เห็นร่วมกัน เรียนรู้ร่วมกัน...ที่ดอยตุง วันนี้ขอเขียนอะไรที่ดูค่อนข้างจะเป็นวิชาการบ้างเล็กน้อย เหตุเพราะว่า อยากให้เพื่อน ๆ ได้รู้ ได้เห็น และบังเกิดความซาบซึ้งเหมือนกับเราในพระมหากรุณาธิคุณ ความรัก และความเหน็ดเหนื่อยของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ สมเด็จย่าฯ และพระบรมวงศานุวงศ์ทุกพระองค์ ที่ทรงทำทุกอย่างเพื่อให้ประชาชนของพระองค์หายเจ็บ หายจน และหายจากความไม่รู้ สำนักงาน ก.พ.ร.และกระทรวงมหาดไทย ได้จัดโครงการพัฒนาหลักสูตรการบริหารงานภาครัฐสมัยใหม่สำหรับผู้บริหารระดับกลางในส่วนภูมิภาค โดยความร่วมมือทางวิชาการจากจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เพื่อเพิ่มขีดความสามารถและศักยภาพของผู้บริหารระดับกลางในส่วนภูมิภาค ให้สามารถทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพและทันต่อการเปลี่ยนแปลงภายใต้กระแสโลกาภิวัฒน์ โดยใช้รูปแบบการเรียนการสอนที่เน้นทั้งภาคทฤษฎีและภาคปฏิบัติ ซึ่งการเรียนในภาคทฤษฎีได้เริ่มมาแล้วตั้งแต่วันที่ 30 เม.ย.- 12 พ.ย.52 ผ่านระบบ VDO Conference โดยจังหวัดนครนายก แต่เดิมนั้นมีผู้เข้ารับการอบรม รวม 22 คน แต่เรียนไปเรียนมา มีผู้ผ่านเพียง 9 คน สำหรับในภาคปฏิบัตินั้น สำนักงาน ก.พ.ร.พิจารณาเห็นว่า ศูนย์การเรียนรู้และเผยแพร่การพัฒนาทางเลือกในการดำรงชีวิตที่ยั่งยืน โครงการพัฒนาดอยตุง (พื้นที่ทรงงาน) อันเนื่องมาจากพระราชดำริ อ.แม่ฟ้าหลวง จ.เชียงราย เป็นองค์กรที่มีรูปแบบการพัฒนาและการบริหารจัดการตามแนวพระราชดำริที่เป็นเลิศ ที่หน่วยงานอื่นสามารถนำไปปรับใช้ในการ แก้ไขปัญหาและการพัฒนาประเทศตามสภาพภูมิสังคมที่ตนรับผิดชอบได้อย่างดี สำนักงาน ก.พ.ร.โดยความร่วมมือจากมูลนิธิแม่ฟ้าหลวงฯ และสถาบันส่งเสริมและพัฒนากิจกรรมปิดทองหลังพระ สืบสานแนวพระราชดำริ จึงกำหนดจัดให้มีการศึกษาดูงาน ณ ศูนย์การเรียนรู้ดังกล่าว ให้แก่ผู้ผ่านการอบรมดังกล่าว ทั้ง 569 ราย รุ่นละ 3 วัน รวมทั้งหมด 9 รุ่น โดย จ.นครนายก ลงทะเบียนเข้ารับการศึกษาดูงานในรุ่นที่ 5 ระหว่างวันที่ 8 - 10 ก.ค.53 และมี จังหวัดอื่น ๆ เข้ารับการอบรมครั้งนี้ด้วยอีกหลายจังหวัด คือ กำแพงเพชร ชลบุรี ตาก มุกดาหาร ลพบุรี ภูเก็ต ยะลา สมุทรสาคร และเชียงราย รวมทั้งสิ้น 31 คน พวกเราจากนครนายก เดินทางไปก่อนล่วงหน้า 1 วัน โดยสายการบิน low cost หลายคนเบิกค่าเครื่องบินไม่ได้ แต่ก็ยอมควักกระเป๋าจ่ายเงินตัวเอง เพราะอ่านกำหนดการอบรมแล้ว น่าสนใจมาก ซึ่งไปแล้วก็ไม่ผิดหวังเลย พวกเราได้อะไร ๆ กลับมากมาย เราไปถึงเชียงรายประมาณห้าโมงกว่าๆ เช่ารถตู้เข้าเมือง หาที่พัก ออกไปทานอาหารเย็น แล้วเวลาใกล้ ๆ สามทุ่ม ก็ไปที่วงเวียนหอนาฬิกา ซึ่ง อจ.เฉลิมชัย เป็นคนออกแบบ คนเชียงราย เค้าจะเรียก อจ.เฉลิมชัย ว่า อจ.โวยวาย พอสามทุ่มตรง หอนาฬิกา ก็จะมีแสง สี เสียง สวยงามมาก ถนนที่สวยที่สุดในเมืองเชียงราย หอนาฬิกา เวลาสามทุ่มตรง จะมีการแสดง แสง สี เสียง วันรุ่งขึ้น (8 ก.ค.) เราไปที่โรงแรมเวียงอินทร์ ซึ่งเป็นสถานที่นัดหมายของคณะ เพื่อเดินทางโดยรถตู้ไปบ้านเทอดไทย ต.เทอดไทย อ.แม่ฟ้าหลวง โดยแวะรับประทานอาหารกลางวันที่ร้าน ถิง ถิง ลงทะเบียนเข้ารับการอบรมที่ร้าน ถิง ถิง กำลังเอร็ดอร่อยกับขาหมู หมั่นโถว ตำรับยูนาน หลังรับประทานอาหารแล้ว เปลี่ยนพาหนะจากรถตู้ เป็นโฟว์วีล รวม 12 คัน เพื่อไปดูฝายการเกษตร และแม่พันธุ์สุกรและลูกสุกร พันธุ์เหมยฟาน ที่บ้านปางมะหัน ต่อจากนั้นพวกเราก็เดินทางไปยังสำนักงานโครงการปลูกป่าปางมะหัน ซึ่งถนนหนทางค่อนข้างลำบาก มีตัวหนอนปูเกือบตลอดทาง ถ้าฝนตกหนักๆ คงจะเดินทางลำบากกว่านี้ จะขอย้อนถึงอดีตของดอยตุงเมื่อ 22 ปีก่อน เป็นพื้นที่ปลูกฝิ่นที่ใหญ่ที่สุดในบริเวณสามเหลี่ยมทองคำมีการทำไร่เลื่อนลอย แผ้วถางป่า ลักษณะพื้นที่เป็นภูเขาหัวโล้น มีแต่ความแห้งแล้ง จนกระทั่งมูลนิธิแม่ฟ้าหลวง ซึ่งได้รับการสนับสนุนงบประมาณจากธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) ซึ่งมีความประสงค์จะทำโครงการปลูกป่าเพื่อคืนกำรให้แก่สังคม ขยายผลการพัฒนาจากโครงการพัฒนาดอยตุง มายังโครงการปลูกป่าปางมะหัน ในพื้นที่ 14,015 ไร่ ใน ต.เทอดไทย อ.แม่ฟ้าหลวง ตามแนวชายแดนไทย - พม่า ทั้งนี้ มูลนิธิแม่ฟ้าหลวงฯ ได้นำประสบการณ์การพัฒนาจากดอยตุงและโครงการขยายผลที่สหภาพพม่า โดยเฉพาะอย่างยิ่งหลักการ "เข้าใจ เข้าถึง พัฒนา" "การมีส่วนร่วม" "การปลูกคน ปลูกป่า" ตลอดจน "การปลูกป่าในใจคน" ตามแนวพระราชดำริมาเป็นแนวทางในการดำเนินงาน และยังนำข้อผิดพลาดของวิธีการปลูกป่าที่ดอยตุงในอดีตมาปรับปรุงการปลูกป่าในพื้นที่โครงการนี้ จนกลายเป็นวิธีการ "ปลูกป่าแบบปลูกเสริม" ซึ่งทำให้ป่าโตเร็วและคงความหลากหลายทางชีวภาพไว้ได้ และยังได้ปรับปรุงวิธีการอย่างต่อเนื่อง โดยวิธีการ "ปลูกป่าแบบไม่ปลูก" ตามพระราชดำริพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ และมูลนิธิแม่ฟ้าหลวงฯ ร่วมกับมูลนิธิชัยพัฒนา ดำเนินการทดลองปลูกชาน้ำมันในพื้นที่ปลูกป่าบ้านปางมะหันและบ้านปูนะอีกด้วย ฟังบรรยายสรุป และพูดคุยพบปะกับชาวบ้าน ชาน้ำมัน ประชุมกลุ่มย่อยภาคกลางคืน เพื่อสรุปบทเรียนในวันนั้น ภาพนี้ไม่ต้องมีคำบรรยายใดๆ   Create Date : 12 กรกฎาคม 2553 12 comments Last Update : 2 สิงหาคม 2553 13:40:11 น. Counter : 1968 Pageviews. Share Tweet

ช่วงนี้ขยันอัพบล็อกจังนะคะ ขอตามไปดูงานด้วยคนนะคะ ได้ความรู้ด้วย...ได้ไปเปิดหูเปิดตาด้วยดีจังเลยค่ะ   โดย: รุ่นป้าหน้าใส 16 กรกฎาคม 2553 15:36:28 น.

แปลว่าพี่เปี๊ยกก็เห็นเปิ้นซิคะเนี่ย อิอิ นี่เลย V V V v ปล.เข้าบล็อกพี่เปี๊ยกยากนิดนึงค่ะ ไม่รู้ว่าเป็นเพราะเน็ตเปิ้นหรือว่าบล็อกพี่เปี๊ยก   โดย: fonrin 18 กรกฎาคม 2553 9:48:35 น.

นู๋เปิ้น ทำไมเอารูปพวกเดียวกันมาลงแบบนี้อ่ะ   โดย: kapeak 18 กรกฎาคม 2553 9:50:57 น.

แวะมาเยี่ยมค่ะ ฝนตกเหงาจัง ไม่รู้จะไปไหนดี..   โดย: reception hall 19 กรกฎาคม 2553 12:23:54 น.

แวะมาเยี่ยมครับผม ทุกหน่วยงานน่าจะสนับสนุนการทำกิจกรรมดีๆอย่างนี้บ่อยๆนะครับ ศึกษาแนวพระราชดำริ ความพอเพียงพอเพียง ตามรอยพ่อหลวงเรา   โดย: ninetong30 20 กรกฎาคม 2553 9:27:43 น.

ดูภาพแล้วน่าสนุกนะค่ะ อยากไปด้วยจัง...   โดย: reception hall 20 กรกฎาคม 2553 12:41:25 น.

อ่านและดูภาพแล้ว มีความสุขจังครับ   โดย: กลิ่นดอย 20 กรกฎาคม 2553 12:52:24 น.

รายงานข่าวจากบางละมุง เจอเพื่อน บมท.15 แล้วหลายคน มีเบญจวรรณ(ขอนแก่น) สมชาย(กระบี่) พันเทพ(หนองบัวลำภู) เทอดพงษ์(ชัยภูมิ) สันทัด พรุ่งนี้อาจจะมีมาเพิ่มอีก   โดย: kapeak 20 กรกฎาคม 2553 20:11:11 น.

เพลงเพราะมากครับ ขอบคุณครับ..   โดย: cenyou 20 กรกฎาคม 2553 21:07:24 น.

สวัสดียามเช้าครับพี่เปี๊ยก หมูป่าหน้าตาเค้าตลกดีนะครับ อิอิิอิ   โดย: กะว่าก๋า 21 กรกฎาคม 2553 6:49:21 น.

สุดยอดครับนี่แหละเชียงรายดินแดนแห่งขุนเขา ทะเลหมอก ดอกไม้งาม สาวสวย เหนือสุดแดนสยาม จนใครหลายๆคนยกให้เป็นแหล่งท่องเที่ยวยอดนิยมแห่งหนึ่งในเมืองไทย   โดย: Royter 8 มกราคม 2554 16:00:57 น.

เพิ่งจะเข้าใจก็ครั้งนี้จริงๆ.....ค่ะ ประทับใจที่สุดค่ะ   โดย: Kalaya Puvanant IP: 164.115.134.2 22 พฤษภาคม 2555 10:02:35 น.