|
| 1 | 2 |
3 | 4 | 5 | 6 | 7 | 8 | 9 |
10 | 11 | 12 | 13 | 14 | 15 | 16 |
17 | 18 | 19 | 20 | 21 | 22 | 23 |
24 | 25 | 26 | 27 | 28 | 29 | 30 |
31 | |
|
|
|
|
|
|
|
พิชิตภูกระดึง...มันเป็นอย่างนี้นี่เอง
ภูกระดึง
ทริปนี้เริ่มต้นมาจาก...
อ้อย ๆ ไปเที่ยวเชียงใหม่กัน ไปงานพืชสวนโลกด้วย... เสียงบีแจ้ว ๆ มาตามสาย ที่จริงโปรแกรมของบีก็ดูน่าสนใจ เพราะได้ไปเที่ยวหลายที่ หลายจังหวัด ทั้งเชียงใหม่ เชียงราย ลำปาง ฯลฯ แต่เป็นทัวร์ทอดผ้าป่านะ!!! เพื่อนร่วมทางก็อายุไม่ต่ำกว่า 40 ปี นอนก็นอนวัด เที่ยวก็แบบสบาย ๆ เรื่อย ๆ
เราอยากไปแบบสมบุกสมบันอะ หาโปรแกรมไปเที่ยวกันดีไหม และแล้วคำว่า ภูกระดึง ก็เข้ามาในหัวสมอง จำได้ว่าสมัยเรียนมีเพื่อนหลายคนเคยไปมาแล้วบอกว่า วิวกับดอกไม้สวย
เออ ตกลงเราไปภูกระดึงกันนะ แล้วไปชวนเพื่อน ๆ มาละกัน เราบอกเมื่อได้ข้อสรุปว่าจะไปภูกระดึง แต่ทริปนี้ก็เกือบล่ม เพราะมีแต่เสียง ไม่ไปอะ ไม่ว่างจ๊ะ ลางานไม่ได้ ไม่มีตังค์ ไปทำไมดูแค่พระอาทิตย์ขึ้นกับตก ไปที่อื่นดีกว่า เรามีโปรแกรมไปที่อื่นแล้ว ฯลฯ แต่เราก็หาเพื่อนร่วมทางไปกันจนได้ จากที่มี 3 คน คือ เรา นก บี ก็มีเพื่อนที่ทำงานบี นายเก่าบี แล้วคนอื่น ๆ ที่เพิ่มมาอีกจนนาทีสุดท้าย รวมเป็น 11 ชีวิต แยกได้เป็น 3 สาย สายของเรา : เรา นก บี สายพี่ไก่ (นายเก่าบี) : พี่ไก่ พี่ยู้ พี่หนึ่ง พี่จัมพ์ สายของเมย์ (เพื่อนที่ทำงานบี) : เมย์ ปู วุฒิ ฟอร์ด
คืนวันที่ 8 ธันวาคม รวมตัวกันที่หมอชิต 2 พวกเรานั่ง ปอ. 1 ของบริษัทชุมแพทัวร์ ราคา 385 บาท เรานั่งไม่หลับทั้งคืน เพราะปวดหลังมาก ซึ่งปกติจะเป็นคนนั่งนาน ๆ ไม่ค่อยได้อยู่แล้ว ออกจากหมอชิต 2 เกือบ 4 ทุ่ม ถึงร้านเจ๊กิมที่ผานกเค้าประมาณ ตี 5 ของวันที่ 9 ธันวาคม มาเจอฟอร์ดที่นั่งเครื่องมาสมทบทีหลังกับพี่มะปราง พี่ที่ทำงานบีที่มาธุระเรื่องงานแถบภาคอีสานและแวะมาจองตั๋วกลับให้พวกเรา ต้องขอบคุณมาก ๆ ค่ะ กว่าจะได้ขึ้นสองแถวก็ประมาณ 7 โมง ค่ารถคนละ 20 บาท นั่งแป๊บเดียวก็ถึงอุทยาน
โอ้ ได้ยินเสียงประกาศมาแต่ไกลว่าลูกหาบหมด ถ้าสามารถแบกสัมภาระขึ้นภูเองได้ ก็ให้แบกขึ้นไปก่อน แย่แล้วสิ คนก็เยอะเต็มไปหมด แต่เราก็หาทางออกกันจนได้ พี่ไก่ไปเอาบัตรคิวมาจัดการเรื่องสัมภาระของพวกเรา จ่ายเงินเสร็จก็ฝากสัมภาระไว้กับเจ้าหน้าที่ ไปจ่ายค่าธรรมเนียมขึ้นภูคนละ 40 บาท ค่าตั้งเต๊นท์ 30 บาท (จำไม่ได้ว่ามีอย่างอื่นอีกหรือเปล่า เพราะจ่ายจุกจิกมาก) ขาไปกระเป๋าหนัก 4 กิโลกรัม (กว่าลูกหาบจะลงมาแล้วนำสัมภาระของพวกเราขึ้นไปที่ภูก็เกือบ 2 ทุ่ม!!)
(คนเยอะมาก ๆ แค่เห็นก็เหนื่อยแล้ว)
เรา บี นก เดินขึ้นไปกันก่อน ประมาณ 8 โมงเช้า ตอนแรกเดินขึ้นมาก็ยยังเห็นเพื่อน ๆ อยู่นะ แต่พอผ่านซำแฮกไป เพื่อนหายไปไหนหมดก็ไม่รู้ จะรอพี่ ๆ ที่เดินตามมาก็ไม่รู้จะเจอกันหรือเปล่า เอ้า เป็นไงเป็นกัน เดินต่อไปคนเดียวก็ได้ เดินไปนั่งพักไป ใจเต้นแรงมาก บางทีก็เหมือนใจมันจะหยุดเต้นให้ได้ ยิ่งตรงที่เป็นขั้นบันไดเหนื่อยสุด ทางส่วนใหญ่จะชัน เราต้องนั่งพักบ่อย ๆ แต่นั่งพักบ่อย ๆ นาน ๆ ก็ทำให้ไม่อยากเดินต่อ
(จุดที่ทำให้เราเจอเพื่อนร่วมทาง)
เราเดินต่อไปเรื่อย ๆ และมานั่งพัก (ค่อนข้างนาน) ที่ซำกกโดน เลยทำให้เจอพวกเมย์กับพี่ ๆ ที่เดินตามมา เราเหนื่อยมาก ให้ทุกคนเดินไปกันก่อน แต่ก็ไม่มีใครยอมไป (รู้สึกเป็นตัวถ่วงอะ) เราเดินรั้งท้ายต่อไปเรื่อย ๆ มีทางที่ต้องใช้แรงขาปีนบ้าง (สำหรับคนอ้วน เตี้ย ขาสั้นแบบเรามันลำบากนะ) ได้วุฒิช่วยดึง ช่วยดูทางให้ตลอด ขอบคุณมาก บางจุดพี่หนึ่งก็นำทางให้ จะได้เดินไม่สะดุด ก็ขอบคุณมากค่ะ มาเจอตรงที่ไม่ชอบที่สุด คือบันไดเหล็ก ขามันจะสั่นให้ได้ แต่ก็กลั้นใจยกขาก้าวขึ้นบันได โดยที่ไม่มองลงไปข้างล่างเด็ดขาด
(ใครไปใครมาต้องมาถ่ายรูปที่นี่)
(ถ่ายรูปกับป้ายที่ทำการอุทยานฯ วังกวาง)
และแล้วก็มาถึงหลังแปรกันจนได้ เห็นป้าย ครั้งหนึ่งในชีวิต เราคือผู้พิชิตภูกระดึง อยู่ไม่ไกล ขอบคุณสวรรค์ นั่งพักพอหายใจได้คล่องก็มาถ่ายรูปกันแล้วเดินต่อไปที่ทำการ ฯ วังกวางอีก 3 กิโลกว่า ๆ เป็นทางราบ อากาศเริ่มร้อนแล้ว มาถึงที่ทำการเกือบบ่าย 3 โมง นก บี มาถึงตั้งแต่บ่ายโมงแล้ว แต่เต๊นท์ของอุทยานหมด เลยต้องใช้บริการเต๊นท์ของร้าน ท.บริการ คุณลุงใจดีหาเต๊นท์ให้เรา บอกว่าเหลือหลังสุดท้ายแล้ว (เต๊นท์นอน 3 คน คืนละ 200 บาท) ส่วนคนอื่นนำเต๊นท์กันมาเอง เลยไม่มีปัญหา
(พระอาทิตย์ตกแล้วจ้า...)
คืนนั้นเราไปดูพระอาทิตย์ตกที่ผาหมากดูก (ใกล้ที่พักมากที่สุด ประมาณ 2-3 กิโล) พระอาทิตย์ตกเร็วมาก เราเสียดายที่กล้องแบ๊ตหมด เลยต้องใช้กล้องชาวบ้านเค้าถ่ายไปก่อน ตามทางไม่ค่อยมีดอกไม้สวย ๆ ให้ดู อาจเพราะมาผิดฤดูล่ะมั้ง
เช้าวันที่ 10 ธันวาคม ไม่ได้ไปดูพระอาทิตย์ขึ้นตามกำหนดการ เพราะเรา 3 คน (เรา บี นก) ไปกันไม่ไหว นั่งนวดขากันอยู่ในเต๊นท์ รอคนอื่น ๆ กลับมาแล้วทานอาหาร หลังจากนั้นจึงเริ่มเดินทางไปน้ำตก
(เส้นทางเดินสู่น้ำตกต่าง ๆ)
(น้ำตกเพ็ญพบใหม่)
(กำลังตัดสินใจว่าจะไปทางไหนกันดี.. แต่ละคนหน้าเคร่งเครียดเนอะ)
เริ่มจากน้ำตกวังกวาง เพ็ญพบใหม่ เพ็ญพบ ถ้ำใหญ่ แล้วไปแวะทานขนมนมเนยที่เตรียมมาที่ลานกว้าง ๆ ไม่แน่ใจว่าใช่น้ำตกโผนพบหรือเปล่า แต่เห็นคนอื่น ๆ ก็มาแวะพักกันที่นี่ เสียดายเมเปิ้ลไม่ค่อยมีให้เห็น แต่มีมอสให้เห็นบ้าง
(ดอกไม้อะไรก็ไม่รู้ สวยดี)
(น้ำใสเย็น เห็นตัวปลา)
(วิวที่ได้มาระหว่างทางเดินกลับที่พัก)
เดินมาถึงสระแก้ว (ไม่ใช่จังหวัดสระแก้วนะ) น้ำใสมาก มีจุดให้โยนเหรียญ พี่จัมพ์บอกว่าถ้าโยนเหรียญลงไปก็จะได้กลับมาอีก เดินต่อไปถึงผานาน้อย ผาจำศีล ตามทางจะเห็นดอกกระดุมเงินเป็นระยะ เดินไปเรื่อย ๆ จนถึงผาหมากดูกที่ไปดูพระอาทิตย์ตกเมื่อคืน นั่งมองธรรมชาติแล้วกลับที่พัก ตามทางก็จะเห็นดอกกระเจียวเล็ก ๆ ดอกสน หม้อข้าวหม้อแกงลิง ดอกกระดุมเงิน ฯลฯ
(เจ้ากวางเต๊ะท่าให้ถ่ายรูปแบบรู้งาน)
(เจ้ากวางหิวแล้ว)
กลับมาถึงที่พัก ก็ไปทานข้าวที่ร้านอาหาร (จานหนึ่งไม่ต่ำกว่า 40 บาท) แล้วไปดูกวางที่ออกมาหาอาหารตรงบริเวณห้องน้ำการ์ตูน (ห้องน้ำสังกะสี) พวกมันไม่กลัวคนนะ
(โปสการ์ดสวย ๆ มีให้เลือกหลากหลาย)
บนภูมีร้านขายของที่ระลึกด้วย เช่น เสื้อ พวงกุญแจ มีโปสการ์ดสวย ๆ หลายใบ เราก็เลยส่งถึงตัวเอง เพื่อน ๆ และคนในครอบครัว แต่จนถึงวันนี้ยังส่งมาไม่ถึงเลย
เช้าวันที่ 11 ต้องตื่นตั้งแต่ ตี 3 เพื่อมาต่อแถวนำกระเป๋าไปชั่งน้ำหนัก (4 โลเท่าเดิม) พี่หนึ่งถามพี่ลูกหาบแถวนั้นว่าช่วงอุทยานปิดพี่เขาทำอะไรกัน พี่ลูกหาบคนนี้ก็ตอบว่าทำนา พี่หนึ่งก็ถามอีกว่าแล้วงานไหนเหนื่อยกว่ากัน พี่ลูกหาบคนเดิมก็บอกว่างานลูกหาบนี่แหละ เราเห็นคุณลุง คุณป้า คุณพี่ลูกหาบทำงานแล้วเราก็เหนื่อยแทน ขนาดเราเดินตัวปลิวขึ้นไปก็เหนื่อยสุด ๆ แล้ว เราได้เห็นลูกหาบจริง ๆ นะ ไม่ใช่ พ่อหาบ แม่หาบ เป็นเด็กอายุประมาณ 7-8 ขวบ สะพายเป้นักท่องเที่ยวไว้ทั้งข้างหน้าข้างหลัง เก่งจังเลย ขาลงสบายกว่าขาขึ้น ลงภู 8 โมง ถึงข้างล่างยังไม่เที่ยงเลย เดินสบาย ๆ ลงมาเรื่อย ๆ
(อ๊ะ ๆ ตัวอะไรเอ่ย)
ขากลับใช้บริการรถของแอร์เมืองเลย ปอ. 1 ราคา 412 บาท ดีมาก ๆ มีที่ปรับตรงส่วนที่วางขาด้วย เบาะนุ่ม หลับสบาย รู้แบบนี้ใช้บริการแอร์เมืองเลยแต่แรกก็ดี มาถึงหมอชิต 2 ประมาณ 5 ทุ่ม (ทริปนี้หมดไป 2 พันกว่าบาท ส่วนใหญ่จะเสียไปกับค่าอาหาร+น้ำ ซะเป็นส่วนใหญ่
Create Date : 16 ธันวาคม 2549 |
|
18 comments |
Last Update : 17 มิถุนายน 2550 10:44:05 น. |
Counter : 754 Pageviews. |
|
|
|
|
| |
โดย: จาโยจัง 16 ธันวาคม 2549 14:55:24 น. |
|
|
|
| |
โดย: aus_aus 16 ธันวาคม 2549 20:07:53 น. |
|
|
|
| |
โดย: opleee 16 ธันวาคม 2549 20:22:23 น. |
|
|
|
| |
โดย: kalapoasaimoo Lonely (kalapoasaimoo ) 16 ธันวาคม 2549 21:30:10 น. |
|
|
|
| |
โดย: บี IP: 61.14.43.162 21 ธันวาคม 2549 9:05:29 น. |
|
|
|
| |
โดย: ก่าแป๊ง 22 ธันวาคม 2549 11:46:18 น. |
|
|
|
| |
โดย: นกจ้า IP: 202.44.8.100 25 ธันวาคม 2549 14:50:59 น. |
|
|
|
| |
โดย: aun-aun IP: 58.9.170.37 26 ธันวาคม 2549 10:16:20 น. |
|
|
|
| |
โดย: nut IP: 125.24.39.46 26 ธันวาคม 2549 20:37:03 น. |
|
|
|
| |
โดย: เมย์เอง IP: 125.25.154.88 1 มกราคม 2550 21:52:20 น. |
|
|
|
|
|
|
|
Location :
กรุงเทพ Thailand
[ดู Profile ทั้งหมด]
|
ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]
|
Kapaeng- เด็กน้อยที่ยังอ่อนต่อโลก กำลังพยายามไต่หน้าผาสูงชันของความแก่งแย่งเกลียดชังในวงสังคม (ออฟฟิศ) เพื่อออกไปสู่โลกกว้างของความเป็นอิสระ (ธุรกิจส่วนตัว) ในสักวันหนึ่งข้างหน้า ...
|
|
|
|
|
|
|
และทุกคนก็ต้องไปถ่ายรูปตรงป้ายจริงๆด้วย ไม่งั้นถือว่าไปไม่ถึง
เห็นแล้วนึกถึง ... ความหลัง อัน หวานชื่น (ความหลังอ่ะ )