ปิดฉากกันไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว สำหรับเทศกาลดูบอลยอดฮิตที่ 4 ปีจะมีขึ้นเพียงครั้งเดียว ในระยะเวลานับเดือนที่เราได้ดู “ฟุตบอลโลก 2018” ในเวอร์ชั่นแดนหมีขาว ประเทศรัสเซีย โดยเป็น “ขุนพลเลอ เบลอส์ – ฝรั่งเศส” คว้าแชมป์โลกเป็นสมัยที่ 2 สิ้นสุดการรอคอย 20 ปี หลังกระซวก “ทัพตราหมากรุก – โครเอเชีย” ไป 4-2 แต่ใครเล่าจะรู้ว่ากว่าจะถึงบทสรุปในวันนี้ มีอะไรให้ต้องพูดถึงกันบ้าง1. ความยิ่งใหญ่ของทัพตราไก่-ฝรั่งเศส

จากการดูบอลโลกหนนี้ ไม่อาจปฏิเสธได้เลยว่าทัพตราไก่ได้โชว์ผลงานในระดับ “มาสเตอร์พีช” ในทีมที่มีขุมกำลังแกร่งทั่วแผ่นและอุดมไปด้วยนักเตะชั้นยอดพลังหนุ่ม โดยมีอายุเฉลี่ยน้อยสุดเป็นอันดับ 2 ในบอลโลกหนนี้ ที่ 26 ปี นับจากความชอกช้ำในนัดชิงยูโร 2016 พวกเขาเก็บประสบการณ์ ผสมบ่มเพาะจนเป็นทีมชุดที่ลงตัวที่สุด พร้อมกับการเล่นเกมรับที่เขี้ยวรัดกุม มีวินัย เสียประตูยาก และนี่คือสถิติอันน่าทึ่งของพวกเขา- “ดิดิเยร์ เดสชองส์” เป็นคนที่ 3 ในประวัติศาสตร์ที่คว้าแชมป์โลกทั้งตอนเป็นนักเตะและกุนซือต่อจาก “มาริโอ ซากัลโล” ของบราซิล และ “ฟรานซ์ เบคเคนบาวเออร์” ของเยอรมันตะวันตก- “ปอล ป๊อกบา” คือนักเตะแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด คนแรกที่ทำประตูได้ในนัดชิงแชมป์โลก โดยก่อนหน้านี้ที่ทำได้คือ “เอ็มมานูเอล เปอตีต์” อดีตดาวเตะอาร์เซนอล ในปี 1998- “เอ็นโกโล่ ก็องเต้” แย่งบอลได้มากถึง 52 ครั้งในฟุตบอลโลกครั้งนี้- “โอลิวิเย่ร์ ชิรูด์” ยิงไม่ตรงกรอบแม้แต่ครั้งเดียวจากโอกาสทั้งหมด 13 ครั้งตลอด 546 นาทีที่ได้เล่นในบอลโลกหนนี้2. การแจ้งเกิดเต็มตัวของเด็กนรก “เอ็มบัปเป้”

คว้ารางวัล “ดาวรุ่งยอดเยี่ยม” ประจำทัวร์นาเมนต์ไปครองได้แบบนอนมา สำหรับ “คีเลียน เอ็มบัปเป้” เด็กนรกวัยเพียง 19 ปี แต่ฝีเท้าจัดจ้านเกินวัย ใครที่ดูบอลนัดที่ฝรั่งเศสเล่นจะเห็นได้เลยว่าเด็กคนนี้อนาคตไกลแน่ จากสถิติที่ยืนยัน- นักเตะอายุน้อยสุดตลอดกาลอันดับ 2 (19 ปี, 207 วัน) ที่ทำประตูได้ในนัดชิงบอลโลกต่อจาก “เปเล่ (17 ปี, 249 วัน)”- เลี้ยงบอลผ่านคู่แข่งได้ถึง 32 ครั้ง สูงสุดของ ฝรั่งเศส ในบอลโลกหนนี้- ลงเล่นในบอลโลก 2018 ไปทั้งสิ้น 7 นัด ยิงไป 4 ประตู3. น้ำตาแห่งความภาคภูมิใจของ “โครเอเชีย”

ใครจะไปคิดว่าประเทศเล็กๆ ที่มีประชากรเพียง 4.4 ล้านคนอย่าง “โครเอเชีย” จากยุโรปตะวันออกจะสามารถหักปากกาเซียนสร้างประวัติศาสตร์ไปได้ไกลถึงนัดชิงฟุตบอลโลกได้ อันดับที่ดีที่สุดของพวกเขานั้น ใครที่ดูบอลฟุตบอลโลกปี 1998 คงยังจำกันได้ที่พวกเขาได้อันดับที่ 3 มาดูกันว่ามีสถิติอะไรน่าสนใจสำหรับพวกเขาบ้าง- “ลูก้า โมดริช” ดาวเตะผู้เงียบขรึม แต่ในสนามเขาคือกองกลางอัจฉริยะที่ได้รับการยอมรับไปทั่วโลก และผงาดคว้ารางวัล “นักเตะยอดเยี่ยม” ไปครอง- นอกจากนี้แข้งวัย 32 ปีอย่าง “โมดริช” ยังทำสถิติวิ่งเยอะที่สุดถึง 63 กิโลเมตร จากการลงเล่นทั้งหมด 604 นาที ในบอลโลกครั้งนี้- “มาริโอ มานด์ซูคิช” คือนักเตะคนแรกในประวัติศาสตร์ที่ทำเข้าประตูตัวเองในนัดชิงบอลโลก- หัวจิตหัวใจที่แข็งแกร่ง แม้จะต้องลงเล่น 120 นาที ตลอด 3 เกมในรอบน็อคเอาท์(ชนะต่อเวลา 1 ชนะจุดโทษ 2)แม้จะไม่ได้แชมป์ไปครองแต่จากการดูบอลจะเห็นได้ถึงสไตล์การเล่นเกมรุกที่ดุดัน แดนกลางที่เข้าขารู้ใจ และแนวรับที่แน่นปึ้ก รวมไปถึงสปิริตที่ไม่มีใครเหมือน เท่านี้ก็เพียงพอแล้วที่ “ซลัตโก้ ดาลิช” เฮดโค้ชและลูกทีมจะชนะใจแฟนบอลทั้งโลก โดยเฉพาะอย่างยิ่งชาวโครแอตที่จะภูมิใจในตัวฮีโร่ของพวกเขาไปอีกนาน4. รวมฮิตสถิติอื่นๆ ที่น่าสนใจ

- แชมป์ – ฝรั่งเศสรองแชมป์ – โครเอเชียอันดับทื่ 3 – เบลเยี่ยม- ดาวซัลโว – แฮรี่ เคน หัวหอกบลูทูธจากอังกฤษที่ซัดไป 6 ประตูผู้รักษาประตูยอดเยี่ยม – ติโบต์ กูร์ตัวส์ จากเบลเยียม เซฟเยอะสุดถึง 27 ครั้งแฟร์เพลย์ อวอร์ด – สเปน โดยพวกเขาโดนเพียง 2 ใบเหลือง- มีการทำเข้าประตูตัวเองมากที่สุดในประวัติศาสตร์ ทั้งหมด 12 ลูก มากกว่าสถิติเดิมตอนปี 1998 ถึงสองเท่า- ยิงกันไปทั้งหมด 169 ประตูนี้ โดยมี 73 ประตูมาจากลูกนิ่ง คิดเป็น 43% มากสุดนับแต่ปี 1966- มีสกอร์เกิดขึ้นในช่วง 90 นาทีขึ้นไปถึง 9 ประตูรวมถึงช่วงต่อเวลาพิเศษ มากกว่าทุกปี- แชมป์อย่าง “ฝรั่งเศส” ตกเป็นฝ่ายตามหลังเพียง 9 นาทีกับ 12 วินาที5. สีสันบอลโลก 2018 “แนทเธอรีน BNK48” – เจ้าแม่แทงสวน

งานนี้ “อีเจี๊ยบ เลียบด่วน” ยังต้องชิดซ้าย! เมื่อต้องเจอ “แนทเธอรีน BNK48 รุ่นที่สอง” ที่มาสร้างสีสันบอลโลกโซเชียลทำเอาแฟนบอลและเหล่าโอตะที่ดูบอลต้องเสี้ยวไส้ไปตามๆ กันทุกครั้งที่เธอโพสต์ เพราะไม่ว่าเธอจะเชียร์ทีมไหน ทีมฝั่งตรงข้ามก็มักจะได้ชัยชนะอยู่เสมอ และนี่คือผลงานสุดติ่งกระดิ่งแมวของเธอ- แมตช์แรกทายว่า “เซเนกัล” จะชนะ “โคลอมเบีย” รู้แต่ว่ามาเน่เขามาแน่ ผลคือโคลอมเบียชนะไป 1-0- อาร์เจนตินา กับ โปรตุเกสมาแน่ ผลคือทั้ง “เมสซี่” และ “โรนัลโด้” ต้องกอดคอกันขึ้นเครื่องกลับบ้านเกิดพร้อมกัน- “สเปน จัดไป!!” ก็นั่นแหละครับท่านผู้ชม ล็อคถล่มหนักเมื่อแข้งกระทิงดุพ่ายจุดโทษเจ้าภาพรัสเซีย ตกรอบไป- “ENGLAND GOGO สู้เข้าเพ่ เพ่ทำได้!!” ผลคือแข้งแดนผู้ดีพ่ายให้กับโครเอเชีย ตกรอบไปด้วยสกอร์ 2-1- และของเธอแรงไปถึงนัดชิงเมื่อบอกว่า “ขอแสดงความยินดีกับ โครเอเชีย ล่วงหน้าด้วยฮะ” ผลคือแข้งตราหมากรุกแพ้และชวดแชมป์ไปอย่างน่าเสียดายแม้มหกรรมฟุตบอลโลกจะจบไปแล้ว แต่ความมันส์แห่งเกมลูกหนังจะไม่มีวันจบแค่นี้ คอบอลยังสามารถดูบอลสด ดูบอลออนไลน์ หรือดูบอลย้อนหลัง ได้กับ beIN SPORTS CONNECT https://connect-th.beinsports.com/th/watch-live-football ที่รวมทุกฟังก์ชั่นเพื่อการดูบอล ดูได้ทั้งมือถือและเว็บไซต์ สมัครเริ่มต้นเพียง 69 บาท หรือดูพรีเมียร์ลีก, กัลโช่, ลา ลีกา และอื่นๆ ได้ทั้งซีซั่นในราคา 1,600 บาท