2 เมนูอร่อยจากกระท้อนปุยฝ้าย เปรี้ยวแซ่บอมหวาน
แกงคั่วกระท้อนใส่ปลาโอย่าง
กระท้อนทรงเครื่อง
เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม ขอขอบคุณภาพประกอบจาก รายการ ภัตตาคารบ้านทุ่ง โพสต์โดย คุณ LadyBimbettes สมาชิกเว็บไซต์ยูทูบดอทคอม
ใครชอบรับประทานผลไม้คงต้องเคยได้ลองลิ้มชิมรสของกระท้อน ที่มีรสเปรี้ยวชุ่มคอปนหวานฉ่ำ แถมยังมีสรรพคุณทางยาที่มีประโยชน์ต่อร่างกายอีกด้วย รายการภัตตาคารบ้านทุ่ง (8 กรกฎาคม) จึงพลาดไม่ได้ที่จะพาไปรู้จักกับข้อมูลของกระท้อนให้ลึกกันสักหน่อย โดยเฉพาะกระท้อนปุยฝ้ายที่ขึ้นชื่อว่าเด็ดจริงอะไรจริง แต่จะเด็ดขนาดไหนคงต้องตามไปดูกันเลยดีกว่าจ้า ..
รายการภัตตาคารบ้านทุ่งครั้งนี้ พาแวะเวียนไปเยี่ยม คุณลุงหล่ำ เย็นต่อม ที่ตำบลตะลุง อำเภอเมือง จังหวัดลพบุรี ซึ่งคุณลุงหล่ำนั้นมีประสบการณ์ในการปลูกกระท้อนมามากกว่า 25 ปีแล้ว กระท้อนของคุณลุงหล่ำจึงกลมสวย ผิวพรรณดี เหมือนสาว ๆ วัยรุ่นก็ไม่ปาน เพราะแกปลูกกระท้อนอย่างเข้าอกเข้าใจ โดยกระท้อนแบ่งออกได้เป็น 2 ชนิด คือ กระท้อนเปรี้ยว และ กระท้อนหวาน ส่วนที่นิยมปลูกกันมากนั้นคือ กระท้อนหวาน ซึ่งมีอยู่หลายสายพันธุ์ เช่น พันธุ์ทับทิม พันธุ์อีหล้า พันธุ์ปุยฝ้าย เป็นต้น
คุณลุงหล่ำเลือกปลูกกระท้อนปุยฝ้าย เนื่องจากมีผลใหญ่ที่สุดในบรรดากระท้อนทั้งหมด รสชาติออกเปรี้ยวนำ และปนหวานเล็กน้อย มีจุดเด่นอยู่ที่เนื้อหุ้มเมล็ด หรือ ปุย ที่มีมากกว่าสายพันธุ์อื่น ๆ ซึ่งปุยกระท้อนนั้น เมื่อได้รับประทานเข้าไปแล้ว จะรู้สึกเหมือนละลายได้ในปาก
ผลของกระท้อนจะมีลักษณะเป็นทรงกลม มีเมล็ดเป็นรูปพระจันทร์เสี้ยวโค้งเข้าหากัน จนรวมกันเป็นวงกลม หากมีเมล็ดใดเมล็ดหนึ่งไม่สมบูรณ์ ผลกระท้อนก็จะเบี้ยวเสียรูปทรง
เนื้อผลของกระท้อน ที่มีหน้าที่ยับยั้งการเจริญเติบโตของเมล็ด เนื่องด้วยมีสารแทนนิน หรือกรดอ่อน ๆ ที่ให้รสฝาด ซึ่งในการยับยั้งการเจริญเติบโตนี้ถูกสร้างขึ้นตามธรรมชาติ เนื่องจากเมล็ดกระท้อนสามารถเติบโตเป็นลำต้นได้ง่ายมาก หากมีการร่วงหล่นของผลกระท้อนอยู่ตามโคนต้น จะทำให้สามารถเกิดลำต้นใหม่ ๆ จำนวนมาก จนแย่งสารอาหารจากต้นเดิมไปหมด การที่มีสารยับยั้งการเจริญเติบโตของเมล็ดนั้นจะช่วยให้ธรรมชาติสมดุลขึ้น
ส่วนเนื้อหุ้มเมล็ด หรือ ปุยฝ้าย จะให้รสชาติอร่อย นุ่ม ละลายในปาก ถือเป็นจุดเด่นของกระท้อนพันธุ์นี้ สำหรับข้อสำคัญในการรับประทานกระท้อนคือไม่ควรกลืนเมล็ดลงไปด้วย เนื่องจากเมล็ดกระท้อนมีขนาดใหญ่จะทำให้ติดคอและไปอุดตันหลอดลมได้ อีกทั้งปลายเมล็ดยังมีปลายแหลมอาจเกิดอันตรายได้อีกด้วย
สรรพคุณทางยาของกระท้อนคือ ในความเปรี้ยวจะมีฤทธิ์เป็นยาระบายอ่อน ๆ แต่ในความฝาดของกระท้อนจะช่วยแก้อาการท้องเสียได้ด้วย ซึ่งเป็นคุณสมบัติสำคัญที่ทำให้สามารถรับประทานได้ทั้งคนที่มีอาการท้องเสียและคนที่มีอาการท้องผูก
สิ่งสำคัญในการปลูกกระท้อนให้ได้ผลที่มีคุณภาพคือ การห่อ โดยการห่อผลกระท้อนนั้นจะช่วยป้องกันแมลงต่าง ๆ ไม่ให้มากัดกิน หรือวางไข่ จนผลกระท้อนไม่ได้คุณภาพ นอกจากนี้ยังช่วยบังแสงแดดไม่ให้ผลกระท้อนมีสีไม่สม่ำเสมอกันอีกด้วย เนื่องจากผลกระท้อนจะเปลี่ยนสีได้ด้วยแสงแดด ดังนั้นหากมีการโดนแดดไม่เท่ากัน ด้านที่โดนแดดก็จะเปลี่ยนสีมากกว่า และสุกเร็วขึ้น การห่อผลจึงช่วยให้กระท้อนมีสีที่สม่ำเสมอกันและสุกเท่ากันทั้งผล และยังทำให้ผลฟูนิ่ม มีขนาดใหญ่ รสชาติหวาน เพราะมีการสูญเสียน้ำน้อย กลายเป็นกระท้อนที่มีคุณภาพนั่นเอง
ในการห่อกระท้อน คุณลุงหล่ำมีเคล็ดลับคือถุงปูนซีเมนต์ ที่คุณลุงบอกว่าสีน้ำตาลของถุงจะทำให้แมลงมองมาไม่เห็นว่ามีผลกระท้อนถูกห่อเอาไว้ อีกทั้งถุงปูนซีเมนต์ยังมีพื้นที่ให้น้ำระเหยได้หากกระท้อนได้รับน้ำมากเกินไป และหากกระท้อนขาดน้ำถุงปูนซีเมนต์ก็สามารถป้องกันการระเหยออกของน้ำได้ด้วย นอกจากนี้ถุงปูนซีเมนต์ยังไม่กักเก็บความร้อน ทำให้กระท้อนไม่โดนอบด้วยความร้อนจนสุกหรือเน่าคาต้น รวมทั้งยังเป็นถุงที่สามารถนำกลับมารีไซเคิลใช้ได้ถึง 2 ครั้ง
ทั้งนี้เทคนิคการเพิ่มความฟูของปุยฝ้ายในกระท้อน คุณลุงหล่ำบอกเคล็ดลับมาว่า ควรให้น้ำในปริมาณที่เหมาะสมเพื่อให้กระท้อนได้รับน้ำที่เพียงพอ อย่ามากเกินไปและอย่าน้อยเกินไป อีกทั้งต่อหนึ่งกิ่งของต้นกระท้อน ไม่ควรปล่อยให้มีลูกดกมากนัก เนื่องจากจะเป็นการแย่งอาหารและแย่งกันเจริญเติบโต ทำให้แต่ละลูกโตไม่เต็มที่ ขนาดที่พอเหมาะก็คือประมาณ 200-300 ลูกต่อต้น และมีน้ำหนักเฉลี่ยที่ 3-4 ลูก ต่อ 1 กิโลกรัม
เมื่อได้รู้จักกับข้อมูลเชิงลึกของกระท้อนไปแล้ว เมนูเด็ดแสนอร่อยจากกระท้อนก็เป็นสิ่งที่พลาดไม่ได้เช่นกัน ครั้งนี้รายการภัตตาคารบ้านทุ่งจึงขอนำเสนอ 2 เมนูเด็ด ที่เห็นแล้วเป็นต้องน้ำลายสอ ว่าแต่จะมีเมนูอะไรบ้างต้องรีบไปติดตามกันเลยจ้า
แกงคั่วกระท้อนใส่ปลาโอย่าง
ส่วนประกอบ
กระท้อนปุยฝ้าย ปลาโอ ใบโหระพา พริกชี้ฟ้าแดง ใบมะกรูด มะกรูด กะทิ น้ำปลา น้ำตาลปี๊บ พริกแห้งเม็ดใหญ่ กระเทียม หอมแดง กระชาย ข่า ตะไคร้ เกลือป่น กะปิ
วิธีทำ
1. ซอยตะไคร้ และกระชาย นำลงตำในครก ใส่เกลือลงไปนิดหน่อย ตามด้วยข่า และค่อย ๆ ตำส่วนผสมให้แหลก
2. ซอยหัวหอมแดง และกระเทียม พร้อมทั้งแช่พริกแห้งลงในน้ำเปล่า
3. ใส่หอมแดง กระเทียม และพริกแห้ง ตามลงไปตำกับส่วนผสมที่ตำไว้แล้วในครก จากนั้นใส่กะปิตามลงไป
4. ปอกกระท้อนปุยฝ้ายและนำลงแช่ในน้ำเกลือ เพื่อให้กระท้อนไม่ช้ำเป็นสีคล้ำ
5. นำปลาโอลงย่างบนเตา
6. หั่นกระท้อนเป็นเสี้ยวและแกะเม็ดออกจากปุยฝ้าย
7. นำปลาโอที่สุกแล้วลงตำในครกรวมกับส่วนผสมที่ตำรอไว้แล้ว
8. ใส่หัวกะทิลงในหม้อ และนำพริกแกงตามลงไปคนให้เข้ากัน จากนั้นใส่หางกะทิตามลงไปแล้วรอจนเดือด
9. เมื่อน้ำกะทิเดือดแล้ว ให้ใส่เนื้อปลาโอ กระท้อน ลูกมะกรูด และใบมะกรูดตามลงไป ปรุงรสด้วยน้ำตาลปี๊บ และน้ำปลา จากนั้นก็ใส่พริกชี้ฟ้าแดง และใบโหระพาลงไป ก็เป็นอันเสร็จสิ้น
กระท้อนทรงเครื่อง
ส่วนประกอบ
กระท้อนปุยฝ้าย กุ้งแห้ง ถั่วลิสง พริกป่น น้ำตาลปี๊บ แป้งมัน เกลือป่น
วิธีทำ
1. ปอกกระท้อนแล้วบั้งให้เป็นส่วน ๆ ค่อย ๆ บีบกระท้อนเบา ๆ ให้คายน้ำ จากนั้นเอาลงแช่ในน้ำเกลือ
2. ต้มน้ำในหม้อ ใส่น้ำตาลปี๊บและเกลือลงไปเคี่ยวให้เข้ากัน ปิดฝารอให้เดือด
3. ตำถั่วลิสงที่ร่อนเปลือกออกแล้วให้แหลก
4. เมื่อน้ำในหม้อเดือดแล้ว ให้ใส่แป้งมันผสมน้ำลงไป เพื่อให้ข้นเหนียว
5. นำกระท้อนที่แช่น้ำเกลือแล้ว ขึ้นวางในจาน ราดด้วยน้ำเชื่อม โรยถั่วลิสง และกุ้งแห้งป่น ก็พร้อมเสิร์ฟได้เลย
ครบถ้วนทั้งข้อมูลและเมนูเด็ดจากกระท้อนปุยฝ้าย ที่ทำเอาหลายคนทนไม่ไหว แอบน้ำลายสออยากรับประทานให้ฉ่ำใจ ถ้าอย่างนั้นอย่ารอช้ารีบไปหากระท้อนปุยฝ้ายมาลองทำตามเมนูแนะนำนี้กันเลยดีกว่า จะได้ลิ้มรสความอร่อยไปพร้อม ๆ กับสรรพคุณที่จะช่วยให้การขับถ่ายของคุณดีขึ้นด้วยนะคะ
Create Date : 12 กรกฎาคม 2555 |
Last Update : 12 กรกฎาคม 2555 21:07:46 น. |
|
0 comments
|
Counter : 3136 Pageviews. |
|
|
|