ต้นทุนชีวิตคือการสะสมความเคยชินที่ดี

เมื่อลูกร่วมเดินธรรมยาตราเพื่อลุ่มน้ำลำปะทาว ครั้งที่ 10

วันนี้ลูกชายกับพ่อเดินทางไปร่วมเดินธรรมยาตราที่จังหวัดชัยภูมิ
เป็นการเดินทางไกลและนานครั้งแรกร่วมกันของพ่อลูก
ที่ไม่มีแม่ไปด้วย…

เด็กน้อยกำลังย่างเข้าสู่วัยรุ่น กำลังเติบโต
และง่ายต่อการซึมซับทุกสิ่งเร้าที่กระตุ้นเร่าอยู่รอบตัว













เกมส์ทางอินเตอร์เน็ต
เพลง หนัง การ์ตูนจากโทรทัศน์
เพื่อน ๆ ที่กำลังคึกคะนอง
และความกดดันของระบบการศึกษาที่ทำให้ต้องเตรียมตัวสอบแข่งขันแบบเอาเป็นเอาตาย
สิบวันในป่า คงผ่อนคลายความรุมเร้ารุ่มร้อนของภาระแบบเด็กในเมือง





สองพ่อลูกออกเดินทางแต่เช้า พ่อยิ้มร่า ลูกชายหน้าตาแช่มชื่น
แต่คนเป็นแม่อยากร้องไห้
เพราะตระหนักมากขึ้นทุกวัน ๆ ว่าลูกกำลังห่างอกแม่ออกไปทุกที

ความเติบโตของลูก
เป็นการเรียนธรรมะอีกบทของคนเป็นพ่อแม่
โดยเฉพาะการต้องเรียนรู้จักพรหมวิหารสี่อย่างลึกซึ้ง
ทั้งความหมายของ เมตตา กรุณา มุทิตา และอุเบกขา
แม้ว่าจะเป็นชีวิตที่ผูกพันกันด้วยสายเลือดและสายใยของพ่อแม่ลูก
แต่ชีวิตของใครก็ไม่มีใครอื่นควรคาดหวังหรือครอบครอง
เพราะท้ายสุดแล้ว แม้ชีวิตตนเองก็ไม่อาจเป็นของตนเอง
ช่วงระยะหนึ่งของชีวิตคือการทำหน้าที่ระหว่างกันให้ดีที่สุดเท่านั้น








ขอให้การเดินทางครั้งนี้
เป็นการเดินเพื่อฝึกฝนเด็กน้อยผู้เป็นที่รัก
ให้เข้าใจความหมายของสติ ความอดทน
และการอยู่ร่วมกันของสรรพสิ่ง
เพราะชีวิตของลูก
ยังต้องเดินทางอีกไกล…


2 ธันวาคม 2552

ตอนเช้าพ่อของลูกโทร.มาส่งข่าวสั้น ๆ บอกว่าเด็ก/นักศึกษาเยอะมาก
ผู้ใหญ่ (แก่ ) ขนาดพ่อมีเพียงประมาณยี่สิบคนจากจำนวนรวมราวสองร้อยคน...

แม่ขอพูดกับลูกนิดนึงถามว่าเป็นอย่างไรบ้าง
ลูกชายตอบว่า "เป็น..คนหล่อ"
คำตอบกวน ๆ แบบนี้ทำให้สบายใจได้ว่าพ่อหนุ่มน้อยมีความสุขดีแม้จะมีเสียงอ้อนตามมาว่า "ลำบากมากเลยแม่ เมื่อวานเดินสิบสองกิโล ผ่านป่าผ่านทุ่งนาด้วย เท้าแตกแล้ว"

ลูกชายเล่าว่าเวลาเดินไปเดินกับ "เพื่อน"
พ่อมีหน้าที่แค่แบกน้ำให้!!

เมื่อวันที่ 30 พย. รวมพลคนเดินเท้าที่วัดป่าชัยภูมิ
เมื่อวานวันที่ 1 ธค. ออกเดินจากวัดป่าชัยภูมิ ถึงจุดเพลที่วัดบ้านช่อระกา และออกเดินต่อไปพักค้างคืนที่วันบ้านนาสีนวล
กลางวันวันที่ 2 ธค.นี้ คงถึงหน่วยจัดการต้นน้ำ และไปพักค้างคืนที่วัดบ้านหินหนีบ...

คนเป็นแม่ไม่ได้ไปด้วย แต่รู้ว่า ปรับตัวเพียงสองสามวัน ความลำบากของลูกจะหมดไป พร้อมกับการเรียนรู้สิ่งใหม่ ๆ ที่ไหลซึมเข้ามาแทนที่
เคยฟังพระไพศาล เจ้าอาวาสวัดป่าสุคะโตที่เป็นประธานพาเดินธรรมยาตราเทศน์ว่า การเดินธรรมยาตราเป็นการฝึกสติไปด้วย เรียนรู้จักจิตใจของตัวเองไปด้วย

ท่านเทศน์ว่า กระแสบริโภคนิยมที่ท่วมท้นอยู่กับพวกเราตอนนี้ ทำให้มีการเสพสิ่งของจากภายนอกตลอดเวลา เราแทบไม่มีโอกาสรู้จักความอยากที่เพิ่มมากขึ้น
ทุกที ๆ ในใจของตัวเราเอง
เพราะอยากปุ๊บก็มีให้เสพปั๊บ..

ท่านบอกว่าเคยลองพยายามสร้างกติกาว่า เมื่อเห็นไม่ซื้อได้ไหม...ผู้ใหญ่เดินผ่านหมู่บ้านเห็นเป๊ปซี่ไม่ซื้อได้ไหม เด็ก ๆ เห็นไอติมไม่กินได้ไหม....บทเรียนเหล่านี้ง่าย ๆ แต่เป็นจริงเห็นจริง ....

ไม่รู้ว่าปีนี้ท่านจะเทศน์ทุกเช้าเย็นด้วยเรื่องอะไรบ้างอยากตามไปฟังจังเลย
แต่ที่รู้แน่ ๆ คือ พ่อลูกชายซัดไอติมทุกครั้งที่เจอแน่นอน




3 ธันวาคม 2552

วันนี้คณะธรรมยาตรามีกำหนดออกเดินทางจากบ้านหินหนีบไปถึงจุดเพลที่วัดบ้านวังโพน และช่วงบ่ายเดินต่อไปจนถึงวันบ้านแหล่หญ้าคา
แต่ไม่มีข่าวคราวหรือเสียงตามสายจากสองพ่อลูก
คิดว่าคงหาเวลายาก ไหนจะต้องตื่นแต่ดึกมาทำวัตรเช้า ไหนจะเหนื่อยจากการเดิน ไหนจะต้องวุ่นวายกับการเก็บข้าวของกางเต๊นท์เก็บเต๊นท์ทุกเช้าทุกเย็น และคงไหนจะง่วงจากการฟังเทศน์ทุกเวลาก่อนอาหาร หลังอาหาร และก่อนนอน

เมื่อไม่ได้ตามไปฟังเทศน์กับขบวนด้วย คนอยู่บ้านก็เลยฟังเทศน์จากแผ่นแทน รู้สึกซาบซึ้งกับคำว่า "ลงสนามจริง" ที่พระไพศาลท่านเทศน์ให้ตระหนักว่า ไม่ว่าจะฝึกอะไร ต่างก็เพื่อลงสนามทั้งนั้น กรณี "ไม่ซื้อเป๊ปซี่ ไม่กินไอติม" ก็เป็นตัวอย่างที่ชัดเจน

การฝึกแยกจากกันบ้างระหว่างพ่อแม่ลูกก็เป็นอีกสนามเล็ก ๆ ให้ทดลองเจอของจริง

เพราะความรู้ ความคิด และความรู้สึก
จะเห็นได้ชัดเจนก็ตอนเจอของจริงนั่นแหละเนอะ

เช้านี้อากาศเย็น ในป่าน่าจะหนาวมาก
เจ้าลูกชายคงนึกว่าโชคดีที่แม่ไม่ไปด้วยและมีความสุขกับการ "ไม่ต้องอาบน้ำเช้า" อย่างสมใจและชอบธรรม
หารู้ไม่ว่า
แม่ก็มีความสุขเช่นกัน
ที่ไม่ต้องคอยแซะเจ้าหนูออกจากที่นอนแล้วต้อนเข้าห้องน้ำก่อนไปโรงเรียน


4 ธันวาคม 2552

วันนี้ถึงครึ่งทางของการเดินธรรมยาตราครั้งนี้แล้ว เมื่อเช้าได้ยินเสียงแจ๋ว ๆ ของลูกบอกมาว่า
"หนาวมากเลยแม่ เสื้อหนาวที่เตรียมไปเอาไม่อยู่เลย"
แต่ขนาดเอาไม่อยู่ เสียงลูกก็ไม่มีแววทุกข์ร้อน กลับสดใสร่าเริง เหมือนตอนแรกที่แม่ถามว่าเป็นอย่างไรบ้างแล้วเจ้าหนูตอบกลับมาว่า
"เป็นคนหล่อ..มากขึ้นกว่าเดิม!"

เท่านั้นเองที่มีโอกาสคุยกันกับลูกชาย...
แต่ความสุขในใจของแม่ก็เต็มไปด้วยสัมผัสแห่งความสุข สนุกสนานที่ผ่านมากับข้อความสั้น ๆ ไม่กี่ประโยค
จนลืมถามไปเลยว่า
"กินไอติมตามหมู่บ้านหรือเปล่า?"

นึกถึงไอติมแล้วก็นึกถึงเรื่องความรู้กับความรู้สึกที่ฟังมาจากพระไพศาล
ท่านเทศน์ว่า ความรู้ไม่มีพลังมากพอเท่ากับความรู้สึก แต่การใช้ชีวิตตามอำนาจของความรู้สึกในตัวก็ไม่สามารถพาชีวิตไปดีได้ คนเรามักยอมแพ้แก่ความรู้สึกตนเองเพราะไม่มีทางเลือกอื่นที่ดีกว่า ให้ความสุขที่ประณีตกว่า...

ในสถานการณ์บางอย่าง ลูกคงได้เรียนรู้จักการตอบสนองความต้องการของตนเองด้วยวิธีอื่นมากกว่าวิถีที่เคยชินอยู่ในเมือง

บางอย่างที่ต้องสัมผัสด้วยตนเองเท่านั้น จึงจะเป็นพลังที่สามารถเป็นอีกทางเลือกหนึ่งในชีวิต


หมายเหตุ: ผู้สนใจเข้าร่วมกิจกรรมสามารถดูรายละเอียดได้ที่ //www.thaihealth.or.th/node/11650
ทราบว่าสามารถเข้าร่วมได้ตามความสะดวกในแต่ละระยะของการเดินทาง
จนถึงวันสุดท้ายที่ 8 ธันวาคมค่ะ

ติดต่อสอบถามเพิ่มเติมได้ที่ ชมรมเด็กรักนก 085-026-3682 หรือ ศูนย์ประสานงานโครงการธรรมยาตราลุ่มน้ำลำปะทาว 087 - 373-5124

และสามารถอ่านและดูภาพประกอบประสบการณ์การเดินธรรมยาตราปีที่ผ่านมาได้ที่ //www.oknation/blog/mon/2008/11/21/entry-1






 

Create Date : 30 พฤศจิกายน 2552
11 comments
Last Update : 12 ธันวาคม 2552 9:24:48 น.
Counter : 1111 Pageviews.

 

ยังอยู่หน้าจอ ก็เลยได้มาเจิมเหมือนกันค่ะ เมื่อวานเพิ่งได้ยินคนเป็นแม่พูดว่า เราสอนให้ลูกเดิน แต่ในขณะเดียวกันเราไม่อยากให้ลูกเดินจากไป..ได้ฟังแล้วให้คิดว่า เอ..แล้วแม่ลูกเดินไปด้วยกันได้ไหม...มือน้องเขาไปโดนอะไรมา หายแล้วยังคะ

 

โดย: แมลงจ่อย (Bug in the garden ) 30 พฤศจิกายน 2552 12:47:54 น.  

 

ลืมบอกค่ะ ว่าสู้เขานะคะ..งานที่มีเดดไลน์น่ะ มันกระตุ้นให้ไฟลุก..เสร็จค่ะ เสร็จแน่นอน

 

โดย: แมลงจ่อย (Bug in the garden ) 30 พฤศจิกายน 2552 12:49:24 น.  

 

ตามมาคุยค่อ..
ฟังพี่พีเล่าเรื่องกินไอติมกับเป็บซี่ ให้ออกรู้สึกเป็นห่วง..ถ้าเริ่มตั้งแต่เป็นเด็กแล้วติดน้ำตาล ผลลัพธ์น่ากลัวจริงๆ ค่ะ วันนี้คุยกับเพื่อนหมอตอนเช้า ก็เลยตั้งใจว่าจะเลิกกินขนมตั้งแต่วันนี้ เพื่อวันข้างหน้าอีกยาวไกล ...ตอนนี้ ไม่กินขนมมาได้สองเดือนแล้วค่ะ..
สื่อบอกว่าอะไรเขาก็เชื่อตามนั้น อย่าว่าแต่เด็กเลยค่ะ ยายมดเอ็กซ์เจ็ดสิบกว่า ลูกบอกไม่เชื่อ แต่คนในทีวีบอกล่ะก็ใช่เลย..บางครั้งก็ยอมตาม เขาอายุมากเกินกว่าที่จะไปขัดใจ..ได้แต่อธิษฐานขออย่าให้ตัวเองรับการเปลี่ยนแปลงไม่ได้อย่างที่แม่เป็น เพื่อนๆที่เป็นผู้ใหญ่กว่ามากๆ เขาทำนายว่าข้อยจะใจเปิดและไม่มีอาการอย่างที่แม่เป็นแน่นอน
วันนี้จะกลับไปอัพบล๊อกเรื่องเดินกำหนดจิตบนหิมะบ้าง อย่าลืมให้ความเห็นนะคะ ..มุมมองของพี่พีแตกต่าง ทำให้ได้เห็นอะไรใหม่ๆ เสมอ ..ชอบสุดก็ดอกกุหลาบแห้งหรือแจกันเปลี่ยนสีนั่นแหละค่ะ

 

โดย: แมลงจ่อย..ลูกที่ไม่ยอมเดินออกไปจากชีวิตของแม่ (Bug in the garden ) 2 ธันวาคม 2552 11:18:25 น.  

 

ขอบคุณสำหรับคอมเมนท์ดีๆค่ะ เผื่อจะได้ช่วยกันเผยแพร่ให้คนอื่น..เดี๋ยวจะลองเขียนเรื่องฝึกจิตกับการเดินในป่าดูบ้างค่ะ
ปล. ทำไม่คุณแม่ยังดูทีวีอยู่เล้า เสียเวลาทำงานนา

 

โดย: แมลงจ่อย (Bug in the garden ) 3 ธันวาคม 2552 10:49:46 น.  

 

ฝึกจิตค้าคุณแมลง..
ดูแล้วไม่ติดได้ไหม
55555

 

โดย: กังสดาล IP: 125.25.25.129 3 ธันวาคม 2552 12:12:56 น.  

 

ดูทีวีน่ะนะฝึกจิต..น้องว่าดูทีวีเสียเวลาไปทำอย่างอื่นที่ดีกว่า ยิ่งโดยเฉพาะดูเวลากลางวัน เพราะว่าเวลาที่มีแสงในแต่ละวันมันจำกัด เห็นบางคนแขวนอยู่กับทีวีได้ทั้งวัน ..บางรายการดูแล้วกลุ้มใจอีก โดยเฉพาะรายการซีรีส์ทั้งหลาย ..ใจไปผูกอยู่กับเรื่องที่เห็นที่ได้ยิน เก็บไปฝันอีก จำได้ว่าเลิกดูทีวีเป็นหลายสิบปีแล้วค่ะ จะดูแต่เฉพาะสารคดี(ที่น่าสนใจมากจริงๆ) อย่างเมื่อคืนมีสารคดีเรื่องการทำถั่วเหลืองหมักที่เกาหลี น่าทึ่งมาก เป็นโรงงานแบบดั้งเดิมที่นักเชลโลหญิงเขาทำอยู่ที่บ้านนอก เย็นๆเขาจะเล่นเชลโลให้จุลินทรีย์ในถังหมักฟังด้วย..ว่ากันว่าดนตรีทำให้จุลินทรีย์มีความสุขและเติบโตดี เวลาเป็นอาหารของมนุษย์ก็จะให้คุณมหาศาล..

 

โดย: แมลงจ่อย (Bug in the garden ) 4 ธันวาคม 2552 11:40:44 น.  

 

บอกแล้วว่าฝึกจิต

ไม่ติดหรอกค่ะทีวีน่ะ
ชอบดูของจริงมากกว่า
ชีวิตจริง สัมผัสจริง...

ว่าแต่..ถ้าไม่ดูทีวีมาหลายสิบปีแล้วทำไมรู้ละคะว่าวันไหนจะมีรายการอะไรที่น่าดูและดี

ปล. พรุ่งนี้จะไม่อยู่นะคะ จะตามลูกชายไปชัยภูมิค่ะ

 

โดย: kangsadal 4 ธันวาคม 2552 15:33:20 น.  

 

สวัสดีค่ะ คุณกังสดาล

"...เหมือนกับหนามทิ่มเราลงไป
เราลึกซึ้งที่จะบ่งหนามออกด้วยความพากเพียร
เอาหนามออกให้ได้
แม้นมันจะเจ็บก็ต้องเอาออกให้ได้
ความเจ็บเพื่อจะให้ไม่เจ็บ
ความทุกข์เพื่อจะให้ไม่ทุกข์..."


รู้ไหมคะ นั่งอ่าน คำสอนหลวงพ่อคำเขียนทั้งหมดอยู่ 3-4 เที่ยว ไม่เข้าใจคำว่า ลึกซึ้ง
(อ่าน 2 เที่ยวแรก แล้วเขียนตอบคุณแมลงจ่อย แล้วย้อนกลับไปอ่านอีก 2 เที่ยว)
จึงได้คัดใจความ ที่ตนเองเข้าใจและสรุปออกมาได้เท่านี้ ... 555 ยังอ่อนหัด

อย่างที่ใครๆ บอกว่า ชีวิตคือการเรียนรู้ อ่ะนะคะ

เมื่อก่อนไม่ชอบเล้ย เวลาเจอปัญหา(สามีขับรถชนเด็กแล้วต้องขึ้นโรงขึ้นศาล)
แล้วมีคนปลอบใจว่า ถือซะว่าเป็นบททดสอบหนึ่งของชีวิต ที่ต้องผ่านไปให้ได้
ตอนนั้นใจไม่ยอมรับความจริง จึงบอกเค้าไปว่า ไม่อยากเรียน ไม่อยากทดสอบอะไรทั้งนั้น

แต่ตอนนี้ กลับต้องขอบคุณว่า...ถ้าไม่เกิดเหตุการณ์นั้น ก็จะไม่ได้หันมาศึกษาคำสอนพระพุทธองค์ (ฝึกวิปัสสนา) สักที
...ไม่ทุกข์ ไม่เห็นธรรม...เห็นทุกข์ จึงเห็นธรรม น่ะค่ะ

ตอนหลัง พอมาเจอเหตุการณ์หนักๆอีก (อย่าง สามีขอเลิกเก็บเสื้อผ้าออกจากบ้านไป / และเรื่องคุณพ่อเสีย)
ถึงได้พอจะทำใจให้ยอมรับว่า ปัญหาใหม่ๆ นี่ก็นับเป็นอีกหนึ่งบททดสอบในชีวิต
แค่ใจเย็นๆ ตั้งสติ ทำความเข้าใจ ยอมรับ ความไม่เที่ยงทั้งหลาย แล้วจะมีสติแก้ปัญหาให้ผ่านไปได้

ต.ย.แรก ผ่านได้ (ดี แบบนุ่มๆ)
แต่ ต.ย.หลัง นี่ยังทำใจไม่ค่อยได้ ... เพราะเป็นคนที่เราเคารพ รัก เทิดทูน บูชา สารพัด ก็เลยยังอยากรั้งให้เค้าอยู่นานๆ
ยังอยากกลับบ้านตจว. แล้ว ได้กลับไปกอดเค้าอีก เหมือนเดิม
ทั้งที่รู้เต็มหัวใจว่า ทุกสิ่งมันเปลี่ยนไปแล้ว ...
นี่หละค่ะ ที่ต้องฝึกจิตให้ยอมรับให้ได้ และต้องไม่ลืมที่จะหันกลับมามองอรหันต์ในบ้านอีกคนหนึ่ง (แม่) ที่ต้องดูแลกันให้ดีที่สุดต่อไป

ขอบคุณมากๆ นะคะ

ป.ล.
เคยไปฝึกวิปัสสนาหลักสูตรธรรมดา (แบบฝึกรวมกัน)
พี่สาวก็พาลูกชาย 10 ขวบไปด้วยเหมือนกันค่ะ เค้าก็ทำได้นะคะ
แต่ก็แบบเบี่อๆ ตามประสาเด็ก ก็ไม่บังคับเค้ามาก
แต่การไปคอร์สสำหรับเด็กวัยเดียวกัน แบบลูกชายคุณกังสดาลน่ะ ดีที่สุดแล้วค่ะ ...
ปฏิบัติกันทั้งครอบครัว น่าชื่นใจจังค่ะ

 

โดย: แม่ส้มแป้น 4 ธันวาคม 2552 21:46:06 น.  

 

อ้าว คุณแม่ตามคุณลูกไปติดๆ อย่างนี้ใช่แม่ติดลูกหรือปล่าวเนี่ยย..อย่าลืมกลับมาเล่าเรื่องเดินป่าน๊า..เห็นอะไรบ้าง
ถ้าใครอยู่บ้านที่มีสิงห์ทีวี ถึงไม่ได้ดูก็ต้องพลอยรู้จักรายการทีวีไปด้วย ที่บ้านปากเกร็ด ท่านนั้นรู้ทุกช่องทุกรายการ ที่บ้านหัวหินท่านนี้ เปลี่ยนช่องตลอดเวลา จนกว่าจะเจอเฉินหลง และรายการตรวจสอบเครื่องบินตก..ดูซ้ำแล้วซ้ำอีก วันดีคืนดีเปลี่ยนไปมา ถ้านั่งอยู่แถวๆนั้นแล้ว เห็นเป็นรายการที่ใช่ก็จะยึดห้ามเปลี่ยนขอดูหน่อย อย่างเช่นสารคดีเล่นดนตรีให้จุลินทรีย์ฟังนั่นแหละค่ะ ปกติไม่เคยเป็นคนเปิดทีวีเองเลยค่ะ ..ข่าวก็อ่านหนังสือพิมพ์หรือเช็คจากเน็ต รู้สึกว่าการดูทีวีให้ความรู้สึกเหมือนตกเป็นทาส...
ปล. ไม่เคยมีประสบการณ์เรื่องสิ่งศักดิ์สิทธิเลยแม้แต่นิดเดียวค่ะ..ถ้ามีเล่าหใ้กันฟังบ้างได้ไหมคะ

 

โดย: แมลงจ่อย (Bug in the garden ) 5 ธันวาคม 2552 11:07:53 น.  

 

อุวะ555555555ไม่ขำเลยนะ55555555

 

โดย: klj; IP: 125.25.233.179 10 ธันวาคม 2552 16:01:03 น.  

 

ตลกตงไหนอ่าไม่เห็นหนุกเลยอ่ะ เช้ง น่าเบี่อ
ไม่ชอบ มีเเต่กรรมถาน เเละก็ไม่ชอบตอนพระเทส
ด้วยฟังเเล้วหลับเลย

 

โดย: ลูกคนเขียน IP: 125.25.233.179 10 ธันวาคม 2552 16:03:41 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 


kangsadal
Location :
เวียงจัน Laos

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 10 คน [?]






พระจันทร์เต็มดวงคนมองเห็นได้บางวัน
เช่นกันกับวันที่เห็นพระจันทร์เสี้ยว
แต่ทุกวัน....
พระจันทร์เต็มดวง
online
Group Blog
 
<<
พฤศจิกายน 2552
1234567
891011121314
15161718192021
22232425262728
2930 
 
30 พฤศจิกายน 2552
 
All Blogs
 
Friends' blogs
[Add kangsadal's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.