ต้นทุนชีวิตคือการสะสมความเคยชินที่ดี

เห็นอะไรในน้ำปานะ (ที่บ้าน)!?

หลังจากเห็นอดีตของรสชาติและความรู้สึกเมื่อได้ดื่มน้ำปานะที่วัดแล้ว เมื่อกลับมาถึงบ้านยังได้เห็นอะไรอีกร้อยแปดพันเก้าที่อยากเก็บมาเล่าสู่กันค่ะ

วันแรกเลยที่ทดลองทำ ก็ได้เห็นความเฟอะฟะอันเกิดจากความ “ไม่รู้” ของตนเอง ปกติเป็นคนไม่ชอบเข้าครัวหรือทำขนมทำอาหารใด ๆ เมื่อคุณปู่ซื้อเครื่องปั่นมาให้ตามความต้องการแล้ว ก็เริ่มด้วยการทำฟักทองค่ะ อื้อฮือ ช่างเป็นงานที่ง่ายดายอะไรปานนี้ เริ่มตั้งแต่ปอกเปลือก ต้มฟักทองกับน้ำใส่ใบเตย สุกแล้วตักขึ้นมาปั่น กะว่าปั่นเสร็จก็ปรุงผสมนมกับน้ำตาลและเกลืออีกนิดหน่อย ประมาณเวลาได้เลยว่า ไม่เกินครึ่งชั่วโมงแน่ ๆ ทุกอย่างจะเรียบร้อยรวมทั้งการเก็บล้างด้วย

ตอนต้นก็เป็นอย่างนั้นจริง ๆ ค่ะ ทุกอย่างทุกขั้นตอนเป็นไปช้า ๆ แบบมีสติ (เหตุผลหลักคือทำไม่เป็น แหะ แหะ… สูตรที่ได้ไม่ตายตัว ฉะนั้นเพื่อความมั่นใจเลยทำทีละนิดหน่อย ขนาดนิดหน่อยก็ใช้ฟักทองครึ่งกิโลกว่านะคะ) ถึงขั้นตอนการปั่น โอ้, ช่างรวดเร็วอะไรปานนี้ ประมาณสามสิบวินาทีฟักทองก็ละเอียดเหมือนบด

ตอนยกโถปั่นลงนั่นแหละค่ะ ความไม่คุ้นเคยก็ทำให้นอกจากเปิดฝาโถแล้ว ยังหมุนบิดเกลียวที่เป็นตัวมีดของเครื่องปั่นออกจากโถแก้ว ขณะนั้นอยู่ใกล้ ๆ หม้อต้มน้ำใบเตยแล้วด้วย ผลน่ะหรือคะ ฟักทองปั่นทั้งโถหล่นกระจายทั่วพื้นครัว! เวลาครึ่งชั่วโมงที่กะไว้ก็พอดีเฉพาะกับการเก็บถูทำความสะอาดน้ำฟักทองเละ ๆ บนพื้นครัว บนชั้นวางของใกล้ ๆ และใต้เตาที่ต้มอยู่นั้นแล…..

เป็นไงคะ คราวนี้ได้ฝึกสติกับงานบ้านกันจริง ๆ เสียทีแล้วนะ

ผ่านมาอีกไม่นานค่ะ หลังจากผลัดเปลี่ยนหมุนเวียนทำน้ำปานะประเภทต่าง ๆ ไปแล้วอย่างใจเย็น อาการเผอเรอก็มาถึงในอีกวันหนึ่ง วันนั้นตื่นสายค่ะ อดไม่ได้ที่จะเร่งไฟให้แรงเพื่อให้น้ำปานะที่ทำเดือดเร็ว ๆ ระหว่างที่รอน้ำเดือดก็เก็บล้างและเตรียมอาหารเช้าไปด้วย ผลที่ได้ก็คือ น้ำเดือดเร็วและแรงทันใจ ถั่วบดทั้งหลายล้นเอ่อจากหม้อลงมาฟู่ ๆ ที่เตาและพื้นข้างเคียง สนุกสนานกับการเก็บล้างไปอีกแบบ (และอีกเกือบครึ่งชั่วโมงค่ะ ฮือ… )

ยังไม่เข็ดค่ะ วันต่อมาปั่นข้าวกล้อง คราวนี้คิดว่าไม่เคยทำ ทำน้อย ๆ ก่อนก็แล้วกัน ไม่ต้องเต็มหม้อเหมือนทุกครั้ง ด้วยความที่ไม่ต้องห่วงกังวลว่าต้มเต็มหม้อพอเดือดแล้วจะล้นออกมาเลอะเทอะอีก ก็ชะล่าใจ วางใจไว้บนไฟนั่น ผลน่ะหรือคะ ข้าวกล้องไหม้ติดก้นหม้อกลิ่นฉุยออกมาเลยทีเดียว….

วันไหนที่ใจไม่ได้อยู่กับการกระทำ น้ำปานะวันนั้นต้องมีอะไรพิเศษมาอวดอยู่เรื่อย ๆ แต่แท้จริงแล้ว ไม่ใช่เฉพาะน้ำปานะหรอกนะคะ ทุกอย่าง ทุกการกระทำนั่นแหละค่ะ ถ้าใจไม่อยู่กับกายขณะกระทำสิ่งนั้น ๆ แล้ว ผลมักไม่เป็นอย่างที่เราคิดว่ามันจะเป็น เพราะมันจะเป็นไปตามเหตุที่ใจแว้บ ใจลอย เป็นฝ่ายกระทำ พูดแบบตรงไปตรงมาหน่อยก็คือเป็นผลจากการที่เราลืมตัวนั่นแหละค่ะ

วันนี้ทำน้ำฟักทอง.. เอารูปและเรื่องมาฝากแทนรสชาตินะคะ เห็นน้ำปริ่มเต็มหม้อ ขณะราไฟอ่อน ๆ แล้ว อดคิดถึงเรื่องอารมณ์ โดยเฉพาะอารมณ์โกรธ อารมณ์ไม่พอใจ หุนหัน ต่าง ๆ ขึ้นมาไม่ได้ ของร้อนตั้งอยู่บนเตาไฟ มันก็ต้องร้อนนั่นแหละถึงจะเป็นเรื่องปกติ จริงไหมคะ?

แต่ร้อนแค่ไหนถึงจะยังพอกินได้ ดื่มได้ อยู่ได้…โดยไม่ล้นทะลักออกมาให้เสียหายหรือวุ่นวายตัวเองและคนอื่น สิ่งอื่น….



ตอนถ่ายรูปนี้มาฝาก เห็นน้ำเดือดปุด ๆ เลยขยับความแรงของไฟเล่น เกือบ….เกือบเดือดพล่านหล่นมาเหมือนเมื่อวันก่อนเลยค่ะ ดีที่ว่า เคยต้องเสียเวลาเช็ดล้างมาแล้ว มือจึงคุมระดับความร้อนจากเตาได้ทัน ที่ทันก็เพราะรู้จากประสบการณ์ล้นพล่านครั้งก่อนว่า ถ้าน้ำระดับนี้ ต้องหยุดไฟก่อนเดือดพล่าน ถ้าปล่อยไปแล้ว ถึงจะดับไฟสนิท น้ำเดือดในหม้อก็จะยังเดือดต่ออีกระยะหนึ่ง ฟองฟู่ ๆ ก็จะล้นกระจายออกมาตามแรงพุ่งพล่านของความร้อนนั้น

คิดดูแล้วเหมือนใจคนเราไหมคะ

ยังไง ๆ ก็รักษาระดับความสมดุลให้ดีนะคะ เพราะอย่างไรเสีย ไม่วันใดก็วันหนี่ง หรือขณะใดขณะหนึ่ง เราอาจจะต้องอยู่ใกล้ชิดกับไฟในใจของเราก็ได้ค่ะ






 

Create Date : 05 พฤศจิกายน 2551
10 comments
Last Update : 5 พฤศจิกายน 2551 14:03:52 น.
Counter : 1324 Pageviews.

 

ถ้าได้ชิมสักแก้วคงจะบอกได้ค่ะ ว่าอร่อยไม๊ อิอิ

 

โดย: peeshin 5 พฤศจิกายน 2551 16:18:28 น.  

 

แล้วใช้ฟักทองหมดไปกี่ลูกคะ อิ อิ

หน้าตาน่าทานจัง แต่หม้อเบ้อเริ่มขนาดนั้นทานกี่วันคะ

 

โดย: จันทร์ไพลิน 5 พฤศจิกายน 2551 17:41:05 น.  

 

วันนี้บังเอิญว่างค่ะ เลยได้แวะมาทักทายแต่เช้า ^ ^

เรียนรู้ที่จะควบคุมอารมณ์ได้เป็นสิ่งดีค่ะ
แต่บางครั้งก็ยากเหมือนกันนะคะ
เพราะใจคนไม่ได้มีปุ่มหมุนปรับระดับง่ายๆเหมือนเตาแก็ส
คงต้องผ่านการฝีกกันก่อนค่ะ

ขอให้มีความสุขกับการทำอาหารค่ะ
:)

 

โดย: คนไกลใจคิดถึง IP: 72.194.219.147 5 พฤศจิกายน 2551 23:54:47 น.  

 

มาขอบคุณสำหรับลายแทงหนังสือค่ะ เดี๋ยวจะลองไปตามหาดู และมาบอกว่าเขียนตอบไว้ยาวที่บล๊อกของตัวเองด้วยค่ะ

ข้อยฟังเรื่องเล่านี่ เห็นว่าเป็นเพราะขาดประสบการณ์มากกว่า พอทำบ่อยๆเข้าก็จะรู้จังหวะเอง ไม่ทำเสียหาย รู้ว่า นานแค่ไหน ต้องโผล่มาดูซะที ตอนเด็กๆ ชอบทำของกินแปลกๆเล่น (จำได้ว่าตอนอายุสิบเจ็ด หัดทำข้าวปั้นแบบอิกคิวซัง เละเสียไม่มี เดี๋ยวนี้น่ะ ซูชิก็ยังถือเป็นงานธรรมดา) เสียหายไปก็เยอะ พี่ชายเค้าว่า มันไม่ชอบกินอะไรปกติ ชอบพิสดารก็งี้แหละ แต่ผลที่ได้มันมหาศาล พอโตขึ้นไปอยู่ในที่ไม่มีอะไรจะขายจะกิน ก็ทำกินเองได้สารพัด ไม่เดือดร้อน สบายมากเลยค่ะ แถมทำโชว์พวกฝรั่งให้กรี๊ดอีก(พวกฝรั่งนี่เขาเห่ออาหารไทย คล้ายๆ คนไทยเห่ออาหารเกาหลีนิ)
แล้วน้ำปานะนี่นะ มีกากใยอาหารได้ด้วยเหรอ ตอนเด็กๆ เห็นป้าคั้นน้ำส้มไปถวายพระ กรองกากซะไม่เหลือเลย
น้ำปานะสูตรวัดป่าสุคะโตนี่ ดูไปคล้ายกับซุปผักของฝรั่งเลยค่ะ แต่ไม่ใส่นมข้นหวาน ใส่วิปครีม หรือนมแทน โรยเกลือป่นกับพริกไทย ออกแนวอาหารคาวมากกว่า (ใช้มันฝรั่ง แครอท มันเทศ ฟักทอง อะไรไปตามแต่จะหาได้) ที่บ้านชอบทำใส่ตู้เย็นเป็นถ้วยๆ ไว้กินเวลาหิวโซมาจากสวนอากาศหน้าหนาวนี่ ทำกินได้แรงดีนะคะ

 

โดย: แมลงสีน้ำตาล (Bug in the garden ) 6 พฤศจิกายน 2551 10:43:09 น.  

 

สายัณห์สวัสดีค่ะพี่พี
----------------------------------------
อืม! สีสันฟักทองต้มใส่ใบเตย

ขอดื่มสักแก้วนะค๊า

 

โดย: สาวบ้านนอก ณ ขอนแก่น 6 พฤศจิกายน 2551 18:24:59 น.  

 

 

โดย: จันทร์ไพลิน 8 พฤศจิกายน 2551 6:22:02 น.  

 

มารายงานว่าได้หนังสือมาแล้ว พร้อมกับจ่ายค่าทางด่วนให้กับตำรวจแถวสมุทรสงครามอีกแล้ว คราวนี้มีโปรโมชั่นครึ่งราคา ห้าสิบบาท

 

โดย: แมลงจ่อย (Bug in the garden ) 10 พฤศจิกายน 2551 18:06:23 น.  

 

เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นย่อมเป็นครูของคนเขียนและคนอ่านครับ เห็นฟักทองต้มแล้วอยากทำบ้างครับ

ขอบคุณครับ

 

โดย: Insignia_Museum 10 พฤศจิกายน 2551 20:15:34 น.  

 

สวัสดีค่ะ ทุก ๆ คนที่แวะมาเยี่ยมเยียน และโดยเฉพาะผู้ทิ้งตัวหนังสือไว้เป็นเพื่อนคุยให้อุ่นใจ

น้ำปานะจากวัดป่าสุคะโตนี้เป็นสูตรประยุกต์สำหรับนักปฏิบัติธรรมค่ะ ส่วนของพระภิกษุขนานแท้จริงเป็นอย่างไรนั้น ไม่ทราบค่ะ เพราะยังไม่มีโอกาสเห็นหรือทำถวายเลย

คุณยายแม่ชีบอกว่า ต้องทำแบบนี้ถึงจะอยู่ท้องค่ะ เพราะส่วนมากไม่ค่อยคุ้นกับการอดข้าวเย็นกัน แถมยังมีความหวานหลายแบบ ที่ทำให้นั้นเป็นสูตรสำหรับอบรมพวกพยาบาล จะหวานน้อยหน่อย ถ้าทำให้เด็ก ๆ ชั้นมัธยมจะเพิ่มความหวานขึ้นอีก (เอาใจน่าดู อิ อิ พระอาจารย์ท่านเคยบอกว่า เด็ก ๆ นี้ต้องถนอมมากหน่อย เวลาสอนก็จะมีวิธีสอนอีกแบบหนึ่ง แต่เวลาสอบต้องสอบเหมือนกันกับผู้ใหญ่ เพราะทุกคน "ตาย" เหมือนกันค่ะ)

สี่ห้าวันที่ผ่านมาไปงานที่ขอนแก่น ตั้งใจว่าจะแวะไปวัดที่ชัยภูมิตอนขากลับ แต่สะบักสะบอมมากเลยไม่ได้ไป เก็บไว้งวดหน้า...

ช่วงนี้งานเยอะ และต้องเดินทางต่างจังหวัดบ่อย ๆ คงไม่มีโอกาสแวะไปเยี่ยมทุกคนที่บล็อกได้เหมือนเคยนะคะ ขอแวะมา วูบไปเท่าที่จะทำได้ก็แล้วกัน

คุณแมลงพันชื่อไปเอาโปรโมชั่นครึ่งราคามาจากไหนคะเนี่ย อ่านดูแล้วคุ้น ๆ อิ อิ...

และของฝากเพิ่มเติมสำหรับน้องเตยคนไกลใจอยู่ใกล้ ๆนะคะ อยากบอกว่า ...สติของคนเรานี่ เด็ดขาดว่องไวกว่าปุ่มแก๊สอีกนา....ถ้าได้ฝึกและฝึกได้นะคะ

ถ้าอยู่ใกล้ ๆ จะพาไปวัดค่ะ แต่อยู่ไกลคนละขอบฟ้าขนาดนี้... แวะมาอ่านในบล็อกนี้แทนก็แล้วกันเนอะ

จะพยายามหาเวลามาอัพบล็อกค่ะ




 

โดย: กังสดาล IP: 125.25.250.1 10 พฤศจิกายน 2551 21:15:50 น.  

 


from sand to heaven จบแล้วนะคะ

น้ำฟักทอง ใส่ใบเตย ว้าว

คราวหน้าลองก้านซิินนาม่อนซีคะ

รับรองคิดถึงขนมพาย

สบายดีนะคะ

ปีหน้าเจอกันใหม่

ส่งความรักมาพร้อมกันนี้ด้วยค่ะ

 

โดย: Cheria (SwantiJareeCheri ) 10 พฤศจิกายน 2551 21:40:21 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 


kangsadal
Location :
เวียงจัน Laos

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 10 คน [?]






พระจันทร์เต็มดวงคนมองเห็นได้บางวัน
เช่นกันกับวันที่เห็นพระจันทร์เสี้ยว
แต่ทุกวัน....
พระจันทร์เต็มดวง
online
Group Blog
 
<<
พฤศจิกายน 2551
 1
2345678
9101112131415
16171819202122
23242526272829
30 
 
5 พฤศจิกายน 2551
 
All Blogs
 
Friends' blogs
[Add kangsadal's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.