวไมเกรน มันมีข้อบ่งชี้อย่างหนึ่งว่า ควรกินตั้งแต่เริ่มรู้ตัวว่ามีอาการ ถ้าปล่อยให้มีอาการแล้ว กินยาไปก็มักจะเอาไม่อยู่ แต่สุดท้าย...ท้ายที่สุด เมื่อวานก็ได้ไปซื้อเจ้าตัวยาที่เพื่อนแนะนำมา เมื่อค้นหาข้อมูลของยานี้ก็พบผลข้างเคียงพอสมควร ทั้งความง่วงเหงาหาวนอน ความอยากอาหาร และอาการซึมเศร้าที่อาจจะตามมา //www.livestrong.com/article/153940-side-effects-of-flunarizine/ แต่ก็คิดว่ายาทุกต้วก็มีผลข้างเคียงเหมือนกันแหละน๊าาา Cafergot ที่กินอยู่ก็ผลข้างเคียงระยะยาวไปได้ไม่สวยเหมือนกัน เมื่อคืนก็เลยลองดูล่ะกัน ปรากฎว่าเมื่อคืนหลับยาวเลยตั้งแต่ 3 ทุ่ม - ตี 5 ตื่นมาแบบ...รู้สึกเพลีย ๆ ก็เลยนอนต่อ มาหลับแบบไม่รู้สึกตัวตอนประมาณ 6.30 น. ตื่นมาดูนาฬิกาอีกที 7.45 น. แล้ว ไปถึงที่ทำงานด้วยอาการโหย...จะว่าหิวก็ไม่ใช่ แต่มันเหนื่อยล้าไม่มีแรง ก็เข้าใจว่าอาจจะหิว เพราะเมื่อคืนกินแค่มันเทศไป 3-4 หัว แต่ปกติก็กินนิด ๆ หน่อย ๆ แค่นั้นแล้วก็นอน ทุกวันก็ไม่เคยรู้สึกอ่อนระโหยโรยแรงขนาดนี้ รีบหาข้าวเช้ากิน กินเสร็จอาการอ่อนระโหยโรยแรงก็ไม่ดีขึ้น คิดว่าร่างกายต้องการพลังงานจึงจัดหาน้ำตาลให้ ด้วยการเดินไปสั่งกาแฟโบราณต้นตำรับร้านลุง ซึ่งจะหวานหยดย้อยยยยเลยล่ะ แต่ก็ไม่ช่วยอะไร!!!! ภาคเช้าก็เลยฟุบกับโต๊ะทำงานซะเลย มันเหนื่อย ระโหยโรยแรง เที่ยงปุ๊บก็รีบบึ่งกลับห้องทันที ถึงห้องทิ้งร่างลงนอนหลับยาววววว นาฬิกาปลุกตอนบ่ายโมงครึ่ง ลุกมายังมึน ๆ ไม่ไหวแล้ว สลบต่อยาววววว รู้สึกตัวอีกทีบ่ายสามครึ่ง ว่าจะนอนต่อแล้วก็ลางานไปเลยดีกว่าไหม แต่ยังไงก็ต้องตื่นไปหาอะไรกินอยู่ดี เพราะมื้อเที่ยงก็ยังไม่ได้กิน และไม่มีอะไรในห้องเลย ก็เลยลุกแต่งตัวมาออฟฟิศ ยาเขาแรงจริง ๆ หรือร่างกายฉันอ่อนแอเกินกว่าจะรับยานี้ได้ก็ไม่รู้ เม็ดเดียวตั้งแต่เมื่อคืน ไม่น่าเชื่อว่าผลข้างเคียงมันจะร้ายกาจขนาดนี้ ทำเอาฉันทำการทำงานไม่ได้กันเลยทีเดียว แบบนี้เม็ดเดียวก็คงจะเกินพอ ไม่มีเม็ดต่อไปแล้วล่ะ |
Wueng
Rss Feed Smember ผู้ติดตามบล็อก : 4 คน [?] If life was easy, Where would all the adventures be? . . All is well.
Friends Blog
Link |