ตามอ่านบล็อกคุณแมลง (buggy in the garden) มานานสองนาน นอกจากเขียนถึงงานสวนในแบบที่หาอ่านที่อื่นไม่ค่อยได้แล้ว (รึหาได้แต่ว่าไม่เคยหาก็ไม่รู้ แหะ ๆ โลกสำหรับคนบางคนมันก็แคบอยู่เหมือนกันเนอะ) คุณแมลงเธอยังชอบทำอาหารและ เล่นผ้า มีงานควิลท์ผลงานตัวเองรวมทั้งงานควิลท์ผลงานคนอื่นมาแบ่งกันดูแบ่งกันชื่นชมอยู่บ่อย ๆ (ภาพนี้มาจากบล็อกคุณแมลง แอบยืมมาโดยไม่ได้ขออนุญาต ขอบคุณไว้มาก ๆ ตรงนี้นะคะ)เห็นฝีเข็มเล็ก ๆ และรายละเอียดยิบย่อยเบื้องหลังงานแต่ละชิ้นแล้วไม่เคยคิดเลยว่าเป็นเรื่องที่น่าเข้าไปร่วมวงด้วย เพราะรู้ว่าเบื้องหลังของเบื้องหลังคือเวลาและความอุตสาหะของคนทำเป็นอย่างยิ่ง ก็แหม.. เวลาเป็นของมีค่า แถมการเล่นผ้าตามสไตล์แม่บ้านผู้มีกะตังค์ทั้งหลายนั้นช่างเป็นเรื่องชวนให้คนที่คิดอยากจะเล่นต้องเตรียมพร้อมที่จะเสียค่าเวลาและจ่ายวัสดุอุปกรณ์ที่มีราคา (และแพง) อย่างยิ่งด้วยผ่านมาสองปี อยู่ ๆ ก็เกิดอยาก เล่น แบบคุณแมลงขึ้นมาบ้าง พอแจ้งความจำนงผ่านบล็อก เจ้าของงานก็เชิญชวนให้ทดลองเล่นก่อนอย่างยินดี น้ำใจผ่านบล็อกของคนที่รู้จักกันผ่านโลกอินเตอร์เน็ทนั้นเป็นสิ่งที่พิเศษและเกิดขึ้นได้เช่นเดียวกับความดีงามหลาย ๆ อย่างในโลกนี้ (และเช่นเดียวกับความไม่ดีไม่งามทั้งหลายที่สามารถเกิดขึ้นได้ตลอดเวลาเช่นเดียวกัน โลกนี้มีอะไรมากกว่าด้านเดียวเสมอ) คุณแมลงชวนไปเรียน เล่นผ้า ด้วยหลักสูตรเร่งรัดเฉพาะสำหรับคนแก่ที่เธอเป็นคนออกแบบและสอนเอง พร้อมเตรียมวัสดุอุปกรณ์ไว้ให้พร้อมสรรพ เธอบอกว่า ลองเล่นดูก่อน อย่าเพิ่งไปซื้ออะไร (ของมันแพง อิ อิ) ถ้าชอบค่อยเอาจริง ว่าแล้วเธอก็เริ่มต้นด้วยการเลคเชอร์เกี่ยวกับการเลือกมุมผ้าก่อนวางแผนตัด รู้จักเกรนผ้าไหมคะ นึกถึงภาพการทอผ้านะคะ มันจะมีเส้นนอนกับเส้นตั้ง แบบนี้, ถ้าเราวางผ้าตามแนวนี้จะทำให้ตัดผ้าออกมาได้ตรง (คนสอนดึงผ้าแต่ละมุมให้ดูความแข็งแรงตึงตัวของเส้นด้ายประกอบ) ผ้าที่ตัดตามแนวนี้จะตรง ส่วนผ้าแนวทแยงกับเกรนผ้าเหมาะกับการทำเป็นผ้ากุ๊นขอบ เพราะมันยืดมันย้วยได้ แบบนี้ คำอธิบายมาพร้อมกับการตัดผ้าให้ดูเป็นตัวอย่าง เออ, ผ้าที่ตัดจากคนละมุมมันให้ความแข็งแรงของชิ้นผ้าต่างกันจริง ๆ ด้วยแฮะ ไม่ยักกะรู้มาก่อนนะเนี่ยนี่คือชุดเข็มสำหรับเล่นผ้า อันเล็ก ๆ นี่สำหรับงานควิลท์ อันยาวสำหรับการสอยและอันใหญ่สุดสำหรับการเนาผ้า ครูผ้าคนใหม่วางชุดเข็มเล่มจิ๋ว ๆ พร้อมอธิบาย นักเรียนลืมจดเพราะคิดว่าจำได้ ก็แหม มีเข็มอยู่ไม่กี่เล่ม เล่มเล็กสำหรับควิลท์ อีกเล่มสำหรับทำแอพพลิเค่ ยาวหน่อยก็เข็มทำแพ็ทช์เวิร์ค (ต่อผ้า) ใหญ่สุดก็เอาไว้เนาผ้า.. แต่แหม, พอกลับมาถึงบ้านกลับจำไม่ได้ ไม่แน่ใจเลยว่าเข็มขนาดไหนใช้กับงานอะไร คนมันแก่แล้ว เลยใช้วิธีเดาเอาแบบมั่ว ๆ ว่าอันไหนสะดวกมืองานลื่นไม่สะดุดก็ใช้อันนั้นแหละ (ประเด็นนี้ต้องขอไปถามคุณแมลงอีกที เพราะรู้ว่าถ้าใช้เครื่องมือเหมาะกับงาน งานจะง่ายและมีประสิทธิภาพภาพมากขึ้นอีก ไม่งั้นคนเขาจะออกแบบมาให้ต่างกันทำไม จริงมะ) หลังจากนั้นครูผ้าจำเป็นก็เริ่มสอนต่อควิลท์คือเย็บผ้าเป็นเส้นสั้น ๆ ต่อกันแบบเดียวกับงานเนาผ้า แต่มีระยะถี่กว่ากันมาก คุณมาซาโกะเธอบอกว่าต้องให้ได้สามช่วงในหนึ่งเซ็น (ติเมตร) คนเรียนก็จำไว้ว่า อ๋อ ไอ้เส้นเนาผ้าแบบละเอียดเอาไว้ทำลวดลายสวย ๆ นี่เอง แพ็ทช์เวิร์คคืองานต่อผ้า เริ่มต้นง่าย ๆ จากการต่อผ้าสี่เหลี่ยมก่อน คนสอนตัดผ้าเป็นชิ้นสี่เหลี่ยมเล็ก ๆที่ตีเส้นเป็นกรอบสี่เหลี่ยมเท่ากัน เว้นขอบไว้ 0.7 เซ็นนะ เวลาจะต่อผ้าให้ใช้หมุดตรึงที่ขอบเส้นทั้งสี่ด้าน ให้เส้นบนผ้าทั้งสองชิ้นที่จะต่อกันนี้ทับกันสนิท เนาก่อนก็ได้ถ้ายังไม่ชำนาญ ทำแบบนี้เพื่อให้ชิ้นงานออกมาเนี้ยบ มุมต่อตรงกันเป๊ะ แอพลิเค่ก็คือการตัดผ้าเป็นรูปต่าง ๆ แล้วนำมาเย็บติดบนชิ้นงาน (ให้เนียนสนิทเหมือนติดกาว หรือจะให้นูนสวยเพราะยัดใยสังเคราะห์ไว้ข้างใต้ด้วยก็ได้ไม่ผิดกติกา) คุณแมลงบอกเรื่องพื้น ๆ ที่คนเรียนไม่เคยใส่ใจมาก่อน นั่นคือเทคนิคการซ่อนปลายด้าย (ที่จำมาจากคุณมาซาโกะ) ว่า เมื่อเย็บผ้าเสร็จแล้ว ถ้าอยากเนี้ยบให้ซ่อนปลายด้ายที่ขมวดปมเก็บแล้วในเนื้อผ้า ด้วยการสอดเข็มเข้าไปเหมือนตอนควิลท์ จากนั้นจึงตัดปลายเส้นด้าย เท่านี้ปลายเส้นด้ายก็เข้าไปนอนนิ่ง ๆ อยู่ในเนื้อผ้า ไม่มีโผล่ออกมาให้หลุดลุ่ยล่อแหลมต่อการคลายปมหรือรุ่มร่ามกับชิ้นงานเพื่อให้มีกำลังใจในการเรียนเล่นผ้าครั้งแรก คุณแมลงให้เริ่มลองทำถุงผ้าที่มีหูรูดง่าย ๆ ไว้ มีผ้าให้เลือกสีเลือกลายตามใจชอบ ถุงแบบนี้ง่ายมากเลย ดูจากรูปก็น่าจะง่ายดีนะคะ ผ้าต่อเล็ก ๆ ระหว่างสีพื้นกับผ้าลายตารางเป็นบทเรียนกระชับสั้น ๆ สำหรับการต่อผ้า เส้นด้ายเล็ก ๆ ที่ย้ำอยู่บนรอยต่อคือบทเรียนเรื่องการควิลท์ และบ้านลอยฟ้า (พยายามจินตนาการหน่อยค่ะว่าเป็นบ้าน) คือบทเรียนเล็ก ๆ เรื่องแอพลิเค่ตอนแรกทำเป็นผ้าชิ้นเดียวนะคะ เสร็จแล้วคุณแมลงให้เอาผ้าอีกชิ้นที่ตัดขนาดเท่ากัน (พร้อมเผื่อขอบแล้ว) มาเย็บประกบบอกว่าทำให้งานเรียบร้อยและสามารถพลิกกลับเอามาใช้อีกด้านได้ด้วย ผลงานเสร็จออกมาพร้อมคำชมของครูจำเป็นว่า งานชิ้นแรกมักจะอินโนเซ้นท์อย่างนี้แหละเอ้อ, มันหมายความว่ายังไงคะครูแมลง?วันนั้นทั้งครูทั้งนักเรียนนั่งเล่นผ้ากันเพลินตั้งแต่สิบโมงเช้าจนถึงหกโมงเย็น เป็นเวิร์คช็อปที่แสนเพลิดเพลินและเป็นมิตรภาพที่แสนพิเศษระหว่างคนสอนกับคนที่รู้จักกันผ่านบล็อก ผ่านความคิด และผ่านการเล่นเพื่อเรียนรู้จักกันในอีกหลาย ๆ แง่มุมของชีวิตก่อนจากกันวันนั้น คุณครูให้เข็มมาหนึ่งชุดพร้อมเศษผ้าสำหรับหัดเล่นมาหนึ่งถุงใหญ่ คนเรียนดูแล้วก็ไม่อยากเอามาตัดชิ้นเล็ก ๆ (เพื่อมาต่ออีกให้เสียเวลา เฮ้อ, ) เลยเอามาทำงานผลงานชิ้นที่เห็นข้างล่างนี้ และเพื่อเป็นการขอบคุณเจ้าของผ้าเลยขออวดผลงานด้วยค่ะ เป็นงานผ้าที่เรียบมาก ๆ แต่ก็ตั้งใจทำนะคะคุณครู อินโนเซ้นท์มาก ๆ ด้วย อิ อิงานนี้เป็นที่ใส่หนังสือค่ะ เลือกทำงานชิ้นนี้เพราะเป็นคนชอบพกหนังสือพ็อกเก็ตบุ๊คติดตัวไปไหนต่อไหนด้วยเสมอ บางครั้งเก็บหนังสือไม่ดี ในกระเป๋าโดราเอมอนของตัวเองมีสมบัติเยอะมาก ของก็มักปนกัน บางครั้งปกหนังสือก็เลยมียับมีเยินบ้าง เมื่อเริ่มรู้เทคนิค เริ่มใช้เวลาในความหมายของการใช้เวลา แถมยังมีเศษผ้าอีกเป็นกอง ๆ ก็เลยออกแบบง่าย ๆ จากเทคนิคงานผ้าที่เรียนมาจากคุณแมลงค่ะ วัสดุที่ซื้อเพิ่มเติมเองคือแผ่นใยสังเคราะห์และเทปดำสำหรับปิดเปิด และก็เอ้อ, ดินสอเขียนบนผ้าพร้อมไม้บรรทัด แค่นี้ก็หมดไปหลายตังค์แล้วนะ ฮือ ๆ (แต่ก็คิดว่าคุ้มค่ะ แล้วถ้าได้เพลินกับงานผ้าอีกเมื่อไหร่คงมีอะไรมาอวดคุณครูผ่านเน็ตอีกแน่นอน )