สาระน่ารู้เกี่ยวกับ แอร์บ้าน และระบบไฟฟ้าในบ้าน
Group Blog
 
<<
ตุลาคม 2552
 123
45678910
11121314151617
18192021222324
25262728293031
 
21 ตุลาคม 2552
 
All Blogs
 

ล้างแอร์เก่าให้เย็นแบบเมื่อครั้งซื้อมาใหม่

เคยได้ยินโครงการ ล้างแอร์ช่วยชาติ ไหม การล้างแอร์ช่วยให้ การไหลเวียนของอากาศดีขึ้น แผงคอยล์สะอาด ทำให้การถ่ายเทความร้อนดี จะช่วยให้ได้ความเย็นมากขึ้น อาจจะถึง 10-30% การล้างแอร์ยังช่วยลดเชื้อโรคที่หมักหมม เป็นผลดีกับสุขภาพ แผงคอยล์ร้อนที่เครื่องระบายความร้อน มักจะมีฝุ่นหรือผงดินจับ โดยเฉพาะเมื่อตั้งกับพื้นดิน จึงควรทำความสะอาดด้วยการล้างแอร์


เครื่องปรับอากาศ(แอร์) เป็นเครื่องมือเครื่องใช้ชนิดหนึ่งที่ต้องการ การเอาใจใส่และบำรุงรักษาในระยะเวลาที่เหมาะสม เพื่อรักษาและคงประสิทธิภาพการทำงานเอาไว้อย่างสมบูรณ์สุดเท่าที่จะทำได้ บทความฉบับนี้ผมขอกล่าวในเรื่องของการล้างแอร์ให้สะอาดแบบที่สุดเท่าที่จะทำได้ เพื่อให้แอร์ของคุณมีความสะอาด ทำความเย็นได้อย่างมีประสิทธิภาพและช่วยประหยัดไฟได้ การล้างแอร์ในระยะเวลาที่เหมาะสมคือ ปีละ2ครั้ง ระยะเวลาครั้งละ6เดือน เนื่องจากสภาพอากาศในประเทศไทยบ้านเรา ซึ่งเป็นเมืองร้อนมีมลภาวะอย่างฝุ่นและควันจำนวนมาก แอร์จึงสกปรกเร็ว





ในส่วนแอร์บางแบบ ที่อาจจะสวยแต่รูป จูบไม่หอม เพราะจะล้างแอร์แบบสะอาดทุกซอกทุกมุมนั้น"ทำได้ยากมาก" นั่นก็คือแอร์แบบฝังฝ้าหรือแอร์แบบฝังชนิดติดเพดาน



เพราการล้างแอร์ชนิดนี้มีข้อจำกัดหลายประการ จะล้างโดยการฉีดน้ำให้สะอาดย่อมทำได้ยาก เพราะหากน้ำไปโดนฝ้าเพดานก็จะเป็นการสร้างความเสียหายแก่บ้านงามๆ สิ่งที่ทำได้ในการล้างคอยล์เย็นของแอร์พวกนี้คือการถอดเฉพาะบางชิ้นส่วนออกมาล้างข้างนอก หรือไม่ก็เอาน้ำยาล้างคอยล์เย็นฉีดด้วยกระป๋องฉีดน้ำแบบอัดลม ฉีดเบาๆไปที่ครีบฟิลในคอนเย็น และใช้แปรงขนนุ่มๆปัดๆฝุ่นออก ทำอะไรมากกว่านี้ไม่ได้ แถมราคาแอร์แบบฝังเมื่อเทียบกันแล้วในขนาดทำความเย็นเท่ากัน แอร์แบบตั้งแขวนหรือติดผนังถูกกว่าเป็นเท่าตัว



สำหรับบ้านของเศรษฐี สถาปนิกมักจะออกแบบให้ใช้แอร์ฝัง เพื่อให้สวยงาม โดยหารู้ไม่ว่า เป็นการสร้างปัญหาให้กับระบบปรับอากาศ และเจ้าของบ้านในอนาคต แอร์ฝัง ติดตั้งยาก ล้างยาก ฝ้าเพดานที่ฝังรั่วทำให้แอร์รั่ว ฝ้าเพดานร้อนทำให้แอร์ไม่เย็น ท่อน้ำทิ้งแอร์รั่วก็ทำให้ฝ้าเพดานพัง ท่อแอร์รั่วการซ่อมแซมหากเป็นฝ้าฉาบเรียบในกรณีใต้ฝ้าไม่มีฝื้นที่ปฏิบัติงานหรือไม่มีช่องเซอร์วิสก็ต้องกรีดฝ้าเพดาน งบประมาณบานปลาย และที่สำคัญคือแอร์สกปรกล้างยากทำให้เกิดเชื้อโรค และทำให้เจ้าของบ้านเป็นโรคภูมิแพ้ แอร์ติดผนังหรือตั้งแขวนสมัยนี้ ออกแบบมาสวยงามหลายแบบไม่ใช่สมัยก่อนที่แอร์เป็นตู้เหล็กสี่เหลี่ยมทื่อๆ ติดแอร์แบบตั้งแขวนหรือติดผนังตามที่เขานิยมใช้ทั่วไปดีที่สุด


แอร์ที่ไม่ค่อยได้รับความสนใจในการดูแลความสะอาด เมื่อแอร์สกปรกมากๆ ซึ่งจะมีสัญญาณเตือนออกมาหลายๆอย่าง เช่น

น้ำหยด --- ปัญหานี้อาจจะเกิดจากสิ่งสกปรกที่อุดตันแผงฟิลเตอร์หรือแผงครีบฟิลของคอยล์เย็น ทำให้แอร์ไม่สามารถดึงลมเข้าและเป่าลมออกได้เต็มที่ ความเย็นที่ออกมาจากตัวคอยล์เย็นไม่สามารถพัดออกมาได้เต็มที่ ทำให้เกิดการควบตัวกับความชื้นในอากาศกลายเป็นน้ำแข็งเกาะที่คอยล์เย็น เมื่อน้ำแข็งละลาย อาจจะหยดไม่ลงถาดน้ำทิ้งหรือระบายออกทางถาดน้ำทิ้งไม่ทัน ทำให้มีน้ำหยดออกมา อาจจะสร้างความเสียหายให้กับเอกสารหรือเฟอร์นิเจอร์ที่วางอยู่ใต้คอยล์เย็น หรือถ้าคุณนอนใต้คอยล์เย็น มันก็อาจจะหยดใส่หัวคุณได้



น้ำล้น --- ถ้าไม่ได้ใส่ใจล้างแอร์นานๆ อาจจะมีเมือก เกิดขึ้นในท่อน้ำทิ้ง ทำให้ระบบท่อน้ำทิ้งอุดตัน ปัญหานี้แก้ได้โดยการใช้พัดลม โบลเวอร์เป่าท่อน้ำทิ้งจากท่อด้านในออกมา

ลมแอร์ออกไม่เต็มที่ --- ปัญหานี้อาจจะเกิดขึ้นได้ในกรณีที่ไม่ได้ล้างแอร์เป็นเวลานาน เพราะฝุ่นละอองที่เกาะจับตรงบริเวณแผงฟิลเตอร์หรือแผงครีบฟิลของคอยล์เย็น เมื่อสะสมเป็นเวลานานฝุ่นละออกพวกนี้จะหนาขึ้นเรื่อยๆจนอุดตันทางเข้าของลมในที่สุด ทำให้แอร์ไม่สามรถดึงลมเข้าและเป่าลมออกได้เต็มที่ และจะเกิดปัญหาแอร์เป็นน้ำแข็งและน้ำหยดในที่สุด รวมทั้งในส่วนใบพัดลมใพรงกระรอก หากมีฝุ่นจับที่ใบพัดจำนวนมาก ก็จะเป็นอุปสรรค์ในการพัดพาความเย็นเช่นกัน



แอร์ทำความเย็นไม่เต็มที่ --- กรณีนี้เป็นกรณีที่แอร์ทำความเย็นออกมาได้ไม่เต็มที่เนื่องจากมีสิ่งสกปรกจับแน่นที่ครีบระบายความร้อนของตัวคอนเด็นซิ่งยูนิด(คอยล์ร้อน) สิ่งสกปรกที่จับแน่น เปรียบเสมือนสิ่งกีดขวาง ที่คอยขวางไม่ให้แอร์ระบายความร้อนได้เต็มที่ น้ำยาแอร์เมื่อไม่ได้รับการระบายความร้อนที่ดี ก็จะเปลี่ยนสถานะได้ไม่หมด ทำให้ส่งผลต่อการเกิดความเย็นที่ทำไม่ได้เต็มประสิทธิภาพ ในขณะที่คอมเพรสเซอร์ต้องทำงานหนักเพื่อให้ได้อุณหภูมิห้องตามที่กำหนด แต่การระบายความร้อนได้ไม่ดี ทำให้การเกิดความเย็นทำได้ไม่เต็มที่ แอร์เย็นช้า เปลืองไฟ และคอมเพรสเซอร์ทำงานหนักส่งผลต่อประสิทธิภาพระยะยาวและอายุการใช้งานที่สั้นลง



กลิ่นเหม็นจากแอร์ --- แอร์ที่ไม่ได้ล้างทำความสะอาดเป็นระยะเวลานาน ก่อให้เกิดการเจริญเติบโตของเชื้อแบคทีเรีย ก่อให้เกิดกลิ่นไม่พึงประสงค์และสาเหตุของโรคในระบบทางเดินหายใจ



ซึ่งปัญหาเบื้องต้นสามารถแก้ใขได้โดยการใส่ใจดูแลล้างทำความสะอาดแอร์ สำหรับแอร์ที่ใช้งานเป็นประจำ ควรล้างแอร์อย่างน้อยปีละ2ครั้ง


การล้างแอร์ ไม่ใช่เรื่องยาก แต่ก็ไม่ได้เป็นเรื่องง่ายถ้าคุณไม่มีความรู้ความชำนาญ เพราะต้องถอดชิ้นส่วนต่างๆออกมาล้างในวิธีที่เหมาะสม


สำหรับใครที่คิดว่า ตัวท่านสามารถล้างเองได้ อุปกรณ์ต่างๆก็มีดังนี้



ถังน้ำ - ผ้า - แปรงทาสีขนนุ่มปานกลาง - แปรงแข็ง - ผงซักฟอก - น้ำยาล้างคอยล์เย็น - กระป๋งฉีดน้ำชนิดอัดลม - ถาดรองน้ำ - ผ้าใบปูพื้น - ถุงพลาสติก - ฟองน้ำ - กาน้ำมัน

และสิ้งที่ขาดไม่ได้



ปั๊มน้ำแรงดันสูง - โบลเวอร์เป่าลม - สายปลั๊กพ่วง

ขั้นตอนการล้าง (ใครให้ช่างแอร์มาล้างควรดูขั้นตอนของเขาว่าล้างสะอาดไหม)


เริ่มจากถอดส่วนฝากครอบคอยล์เย็นออกมา และถอดชิ้นส่วนอื่นๆแช่น มอเตอร์พัดลม ไปพัดโพรงกระรอก แผงฟิลเตอร์ ถาดน้ำทิ้ง ฯลฯ





การล้างทำความสะอาดในส่วนแผงครีบฟิลของคอยเย็นไม่ว่าแอร์ตั้งแขวนหรือแอร์ติดผนัง ก่อนอื่นต้องทำการป้องกันพื้นที่รอบๆบริเวณที่ปฏิบัติงานโดยการ นำถาดรองน้ำมารองรับน้ำและสิ้งสกปรกและควรนำผ้าใบมาปูบริเวณพื้นที่ปฏิบัติงาน จากนั้นใช้แปรงทาสีขนนุ่มปลานกลางแปรงสิ่งสกปรกออกก่อน ในส่วนขั้นตอนการล้างทำความสะอาดทำโดยใช้หัวฉีดของปั๊มแรงดันสูง ปรับแรงดันน้ำให้พอดี เพราะแรงเกินไปครีบฟิลจะล้ม ฉีดตามซอกของครีบฟิล และใช้แปรงทาสีจุ่มน้ำผงซักฟองแปรงตามแนวร่องซอกของครีบฟิลแล้วฉีดน้ำต่อ จำไว้เสมอว่าก่อนที่จะฉีดน้ำควรห่อหุ้มในส่วนวงจรไฟฟ้าด้วยถุงพลาสติกเสียก่อน หากกรณีพื้นที่ไม่อำนวยต่อการล้างแบบฉีดน้ำ ต้องใช้การฉีดน้ำยาล้างคอยเย็นด้วยกระป๋องฉีดน้ำและฉีดน้ำสะอาดล้างอีกครั้ง เมื่อล้างเสร็จต้องเป่าลมให้แห้ง





ใบพัดลมโพรงกระรอก ถอดออกมาล้างโดยการฉีดน้ำแล้วใช้แปรงทาสีจุ่มน้ำผงซักฟอกแปรงอย่างเบามือแล้วฉีดน้ำให้สะอาด เป่าให้แห้ง หลังจากล้างและเป่าเสร็จ ควรวางส่วนของใบพัดลมโพรงกระรอกในบริเวณที่เหมาะสม ไม่ควรวางใบพัดในแนวยืนหากไม่จำเป็น เพราะตัวพัดลมอาจจะล้มกระแทกทำให้ซี่ฟันใบพัดแตกหัก เป็นผลทำให้ใบพัดไม่ได้ศูนย์เกิดเสียงดังและการสั่นสะเทือน





ชิ้นส่วนอื่นๆที่ถอดออกมา ก็นำมาล้างและฉีดน้ำให้สะอาด และเป่าลมให้แห้งแล้วจัดวางให้เป็นระเบียบ หมายเหตุ...ในกรณีที่มอเตอร์พัดลมถูกถอดออกมาล้างพร้อมใบพัดโพรงกระรอก ต้องหุ้มมอเตอร์ด้วยถุงพลาสติกเพื่อป้องกันน้ำเข้าเสมอ และการเป่าลมควรเป่าเน้นในส่วนพัดลม แคปรัน และขั้วต่อสายให้แห้งสนิท ถ้าหากเป็นการล้างแอร์ตั้งแขวนแบบมีบานสวิงอัตโนมัติหรือแอร์ติดผนัง ในกรณีที่ถอดถาดรองน้ำทิ้งและบานสวิงออกมาล้าง ในการเป่าลมควรใช้มือจับอย่าให้บานสวิงเคลื่อนไหวตามแรงลมจากโบลเวอร์ เพราะจะทำให้ชุดเฟืองมอเตอร์บานสวิงซึ่งเป็นพลาสติกชิ้นเล็กๆแตกหักหรือบิ่นได้ และควรเป่าลมเน้นในส่วนมอเตอร์บานสวิงและซ็อกเก็ตเสียบสายให้แห้งสนิท





ในส่วนของแกนมอเตอร์พัดลมคอยล์เย็นรวมทั้งบูทหรือแหวนรองรับส่วนที่เคลื่อนไหว หลังจากล้างเสร็จและเป่าให้แห้งแล้ว ใช้กาน้ำมันหยอดหล่อลื่นด้วยนะครับ





แผงฟิลเตอร์เป็นชิ้นส่วนที่ผู้ใช้สามารถถอดมาล้างเองโดยไม่ต้องรอช่าง ซึ่งแนะนำว่าควรถอดมาล้างอย่างน้อย2สัปดาห์ต่อ1ครั้ง



หลังจากล้างชิ้นส่วนของคอยล์เย็นเสร็จแล้ว ให้เป่าท่อน้ำทิ้งด้วยโบลเวอร์เพื่อกำจัดเมือกหรือสิ้งที่ก่อให้เกิดการอุดตันในท่อ จากนั้นนำชิ้นส่วนที่ล้างเสร็จและเป่าแห้งแล้ว มาประกอเข้าดังเดิม


มาล้างคอยล์ร้อนกันต่อ



ขั้นตอนการล้างคอยล์ร้อน

- ถอดฝาครอบออก นำไปล้างให้สะอาด และเป่าให้แห้ง
- ถอดน็อตยึดใบพัดของพัดลมระบายความร้อนออก
- ถอดขายึดมอเตอร์พัดลมระบายความร้อนออก
- ใช้กาน้ำมันหยอดน้ำหล่อลื่นที่แกนมอเตอร์
- นำใบพัดของพัดลมระบายความร้อนไปล้างทำความสะอาด
- เป่าเศษฝุ่นละอองขยะหรือไยแมงมุมในส่วนขั้วต่อของสายไฟ
ขั้วต่อคอมเพรสเซอร์ ขั้วต่อสายของแคปพัดลมและแคปคอมเพรสเซอร์
- ใช้ปั๊มน้ำแรงดันสูงฉีดทำความสะอาดในส่วนแผงครีบระบายความร้อน
และใช้แปรงทาสีจุมน้ำผงซักฟอง แปรงตามร่องครีบอย่างเบามือ
จากนั้นฉีดน้ำล้างให้สะอาด เป่าครีบระบายความร้อนให้และส่วนระบบ
ไฟฟ้าซึ่งอาจจะโดนละอองน้ำในระหว่างฉีดทำความสะอาด ให้แห้ง
- ประกอบเข้าดังเดิม
- ลองเดินเครื่อง เช็คกระแส LRA. และ FLA. รวมทั้งต่อเกจวัดระดับน้ำยา
ด้านท่อทางดูด




 

Create Date : 21 ตุลาคม 2552
6 comments
Last Update : 16 สิงหาคม 2555 19:32:15 น.
Counter : 33171 Pageviews.

 

ขอบคุณมากครับ
ทำให้ได้ความรู้เรืองแอร์รถยนต์มากขึ้นเยอะเลย

 

โดย: Bunto9275 IP: 125.27.228.203 16 พฤศจิกายน 2552 13:44:32 น.  

 

ดีครับ ชอบ

 

โดย: ขาจร IP: 117.47.163.114 7 มีนาคม 2553 10:45:45 น.  

 

สุดยอดมากๆ เลยครับ คุณทำได้ดีมาก ที่ออกมาให้ความรู้ทางด้านนี้ เป็นประโยชน์กับคนที่ไม่มีความรู้ทางด้านนี้ ขอให้คุณประสบแต่ความโชคดีนะครับ รวมทั้งครอบครัวและญาติพี่น้องของคุณด้วย และผมขอฝากสิ่งที่เป็นประโยชน์ด้วย คือ มีสอนตัดผมฟรี สอนนวดแผนโบราณฟรี และสอนซ่อมโทรศัพท์เบื้องต้นฟรีที่www.popbarber.tk

 

โดย: popbarber.tk IP: 183.89.84.157 27 มีนาคม 2553 13:46:03 น.  

 

เยี่ยมมากๆครับ ถ้าคนไทยเป็นแบบนี้หมด คงจะเป็นประเทศที่อบอุ่น

 

โดย: ทินกร IP: 124.157.146.165 25 กุมภาพันธ์ 2554 1:04:28 น.  

 

รูปที่ช่างกำลังฉีดล้าง ไม่ได้ถอดใบพัดกระรอกออกมาหรือครับ แล้วเอาสก๊อดเทปไปติดไว้ที่เพดาน เวลาดึงออกมาสีฟ่าเพดาน ไม่หลุดออกมาด้วยเหรอ...ล้างไม่สะอาดอย่างงี้ 300 บาท ก้่อแพงครับ ช่างที่มาทำที่บ้าน ถอดออกมาล้างข้างนอก ดำมากทั้งแอร์ wall type และ แอร์ spit type

 

โดย: ลูกค้า IP: 115.67.96.162 29 กรกฎาคม 2555 12:01:27 น.  

 

คุณลูกค้า คห.5 คุณแน่ใจได้อย่างไรว่าในภาพเขาไม่ได้ถอดใบพัดออกมา
ส่วนเรื่องการติดเทปยึดแผ่นพลาสติกกับฝ้าเพดาน มันเป็นวิธีการป้องกันหน้างานไม่ให้สกปรกเลอะเทอะ ช่างแอร์ที่ดำเนินการเขาก็มีเทคนิคของเขา และปฏิบัติงานอย่างระมัดระวังอยู่แล้ว และสีของฝ้าเพดานถ้าลอกอย่างระมัดระวังและถูกวิธี สีก็ไม่ได้ลอกออกมาง่ายๆ...เว้นเสียแต่สีของบ้านคุณเกรดคุณภาพต่ำมากๆ แบบว่าแค่ไปสะกิดนิดเดียวก็หลุด...แบบนั้นมันก็สมควรลอก

 

โดย: KanichiKoong 16 สิงหาคม 2555 19:31:39 น.  

ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
  *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 


KanichiKoong
Location :
สงขลา Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 275 คน [?]




ช่องทางการติดต่อผู้จัดทำ

- หลังไมค์
- E-mail : aum_tawatchai@hotmail.com
-------------------------------------
เนื้อหาที่ปรากฏ อนุญาติให้นำไปใช้เพื่อการศึกษา/หาความรู้ ซึ่งไม่เป็นการนำไปใช้ในเชิงธุรกิจ
-------------------------------------
New Comments
Friends' blogs
[Add KanichiKoong's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.