สติ กับหน้าที่การงาน
เก้าไม่ค่อยได้อัพบล๊อคเรื่องข้อคิดธรรมะสักเท่าไหร่ เพราะว่าตัวเองเจริญสติไปในชีวิตประจำวัน ก็เลยไม่ได้มีเรื่องที่นึกจะเล่าอะไรเกี่ยวกับธรรมะ มีแต่ไปอัพเรื่องไดเอทในอีกกรุ๊ปนึง
เมื่อวานนี้มีเพื่อนร่วมงานบ่นๆ เรื่องการทำงานกับเงิน เขาก็เอ่ยขึ้นมาว่า คุณเก้าจะมองสถานการณ์แบบนี้ยังไง จะทำใจยังไงในสภาวะการเงินที่ฝืดเคือง ในฐานะที่เป็นคนที่ศึกษาเรื่องธรรมะ
เก้าก็ถามปัญหา แล้วก็ถามความคิดเห็นในการแก้ไขปัญหาตามที่เขาคิด ให้เขาพูดออกมา เราก็ให้คำแนะนำไปว่า บางเรื่องเราต้องมองว่ามันเป็นธรรมดา มีอะไรมันต้องคุยกัน ต้องหาสาเหตุ แก้ให้ตรงจุด
การที่จะให้เราใส่คำพูดที่เป็นในเชิงสอนธรรมะกับคนที่ไม่ได้เรียนธรรมะ ต้องพูดกันแบบภาษาชาวบ้านๆ ค่ะ
เห็นตัวอย่างหลายครั้งแล้วที่ผู้บริหารพยายามจะสอนพนักงานให้รู้จักการมีสติ มีแต่คนเค้าจะต่อต้านกันว่า "ทำไมจะต้องมาเรียน มาฝึกให้มีสติ ฉันมีสติอยู่แล้ว" "ฝึกไปทำไม เสียเวลาทำมาหากิน"
เก้านึกถึงคำพูดของลพ.ปราโมทย์ที่ท่านพูดว่า คนเกือบทั้งโลก หลับอยู่ ไม่รู้จักว่าสติคืออะไร และไม่มีสติ
นึกถึงคนที่วันๆ เอาแต่นั่งเหม่อลอย บางคนเดินตกบันได บางคนทำไมเป็นคนซุ่มซ่ามบ่อยๆ บางคนชอบหลุดคำพูด หรือไม่ระมัดระวังเวลาจะพูดจา บางคนก็ทำกิริยาบางอย่างออกมาอย่างลืมตัว
การที่เราได้รู้จักฝึกให้มีสติ มันมีผลดีคือ มันจะตรงกันข้ามกับประโยคข้างบนหมดเลยค่ะ ตรงนี้มันเป็นประโยชน์ในชีวิตประจำวัน ในชีวิตการทำงาน
ถ้าเราไม่ได้ไปมองถึงเป้าหมายสูงสุดว่า เราเจริญสติไปเพื่อบรรลุมรรคผล หรือเพื่อพ้นจากสังสารวัฏ แต่ผลพลอยได้ของการมีสติคือ เป็นคนที่รอบคอบมากขึ้น โอกาสที่จะผิดพลาดในการทำงานมันจะน้อยลง (ยกเว้นว่าเราทำผิดไปเลย) เราจะเป็นคนที่มีวาจาน่าเชื่อถือ ไม่ซุ่มซ่าม ไม่ใจลอย เป็นคนมีเหตุมีผล
วิธีฝึกมีอยู่เยอะแยะไปค่ะ คุณจะเลือกฝึกจากค่ายไหน สำนักไหน ก็แล้วแต่จริต แต่ขอให้ถูกตามหลักคำสอนของพระพุทธเจ้า
ทำแล้วต้องมีความสุข ทำแล้วต้องเห็นผล
ที่สำคัญ จิตใจจะงดงาม ใบหน้าจะผ่องใส ไม่ต้องไปพึ่งบีบีให้เปลืองเงินเลย..
Create Date : 31 มีนาคม 2553 |
|
1 comments |
Last Update : 31 มีนาคม 2553 7:43:56 น. |
Counter : 1058 Pageviews. |
|
|
|
นึกถึงคนที่วันๆ เอาแต่นั่งเหม่อลอย บางคนเดินตกบันได บางคนทำไมเป็นคนซุ่มซ่ามบ่อยๆ บางคนชอบหลุดคำพูด หรือไม่ระมัดระวังเวลาจะพูดจา บางคนก็ทำกิริยาบางอย่างออกมาอย่างลืมตัว"
---พี่นึกถึงเก้า---